บทที่ 114 ผมไม่เชื่อว่าจะไล่คุณไปไม่ได้
“ฮัลโหลอ้ายหลุน หาเด็กๆเจอแล้วคุณมาที่นี่ก่อนไหม ฉันรอคุณอยู่ตรงรถไฟเหาะ…..คุณไม่ต้องรีบ ค่อยๆเดิน”
ฉินอีหลินรู้ว่าเด็กๆอยู่กับลี่โม่อวี่ เธอก็วางใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่ายังไงลี่โม่อวี่ก็เป็นพ่อของเด็กทั้งสอง ให้พวกเขาสามคนได้อยู่ด้วยกันก็เป็นเรื่องที่สมควร
คิดมาถึงตรงนี้ เธอจึงต่อสายหาอ้ายหลุน บอกเขาว่าหาเด็กๆเจอแล้ว
อ้ายหลุนวางโทรศัพท์ลงพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ระหว่างที่ตามหาเด็กๆเขาคิดอยู่ตลอดถ้าเด็กทั้งสองหายไปจริงๆ เขาก็คงกลายเป็นคนผิดมหันต์ ไม่เพียงทำให้เด็กๆต้องตกอยู่ในอันตรายแถมยังสูญเสียโอกาสจีบฉินอีหลินอีก
ขณะที่เขาวิ่งกลับมาบริเวณรถไฟเหาะก็มองเห็นฉินอีหลิน
“อีหลิน เด็กๆล่ะ” เมื่อฉินอีหลินบอกเขาว่าหาเด็กๆเจอแล้วงั้นก็ต้องเห็นแล้วสิ แต่รอบๆข้างเธออ้ายหลุนกลับมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กทั้งสอง
“พวกเขาอยู่กับพ่อแท้ๆของพวกเขา”
ฉินอีหลินก็ไม่ปิดบังอ้ายหลุน ถ้าอ้ายหลุนคิดจะจีบเธอจริงๆ งั้นก็ต้องรู้เรื่องที่เกี่ยวกับเธอยังไงเธอก็ไม่อยากทำร้ายเพื่อนคนนี้
“พ่อแท้ๆหรอ”
อ้ายหลุนรู้จักฉินอีหลินมาห้าปีกลับไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน หางคิ้วขมวดขึ้น อ้ายหลุนมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างแปลกใจ “พ่อของเด็กทั้งสองไม่ใช่ตายไปแล้วหรอ”
เขานึกถึงแต่ก่อน หลงหมิงเจ๋อบอกกับเขาอย่างเศร้าสร้อยว่าพ่อของเขาหกล้มเสียชีวิต ยังคิดว่าน่าเสียดายอยู่เลยแล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น
“ตอนนั้นฉันกลัวหมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนจะงอแง ต้องการเจอพ่อ ถึงได้หาเหตุผลมาโกหกพวกเขาออกไปแบบนั้น”
ฉินอีหลินรู้สึกกระอักกระอ่วน สายตาขาดความมั่นใจมองไปทางอื่น
ไม่ว่ายังไงเธอก็ได้ปิดบังความจริงกับผู้ชายคนนี้ แม้ว่าเธอไม่คิดจะรับรักเขาแต่เธอก็ไม่ควรปิดบังเขา
“ดังนั้น…..”
อ้ายหลุนไม่ใช่คนโง่ เขาพลันนึกถึงผู้ชายที่เอาดอกกุหลาบมาให้เมื่อเช้า ตอนนั้นเขาคิดว่านั่นก็เป็นอีกคนที่มาตามจีบ ฉินอีหลิน แต่ตอนนี้ดูแล้ว คงเป็นเขาเองที่ไร้เดียงสา
ฝืนยิ้มออกมา อ้ายหลุนจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าตรงๆ
“ลี่โม่อวี่เป็นพ่อของเด็กๆสินะ”
“ใช่”
ใบหน้าของลี่โม่อวี่ปรากฏขึ้นในหัวของฉินอีหลิน ต่อมาจึงพยักหน้า ที่อ้ายหลุนเดาออกว่าเป็นลี่โม่อวี่ เธอไม่ตกใจเลยสักนิด วันนี้ตอนเช้าผู้ชายคนนั้นก็แสดงออกมาชัดเจนขนาดนั้นแล้ว
“เมื่อกี้พ่อของเด็กตามเรามาตลอด แล้วอาศัยจังหวะที่เราคุยกันแอบพาเด็กๆไป”
ฉินอีหลินพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าก็เผยความโกรธออกมา ด้านหนึ่งเธอโกรธตัวเองที่ไม่รู้ว่ามีคนตามมา อีกด้านเธอโกรธหมิงเจ๋อและจิ่นเซวียนที่ไม่มีความหวาดกลัว ไม่เห็นเธอก็ยังกล้าไปกับคนอื่นอีก
อ้ายหลุนฟังมาถึงตรงนี้ ก็ไม่เข้าใจ เขาได้แต่ด่าลี่โม่อวี่ในใจไม่หยุด แต่ไม่สามารถเผยความไม่พอใจออกมาได้
“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เราไปรับเด็กๆกลับมากันเถอะ เด็กทั้งสองไม่เจอหน้าคุณนานแล้ว เดี๋ยวจะงอแง”
“พวกเขาอยู่ที่แทรมโพลีน”
ฉินอีหลินนึกถึงเด็กซนทั้งสอง จึงรีบพาอ้ายหลุนไปหาลี่โม่อวี่
แต่เธอยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แม้ว่าเมื่อก่อนเธอจะรับรู้ความรู้สึกของอ้ายหลุนแล้ว แต่ตั้งแต่ได้พูดออกมาเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเขา เธอมักจะรู้สึกเกร็งอยู่บ้าง
ฉินอีหลินเห็นลี่โม่อวี่อยู่บนกิ่งไม้ตั้งแต่ไกลๆ ท่าทางเอ้อระเหยของเขา ทำให้เธออดไม่ได้เข้าไปชกเขาสักหมัด
“เด็กๆล่ะ”
ตอนนี้เธอไม่อยากพูดมากกับเขา จึงเอ่ยถามตรงๆ ลี่โม่อวี่มองฉินอีหลินที่เดินเข้ามาหาตน ในใจก็เบิกบาน ได้ยินคำถามของเธอ ลี่โม่อวี่ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ใช้สายตาบอกใบ้ไปทางแทรมโพลีน
มองคนที่เดินตามหลังฉินอีหลินมาอย่างไม่ใส่ใจ สายตาของลี่โม่อวี่เย็นชา นี่มาเพื่อจีบหญิงจริงๆสินะ แว่นกันแดดอันใหญ่ หมวกแก๊ป ทำไมไม่สาดน้ำกรดสักขวดล่ะ แบบนั้นรับรองไม่มีใครดูออกแน่
ผมไม่เชื่อหรอกว่าผมจะไล่คุณไปไม่ได้
ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้ว สายตาส่งสารมายั่วยุอย่างชัดเจน
อ้ายหลุนในฐานะศัตรูหัวใจ แน่นอนว่าได้รับการยั่วยุจากลี่โม่อวี่ มุมปากค่อยๆยกยิ้ม ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดนั้นเต็มไปด้วยสีสัน
ตอนนี้ความสนใจของฉินอีหลินอยู่ที่เด็กๆทั้งสอง จึงไม่ได้ใส่ใจทั้งสองคนที่ยังยั่วยุกันราวกับเด็ก
“หมิงเจ๋อรีบพาน้องออกมาเร็ว ระวังด้วยอย่าหกล้มล่ะ”
ฉินอีหลินรีบเรียกเด็กๆออกมา ในตอนที่หมิงเจ๋อเดินออกมาจากประตู แต่สะดุดก้อนหินเพียงเล็กน้อยเกือบหกล้มทำให้ฉินอีหลินตกใจต้องสูดหายใจเข้าลึก
“ลูกผู้ชาย คุณจะตกใจอะไรขนาดนั้น”
ลี่โม่อวี่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นหลงหมิงเจ๋อสะดุดแต่ไม่เป็นไร ยังคงจูงมือน้องสาวหลงจิ่นเซวียนวิ่งออกมาทางนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สมแล้วที่เป็นลูกของเขาลี่โม่อวี่ เข้มแข็ง เขาเกลียดที่สุดคือเด็กอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
“ล้ม คนที่เจ็บก็ไม่ใช่คุณ”
ฉินอีหลินกลอกตาใส่ลี่โม่อวี่ แม้ว่าเธอไม่ได้ใจอ่อนกับเด็กทั้งสอง แต่เมื่อพวกเขาได้รับบาดเจ็บเธอก็จะเจ็บมากยิ่งกว่า
“แม่ครับ คุณพ่ออ้ายหลุน คุณลุง”
หลงจิ่นเซวียน มืออีกข้างถูกพี่ชายจับจูง ส่วนอีกข้างโบกสะบัดด้วยความดีใจ
เดิมอ้ายหลุนได้ยินทั้งสองคุยกันถึงเด็กๆ เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนโดนมองข้าม แต่หลงจิ่นเซวียนกลับเรียกเขาก่อน ค่อยเรียกลี่โม่อวี่
โดยเฉพาะเรียกเขาว่า “พ่อ” เรียกลี่โม่อวี่ว่า “คุณลุง”
มุมปากของเขายิ้มหยัน เขาพลันรู้สึกเป็นดีขึ้นมา อืม พรุ่งนี้พาเด็กทั้งสองไปเที่ยวที่ไหนดีนะ จิ่นเซวียนเหมือนจะชอบกิน kfc ไหมนะ
ใบหน้าของลี่โม่อวี่เข้มขึ้น เมื่อสักครู่เขาลำพองใจพูดคุยเรื่องลูกกับฉินอีหลิน แต่แค่แป๊บเดียวลูกของเขากลับเรียกคนอื่นว่าพ่อ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใบหน้าของลี่โม่อวี่ไม่น่ามอง
แต่ฉินอีหลินได้ยินการเรียกขานแบบนั้น ในที่สุดก็หัวเราะเสียงดังออกมา
เธอเข้าใจความคิดของเด็กทั้งสอง เธอเข้าใจสถานการณ์ของลี่โม่อวี่ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้เธอคงได้แต่หัวเราะอย่างใจดี
“กรี๊ด อ้ายหลุน”
เสี่ยวเวยเพิ่งจะซื้อโปสเตอร์ของอ้ายหลุนไป กำลังคุยกับเพื่อนซี้ว่าผู้ชายคนนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน แต่เพียงหันไป เธอก็มองเห็นคนๆนั้นยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ
เธอมองลี่โม่อวี่อย่างตกใจ เขาทำไมเทพแบบนี้ รู้ว่าได้ยังไงว่าอ้ายหลุนจะมาปรากฏตัวที่นี่
“อ้ายหลุน”
“อ้ายหลุน ฉันเป็นแฟนคลับของคุณ”
“อ้ายหลุน พวกเราขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ”
“อ้ายหลุน ขอลายเซ็นได้ไหมคะ”
ในตอนที่ฉินอีหลินหันกลับมา ก็พบว่าอ้ายหลุนถูกล้อมเอาไว้แล้ว แต่ลี่โม่อวี่ก็ยังยืนหัวเราะอยู่ข้างๆไม่หยุด