ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 194

ตอนที่ 194

บทที่ 194 ตัวเลือกของเธอ

“พวกเราอยู่ด้านในนี้เองครับ…ใช่ครับ คือว่า…ครับ ตกลงครับ…ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรออยู่ที่นี่ละกันครับ” ลี่โม่อวี่วางสายไป ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนไปให้หู่โถวจากนั้นก็ยื่นมือไปลูบเส้นผมสีดำ ที่พันไปมาของฉินอีหลิน

“พวกเราจะรอพ่อของคุณกันอยู่ตรงนี้นะครับ อีกเดี๋ยวพวกเราจะได้ไปพร้อมๆ กัน”

“คุณตา!” หลังจากที่หลงจิ่นเซวียนเห็นคนแปลกหน้า เธอก็เอาแต่มุดหัวอยู่ที่คอของแม่ตลอด แต่พอได้ยินลี่โม่อวี่พูดถึงหลงเซี่ยวเทียนขึ้น เขาเธอเงยหน้าขึ้นมาตะโกนใส่ฉินอีหลินด้วยความดีใจ

“ใช่แล้วล่ะจ้ะ อีกเดี๋ยวคุณตาก็มาแล้วนะ ดีใจไหมจ้ะ?” ฉินอีหลินอดขำลูกของเธอไม่ได้ที่ทำท่าทางแบบนั้น เธอจึงยื่นมือไปลูบที่ใบหน้าของเด็กน้อยเบาๆ ก่อนจะยิ้มแป้นพูดขึ้น

“ดีใจสิคะ” หลงจิ่นเซวียนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มแทบจะกว้างถึงใบหู พลางอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า ในใจของเธอนั้นดีใจแค่ไหน

ลี่โม่อวี่ที่ยืนมองดูภาพที่ดูอบอุ่นแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาเช่นกัน

ขณะที่ทุกคนกำลังรอหลงเซี่ยวเทียน ประกอบด้วยภารกิจของลี่อานโก๋ด้วยนั้น หลงเซี่ยวเทียนที่กำลังนำคนของกลุ่มมังกร เดินผ่านเขตปลอดภัยของกลุ่มทหารรับจ้างพิเศษนั้น ก็เกิดการสู้รบขึ้นอย่างกะทันหัน!

อาโน่เหมือนจะแทบไม่ได้เอาคนที่ชื่อว่าโพจูนนั้นไว้ในสายตาเลย มือขวาของเขาถือมีดสั้นที่ส่องเป็นประกาย มือซ้ายของเขาที่ห้อยต่องแต่งอยู่ข้างกายของเขา ก็สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา

แต่โพจูนกลับหรี่ตามองกลุ่มคนที่ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะรีบหันกลับมามองคนมีด ที่ส่องประกายความเยือกเย็นออกมา

หรืออย่างที่เรียกกันว่า ‘ยิ่งใกล้มากแค่ไหน ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น’

ในเมื่อชายคนนั้นกล้าที่จะเอามีดมาเป็นอาวุธ แสดงว่าต้องไม่มีพละกำลังพอแน่นอน พลันโพจูนก็กำปืนในมือของเขาแน่น ราวกับว่ากำลังลังเลอยู่ว่าจะยิงดีหรือไม่

“ฉินอีหลินอยู่ด้านในหรือเปล่า?” หลงเซี่ยวเทียนมองเห็นคนที่ทำหน้าสงสัยอยู่นั้น เขาก็ไม่อยากที่จะโจมตีอะไรออกไป อีกทั้งคนของกลุ่มมังกรทุกคนต่างก็เป็นคนที่เขาเลี้ยงดูปูเสื่อมาอย่างดี หากใครสักคนบาดเจ็บหรือตายไป สำหรับเขานั้นคือการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น

พอชายคนนั้นได้ยินคำว่าฉินอีหลินเขาก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกถึงข้อมูลที่เขาได้อ่านมาว่า พ่อของคุณฉินนั้น เป็นหัวกะทิทางธุรกิจของประเทศ Y เลยทีเดียว

ถ้าหากว่าเป็นเขาแล้วล่ะก็ การที่จะมีทหารรับจ้างเยอะแบบนี้ ก็ไม่แปลกเลย

“อยู่ครับ” โพจูนพยักหน้าตอบรับอย่างเรียบเฉย ก่อนจะผายมือออก เป็นการหลีกทางให้เขา แต่พวกเขานั้นก็ยังไม่ลดการระมัดระวังตัวลง เพราะกลัวว่าหลงเซี่ยวเทียนจะลงมือกะทันหัน

หลงเซี่ยวเทียนเองก็ไม่มีเวลาที่จะมาคิดอะไรอย่างอื่น ตอนนี้เขาคิดเพียงแค่ว่า อยากจะเห็นหน้าลูกสาวของตัวเองใจจะขาด

นานมาแล้วที่เขาไม่ได้เจอหน้าลูกของตัวเอง ตอนนี้เธอจะต้องผอมมากแน่ๆ จิ่นเซวียนเองก็ยังไม่เคยลำบากอะไรเลยตั้งแต่เด็ก ครั้งนี้เธอต้องตกใจจนขวัญเสียไปอีกแน่ๆ ก่อนหน้านี้เขาอุตส่าห์สัญญากับหลงหมิงเจ๋อไว้แล้วว่า เขาจะต้องพาพวกเธอกลับไปอย่างปลอดภัยให้ได้

พอคิดได้แบบนั้น หลงเซี่ยวเทียนก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ลี่โม่อวี่เองก็รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณกับทั้งหู่โถวและหมาป่าฟ้าอย่างมาก เขาจึงพูดคุยกับเหล่าทหารนั้นอย่างครึกครื้น ถึงแม้พวกเขาจะได้รับคำสั่งจากลี่อานโก๋มาก็ตาม แต่ยังดีที่พวกเขามีเมตตามาช่วยเหลือด้วย

แต่ขณะที่กำลังพูดคุยอยู่นั้นเอง ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดูรีบเร่ง การสู้รบกันมานานหลายปีทำให้พวกเขารู้ได้เลยว่า เสียงนั้นไม่ใช่พวกของตน หู่โถวจึงกำปืนไว้แน่นด้วยจิตใต้สำนึก

ส่วนลี่โม่อวี่เองก็ปกป้องฉินอีหลินกับหลงจิ่นเซวียนไว้ที่ด้านหลังของเขาอย่างไม่ส่งเสียง ฉินอีหลินก็รู้ได้โดยปริยายว่าชายตรงหน้ากำลังทำอะไร ทำให้หัวใจเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา โดยไม่ได้พูดปฏิเสธแต่อย่างใด

“อีหลิน!” พลันหลงจิ่นเซวียนก็โผล่ออกมาจากมุมๆ หนึ่งอย่างรวดเร็ว พอเขาเห็นร่างกายที่ซูบผอมของฉินอีหลิน อีกทั้งท่าทางที่ตกระกำลำบากของหลงจิ่นเซวียนด้วยแล้ว ทำให้ใจของเขารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้เขาได้พลาดช่วงอายุเลขสองของลูกสาวของเขาไป แถมตอนนี้ยังทำให้เด็กน้อยคนนี้ยังต้องได้รับความทรมานขมขื่นใจแบบนี้อีก ทำให้ใบหน้าของหลงเซี่ยวเทียนตอนนี้ มีแต่ความรู้สึกผิด

“พ่อ!”

“คุณตา!”

ขณะที่ทุกคนกำลังซาบซึ้งใจกันอยู่นั้นเอง คนที่คาดไม่ถึง ก็เผยตัวอยู่ท่ามกลางสายตาของทุกคนทันที

ต่อให้ Abner ฝันอยู่เขาก็ไม่มีทางคิดได้เลยว่า ตัวเองจะเหมือนแพะวิ่งเข้าปากเสืออย่างนี้

พอเห็นว่าทุกอย่างผิดปกติ เขาก็รีบหันหลังกำลังจะวิ่งออกไป แต่ด้านหน้าของเขามีกลุ่มทหารรับจ้าง ส่วนด้านหลังก็มีคนของกลุ่มมังกรอยู่อีก ต่อจากนั้น Abner ก็ถูกอาโน่กับหมาป่าฟ้ารวบตัวเอาไว้อย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันกองหนุนที่ตามมาทีหลัง กับโพจูนก็รีบตามมาที่ห้องทดลองอย่างรวดเร็ว

ขณะที่พวกเขาผลักประตูของห้องทดลองเปิดออก ทันทีที่เขามองเห็นท่าทางที่พวกพ้องของเขา นอนอยู่ในตู้เพาะเหล่านั้น พลันน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้า ซึ่งทหารของหมาป่าฟ้าที่เดินผ่านมาเห็นก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ต่างคนต่างก็รู้สึกมีน้ำโหขึ้นมา

โพจูนกำหมัดชกไปที่กำแพงดังตูม พร้อมด้วยเส้นเลือดที่ขึ้นหน้า แต่หู่โถวนั้นกลับดูสงบนิ่งมากกว่าด้วยซ้ำ

ถึงแม้หลงเซี่ยวเทียนจะรู้สึกแบบเดียวกันกับชายที่อยู่ในตู้นั้น แต่สิ่งที่เขากังวลใจที่สุดในตอนนี้ เป็นความปลอดภัยของลูกสาวเขามากกว่า

“กลับไปกับพ่อเถอะนะ” หลงเซี่ยวเทียนเองก็รู้เรื่องราวบางอย่างมาจากลี่โม่อวี่แล้ว เขาไม่อยากที่จะให้ลูกสาวของตัวเองนั้น ถูกนำไปเป็นตัวทดลองอีกครั้ง

แต่พอหู่โถวได้ยินคำพูดแบบนั้นเข้า เขาก็ทำสีหน้าลำบากใจทันที ที่จริงก่อนหน้านี้ ลี่อานโก๋ได้มอบหมายงานมาให้พวกเขาแล้ว คำสั่งของทหารถือเป็นที่สุด พวกเขาไม่มีทางที่จะฝ่าฝืนได้แน่นอน

ชั่วขณะนั้นเอง ทั่วทั้งโถงทางเดินต่างก็ตกเข้าสู่ความเงียบสงัด

อาโน่เองก็เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีท่าทางที่ไม่เต็มใจ จึงผิวปากหวือขึ้นมา ก่อนที่คนของกลุ่มมังกรทั้งหมดจะยกปืนขึ้นมาทันที

แต่ชั่วขณะที่ทุกคนยกปืนขึ้นมานั้น หมาป่าฟ้าเองก็ยกปืนของตัวเองขึ้นมาด้วยเช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายต่างก็เอาปืนจ่อกันไปมา แต่กลับไม่มีใครที่จะเริ่มเปิดฉากยิงเลยสักคน

ในช่วงเวลาที่ยากที่จะเลี่ยงได้แบบนี้ หู่โถวก็โทรหาลี่อานโก๋ทันที ก่อนจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด

พอลี่อานโก๋ได้ยินแบบนั้น ก็รีบโทรหาฉินอีหลินทันที

“คุณฉินหวังว่าคุณคงยังไม่ลืมนัดของพวกเราก่อนหน้านี้ไว้นะครับ”

ฉินอีหลินเองก็ปลอบหลงจิ่นเซวียน ที่ตอนนี้ตกใจจนขวัญกระเจิง พลางนิ่งเงียบไม่พูดอะไรกับคนในสายไปด้วย

เธออาลัยอาวรณ์เด็กทั้งสองคน ตอนนี้เธอรู้ว่าหมิงเจ๋ออาจจะคลั่งไปแล้วก็ได้ แต่มันไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ

เธอเม้มปากเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบที่หน้าผากของหลงจิ่นเซวียน ก่อนจะยื่นเธอไปให้หลงเซี่ยวเทียนอย่างเงียบๆ ไม่พูดจาอะไรเลย

นี่คือทางที่เธอเลือกเอง

หลงเซี่ยวเทียนเองก็รับเด็กน้อยมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ หลงจิ่นเซวียนก็กระพริบตาปริบไปมาด้วยความสงสัย เพราะเธอไม่เข้าใจว่า ทำไมแม่ของเธอถึงยื่นเธอให้กับคุณตาแบบนี้ แต่เธอก็ไม่พูดอะไรอย่างว่าง่าย

หลงเซี่ยวเจียนจ้องตาเขม็งไปที่ลี่โม่อวี่ ตลอดมาเขาไม่เคยปล่อยวางจากผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย

ก่อนหน้านี้ถ้าหากไม่ใช่เขาล่ะก็ ลูกสาวของเขาก็คงไม่ถูกลักพาตัวไปแบบนั้น ไม่ง่ายเลยที่จะฝืนทนมาได้ห้าปี อีกทั้งตอนนี้ยังต้องมาถูกเป็นตัวอย่างทดลองอีก

ถ้าหากไม่มีลี่โม่อวี่แล้วล่ะก็ สภาพพิเศษของฉินอีหลินก็คงไม่ถูกเปิดเผยในระดับชั้นผู้นำของประเทศนี้อย่างแน่นอน

ฉินอีหลินเองก็รู้ว่าพ่อของเธอคิดอะไรอยู่ เธอจึงยื่นมือไปบีบมือของหลงเซี่ยวเทียนเบาๆ เพื่อให้เขาสงบจิตสงบใจลง จากนั้นก็นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะพูดอะไร แต่เธอแค่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีต่างหาก

ส่วนใบหน้าของลี่โม่อวี่ตอนนี้ยิ่งฉายแววความเยือกเย็นออกมามากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เข้าไม่เห็นด้วยกับทางเลือกของฉินอีหลินเลยแม้แต่น้อย

เขาหันหน้าไปสบตากับสายตาที่แทบจะฆ่าคนได้ของหลงเซี่ยวเทียน ก่อนที่เขาจะรับหันไปมองดูหลงจิ่นเซวียนที่ยังคงสับสนอยู่ตอนนี้ทันที

“ลูกยอมห่างจากจิ่นเซวียนไปได้หรือ? ลูกต้องคิดให้ดีๆ นะ การที่ครั้งนี้ไปเมืองหลวงนั้น ยังไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาอีกทีเมื่อไหร่กัน”

“หนูรู้ค่ะ แต่หนูให้ความสำคัญกับการรักษาสัญญานะคะ พ่อก็เป็นคนสอนหนูไม่ใช่หรือคะ ว่าการเป็นนักธุรกิจต้องรักษาคำพูดน่ะค่ะ?”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท