บทที่ 108 ครั้งนี้จะต้องจีบคุณให้ติด
ฉินอีหลินกำลังสะลึมสะลือ ก็ต้องถูกสายจากลี่โม่อวี่ปลุกให้ตื่น
กรอกเสียงลงไป “ฮัลโหล” อยู่นานก็ยังไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากปลายสาย
“ฮัลโหล พูดสิ” ฉินอีหลินตะโกนบอกเสียงดัง เห็นว่าปลายสายยังไม่มีใครตอบกลับมา จึงยกโทรศัพท์ขึ้นดูอีกครั้ง ก็ไม่ผิดนี่นา
ถ้าไม่ใช่สายจากลี่โม่อวี่เธอคงกดวางไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้ไม่รู้ลี่โม่อวี่เป็นอะไร ล้อเล่นกับเธอมาสักแล้วก็ยังไม่ตอบ แม้ตอนนี้อารมณ์ฉินอีหลินจะดี ก็นั่งไม่ติดแล้ว ลุกขึ้นมามองโทรศัพท์ บอกเสียงดัง “ลี่โม่อวี่ ถ้าคุณยังไม่พูดฉันจะวางแล้วนะ”
ลี่โม่อวี่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยกำลังโวยวายใส่โทรศัพท์ คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มดีขึ้น
โชคดีที่สวรรค์ยังเมตตา ทำให้ฉินอีหลินที่ต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆมากมายแต่ก็ยังอยู่เคียงข้างเขา
ลี่โม่อวี่เอนตัวพิงเบาะ ถือโทรศัพท์ค้างด้วยรอยยิ้มมีความสุข น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับคนมีความรัก “อีหลินผมคิดถึงคุณจัง”
เดิมฉินอีหลินอยากตะโกนอีกครั้ง อารมณ์กำลังขึ้น แต่พลันได้ยินประโยคแปลกๆจากลี่โม่อวี่ คำพูดมาหยุดอยู่ที่ลำคอ ค่อยรู้สึกตัว ใบหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นช้าลง
ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วแน่ๆ อยู่ๆถึงได้พูดแบบนี้ออกมา
“แม่ครับ แม่ แม่คุยโทรศัพท์กับใครครับ” ในมือของหมิงเจ๋อมีของเล่น พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของฉินอีหลิน
ใบหน้าของฉินอีหลินตื่นตระหนก รีบกดวางสาย แล้วอุ้มลูกชายมาวางบนเข่า เล่นกับลูกอย่างใจลอย
คำพูดเมื่อสักครู่ของลี่โม่อวี่เป็นเพียงประโยครักๆใคร่ๆทั่วไป ทว่ากลับทำให้หัวใจของฉินอีหลินเกิดระลอกคลื่น ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง แววตาก็อบอุ่นขึ้น
ได้ยินเสียง ตู๊ด…ตู๊ด…มาตามสาย ลี่โม่อวี่ทำอะไรไม่ได้ เขาได้ยินเสียงของหมิงเจ๋อจึงไม่ได้โทรกลับ
ไม่มีเสียงฉินอีหลินแล้ว ดวงตาของลี่โม่อวี่กลับมาเย็นชาอีกครั้ง นึกถึงเมื่อก่อนที่สืบเรื่องมู่หลิง เขาจึงหรี่ตาลงแคบอย่างอันตราย
เมื่อก่อนเขาไม่รู้จึงทำให้ฉินอีหลินต้องทนทุกข์ ตอนนี้เขารู้แล้ว จะต้องสืบให้รู้ชัด ให้ฉินอีหลินเข้าใจ ว่าตัวเองใส่ใจและห่วงใยเธออยู่ตลอด
ด้านเซียวน่ายรีบกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ลี่โม่อวี่ไม่ได้พูดอะไรมาก รีบบอก “นายหาข้อมูลของลี่โม่อวี่และชิวหันเยียนให้ฉันทั้งหมด จำไว้ว่าห้ามตกหล่นแม้เพียงเล็กน้อย ต้องการตอนนี้ รีบหน่อย”
โทรศัพท์อีกฝั่ง เซียวน่ายไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเป็นความต้องการของลี่โม่อวี่ เขาจึงรีบตอบรับ รับปากจะรีบจัดการให้
ลี่โม่อวี่รอไม่ไหวแล้ว ขับรถออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู ดวงตาดำทะมึน ที่แห่งนี้ เขาไม่อยากอยู่อีกต่อไป
สนามบินเมืองกั่งซื่อ
เครื่องบินลำใหม่พึ่งจะลงจอด ทางเดินวีไอพีมีชายรูปร่างสูงปรากฏ เสื้อยืดเรียบง่ายบวกกับกางเกงลำลองสีขาว ทว่ากลับดึงดูดสายตาคนได้ไม่น้อย พวกเขาแอบมองชายคนนั้นอย่างเงียบๆ
ชายหนุ่มสวมหมวกแก๊ป สวมแว่นกันแดดปิดบังใบหน้า แต่ความหล่อเหลาของเขาก็ยังโผล่ออกมาให้เห็น โดยเฉพาะมุมปากที่ยกยิ้มน้อยๆ โครงหน้าที่ดูดี ก็ดึงดูดหนุ่มสาวได้ดีทีเดียว มองมาอย่างหลงใหล
ทว่าชายหนุ่มกลับไม่รู้สึกอึดอัด เขาคุ้นชินกับการถูกจับจ้องแบบนี้อยู่แล้ว มือหนึ่งล้วงกระเป๋า สาวเท้ายาวออกมาอย่างมาดเท่
ผู้คนล้วนคาดเดาไปต่างๆนานา นี่เป็นดาราคนไหนหรือเปล่านะ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเป็นใคร
“คุณคะ ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ” ไม่นานก็มีหญิงสาวผู้กล้าหาญเดินเข้ามาขอถ่ายรูป
ชายหนุ่มไม่ได้ถอดแว่นและหมวกออก แต่ขยับเข้าใกล้หญิงสาว เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่น้อย หญิงคนนั้นมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ถ่ายภาพร่วมกับเขา เพื่อไม่ให้หญิงสาวหลายคนแห่เข้ามา ชายหนุ่มรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา
ฉินอีหลินและหลงหมิงเจ๋อกำลังเล่นสนุก มองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์แปลก ปกติเธอไม่รับ อีกทั้งยังมีเด็กน้อยอยู่ข้างๆ ฉินอีหลินจึงกดตัดสายโดยไม่ลังเล
ไม่กี่วินาที โทรศัพท์ก็ถูกโทรเข้าอีก ครั้งนี้ฉินอีหลินจึงกดรับสาย
“ที่รัก คิดถึงผมหรือเปล่า” เสียงทักทายดังมาจากอีกฝั่ง
ฉินอีหลินใบหน้ามึนงง แต่หลังจากนึกออกแล้วเธอจึงอ้าปากค้าง “คุณ….คุณคืออ้ายหลุนหรอ”
“สวรรค์อ้ายหลุน คุณมาจีนแล้วหรอ” ฉินอีหลินลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ ไม่ใช่ฉินอีหลินที่ดีใจเกินไป แต่นี่มันเหนือความคาดหมายจึงๆ
หมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนได้ยินฉินอีหลินเรียกอย่างตกใจ ก็ดีใจขึ้นมา ตะโกนเสียงดังใส่โทรศัพท์ “คุณลุงอ้ายหลุน คุณลุงอ้ายหลุน พวกเราคิดถึงคุณลุง”
ในสนามบิน อ้ายหลุนสาวเท้าเดินออกไปด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงเด็กๆ เสียงหัวเราของอ้ายหลุนก็ดังขึ้น “หมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนหรอ ช่วงนี้สนุกหรือเปล่า สูงขึ้นแล้วใช่ไหม”
เด็กทั้งสองตื่นเต้นกว่าฉินอีหลิน แย่งโทรศัพท์จากมือฉินอีหลินไป เด็กทั้งสองพากันผลัดกันทักทายอ้ายหลุน อ้ายหลุน ก็ไม่ได้นึกรำคาญยังเผยเสียงหัวเราะออกมาผ่านโทรศัพท์
ฉินอีหลินรู้สึกปวดหัว เธอไม่คิดว่า อ้ายหลุนจะมาหาเธอที่เมืองกั่งซื่อ เธอนวดขมับตัวเอง ได้ยินเสียงเด็กทั้งสองถามว่าเมื่อไหร่จะได้เจออ้ายหลุน
ไม่รู้ปลายสายตอบกลับมาว่าอย่างไร เด็กทั้งสองจึงได้ยื่นโทรศัพท์คืนให้กับแม่
ฉินอีหลินฝืนยิ้มออกมา เอ่ยทักอ้ายหลุนอย่างเกรงใจ อ้ายหลุนมาครั้งแรก ฉินอีหลินที่เป็นเพื่อนจะไม่ไปรับก็ไม่ได้
ฉินอีหลินเก็บของเล็กน้อยแล้วมุ่งหน้าไปสนามบิน เด็กทั้งสองตื่นเต้นดีใจไปตลอดทาง เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด
ฉินอีหลินรู้สึกว่า พออ้ายหลุนมา แม่อย่างเธอก็ถูกลดความสำคัญลงไปมากทีเดียว
ในสนามบิน อ้ายหลุนกดวางสายอย่างพอใจ เขารู้ว่าฉินอีหลินคงไม่ละเลยเขา
ครั้งนี้ เขาจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงมา ตอนนี้มีเวลาให้เขามากมาย ครั้งนี้จะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จีบอย่างบ้าคลั่งให้ฉินอีหลินรับรู้ความในใจของเขาไปเลย
“ฉิน ผมมาแล้ว ครั้งนี้ผมจะจีบคุณให้ติด” มุมปากยกยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาว คนข้างๆต้องเหม่อมองอย่างหลงใหลไปตามๆกัน
อ้ายหลุนเดินอย่างหล่อเหลาไปยังจุดรอรถเพื่อรอฉินอีหลิน โดยมีเสียงกรี๊ดของสาวๆตามหลัง
อ้ายหลุนคิดว่า ถ้าเขาถอดหมวกและแว่นออก คนพวกนี้จะสลบไปเลยหรือเปล่า
ยังดีที่ฉินของเขาไม่เป็นแบบนี้ แม้ว่าตัวเองจะหล่อเหลาขนาดไหน ก็ยังคงสงบนิ่ง
คิดมาถึงตรงนี้ อ้ายหลุนก็รู้สึกคิดถึงฉินอีหลินขึ้นมา