ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 174

ตอนที่ 174

บทที่ 174 ไม่มีใครสามารถมาทำร้ายเธอ

ในห้องลับไม่ได้แขวนนาฬิกาไว้ ฉินอีหลินก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว และไม่มีวันไหนเลยที่จะทนทุกข์ทรมาน ถอนหายใจออกมา เธอกอดหลงจิ่นเซวียนและตบไปที่หลังของเธอเบาๆ

ฉินอีหลินไม่กล้าที่จะวางมือ ได้เพียงแต่เอาลูกวางลงไปอย่างค่อยๆ หลงจิ่นเซวียนก็ร้องออกมา

แต่เธอเหนื่อยจริงๆแล้ว ตกกลางดึก ฉินอีหลินก็พิงกับกำแพงหลับใหลลง

ตอนที่เธอกำลังหลับอยู่ ในห้องก็มีแสงสว่างขึ้นมา มีคนหนึ่งผลักเข้ามา แต่ในภาพนี้ ในห้องก็เต็มไปด้วยความมืดมิดอีกครั้ง อาการนอนไม่หลับของฉินอีหลินเริ่มขึ้นมา โดยเฉพาะตอนนี้ยังคงอยู่ในแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตราย แม้แต่เสียงเล็กน้อยก็สามารถปลุกเธอให้ตื่นได้

แต่เมื่อตอนที่เธอมองคนที่เดินเข้ามา ฉินอีหลินก็เบิกตากว้างขึ้น สีหน้าดูตกใจเป็นอย่างมากไม่สามารถที่จะปิดบังการกระทำนี้ได้

เป็นเขาได้ยังไงกัน

“ลี่โม่อวี่ ทำไมนายถึงโดนจับมาเหมือนกัน”

ฉินอีหลินไม่กล้าที่จะพูดเสียงดัง ได้แต่พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเบาๆ ถามอย่างไม่น่าเชื่อออกไป

ลี่โม่อวี่กลับไม่มีท่าทีที่ตกใจอะไรแบบนั้นออกไป เขากระทั่งหลังจากที่เห็นฉินอีหลินและหลงจิ่นเซวียนกลับหัวเราะออกมา แต่การหัวเราะนั้นมันทำให้ฉินอีหลินโกรธขึ้นมา ถ้าเกิดไม่ใช่ว่ากลัวว่าจะไปรบกวนการหลับของลูก เธอไม่คิดจะทำแบบนี้กับเขาหรอก

รอจนประตูปิด ลี่โม่อวี่ถึงเดินเข้าไปหาฉินอีหลินที่ด้านหน้าย่างเบาๆ เขาก้มหัวลงไปมองผู้หญิงที่หน้าตาซีดเซียว ใจของเขาก็แอบเจ็บปวดไม่น้อย

ผู้หญิงที่เขาคิดถึง ในตอนนี้มองเขาเขม่นกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป แบบนี้ทำให้ใจของเขาชื่นบานไปไม่น้อย

ยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน ลี่โม่อวี่ยื่นมือไปจับใบหน้าที่ซูบผอมของฉินอีหลิน และพูดว่า “ผมไม่ได้กลัวอะไร ถึงมาให้คุณอยู่เป็นเพื่อน อย่างไรล่ะ ไม่ให้หรอ แต่ว่าดึกแล้ว”

หลังจากที่ฉินอีหลินได้ยินดังนั้น หน้าก็แดงขึ้น

ไม่ว่าเธอจะเข้มแข็งขนาดไหน ฉินอีหลินก็ยังคงเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่หวังแขนที่แข็งแรงของผู้ชายที่สามารถช่วยเป็นเสาค้ำยันป้องกันอันตรายให้กับเธอมากที่สุด

ถ้าเกิดสามารถที่จะพึ่งพิงและน่าเชื่อถือแล้ว ใครจะไปโง่ที่จะรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียวกันล่ะ

“ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ อย่าร้องเลย อีหลิน ผมอยู่ที่นี่นะ ไม่มีใครทำร้ายคุณได้”ลี่โม่อวี่ได้ยินเสียงของฉินอีหลินหายใจอย่างถี่อย่างชัดเจน อีกทั้งสัมผัสของมือ ในใจพูดไม่ออกว่ามันเป็นความรู้สึกอะไร นี่เป็นคนรักของเขา แต่เขาไม่มีทางที่จะทำให้เธอไม่ได้รับการโดนทำร้าย ความทรมานอะไรเลย และก่อนเรื่องนี้ คนที่ทำร้ายเธอมากที่สุดก็คือตัวเอง

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ลี่โม่อวี่เม้มปากแน่น แต่เขาไม่สามารถที่จะพูดอะไรเยอะกว่านี้ไปอีก หนทางข้างหน้ายังอีกยาว เขาสามารถใช้ชีวิตที่เหลือเป็นประกัน ฉินอีหลินเป็นคนรักเพียงคนเดียวของเขา และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาจะปกป้องเธออย่างสุดกำลัง

“เธอก็ผอมแล้ว หายไปสองรอบ”

ลี่โม่อวี่ค่อยๆลดสายตาลง ก็เห็นเด็กที่อยู่ในอ้อมอกของฉินอีหลิน หลงจิ่นเซวียนก็ยังคงขมวดคิ้วไม่สบายใจ ในเวลาเดียวกันมือเล็กๆก็กำเสื้อของฉินอีหลินแน่น ท่าทางที่ดูมีอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกความไม่ปลอดภัยนั้นมันยิ่งทำให้ลี่โม่อวี่เจ็บปวดใจมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่เด็กคนนี้เกิดมา เขาก็ไม่ได้รับผิดชอบในความเป็นพ่อเลย มาวันนี้เด็กคนนี้อยู่ในสังคมที่ยากลำบากแบบนี้อีก เขาก็ยังคงไม่มีวิธีที่จะปกป้องได้รอบด้าน แบบนี้มันทำให้ลี่โม่อวี่ยิ่งยากลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม

อยู่ๆลี่โม่อวี่ก็นึกถึงลี่อานโก๋ขึ้นมา ตอนแรกเขาตัดสินใจที่จะละทิ้งเขา แต่เขาลี่โม่อวี่ไม่มีทางที่จะทิ้งลูกของตัวเอง

คิดถึงตรงนี้ ลี่โม่อวี่ราวกับรับประกันและยื่นมือไปจับที่ไหล่ของฉินอีหลิน ในขณะเดียวกันก็ไปพูดข้างหูของเธอว่า “อีหลิน เชื่อผมนะ ผมไม่มีทางที่จะทำให้พวกคุณเป็นอะไรไป”

ถ้าเกิดพวกเขาอยากที่จะทำร้ายคุณ งั้นต้องข้ามศพผมไปก่อน!

“ฉันเชื่อคุณค่ะ”

ฉินอีหลินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างขึ้น และก็เอาหัวไปอิงที่ลี่โม่อวี่ หลงจิ่นเซวียนที่อยู่ในอ้อมกอดก็เหมือนรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของพวกเขา ก็ร้องออกมา

“ชู่ เบาๆหน่อย”

ฉินอีหลินเห็นว่าหลงจิ่นเซวียนมีท่าทีตกใจ เธอเลยรีบบอกกับลี่โม่อวี่ว่าอย่าขยับ หลงจิ่นเซวียนไม่ได้นอนดีๆมาหลายวันแล้ว เธอไม่อยากให้ลูกของเธอต้องตื่นขึ้นมาทรมาน

“อ่า”

ลี่โม่อวี่เห็นว่าลูกจะตื่นขึ้นมา บวกกับเหมือนตกใจ ก็นั่งอยู่ข้างๆของฉินอีหลินอย่างเบาๆ รอจนกว่าหลงจิ่นเซวียนหลับปุ๋ยไป

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน แม้แต่ฉินอีหลินเองก็หลับไป ในที่สุดลี่โม่อวี่ก็จับฉินอีหลินไว้ ให้เธอนอนอิงกับไหล่ของตัวเอง

“เธออยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”

ฉินอีหลินได้ยินเสียงของลี่โม่อวี่ ก็ลืมตาขึ้นมา แต่ก็ยังคงอิงไหล่ของลี่โม่อวี่อยู่นิ่งๆ เธอก็พูดออกไปอย่างนุ่มนวลว่า

“ไม่ได้มีอะไรมากมายนะ แถมคนพวกนี้ยังนับว่าเกรงใจ ไม่ได้ลำบากอะไร”

ลี่โม่อวี่ได้ยินแบบนั้นก็สบายใจ และก็จูบไปที่บนศีรษะของฉินอีหลินเบาๆ และพูดต่อว่า “งั้นมีคนมาติดต่ออะไรไหม”

ฉินอีหลินคิดถึงแก้วที่มีส่วนผสมของกาแฟและชา “ที่รสชาติไม่อร่อยเอาซะเลย” ฝืนหัวเราะและส่ายหัว เธอเสียใจมากจริงๆ ในตอนนั้นเพราะว่ามองหลงจิ่นเซวียนอย่างยินดี และไม่ได้มองดูผู้ชายที่สวมเสื้อคลุมยาวคนนั้น แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเสียใจ และบอกกับลี่โม่อวี่อย่างละเอียดว่า “ฉันทำหายไปแล้ว”

ตอนที่ทั้งสองคนคุยกัน ลานบ้านของตระกูลลี่ก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดหย่อน

นับได้ว่าตอนที่ลี่โม่อวี่จากไปก็ผ่านไปนานแล้ว แต่อารมณ์ของลี่อานโก๋ยังคงไม่สงบลงแม้แต่น้อย

“อย่างรีบร้อนใจไปเลย เขาก็แค่แสดงนิสัยไม่ดีออกมาเท่านั้น ผ่านสักสองวันก็คิดได้แล้วล่ะ เดี๋ยวก็กลับมาเอง ตอนนี้คุณจะโกรธจะได้อะไร”

หยางผิงได้ยินดังนั้น ก็ไม่หยุดร้องไห้ฟูมฟาย ไม่มีแม่คนไหนที่จะรับได้ว่าลูกตัวเองทำเป็นไม่รู้จักตัวเองแบบนี้

ลี่จิ่งเห็นว่าหยางผิงเจ็บปวดหัวใจพูดไม่ออกว่ามีอารมณ์แบบไหน

อีกด้านหนึ่ง เขากังวลใจแทนแม่ของตัวเองจริงๆ ร่างกายของเธอไม่ได้แข็งแรงเต็มร้อย ถ้าเกิดเสียใจแบบนี้ต่อไป เขากลัวว่าร่างกายของเธอจะรับไม่ไหว

ในอีกด้านหนึ่ง เขาก็ทุกข์ใจแทนตัวเอง ทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว ไม่มีใครคนไหนตอนที่พบว่าฐานะของตัวเองมันไม่ปลอดภัย แล้วจะทำตัวเหมือนไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น

โดยเฉพาะตระกูลลี่ที่ไม่ได้เป็นครอบครัวที่ธรรมดา ถ้าเกิดว่าเขาสูญเสียอำนาจ ความสูญเสียนั้นมันไม่ใช่น้อยๆเลย

“แม่ อย่าเสียใจมากไปเลยครับ เดี๋ยวร่างกายจะรับไม่ได้”

ลี่อานโก๋โมโหเดินไปเดินมาในห้องรับแขก ยังดีที่เถ้าแก่ไม่ได้ผสมโรงไปด้วย ไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงจะยุ่งยากมากกว่านี้

ตอนที่ห้องรกอย่างกับโจ๊ก อยู่ๆลี่อานโก๋ก็รับโทรศัพท์หนึ่งขึ้นมา นั่นเป็นเบอร์ลับที่สุดของเขา เขาขมวดคิ้ว เขาก็รีบกดแป้นพิมพ์รับสาย

“ฮัลโหล”

“หัวหน้า เมื่อกี้พวกเราเพิ่งได้ข้อความมาครับ ลี่โม่อวี่ถูกแก๊งค์Kจับตัวไป!”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท