บทที่ 175 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ลี่โม่อวี่ฟังออกถึงเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าของฉินอีหลิน เห็นใบหน้าซีดผอมของเธอ ก็มีความรู้สึกสงสาร
เขามองไปนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของฉินอีหลิน ต่างก็โทษเขาว่าเขาอยู่ข้างเธอไหม ถึงทำให้เธอเจ็บปวดขนาดนั้น อกสั่นขวัญหายไปทุกวันฉินอีหลินมองเขาด้วยสายตาอย่างอบอุ่น ในใจก็รู้สึกอบอุ่น ห้าปีแล้ว เดิมเธอคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งถึงขนาดที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดได้ แต่ตอนนี้เพิ่งจะพบว่าการที่มีเขาอยู่เธอถึงจะมีจิตใจที่สงบมั่นคงลงได้
เธอและจิ่นเซวียนต่างก็ต้องการที่พักพิง
ในสายตาของเธอนั้น เธอคิดว่าเธอทั้งสองคนจะสามารถได้ยินมอบหมายเรื่องทั้งหมดเสร็จ
ลี่โม่อวี่จับที่ใบหน้าของฉินอีหลินอย่างอบอุ่น หน้าของเธอก็แดงขึ้น ใบหน้าที่ฉีกยิ้มของลี่โม่อวี่กว้างขึ้น
เธอไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน หลังจากนั้นก็เหมือนกับอยู่ๆคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา สายตาจ้องมองไปที่เขาตลอด “แต่นายมาที่นี่ยังไงล่ะ ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม”
ลี่โม่อวี่สีหน้าที่เคร่งเครียดของเธอ ก็ยิ้มออกมา “ใช่ เกิดเรื่องใหญ่แล้วล่ะ”ฉินอีหลินอึ้งไปชั่วขณะ และใจก็เต้นขึ้น
เขารักใบหน้าของเธอที่ดูจริงจังเมื่อตะกี้นี้จะตายแล้ว เลยหัวเราะออกมา
อีหลินรู้ตัวว่าถูกหลอก ก็เริ่มโมโหขึ้น เลยหันหน้าไป และก็เหอะออกมา ลี่โม่อวี่ประจบเข้าไป ดมกลิ่นหอมจากผมของเธอ “นี่ไม่ใช่กำลังมองดูเธอกำลังหงุดหงิดอยู่หรอ”
ฉินอีหลินยังคงไม่สนใจเขา ลี่โม่อวี่เลิกคิ้ว และเป่าลมอุ่นๆไปในหูของเธอ
“นายทำอะไร ลูกกำลังหลับอยู่นะ” ฉินอีหลินตกใจ และรีบก้มลงไปมองดูจิ่นเซวียนที่นอนหลับอยู่ในอ้อมอก ยังดีที่เด็กไม่ได้ถูกทำให้ตกใจตื่น เธอลุกขึ้นและก็อุ้มลูกไปที่เตียงอย่างระมัดระวัง
“หลังจากนั้นล่ะ” เห็นเธอวางจิ่นเซวียนลงเสร็จ ลี่โม่อวี่ก็กระพริบตา
ใจของเธอแอบถอนหายใจ ตัวเองไม่ได้เป็นศัตรูของตัวเอง
เห็นผู้หญิงตัวเองกำลังยิ้มอยู่ ใจของเขาก็สบายใจขึ้นไปน้อย
ลี่โม่อวี่ก็ไม่เสียเวลาอะไรต่อไป ได้มอบหมายงานให้กับฉินอีหลินทุกเรื่อง ตั้งแต่ร่วมมือกับอ้ายหลุนจนไปถึงเจอกับหลงเซี่ยวเทียน เพียงแค่คิดว่าเอาเรื่องของเขาเองปิดบังไว้
ฉินอีหลินกลับได้กลิ่นแปลกๆ “ไม่มีเรื่องอื่นอีกแล้วใช่ไหม”
“ไม่มีแล้วนะ” สีหน้าท่าทางของลี่โม่อวี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
ใจของฉินอีหลินรู้ว่าลี่โม่อวี่ถ้าเกิดไม่พูดออกมาก็คิดว่าตัวเองก็สามารถแก้ไขมันเองได้ ไม่อยากให้เธอจะต้องมาแบกรับอะไรไว้ ดังนั้นเธอเลยไม่ถามอะไรต่อ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินอีหลินมองสีหน้าของลี่โม่อวี่ดีๆ ดังนั้นเลยพูดออกไปอย่างระมัดระวังว่า “คุณกับพ่อของฉัน……” เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอรู้ว่าเขาเข้าใจ
เมื่อกี้ตอนที่เขาพูดถึงหลงเซี่ยวเทียนก็มีท่าทีเหมือนกัดฟันพูด เธอคิดออกไม่ยากเลยว่าพ่อของเธอจะต้องเตือนอะไรเขาสักอย่าง เพียงแต่เธอสงสัยเป็นอย่างมาก ลี่โม่อวี่อย่างไรถึงยอมให้พ่อโยนเรื่องก่อนหน้านี้ทั้งหมดร่วมมือกับเขา
ลี่โม่อวี่เงียบอยู่นาน เป็นฉินอีหลินคิดว่าเขาจะไม่ตอบตัวเอง เขากลับพูดออกมา เพียงแต่พูดอีกเรื่องหนึ่ง “ที่จริงแล้วพ่อของเธอเป็นหุ้นร่วมกับแก๊งค์K”
สีหน้าของฉินอีหลินเปลี่ยนไป ถ้างั้นสิ่งที่เขาทำทั้งหมดนั้นไม่ได้เหมือนกับว่าพ่อเขากำลังทำร้ายตัวเองอยู่หรอ”
“นายพูดว่าอะไรนะ” เธอมองลี่โม่อวี่ด้วยสายตาโกรธ จะพูดยังไงนั่นก็เป็นพ่อของเขา มีสายเลือดเดียวกับเธอ หลงเซี่ยวเทียนไม่มีทางที่จะทำร้ายตัวเองแน่
ลี่โม่อวี่ฟังออกถึงน้ำเสียงของเธอ เห็นสีหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ รู้แล้วว่าเป็นความเข้าใจผิดของเธอ และก็แก้ตัวแทนหลงเซี่ยวเทียน “หุ้นของพ่อเธอที่จริงแล้วไม่ใช่หุ้นของแก๊งค์K เป็นแก๊งค์Kทำกับบริษัทยาเท่านั้นเอง”
ฉินอีหลินสงบจิตสงบใจลง และมองไปที่ลี่โม่อวี่อย่างโมโหแล้วพูด “จะพูดจาอะไรหยุดไปเรื่อยให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้หรอ”
ลี่โม่อวี่หัวเราะ “ใครบอกให้คุณไม่ให้ผมพูดให้จบก่อนล่ะ ตัวเองนั่นแหละที่เดาเอาเองไปเรื่อย”
ฉินอีหลินหน้าเจื่อนๆ เหมือนกับตัวเองไม่เคยใจเย็นต่อหน้าเขามาก่อน
บรรยากาศกลับเงียบลง
ฉินอีหลินช่างน่าดึงดูดใจสำหรับลี่โม่อวี่ อยู่ๆใจก็รู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจ เหมือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ลี่โม่อวี่จับไว้แน่นจนเธออยากที่จะหลบสายตา น้ำเสียงประทับใจ “คิดถึงผมไหม”
เขายังคงค้างพ่นลมหายใจอันอบอุ่นอย่างเบาๆข้างหูเธอ ทำให้เธอทนแทบไม่ได้
เขากลับบิดหน้าเธอหันมา “ไม่คิดถึงผมจริงๆหรอ”
“รู้แล้วตั้งใจจะถามอีก” ฉินอีหลินกัดฟัน ผู้ชายคนนี้นี่อายบ้างไม่ได้หรือไง
“โอเค ดูเหมือนว่าจะไม่คิดถึงผมสักนิดเดียว” ผู้ชายถอนหายใจเหมือนไม่ได้รับความยุติธรรม ยังจะให้ผมเสียแรงทนทุกข์ทรมานถึงจะมาอยู่ที่นี่กับคุณได้”
ฉินอีหลินไม่สนใจเขา เธอรู้ว่าเขาขอเพียงแค่ใจอ่อน ผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้หนึ่งจะเอาสองอยู่ดี นี่เป็นประสบการณ์ของเธอที่เจอมา ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือใจเเข็งนิ่งๆไว้
เดิมเธอคิดว่าไม่ใช้การคัดค้านกลยุทธ์ของ เขาก็คงจะไม่ก่อกวนวุ่นวายอีก ใครจะไปรู้ เธอกำลังจะไป ปากเย็นๆของลี่โม่อวี่ก็งับเข้ามา
จู่โจม กลับทำให้ฉินอีหลินไม่มีแรงต่อสู้ ได้กลิ่นเฉพาะที่มาจากตัวเขา เขาหลับตาลงอย่างสบายใจ เธอคิดถึงเขาจริงๆ
อีกด้านหนึ่ง ใจร้อนอย่างลี่จิ่งก็โทรไปหาดู้เทา ดู้เทาก็เป็นบ้านที่เป็นครอบครัวทหารเหมือนกัน เขาเป็นพรรคพวกสนิทคนหนึ่ง
รับสายของลี่จิ่ง ดู้เทารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่ได้รับสายแล้วได้ยินน้ำเสียงของลี่จิ่งหงอยเหงาเศร้าซึมแบบนี้
พวกเขาทั้งสองนัดกันที่ผับ
ดู้เทาเบิกตากว้างมองเพื่อนสนิทตัวเองกินเหล้าย้อมใจอยู่ที่นั่น มือก็เทเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“อย่าดื่มได้แล้ว!”
ลี่จิ่งลืมตาด้วยสายตามึนเมา “ยืนอยู่ทำไม มาดื่มด้วยกันสิ”
ดู้เทาโมโหมาก “แม่แกมีเรื่องอะไรทุกข์ใจไหนพูดออกมาสิ อย่าปิดบังอะไรไว้ในใจเหมือนกับพวกผู้หญิงเลย”
ลี่จิ่งหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่าเมาเล็กน้อย “นายนั่นแหละที่เป็นพวกผู้หญิง!ฉันมาอยู่ที่นี่เพื่อคิดอะไรบางอย่างก่อน นายดูนี่สิ นี่เหล้าดีนะ ทำมึนเลย”
“หยุดพล่าม!อย่ามาแสดงน่าสงสารให้ผมดูอะไรที่นี่เลย ให้ใครดูล่ะ กลับไปบ้านให้พ่อแม่สงสารสะไป!”ดู้เทาเห็นเขาทำบ้าๆแบบนี้ ความอดทนของเขาถูกเขาทำลายมันหมดลงแล้ว
ไกลออกไปให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเขาดื่มที่นี่ ผลสุดท้ายเขากลับดื่มอย่างมีความสุข เอาตัวเองผึ่งไว้อีกด้าน
ในที่สุดลี่จิ่งก็หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ครอบครัว คงจะเหมือนกับไม่ใช่ครอบครัวของผมอีกต่อไปแล้วล่ะสิ”
ดู้เทาขมวดคิ้ว เขารู้นิสัยของเพื่อนคนนี้ ไม่มีทางที่จะไม่ใช่อะไรเพื่อ “พูดบ้าอะไร!”
ในที่สุดลี่จิ่งก็วางแก้วเหล้าในมือลง แล้วก็คิดถึงลี่โม่อวี่ที่เข้ามาทำให้ตระกูลลี่วุ่นวายไปทั้งวัน สายตาของเขาแข็งกร้าวขึ้น “เขากลับมาแล้ว”