บทที่ 117 ใครบอกว่าผมไม่ใส่ใจเด็กๆ
ลี่โม่อวี่ยิ้มเย็นให้แก่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเขาเช่นกัน ครั้งนี้เอาเปรียบเขาขนาดนั้นแล้วยังกล้ามาพูดแล้วมองเขาด้วยสายตาแบบนี้อีก
ดวงตาอันตรายหรี่แคบ เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก
ในตอนนั้นเอง หมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนกำลังกระโดดโลดเต้นลงมาจากด้านบน
พวกเขามองเห็นอ้ายหลุนกลับมาแล้ว วิ่งเข้าไปหาเขาอย่างดีอกดีใจ
“คุณพ่ออ้ายหลุน”
“คุณพ่ออ้ายหลุน”
เด็กทั้งสองตะโกนพร้อมเพรียงทำให้ความโกรธของลี่โม่อวี่มีมากขึ้น เขาจ้องอ้ายหลุนเขม็งด้วยความโกรธ แต่พบว่าอ้ายหลุนไม่เพียงแต่ยั่วยุ แถมยังแสดงความโกรธออกมาเช่นกัน
“มามี๊ คุณพ่ออ้ายหลุนเป็นอะไร”
“น่ากลัวจังเลย”
หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนมองเห็นชายตรงหน้าที่ไม่ได้ยิ้มให้พร้อมทั้งคุกเข่ากอดพวกเขาเหมือนที่เคยทำ แต่ใช้สายตาบางอย่างมองคุณลุงลี่ที่อยู่ตรงหน้า หยุดเท้าลงนิ่งๆ กอดขาของแม่ตัวเองเอาไว้
ตอนนั้นเองอานหน้ากำลังลงจากตึกตามมาพอดี เธอมองเห็นสถานการณ์ฟาดฟันกันอยู่ด้านล่าง คิ้วสวยเลิกขึ้น “เกิดอะไรขึ้น”
ฉินอีหลินลูบศีรษะของเด็กๆทั้งสอง เอ่ยปลอบ “คุณพ่ออ้ายหลุนมีธุระคุยกับคุณลุง หนูไปรบกวนไม่ได้นะคะ”
เห็นว่าเด็กทั้งสองพยักหน้าเข้าใจ ค่อยหันหน้ามาหาแม่ของตัวเอง
“หนูพาเด็กๆไปสวนสนุก ลี่โม่อวี่ตามไป อาศัยจังหวะที่หนูคุยกับอ้ายหลุนแอบพาเด็กๆไป ต่อมากว่าจะตามหาพวกเขาเจอ ลี่โม่อวี่ยังเปิดเผยตัวตนของอ้ายหลุนอีก เราสองคนต้องอาศัยการคุ้มกันจากตำรวจค่อยกลับมาได้”
อานหน้าได้ยินดังนั้นคิ้วสวยก็ขมวด เธอไม่คิดว่า “ลูกเขยเก่า” จะมีฝีมือขนาดนี้
ลี่โม่อวี่ได้ยินฉินอีหลินพูดโดยไร้เยื่อใย ใบหน้าทะมึนขึ้น ถ้าเขาไม่พาลูกไปหาผู้ชายอื่น เขาจะทำแบบนี้หรอ
นึกถึงภาพที่ฉินอีหลินพุ่งเข้าไปในกลุ่มคนแล้ว ลี่โม่อวี่ใบหน้าไม่พอใจ คล้ายกับยกหินมาทับเท้ายังไงยังงั้น
“เหอะ”
ส่งเสียงในลำคอ ลี่โม่อวี่มองกลับอ้ายหลุนด้วยใบหน้าไม่พอใจ สาวเท้ายาวๆเดินออกไปด้านนอก
อานหน้ามองตามสองคนที่เดินตามหลังกันออกไป สายตาบอกใบ้ให้ฉินอีหลินออกไปห้าม
ใครจะคิดว่าครั้งนี้ฉินอีหลินกลับใจแข็ง เธอยกมือขึ้นลูบเด็กๆเบาๆ เอ่ยบอก “หนูไม่สน ครั้งนี้ลี่โม่อวี่ทำเกินไป เด็กๆเอาไปเล่นแบบนี้ได้หรอ ต้องสั่งสอนเขาสักครั้งก็ดีเหมือนกัน”
อานหน้าฟังดังนั้นแล้วจึงยักไหล่ ไม่โต้แย้ง ต่อมาเอ่ยสั่งป้าหวางเริ่มทำอาหารเย็น
ฉินอีหลินพาเด็กทั้งสองนั่งคุยอยู่บนโซฟา แต่ในใจลอบมองสองคนด้านนอกอยู่เรื่อยๆ
ครั้งนี้อ้ายหลุนโกรธมาก แม้ปกติเขาจะพูดง่าย แต่ครั้งนี้คงจะยากหน่อย และลี่โม่อวี่ยิ่งเป็นคนไม่ยอมเสียเปรียบใคร
หากสองคนนั้นเข้าใกล้กัน เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หลงหมิงเจ๋อเห็นว่าแม่ตัวเองใจลอย สายตาเหลือบมองไปทางที่คุณพ่ออ้ายหลุนกับลุงลี่เดินหายไป เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างเป็นกังวล
พวกผู้ใหญ่นี่นะ ไม่ให้เขาวางใจจริงๆ
ด้านนอก อ้ายหลุน มองชายตรงหน้าของเขาด้วยความอึดอัดที่อัดแน่นอยู่ในใจทั้งหมดด้วยสายตาเย็นชา
“คุณรู้ไหมว่าฉินเกือบต้องตายเพราะคลอดลูก เด็กทั้งสองเป็นชีวิตของฉิน”
อ้ายหลุนกำหมัดแน่น หลังมือขาวขึ้นเส้นเลือดสีดำชัดเจน
“ผมรู้ว่าคุณเป็นสามีเก่าฉิน หมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนก็เป็นลูกของคุณ แต่สิ่งที่คุณทำวันนี้มันมากเกินไปจริงๆ”
เขาเขวี่ยงหมัดออกไปกระทันหัน หมัดนั้นซัดเข้าไปที่แก้มของลี่โม่อวี่
พลั๊วะ
กลิ่นคาวกระจายชัดเจนทั่วกระพุ้งแก้มของลี่โม่อวี่ ปากเขาถูกฟันกระแทกแตกแล้ว แต่เขาไม่ได้สนใจ
ในหัวของเขามีแต่คำพูดประโยคนั้นของอ้ายหลุน ฉินอีหลินเกือบจะต้องสูญเสียชีวิตเพราะคลอดลูก
ทำไมถึงได้โง่แบบนั้นกันนะ
“ดูจากตอนนี้ สถานการณ์ของคุณผู้หญิงไม่เหมาะที่จะตั้งครรภ์”
“ไม่มีครับ ตอนนี้ทางการแพทย์ยังไม่มีทางรักษา”
“การให้กำเนิดเด็กสำหรับคุณผู้หญิงแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง”
เขายังจำเรื่องราวเมื่อห้าปีก่อนได้อย่างชัดเจน หมอเหล่านั้นบอกเขาว่ายังไง เพื่อไม่เป็นการทำร้ายร่างกายของฉินอีหลิน เขาตั้งใจจะไม่เก็บเด็กที่ไม่ใช่ลูกของพวกเขา
เขาจะไม่รักเด็กๆได้ยังไง แต่ถ้าต้องแลกด้วยชีวิตของฉินอีหลิน เขายอมเสียดีกว่า
แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคลอดหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนออกมา นั่นเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องผ่านมันมา ใครก็ลืมไม่ลง
“โง่หรอ”
อ้ายหลุนไม่รู้ว่าลี่โม่อวี่กำลังคิดอะไร ในตอนที่เขาปล่อยหมัดออกไปนั้นเขาเตรียมพร้อมตั้งรับเต็มที่ แต่ผู้ชายตรงหน้ายังคงยืนนิ่ง ความโกรธบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยความเศร้า
เขาโกรธลี่โม่อวี่ที่เป็นแบบนี้ การแสดงออกของชายคนนั้นราวกับบอกเขาว่า เรื่องที่ผ่านมาของฉินอีหลินไม่เกี่ยวกับเขา เขาไม่มีทางเข้าไปในชีวิตของผู้หญิงคนนั้นได้จริงๆ
คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของอ้ายหลุนยิ่งไม่พอใจ “หมัดเมื่อกี้ ผมต่อยแทนฉิน เตือนคุณว่าต่อไปอย่าเอาเด็กๆมาล้อเล่น แม้คุณจะไม่ใส่ใจเด็กๆ พวกเขาก็เป็นชีวิตของฉิน”
“ใครบอกว่าผมไม่ใส่ใจเด็กๆ”
ลี่โม่อวี่คล้ายตะโกนออกมา ครั้งแรกที่เขาเห็นเด็กสองคนนั้น ก็รู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก หมิงเจ๋อคล้ายเขามาก ดวงตาเหมือนมาก และจิ่นเซวียนก็เหมือนฉินอีหลิน โดยเฉพาะดวงตาใสแจ๋วคู่นั้น ถ่ายทอดมาจากฉินอีหลินจริง
เพราะให้ความสำคัญ เขาถึงไม่ยอมรับที่ลูกของเขาเรียกคนตรงหน้าว่า “พ่อ” นั่นเป็นลูกของเขา จะต้องเรียกเขาว่าพี่ได้คนเดียว
อ้ายหลุนมองชายตรงหน้าที่ตะโกนขึ้นมา เขามองแก้มของลี่โม่อวี่ที่กำลังบวมขึ้นมา แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ มองเขานิ่งๆ แล้วบอกเขา ใครบอกว่าเขาไม่ใส่ใจ?
แต่อ้ายหลุนยินยอมให้เขาไม่ใส่ใจ
แน่นอนว่าลี่โม่อวี่เห็นสายตาของอ้ายหลุน เขาใช้ลิ้นเดาะส่วนที่เป็นแผล ท่าทีเย็นชา
เขาไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบ ใครให้เกียรติเขา เขาก็ให้เกียรติ ใครทำร้ายเขา เขาก็ต้องเอาคืนสองเท่า
แต่สำหรับอ้ายหลุนครั้งนี้ ลี่โม่อวี่ไม่ได้เอาคืน
เขารู้ว่า เมื่อสักครู่ฉินอีหลินกลัวมากจริงๆ
นี่เป็นความผิดของเขา เขายอมรับ
“ตั้งแต่เด็กทั้งสองนั้นเกิดขึ้นมา ผมก็รู้จักฉิน ไม่มีใครกล้าใช้ลูกมาล้อเล่นกับเธอ เธอจะต้องเป็นบ้าแน่”
ลี่โม่อวี่มองใบหน้าจริงจังของอ้ายหลุน ในใจนั้นเกิดไร้เรี่ยวแรง เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างฉินอีหลินมาห้าปี โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่เธอต้องคลอดลูกด้วยสภาพร่างกายอ่อนแอ มีลูกที่น่ารักให้เขาถึงสองคน
แต่เขากลับไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ เขาไม่รู้ว่าเธอยืนหยัดผ่านความลำบากนี้มาได้ยังไง
คิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของลี่โม่อวี่ก็มืดลง