บทที่ 137 คิดถึงผมไหม
ลี่อานโก๋ชะงัก ใบหน้านิ่งขรึมมีท่าทางตกตะลึง อาจเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าคำพูดของฉินอีหลินจะแหลมคม กล้าถามคำถามที่เฉียบคม
เขาเงียบไปชั่วครู่ คล้ายกับกำลังคิดว่าควรจะตอบยังไง
ขบคิดอยู่ในใจ แน่นอนว่าใจเขาอยากเจอลูกชายของตนเอง แต่เขาก็มีภาระที่หนักอึ้งของตัวเอง หลายเรื่องก็ยากที่จะปฏิเสธ
ในหัวของลี่อานโก๋ปรากฏรอยยิ้มดื้อรั้นของลี่โม่อวี่ นั่นคล้ายตัวเองในสมัยหนุ่มๆราวกับแกะ ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ ชั่วพริบตาก็ผ่านไปนานหลายปี
แต่เขาเป็นพ่อของลี่โม่อวี่ ตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยปรากฏตัว นี่เป็นสิ่งที่เขาบกพร่อง และเป็นสิ่งที่เขารู้สึกผิดตลอดชีวิต
“ก็คงงั้น บางทีคุณอาจจะพูดถูก”
ดวงตาของ ลี่อานโก๋มองแก้วน้ำตรงหน้า ผ่านไปนานเขาถึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
สิ้นคำพูดนั้น เขาคล้ายกับรู้สึกเสียใจ ยังอยากอธิบายกับฉินอีหลิน “ความจริงเมื่อสิบสามปีก่อน ผมก็เคยมาหาลี่โม่อวี่ เพียงแต่ว่า……”
“เพียงแต่ว่าเขาปฏิเสธคุณ”
ฉินอีหลินลุกขึ้น เอ่ยขัดคำพูดของชายตรงหน้า ดวงตาเยือกเย็นขึ้นมา “ฉันคิดว่า ตอนนั้นที่คุณมาหาลี่โม่อวี่ ก็คงไม่ได้บริสุทธิ์ในสินะ”
ลี่อานโก๋ได้ยินดังนั้น จึงเงยหน้าขึ้นทันใด สายตาแวววาวจ้องมองฉินอีหลิน จากท่าทีของลี่โม่อวี่ คงไม่ได้คุยเรื่องเก่าก่อนกับฉินอีหลิน ตอนนี้เธอเดาได้ ดูแล้วคงฉลาดจริงๆ
ลี่อานโก๋พ่นลมหายใจออกมา เขาไม่ได้ตอบฉินอีหลินทันที ทว่ากลับเอ่ยออกมาอย่างไม่มีทางเลือก “คุณฉิน คุณไม่เข้าใจ เรื่องบางเลือกผมก็ไม่มีสิทธิ์เลือก และมีหลายเรื่อง ก็ไม่ใช่ว่าผมอยากทำอะไรก็ได้”
คำพูดดูดี ทำให้ตัวเองดูเป็นคนดีขึ้นมา
ฉินอีหลินก็เป็นแม่คน สำหรับคำพูดแบบนี้ เธอรังเกียจที่สุด
แรกเริ่มเรื่องเป็นยังไง ฉินอีหลินไม่เข้าใจ แต่เมื่อลี่อานโก๋โผล่มาครั้งนี้ ก็เพราะการทดลอง N1 งั้นเมื่อครั้งก่อนล่ะ คำตอบไม่ต้องบอกก็รู้
ฉินอีหลินไม่อยากคุยกับผู้ชายคนนี้ต่อแล้ว สายตาเยือกเย็นบอกเขา “ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันคิดว่าฉันคงช่วยอะไรผู้อำนวยการลี่ไม่ได้ ลูกสาวของฉัน ฉันมีวิธีช่วยกลับคืนมาค่ะ”
พูดจบฉินอีหลินก็เดินออกจากห้องไป ขณะที่เดินออกไปฉินอีหลินโกรธตัวเองอยู่เล็กน้อย ลี่อานโก๋เข้าใจสถานการณ์ขนาดนี้ ถ้าเขายอมช่วย เธอต้องสามารถช่วยจิ่นเซวียนกลับมาได้แน่
เธอไปแบบนี้ ก็เหมือนกับทิ้งโอกาสช่วยลูกสาวตัวเองไป แต่เมื่อคิดว่าชายคนที่อยู่ในห้องนั้นกลับมาหาลี่โม่อวี่เพราะการทดลองในตัวเธอ ฉินอีหลินก็รู้สึกโกรธ คนเป็นพ่อไม่เคยโผล่หน้ามาหลายปี เมื่อกลับมาก็มีจุดประสงค์
พ่อแบบนี้ไม่มีก็ได้ นึกถึงท่าทีของลี่โม่อวี่ที่มีต่อลี่อานโก๋ เธอพอเข้าใจบ้างแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆหนึ่งครั้ง แต่พบว่า ตัวเองติดมาจากลี่โม่อวี่มาโดยไม่รู้ตัว
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดี ฉินอีหลินส่ายหัว ให้ตัวเองไม่ต้องไปสนใจเรื่องเหล่านั้น
สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้ ก็คือตามหาจิ่นเซวียน จะการทดลองอะไร ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอทั้งนั้น
ฉินอีหลินก้าวเดินจากไป คนสนิทของผู้อำนวยการลี่เดินเข้าไปในห้องรับรอง เห็นเจ้านายตัวเองอยู่ในสีหน้าเรียบนิ่ง จึงถามอย่างอดไม่ได้ “ท่านครับ จะสั่งคนจับตัวผู้หญิงคนนี้กลับไปด้วยเลยไหมครับ”
ลี่อานโก๋ยั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ได้ตอบคำถามของคนสนิท
คนสนิทของเขารอไม่ไหว หมุนตัวเตรียมไปจับตัวฉินอีหลิน ทว่ากลับถูกลี่อานโก๋ เรียกเอาไว้ “ไม่ต้อง ช่วงนี้นายแค่จับตาเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”
คำสั่งของลี่อานโก๋ไม่สามารถขัดได้ คนสนิทพยักหน้ารับ ค่อยถอยออกไป ทิ้งความเงียบไว้ให้ชายผู้ยิ่งใหญ่ตลอดชีวิต
ฉินอีหลินกลับมาถึงบ้าน อาบน้ำเสร็จแล้วนอนเล่นอยู่บนเตียง พลิกตัวพลางคิดถึงคำพูดของลี่อานโก๋
เธอยกมือขึ้นมองดูแขนของตัวเอง ในเส้นเลือดมีเลือดไหลวนอยู่ เธอไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองไม่ปกติตรงไหน
แล้วลี่อานโก๋มาบอกว่าตัวเองเป็นตัวทดลองของN1
ถ้าหากไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ฉินอีหลินคงจะหัวเราะเยาะคำพูดของผู้ชายคนนั้น แต่ตอนนี้จิ่นเซวียนก็ถูกจับไปแล้ว ฉินอีหลินไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ไม่ได้
ประเทศยอมส่งคนอย่างลี่อานโก๋มา คงจะไม่รามือไปง่ายๆ
คิดมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินพลันรู้สึกยุ่งยากอยู่ในใจ เธอไม่ยอมเป็นตัวทดลองให้กับใคร ตอนนี้นอกจากแก๊ง Kที่ต้องการเลือดของเธอ ก็ยังมีประเทศเข้ามาร่วมด้วยอีก
ฉินอีหลินไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพียงแต่ในใจนั้นรู้สึกไม่สงบ เธอพลิกตัว รู้สึกหน่วงอยู่ในใจ
โทรศัพท์พลันดังขึ้นมา ฉินอีหลินหยิบขึ้นมาดูเล็กน้อย เป็นอ้ายหลุนนั่นเอง
หัวใจของฉินอีหลินพลันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง คิดว่าอ้ายหลุนน่าจะกลับถึงอังกฤษแล้ว รีบกดรับสาย ปลายสายอีกฝั่งก็มีเสียงคุ้นเคยของอ้ายหลุนถูกส่งมา “ฉิน คิดถึงผมหรือเปล่า”
ได้ยินดังนั้นแล้ว ฉินอีหลินก็หัวเราะขึ้นมาพลางบอก “พึ่งจะเท่าไหร่เอง ถึงต้องคิดถึง”
แต่อ้ายหลุนไม่เห็นด้วย บอกอย่างเกินจริง “สวรรค์ เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วเถอะ ฉิน ผมมาถึงอังกฤษอย่างปลอดภัยแล้วนะ”
ฉินอีหลินพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง”
“แน่นอน กลับมาถึงอังกฤษรู้สึกดีมาก” น้ำเสียงของอ้ายหลุนดูมีความสุข พูดได้ครึ่งเดียว เขาก็รู้สึกไม่ถูกต้อง จึงรีบเปลี่ยนคำพูด “แต่ว่า ถ้ามีฉินอยู่ก็คงจะดี ที่ที่มีคุณอยู่ ถึงจะดีที่สุด”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คำพูดของอ้ายหลุน ทำให้คนมีความสุขและยังยากที่จะปฏิเสธ
ตอนนี้ใบหน้าของฉินอีหลินเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เงียบต่อคำพูดของอ้ายหลุน
หัวข้อสนทนาของทั้งคู่มาถึงเรื่องชิวหันเยียน ฉินอีหลินเล่าถึงสถานการณ์ให้ฟังคร่าวๆ ส่วนเรื่องการทดลอง N1 เธอเลือกที่จะเงียบ
เธอรบกวนอ้ายหลุนมามากพอแล้ว เธอไม่อยากดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามามากเกินไป
คุยไปเรื่อยๆ ฉินอีหลินจึงนึกถึงเบอร์ที่อานหน้าส่งให้เธอ รีบบอกกับอ้ายหลุน “อ้ายหลุน วันนี้จิ่นเซวียนใช้เบอร์โทรจากอังกฤษมาหาแม่อานหน้า แต่โชคร้าย ไม่ทันได้คุยอะไรมากสายก็ถูกตัดไป ฉันคิดว่าคุณจะช่วยสืบหาทางฝั่งนั้นให้ได้ไหม ดูว่าตำแหน่งของเบอร์โทรอยู่ตรงไหน เราจะได้วางแผนขั้นต่อไป”
เมื่อได้ฟังดังนั้น อ้ายหลุนจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ ถามย้ำ “นี่เรื่องจริงหรอ”
เมื่อได้รับคำยืนยันจากฉินอีหลิน น้ำเสียงของอ้ายหลุนก็ดังขึ้น รีบบอกรับรอง “ฉิน คุณวางใจ คุณส่งเบอร์โทรมาให้ผม ผมจะไปสืบดูตอนนี้ ผมบอกแล้วว่ากลับมาจะต้องมีประโยชน์”