บทที่ 128 กลับตัวยังไม่สาย
บนรถ ลี่โม่อวี่ต่อสายหาเห้อห้าว ให้เขาพาคนมาที่บาร์
โทรศัพท์ฝั่งนั้น เห้อห้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าจะรับปากแล้ว แต่ก็ยังอยากถามอีกสักนิด “พี่ใหญ่ พี่อยากสอบถามด้วยเองหรอ”
“นายแค่พามา ที่เหลือฉันจัดการเอง” น้ำเสียงของลี่โม่อวี่เรียบนิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
เห้อห้าวเริ่มมีอาการร้อนใจ แต่เขายังกักเก็บมันไว้ “อ้อ” น้ำเสียงกระอึกกระอัก “พี่ใหญ่ ผมหมายถึง พวกคุณจะถามเธอแบบไหน ผมจะได้รู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง”
เห้อห้าวพูดจบแล้วจึงยกมือขึ้นมาเคาะหัวตัวเอง ความจริงเขาอยากบอกว่า ไม่ลงมือกับชิวหันเยียนได้ไหม ถามให้ได้อะไรก็พอ คำพูดมาหยุดอยู่ในปาก แล้วพลันเปลี่ยนจากเดิม
“ไม่ต้อง” ลี่โม่อวี่ปฏิเสธ แล้วรู้สึกว่าวันนี้เห้อห้าวมีท่าทีแปลกไป จึงเอ่ยถาม “เห้อห้าว วันนี้นายเป็นอะไร ไม่ปกติเลยสักนิด เกิดอะไรขึ้นกับชิวหันเยียนหรือเปล่า”
“ปะ….เปล่า…เปล่า” เห้อห้าวรีบปฏิเสธ “ผมแค่ถามดูเฉยๆ”
“ถ้าไม่มีอะไรก็พาคนไปเถอะ ฉันใกล้จะถึงแล้ว” ลี่โม่อวี่พูดจบก็ตัดสาย
ฟังคำพูดของเห้อห้าวลี่โม่อวี่ก็พอจะเดาได้ ความรู้สึกของเห้อห้าวต่อชิวหันเยียนเขารู้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าผ่านมานานขนาดนี้ เห้อห้าวจะยังคงคะนึงหา
เห้อห้าวเดิมใช้ชีวิตแบบอิสระ ยากที่จะมีใจให้ผู้หญิงสักคน แต่อีกฝ่ายก็เป็นน้องที่ดีรักใคร่สนิทสนมกัน อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิงที่เขารักที่สุด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้หน้าเห้อห้าว แต่ชิวหันเยียนยั่วยุฉินอีหลินอยู่หลายครั้งหลายครา จนถึงจุดสิ้นสุดของเขา เรื่องนี้จะต้องให้ฉินอีหลินจัดการ
เดิมลี่โม่อวี่อยากบอกกับเห้อห้าว ถ้าเด็กเป็นอะไรไป เขาจะต้องให้ชิวหันเยียนชดใช้ด้วยชีวิต พอคิดดูแล้ว ลี่โม่อวี่เลือกที่จะเงียบ
เขาไม่อยากให้เห้อห้าวต้องเป็นทุกข์ แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองลำบากใจ
ฉินอีหลินสังเกตเห็นลี่โม่อวี่หลังจากที่คุยโทรศัพท์แล้ว สีหน้าเขาดูแย่ลง คล้ายกำลังกังวล จึงถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
ได้ยินเสียงของฉินอีหลิน ใบหน้าของลี่โม่อวี่ค่อยอ่อนโยนขึ้นพร้อมบอก “เปล่า พวกเราตรงไปที่บาร์กันเถอะ”
เกี่ยวกับว่าทำไมถึงเลือกบาร์นี้ หนึ่งคือคนเยอะ ไม่เป็นที่สนใจของคน ฉินอีหลินอยากให้เธอได้ลิ้มรสในตอนนั้นที่เธอทรมานตนเอง
มือของฉินอีหลินอดไม่ได้กุมเข้าหาด้วยกันแน่น ความโกรธแค้นที่มี ครั้งนี้เธอจะคิดบัญชีให้มันชัดเจน เธอหวนคิดอยู่ในใจ “ชิวหันเยียน ทางที่ดีลูกสาวฉันต้องไม่เป็นไร ไม่งั้นฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่”
“อย่ากังวลเกินไป ไม่เป็นไรหรอก ผมมีวิธีทำให้เธอยอมเปิดปาก” ลี่โม่อวี่นึกว่าฉินอีหลินกำลังกังวล จึงกุมมือเธอเอาไว้แล้วเอ่ยปลอบ
แต่ใบหน้าเยือกเย็นของลี่โม่อวี่ ยังคงทำให้ฉินอีหลินรู้สึกไม่ดี ชิวหันเยียนจะยอมเปิดปากง่ายๆขนาดนั้นเลยหรอ
อีกฝั่งของสาย เห้อห้าวยังคงยืนกำโทรศัพท์อยู่แบบนั้น สายของลี่โม่อวี่ตัดไป ทำให้ในใจเขายังมีคำพูดมากมายที่ไม่ได้เอ่ยออกไป ตอนนี้ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะโทรกลับไป
ชิวหันเยียน ทำไมคุณโง่แบบนี้ ทำเรื่องโง่ขนาดนี้
แม้จะรู้ว่าชิวหันเยียนยั่วยุฉินอีหลิน แต่ในใจของเห้อห้าวยังคงหวังว่าพวกเขาจะปล่อยชิวหันเยียน
“เฮ้อ” เห้อห้าวถอนหายใจยาวๆ เขารู้ว่าเมื่อสักครู่ที่เขาถามเขาทำให้ลี่โม่อวี่ลำบากใจ และเขาก็เข้าใจว่าทำไม่ลี่โม่อวี่ต้องทำแบบนี้
เพียงแต่ชิวหันเยียนก็เป็นผู้หญิงที่เขาชอบ แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีความสามารถมากพอ
ตอนนี้ คงทำได้แค่เดินไปทีละก้าวแล้วว่ากันไปทีละก้าวแล้ว เห้อห้าวรู้สึกศีรษะขยายขึ้น ยกโทรศัพท์ขึ้นเคาะศีรษะแรงๆ แต่พลันรู้สึกเจ็บขึ้นมา
เขาหันกลับไปมองชิวหันเยียนที่ถูกมัดขาทั้งสองข้างเอาไว้ ในใจนั้นทรมาน
ไม่มีความสง่าเหมือนที่เคย คุกเข่าลงตรงหน้าชิวหันเยียนเงียบๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเล็กซีดเซียวของชิวหันเยียน หลายวันมานี้ ผู้หญิงงดงามคนนั้นตอนนี้นั้นจนตรอกไม่น่ามอง ไม่รู้ว่าจะทนต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
“อีกสักพักไปเจอพวกเขา คุณก็พูดในสิ่งที่รู้ทั้งหมดเถอะ พวกเราไม่ทำให้คุณลำบากหรอก” เนิ่นนาน เห้อห้าวยังคงควบคุมตัวเองไม่ให้ยื่นมือออกไปสัมผัสแก้มนั้น เอ่ยโน้มน้าว
ทว่าชิวหันเยียนเชยตาขึ้น ชายตามองเห้อห้าวเล็กน้อย ยิ้มอย่างไม่มีความหวาดกลัว “ฉันไม่ได้ทำอะไร จะให้ฉันพูดอะไร ทำไมฉันต้องพูด”
สายตาของเห้อห้าวนิ่งขึ้น ชิวหันเยียนทำอะไร ใจเขารู้ดี ตอนนี้ชิวหันเยียนยังปากแข็ง เขาทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงขึ้นเสียงบอก “คุณคิดให้ดีล่ะ ตอนนี้คนที่คุณกำลังเล่นด้วยคือลี่โม่อวี่ ถ้าคุณไม่พูด คุณรู้ไหมพวกเขาจะทำยังไงกับคุณ”
ชิวหันเยียนไม่ยำเกรง ใบหน้ายังคงยิ้มหยัน ทำยังไงกับเธอ คิดว่าเธอกลัวหรอ
หัวใจของเธอมันโดนทำร้ายจนย่อยยับ ไม่สนใจตั้งนานแล้วว่าลี่โม่อวี่จะทำยังไงกับเธอ อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้ว ก็ไร้ประโยชน์
เห้อห้าวมองเห็นความสิ้นหวังในใบหน้าของชิวหันเยียน หัวใจเจ็บปวดอย่างแจ่มชัด คำพูดหว่านล้อมก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เขาทั้งโกรธทั้งร้อนใจ เดินไปเดินมาอยู่ในห้อง จึงได้แต่ทิ้งประโยคไร้ประโยชน์ “ทางที่ดีคุณลองคิดดูดีๆ อีกสักพักจะพูดอะไร”
พึ่งเอ่ยจบ ก็เห็นชิวหันเยียนพยายามดิ้นรน ต่อมาจ้องมองสายตาแปลกประหลาดของเห้อห้าว ดวงตาของเธอดุร้าย ดวงตาแหลมคมจ้องเขาพร้อมตะโกน “ถ้าฉันไม่ได้ ใครก็อย่าหวังว่าจะได้ เห้อห้าว คุณตายใจซะเถอะ ฮ่าๆ”
ร่างกายของเห้อห้าวชะงักค้าง ดวงตาค่อยๆกลับมานิ่งสงบ สิ่งที่เขาทำได้เขาก็ทำไปแล้ว ชิวหันเยียนเป็นแบบนี้ เขาจะไปทนกับเธอทำไม
ประโยคสุดท้าย ถือว่ายังทนไม่ไหว เห้อห้าวหันกลับไป จ้องชิวหันเยียนแล้วบอก “ทางเส้นนี้ คุณผิดแล้ว กลับตัวก็ยังไม่สาย”
แต่น่าเสียดาย ชิวหันเยียนยังคงเลือกที่จะใช้ความเงียบมาตอบ เห้อห้าวถอนหายใจออกมาเบาๆ ปล่อยไปแบบนั้น รอจนลี่โม่อวี่และชินอีหลินมาถึงห้องวีไอพีของบาร์ เห้อห้าวก็พาชิวหันเยียนมาถึงตามเวลา
มือของชิวหันเยียนถูกมัดเข้ากับเก้าอี้ เท้าทั้งสองข้างก็ถูกเชือกมัดเอาไว้แน่น นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ขยับ ลี่โม่อวี่เข้ามาก็สังเกตเห็นว่าปมเชือกที่มัดนั้นเป็นเงื่อนที่แก้ง่าย แม้จะไม่ยอมให้ชิวหันเยียนหลบหนีได้แน่ แต่ก็ยังหันไปมองเห้อห้าวอย่างไม่พอใจ
เห้อห้าวก้มหน้าอย่างหวาดกลัว
ศัตรูแต่กลับไม่ได้มองกันอย่างโกรธแค้น ชิวหันเยียนมองฉินอีหลินด้วยรอยยิ้มเย็น ไม่เอ่ยอะไรออกมาแม้เพียงประโยคเดียว
ลี่โม่อวี่เข้ามาก็ไม่ได้เสียเวลา เอ่ยถามตรง “เด็กอยู่ไหน”
ชิวหันเยียนเหลือบมองลี่โม่อวี่ เธอชอบผู้ชายคนนี้มาก ชอบมากขนาดไหนหรอ เพื่อเขาเธอยอมทิ้งทุกอย่าง แต่สุดท้าย ก็แลกมาด้วยสายตาราวกับโกรธแค้นของเขา