บทที่ 182 ทำการทดลองบนร่างเธอ
Abnerวางรายงานในมือลง มุมปากยกยิ้มหยัน “ผมคล้ายจะจำได้ว่าเมื่อวานคุณฉินบอกว่า ไม่รู้จักคนไร้หนังคนนั้น ทำไมวันนี้ถึงได้สนใจเขาแล้วล่ะ”
เห็นสายตาสงสัยและจับสังเกตของAbner ฉินอีหลินหวาดกลัวเล็กน้อย เธอพึ่งรู้สึกว่าคำพูดของเธอเมื่อสักครู่ก็ไม่ได้ดูฉลาดเลยสักนิด บางทีอาจทำให้อีกฝ่ายสงสัย
ตั้งใจยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ เมื่อมองเห็นความสงสัยในสายตาของอีกฝ่ายที่เพิ่มขึ้น ฉินอีหลินจึงไม่ปกปิดซะเลย เธอสงสัยจริงๆ อีกทั้งในตอนที่จริงครึ่งไม่จริงครึ่งนี้แหละถึงจะไม่ถูกจับได้ “โบราณกล่าวไว้ว่า คนเอาหน้า ต้นไม้เอาเปลือก คนนั้นถูกถลกหนังยังจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหรอ อีกอย่างนี่ใครเป็นคนคิดการลงโทษนี้ แทนที่จะถลกหนังยื่นมีดให้ไปแทนไม่ดีกว่าหรอ”
Abnerยิ้มแปลกประหลาดส่งให้ฉินอีหลิน “วิธีการลงโทษนี้เป็นวิธีของคนในแก๊งเราคนหนึ่งที่ชอบใช้ร่างกายคนสร้างผลงานศิลปะคิดขึ้นมา”
แววตาของฉินอีหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย แววตาฉงนค่อยๆเปลี่ยนเป็นชัดแจ้ง “ศิลปะบนเรือนร่างหรอ นั่นไม่ใช่การวาดภาพระบายสีลงบนร่างกายหรอ อ่า ที่แท้….” ฉินอีหลินพูดไปเรื่อย นึกถึงความโหดร้ายอย่างหนึ่ง มองAbnerพร้อมเปล่งเสียงออกมาราวกับหวาดกลัวอย่างห้ามไม่ได้
“ดูเหมือนว่าคุณจะเดาออกแล้ว ศิลปะบนเรือนร่างของเขาไม่ใช่เรือนร่างทั่วไป เขาชื่นชอบการค้นพบความสวยงามจากส่วนโครงสร้างต่างๆของร่างกาย เหมือนคนไร้หนังเมื่อวานก็ต้องเข้าใจการกระจายของกล้ามเนื้อบนร่างกายของคน การกระจายของไขมัน หลังจากลงมีดแล้วค่อยรู้ว่าต้องลงมือตรงไหน ตรงไหนต้องเบาตรงไหนต้องหนัก ด้านในมีอะไรให้เรียนรู้มากมาย ดังนั้นที่เมื่อวานผมบอกคุณว่าเป็นงานศิลปะน่ะ ผมไม่ได้พูดเล่นหรอกนะ”
Abnerพูดอย่างจริงจัง สีหน้าของฉินอีหลินเปลี่ยนเล็กน้อย เธอต้องใจแสดงความรู้สึกหวาดกลัวออกมา “การลงโทษน่ากลัวแบบนี้ เกรงว่าแค่ลงมีดครั้งแรกคนก็คงตายไปแล้ว”
Abnerพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ เพียงแต่สายตาแสดงความชื่นชอบออกมาเข้มยิ่งขึ้น เขามองฉินอีหลินด้วยสายตาเยาะเย้ย “ความจริง หลายคนต้องตายเพราะบทลงโทษนี้ เพราะบทลงโทษนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบนั้นลงมือเพียงครั้งเดียว ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงทนไม่ไหว มีทั้งตกใจตายเอง มีทั้งเจ็บปวดจนตาย พวกนี้เป็นพวกขึ้นแพ้”
คิ้วสวยของฉินอีหลินขมวดเข้าเล็กน้อย “วิธีการเหี้ยมโหดแบบนี้ ก็ต้องเป็นพวกขี้แพ้หมดสิ”
“เมื่อวานคุณก็มองเห็นผลงานที่สำเร็จเพียงหนึ่งเดียวแล้วไม่ใช่หรอ”
Abnerพูดจบก็หยิบรายงานผลตรวจร่างกายของฉินอีหลินเดินออกจากห้องทำงานไป
ฉินอีหลินนั่งลงบนเก้าอี้ ผลงานที่สำเร็จเพียงหนึ่งเดียว…..
นั่นแสดงว่าคนไร้หนังคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ฉินอีหลินจึงผ่อนลมหายใจลง มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว เพียงแค่มีชีวิตก็ยังมีความหวังอยู่
หลังจากAbnerออกไปได้ไม่นาน คนสวมชุดคลุมสีขาวก็ผลักประตูเข้ามา ให้ฉินอีหลินเดินตามเขาออกไป
ไม่รู้ทำไม เมื่อฉินอีหลินมองเห็นคนสวมชุดคลุมสีขาวคนนี้เธอก็มีความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นพิเศษ เป็นความรู้สึกถึงความอันตรายที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา ฉินอีหลินชี้ขาดว่า คนสวมชุดคลุมสีขาวคนนี้แตกต่างกับคนสวมชุดคลุมสีขาวก่อนหน้า
หลังจากออกจากประตู ฉินอีหลินเห็นว่าหน้าประตูยังมีคนสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่อีกสองคน ความรู้สึกที่พวกเขามีให้กับฉินอีหลินเหมือนกับชายสวมชุดคลุมสีขาวซึ่งเดินนำหน้า
เมื่อมีความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนี้ ฉินอีหลินจึงหวาดระแวงไปตลอดทาง ระวังรอบข้างอยู่เสมอ เธอมองเห็นคนเหล่านี้สวมชุดคลุมสีขาวและสวมหน้ากากอยู่ตลอดทั้งวัน พลันรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่ในห้องดับจิต
สุดท้ายฉินอีหลินตามพวกเขามาถึงห้องทดลองห้องหนึ่ง เพียงก้าวเข้าไปฉินอีหลินก็ได้กลิ่นยาเข้มข้นจนแสบจมูก
เธอมองเห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยชั้นวาง และชั้นวางเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยหลอดทดลองหลากหลายสี ความไม่สงบในใจของฉินอีหลินยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ดวงตาสอดส่อง เห็นคนสวมชุดคลุมสีขาวพุ่งเข้ามาหาเธอ
ฉินอีหลินตอบสนองรวดเร็วรีบเบี่ยงตัวหลบ หลบหลีกการจู่โจมของชุดคลุมสีขาวทั้งสองคน ขณะที่เบี่ยงตัวหลบ เธอย่อตัวลง ยื่นขาซ้ายออกไปตวัดจนทั้งสองคนนั้นล้ม
แล้วคนสวมชุดคลุมสีขาวที่เดินนำอยู่ด้านหน้า ไม่รู้หาเชือกเส้นหนามาจากไหน เดินมุ่งเข้ามาจะมัดเธอเอาไว้ ฉินอีหลินมองท่าทีของคนตรงหน้า ไม่คิดจะหนี เธอแค่มองสภาพการณ์ตรงหน้า ขนาดมีสองสามคนยังทำอะไรเธอไม่ได้
ไม่รอให้คนพวกนั้นได้ลงมือก่อน ฉินอีหลินก็ชิงเริ่มทันที
เธอพุ่งถีบเข้าไปที่จุดสำคัญ คนสวมชุดคลุมสีขาวคนนั้นไม่ทันได้ป้องกัน บวกกับฉินอีหลินที่ออกแรงเต็มที่ แค่ครั้งเดียวก็ทำให้ชายคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น กุมเป้าตัวเองเอาไว้ร้องโหยหวน
ในตอนนั้นเอง สองคนก่อนหน้านี้ที่โดนเธอขัดขาสะดุดล้มลงไปตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาอีกครั้ง เดินเข้ามาซ้ายขวาประกบฉินอีหลิน
ฉินอีหลินต้องเรียกสติกลับมาเพื่อรับมือกับทั้งคู่ เห็นสองคนนั้นพุ่งเข้ามา ฉินอีหลินย่อตัวลงม้วนตัวไปข้างหน้า กลิ้งผ่านสองคนไป แย่งเชือกจากมือของชายที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้กลับมา
สองคนนั้นเห็นฉินอีหลินหลีกไปได้ก็หันกลับมาแล้วพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง ฉินอีหลินม้วนตัวคล่องแคล่วว่องไวเหยียบลงไปอีกฝั่งของม้านั่ง
ขณะเดียวกันอาศัยจังหวะที่ม้านั่งกระดกขึ้นมา มือวางบนไหล่ของหนึ่งในชายชุดคลุมสีขาว เท้าถีบเข้าไปยังด้านหน้าของชายอีกคน ทำให้เขาถอยออกไปสองสามก้าว พลิกฝ่ามือไปด้านหน้าและคลายออก ในขณะที่ล้มลงฉินอีหลินก็ใช้การเคลื่อนไหวที่ได้ผลที่สุด เท้ากระทืบลงไปยังระหว่างขาของชายที่ถูกเธอจับไหล่เอาไว้เมื่อสักครู่
ได้ยินเพียงเสียงโหยหวนขึ้นมาอีกครั้ง ชายคนที่สองไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้ง ล้มลงไปทับชายชุดคลุมสีขาวที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ ฉินอีหลินหรี่ตาอันตรายลงแคบ ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียว
ชายชุดคลุมสีขาวที่ถูกเธอถีบเข้าไปที่กลางเป้านั้นตอนนี้กำลังจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างโกรธแค้น ทว่าฉินอีหลินกลับไม่มีความเกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย ยังคงเป็นฝ่ายรุกอยู่ เธอพุ่งตัวเข้าไป แต่ไม่คาดว่าชายคนนี้จะมีพื้นฐานการต่อสู้มากกว่าสองคนก่อนหน้า เมื่อคว้ามือซ้ายของเขาเอาไว้ เขากลับพลิกมือกลับมายึดแขนของเธอเอาไว้แน่น
ฉินอีหลินดิ้นไม่หลุด เธอยิ้มเย็นถีบเข้าไปที่ข้อพับของชายชุดคลุมสีขาว ชายคนนั้นล้มลงไปโดยไม่ตั้งใจ ฉินอีหลินคล้ายกับเตรียมตัวเอาไว้แล้ว ในขณะที่คนคนนั้นล้มลงไปเธอจึงม้วนตัวออกไป ไม่ได้รับบาดเจ็บ
หยิบเชือกด้านหนึ่งขึ้นมา ฉินอีหลินอาศัยจังหวะที่ชายทั้งสามยังไม่ลุกขึ้นมา จึงมัดพวกเขารวมเข้าด้วยกัน
เมื่อเธอจัดการเสร็จแล้ว แต่ละคนมีเข็มฉีดยาอยู่ในมือ เดินออกมาจากมุมประตู มองเห็นชายเหล่านั้นที่ล้มลงไปบนพื้น จึงขมวดคิ้วด่าเสียงดัง “shit,The three of you even can’t catch a woman!(แม่ง พวกแกตั้งสามคนจัดการผู้หญิงแค่คนเดียวก็ไม่ได้)”
ภาษาอังกฤษของฉินอีหลินก็ไม่ได้แย่ แน่นอนว่าต้องรู้ว่าพวกเขาพูดว่ายังไง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นยิ้มเย็นมองชายไม่กี่คนที่กำลังระเบิดอารมณ์อยู่ตรงนั้น
ต่อมาเธอสังเกตเห็นว่ามือของชายคนนั้นมีเข็มฉีดยาอยู่ นี่คิดจะฉีดยาอะไรเข้าไปในร่างกายของเธอหรอ
ฉินอีหลินหรี่ตาอันตรายลงแคบ ดวงตาปิดความโกรธที่มีเอาไว้ไม่มิด เธอตอบรับAbnerเอาไว้แล้วว่าจะให้ความร่วมมือ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่าจะมาทำการทดลองในร่างกายของเธอได้