ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 103

ตอนที่ 103

บทที่ 103 ให้คุณหมดเลย

ฉินอีหลินส่งชิวหันเยียนกลับไป สองชั่วโมงผ่านไปแล้ว เธอไปส่งที่หน้าประตูตามมารยาท มองตามคนที่ห่างออกไป จึงเดินกลับมาเอนหลังที่โซฟา

“ป้าหวางคะ เปลี่ยนเป็นชาค่ะ”

ฉินอีหลินมองกาแฟบนโต๊ะ คิ้วขมวด เธอไม่ชอบกลิ่นของกาแฟ ไม่ว่าจะใช้ชีวิตอยู่อังกฤษมากี่ปี เธอก็ยังชื่นชอบวัฒนธรรมความเป็นจีน

อย่างเช่นกี่เพ้า ชา

“ค่ะ คุณหนู”

ป้าหวางหยิบชุดชงชาที่ใช้อยู่เป็นประจำออกมา รวมทั้งใบชาห่อเล็ก ถือใบชาอย่างระมัดระวัง เธอรู้ดีว่าใบชาเหล่านี้มีคุณค่าขนาดไหน

ล้วนเป็นชาหลงจิ่งที่ถูกเด็ดก่อนเชงเม้ง บวกกับการเพาะปลูกอย่างดีของชาวไร่ ปีหนึ่งได้ไม่กี่ครึ่งกิโลเอง

ดังนั้นของพวกนี้พูดได้ว่าไม่มีใครซื้อ

ฉินอีหลินมองชุดชาตรงหน้า คิ้วสวยคลายลงเล็กน้อย ทุกครั้งที่เธอชงชา อารมณ์จะสงบลง แต่ชาดีขนาดนี้เธอพึ่งเคยได้ลิ้มลองหลังจากที่มาอยู่บ้านตระกูลหลงแล้ว

อานหน้าได้ยินว่าชิวหันเยียนกลับไปแล้ว จึงพาเด็กทั้งสองเดินลงมา พึ่งมาถึงบันได พอดีกับที่เห็นฉินอีหลินกำลังรินน้ำ เพียงแต่ท่าทางนั้น แฝงไปด้วยความว้าวุ่น

“ใจเธอไม่นิ่ง จะชงชาให้ดีได้ยังไง”

อานหน้าตบหลังเด็กทั้งสองเบาๆ บอกใบ้ให้ไปเล่นกันเอง หลังจากนั้นจึงเดินมานั่งลงที่โซฟา ยื่นมือไปรับชาที่ฉินอีหลินชง

ดมกลิ่นเล็กน้อย คิ้วสวยก็ขมวด “ระดับความร้อนของน้ำไม่ถูกต้อง น่าเสียดายชาพวกนี้”

“ป้าหวางคะ เปลี่ยนเป็นใบชาธรรมดาค่ะ”

ฉินอีหลินรู้ว่าแม่ของเธอเชี่ยวชาญเรื่องชา เธอไม่กล้าโต้แย้งผู้มีความรู้ ตอนนี้ถูกอานหน้าติ เธอไม่กล้าตอบโต้ จึงสั่งให้สาวใช้เปลี่ยนใบชาให้

“เปลี่ยนใบชาอะไรก็สิ้นเปลืองอยู่ดี”

อานหน้ายกมือห้ามป้าหวาง ค่อยวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ สายตาหยุดอยู่ที่ซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะ “นี่คืออะไร เมื่อกี้ที่ชิวหันเยียนมาก็เพราะสิ่งนี้หรอ”

ยื่นมือไปเปิดซองออก อานหน้าอ่านเอกสารด้านใน รู้สึกตระหนกอยู่ในใจ แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เหลวไหลสิ้นดี”

ฉินอีหลินวางถ้วยชาลงเช่นกัน ใบหน้าเหนื่อยล้าพิงโซฟา สักพักค่อยเอ่ยออกมา “ชิวหันเยียนแค่อยากยืมมือหนูกำจัดมู่หลิง ไม่งั้นเธอคงไม่ใจดีขนาดนี้ แม่คะ หนูดูโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมใครๆถึงได้คิดร้ายแต่กับหนู”

“เธอไม่ได้โง่ แต่ใจดีเกินไป คนดีถูกคนเลวรังแก มาดีก็ถูกคนขี่”

แน่นอนว่าอานหน้ารับรู้ถึงความทุกข์ในใจของลูกสาว ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยได้ผ่านวันที่มีความสุขอย่างจริงจังเลย คำพูดของฉินอีหลินเมื่อสักครู่ ทำให้ใจเธอนั้นเจ็บปวด

ลี่โม่อวี่เปิดประตูรถลงมาก็เจอกับฉินอีหลินที่ออกมาจากบ้านพอดี

“อีหลิน…..”

ลี่โม่อวี่ไม่คิดว่าจะได้เจอผู้หญิงที่เขาคิดถึงมาตลอด พลันไม่รู้ต้องพูดอะไรดี

ฉินอีหลินเองก็ภาพตรงหน้าทำให้ตกใจเช่นกัน

ด้านหลังของลี่โม่อวี่ มีรถสามคันตามหลังมา ต่อมาคนบนรถก็ทยอยลงมาในมือของทุกคนมีกุหลาบมากมาย

ขบวนตรงหน้าทำให้เธอนึกถึงคำพูดของอานหน้าก่อนหน้านี้

“ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็ต้องจัดการหางของเธอให้เรียบร้อยไม่ได้หรอ ลี่โม่อวี่ส่งดอกกุหลาบ 999 ดอกมาทุกวัน เขาไม่ลำบาก แต่ฉันลำบากเอาไปทิ้งนะ”

“นั่นมัน 999 ดอก ไม่ใช่ 9 ดอก และก็ไม่ใช่ 99 ดอก ที่เธอบอกให้ทิ้งก็จะทิ้งได้ทั้งหมด น้องชายเธอยังคิดเลยว่าจะเปิดร้านดอกไม้ ขายดอกกุหลาบโดยเฉพาะ”

“ขบวนยิ่งใหญ่เชียว”

สีแดงละลานตา งดงาม คล้ายกับกลิ่นอายของความรัก

“ให้คุณทั้งหมดเลย”

ลี่โม่อวี่เม้มปากแน่น นานกว่าจะเอ่ยประโยคนี้ออกมาได้

ความจริงเขาอยากจะถามเธอ ช่วงนี้เธอเป็นยังไง ร่างกายไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า และคิดถึงเขาสักนิดบ้างหรือไม่

ฉินอีหลินไม่รู้ว่าลี่โม่อวี่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอเห็นความระมัดระวังในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน ลี่โม่อวี่ผู้เย่อหยิ่ง ก็ยังเผยสายตาแบบนี้กับเธอ

หัวใจของเธอยังคงเจ็บปวด คล้ายกับรอยแผลที่ไม่มีวันหายสนิท

“ไม่ต้องส่งมาแล้ว ขี้เกียจทิ้ง”

ไม่รู้ทำไม เพียงเอ่ยออกไปกลับเป็นคำพูดทำร้ายจิตใจ

ดวงตาของฉินอีหลินสว่างวาบ เธอคิดว่าลี่โม่อวี่คงทำได้ไม่กี่วัน รอเขาเบื่อแล้ว เขาก็คงไม่มายุ่งกับเธอ แต่เธอไม่คิดว่า เขาจะเริ่มส่งดอกไม่มาทุกวัน แม้มีพายุ ก็ไม่เคยหยุดหย่อน

ช่วงแรกๆ อานหน้าตั้งใจทิ้งดอกไม้ไว้หน้าบ้าน แต่ผู้ชายคนนี้กลับเก็บมันขึ้นมาทีละดอกๆ ไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่มองมา

ตอนนั้นฉินอีหลินแอบมองเขาจากทางหน้าต่างแม้ไม่เห็นใบสีหน้าของเขาชัดเจน แต่ในใจก็เจ็บปวดเจียนตาย นั่นคือลี่โม่อวี่ของเธอ ทำไมถึงได้ลดตัวแบบนี้แล้วล่ะ

“จะทิ้งก็แล้วแต่พวกคุณ แต่อย่าทิ้งต่อหน้าเขา”

ฉินอีหลินชายคนนั้นเก็บดอกไม้จนเกลี้ยง แผ่นหลังที่จากไปอย่างโดดเดี่ยว กัดริมฝีปากแน่น

เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ จึงหันมาพูดกับอานหน้าและหลงอี้เซวียน ใบหน้าจริงจังในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ไม่เป็นไร ถ้าลำบาก ฉันทิ้งเองก็ได้”

ลี่โม่อวี่ยังคงยิ้ม ราวกับเขาไม่ได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจพวกนั้น ทำเพียงจ้องมองคนตรงหน้า

“คุณลี่เรียนรู้วิธีส่งดอกไม้พวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คุณไม่คิดว่ามันเด็กไปหน่อยหรอ”

ฉินอีหลินยังคงเลิกคิ้วมองชายตรงหน้า พูดถากถาง

ลี่โม่อวี่พลันนึกถึงใบหน้าของเห้อห้าว

“พี่ใหญ่ พี่ส่งดอกกุหลาบไป999ดอกทุกวัน แสดงให้เห็นว่าผู้ชายซาบซึ้งใจที่ได้แต่งงานกับคุณ”

เขาเชื่อคำพูดไร้สาระพวกนี้ได้ยังไง เขาควรจะรู้ดีว่าฉินอีหลินไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป ไม่มีทางกลับใจมาหาเขาเพราะดอกกุหลาบไม่กี่ดอกพวกนี้แน่ แต่เขาก็ยังอยากลอง ถ้าเกิดมันได้ผลขึ้นมาล่ะ”

ลี่โม่อวี่ยกยิ้ม แม้กระทั่งดวงตายังเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน

“ถ้ามันทำให้คุณใจเต้นละ ผมอยากลองดู”

เพียงประโยคเดียวก็ทำให้ฉินอีหลินพูดไม่ออก ทุกครั้งที่ทำให้ลี่โม่อวี่เจ็บปวด เธอก็เจ็บปวด เธอใช้วิธีการที่ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นทุกข์มาทำร้ายทั้งคู่ ดูเหมือนว่าจะมีเพียงวิธีนี้ที่สามารถเตือนสติตัวเองถึงช่องว่างระหว่างคนทั้งคู่ได้

“ขอเชิญคุณทานอาหารเย็นกับผมได้ไหมครับ”

ลี่โม่อวี่ยังคงยิ้มขณะเอ่ยถาม ท่าทางแบบนั้นไม่เหมือนการเชิญทานข้าว มันเหมือนเชิญเต้นรำมากกว่า

“ไม่ได้”

ฉินอีหลินตอบโดยไม่ต้องคิด เธอไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับลี่โม่อวี่อีก จึงปฏิเสธเขาไม่ตามตรง

แต่เธอพลันนึกถึงวัตถุประสงค์ที่ออกมาจากบ้านขึ้นมาทันที เธอออกมาเพื่อจะไปหามู่หลิง นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ เธอจึงยกมือจับติ่งหู ยิ้มบางๆ

“ฉันทานข้าวแล้ว แต่ไปนั่งเล่นที่บ้านคุณได้”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท