ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 210

ตอนที่ 210

บทที่ 210 ถูกละทิ้งอย่างรวดเร็ว

“ดู้เทา!” ลี่จิ่งจ้องเขาเขม็ง อยากที่จะห้ามปรามคำพูดของเพื่อนไว้ทันที

พอเห็นแบบนั้น ทำไมพวกเขาทั้งสามคนจะไม่เข้าใจความหมายที่ลี่จิ่งจะสื่อล่ะ พวกเขาเล่นกันมาตั้งแต่เด็กจนโต สิ่งที่ทนดูไม่ได้ที่สุดก็คือการที่พี่น้องถูกรังแกเนี่ยล่ะ

พอเห็นว่าลี่จิ่งได้รับความไม่เป็นธรรม แล้วจะให้พวกเขานั่งมองอยู่ข้างๆ อย่างเดียวได้อย่างไรกันล่ะ

“พอได้แล้ว คุณชายลี่โกรธแล้ว” ดู้เทาตั้งใจทำท่าทางประหลาดใจออกมา ซึ่งหยางเฟิงก็เข้าขากับเขาเป็นอย่างดี : “หากคุณชายโกรธจะต้องเป็นเรื่องแน่ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย เหมือนกับนกกระจอกจะบินขึ้นไปบนกิ่งไม้หรอกนะ”

ลี่โม่อวี่ยังคงคีบอาหารให้กับฉินอีหลินเหมือนเดิม เขาแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินคำเยาะเย้ยที่คนเหล่านั้นพูดกัน แต่กับฉินอีหลินนั้น เธอเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว

ลี่โม่อวี่เป็นผู้ชายของเธอ เธอไม่ยอมให้หมาแมวที่ไหน มากัดเขาได้ตามอำเภอใจหรอกนะ

“นกกระจอกอย่างไรก็เป็นนกกระจอกอยู่วันยังค่ำ ถึงแม้จะบินขึ้นไปบนกิ่งไม้ได้ก็ตาม แต่ก็แค่นกกระจอกที่ยืนอยู่บนต้นไม้ได้เท่านั้น ไม่ได้เหมือนกับหงส์ที่แค่กระพือปีก ก็ไม่วันร่วงหล่นลงมาแล้ว ใช่ไหมครับคุณปู่?” ดู้เทาพอใจกับการร่วมมือของเพื่อนสนิทอย่างมาก เขามองไปหาหยางเฟิงอย่างชื่นชม พร้อมทั้งพูดขึ้น

“พอได้แล้ว ดู้เทา หลี่เทียน หยางเฟิง!” ลี่จิ่งในตอนนี้นั่งไม่ติดเก้าอี้เหมือนไฟลนก้น อีกทั้งมีเหงื่อกาฬเม็ดใหญ่ ผุดขึ้นมาที่หน้าผาก

ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะยั่วโมโหลี่อานโก๋กับหยางผิงไป ถ้าหากไปยั่วโมโหคุณปู่อีกล่ะก็ เขาคงไม่ได้อยู่ในบ้านอีกต่อไปอย่างแน่นอน

“นายนั่นแหละที่พอได้แล้วลี่จิ่ง! ได้รับความไม่เป็นธรรมแท้ๆ แต่ทำไมถึงเก็บมันไว้คนเดียวล่ะ!” ดู้เทาเจ็บปวดใจที่เห็นเพื่อนสนิทเป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นลี่จิ่งร้อนรนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งร้อนรนมากเท่านั้น

อาศัยอะไรกันที่จะให้ลูกนอกสมรสคนนี้ มาแย่งชิงความสนใจไปจากเขา?

ลี่โม่อวี่เห็นเหมือนกับว่า ฉินอีหลินอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เขาจึงยื่นมือไปตบขาของเธอเบาๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าอย่าพูดอะไร

ในด้านหนึ่ง เขาก็สงสัยว่าคนพวกนั้นจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร อีกด้านหนึ่งเขาก็รู้ดีว่า ถ้าหากโต้กลับไป ก็แสดงว่าเป็นการยอมรับ เรื่องจริงที่ว่าเขาเป็นหลานของตระกูลลี่

“คุณอาลี่ครับ พวกเราอยู่เล่นในสายตาของคุณอามาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งคุณอาก็จะทำหน้าน่าเกรงขามแบบนี้ตลอด แต่พวกเราคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณอาจะทำเรื่องแบบนี้ได้ลง!”

“แล้วก็คุณป้าหยางผิงครับ คุณป้าเป็นถึงคุณนายของตระกูลลี่แท้ๆ แต่ทำไมถึงมาสนใจลูกนอกสมรสแบบนี้ล่ะครับ นี่มันเป็นเรื่องที่น่าขายหน้ามากๆ เลยนะครับ!”

ดู้เทาทำท่าทางจงเกลียดจงชัง พร้อมทั้งฟ้องผู้ใหญ่ทั้งสองคนตรงหน้า ลี่อานโก๋กับหยางผิงที่เดิมทีเป็นดั่งเทพในดวงใจของเขา แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้ว่าจะวางเทพทั้งสององค์นี้ ไว้ตำแหน่งไหนในใจดี

“คุณป้าหยางผิงครับ ใช่คุณอาลี่บังคับคุณป้าหรือเปล่าครับ? แต่คุณป้าต้องยึดถือหลักการไว้ให้มั่นนะครับ ป้าจะไปเลี้ยงสัตว์ป่าแบบนี้ด้วยตัวเองไม่ได้นะครับ

หยางผิงในตอนนี้ ที่ได้ยินคำว่าลูกนอกสมรสบ้าง สัตว์ป่าบ้าง ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ เธอก็แค่อยากให้รู้จักลูกของตัวเองเท่านั้น ทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้

ถ้าหากเด็กทั้งสามคนนี้ไม่ใช่เพื่อนสนิทของอาจิ่งล่ะก็ เธอก็คงจะส่งแขกไปตั้งนานแล้ว

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อยู่ดี

“รบกวนทั้งสามคนให้ความเคารพนิดหนึ่งด้วย ถ้าหากพวกเธอไม่ใช่คนที่โตมาด้วยกันภายใต้สายตาของป้าล่ะก็ ป้าก็คงสงสัยแน่ว่าพวกเธอทั้งสามคนเป็นพวกเร่ร่อนไร้อนาคตหรือเปล่า ถึงได้พูดจากไร้สาระพวกนี้มาได้!” หยางผิงแสดงให้เห็นว่าเธอโกรธจนจะคลั่งไปแล้วจริงๆ เธอแทบจะไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลี่กับตระกูลหยางอีก เธอคิดเพียงอยากจะระบายความโกรธที่มีออกไปให้หมดเท่านั้น

“ป้าจะบอกอะไรให้ฟังนะ เขาไม่ใช่ลูกนอกสมรส เขาชื่อว่าลี่โม่อวี่ เป็นชื่อที่ป้าเป็นคนตั้งเอง แถมป้าก็ยังตั้งท้องเขามาตั้งสิบเดือน กว่าจะคลอดออกมาได้ก็ยากลำบาก ต่อให้พวกเธอจะไปฟังอะไรมา ก็คงจะเป็นแค่คนที่มายุยงเท่านั้น เพื่อให้พวกเธอมาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างป้ากับลูก!”

ฉินอีหลินรู้สึกพึงพอใจกับอารมณ์โกรธของหยางผิงตอนนี้มาก ถ้าหากทั้งสามคนพูดแบบนี้ออกมาได้ ถ้าอย่างนั้นตระกูลลี่ หยาง หลี่ ตู้ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ ก็ต้องเสียใจแน่ที่มายุ่งกับหยางผิงแบบนี้

เธอหันไปมองหยางผิงที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ตอนนี้ ก่อนจะหันหน้ากลับมามองลี่โม่อวี่

หลังจากที่ลี่โม่อวี่ได้ยินคนที่เรียกว่าแม่กำลังปกป้องเขานั้น เขาก็ยังคงไม่ขยับไม่ทำอะไรอยู่เหมือนเดิม พร้อมทั้งทำสีหน้าเรียบเฉยแบบไม่สะทกสะท้านใดๆ : “ดื่มซุปนี้เสียหน่อยไหมล่ะ ผมชิมดูแล้ว มันสดมากเลยนะ”

เขาตักซุปให้กับฉินอีหลินด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย เขาก็แค่มากินข้าวจริงๆ เท่านั้น ส่วนนอกเหนือจากนั้น เขาทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น

แต่ดู้เทาไม่ได้สนใจความเด็ดเดี่ยวของลี่โม่อวี่แต่อย่างใด หลังจากที่พวกเขาฟังหยางผิงพูดจนจบ พวกเขาก็นิ่งอึ้งไปอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา แล้วก็ยากที่จะสลัดความคิดนั้นทิ้งไปได้

ดู้เทาส่ายหัวพลางหันไปมองลี่จิ่ง แต่เขากลับพบว่าสีหน้าของเพื่อนเขา ยิ่งดูแย่ลงมากกว่าเดิมเสียอีก ลี่จิ่งที่กำลังก้มหน้าลง ทำให้มองไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ดู้เทาเองก็เป็นเด็กพิเศษของตระกูลใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกินคาดอย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

“ก่อนหน้านี้ผมกับลี่จิ่งได้ยินพวกคุณพูดว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ อะไรนี่ครับ พวกคุณไม่ได้ยอมรับแล้วหรือครับ แถมยังห้ามให้พวกเราอย่าคิดฟุ้งซ่านอีก ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมตอนนั้นถึงไม่พูดให้มันชัดเจนไปเลยล่ะครับ?” ดู้เทาเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักตอนนี้ได้ดี การที่เป็นคนในตระกูลอยู่ดีๆ กลับกลายเป็นคนข้างถนน ต้องปล่อยความรักและอำนาจในมือที่ครอบครองไว้ ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้ ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกไม่โอเคอย่างมาก

แต่ก็ไร้หนทาง ความจริงมันก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเล็กๆ หรือว่าจะเป็นตระกูลใหญ่แบบพวกเขาก็ตาม ทั้งวงศ์ตระกูลและฐานะต่างก็สำคัญ ลูกแท้ๆ กับลูกนอกสมรสไม่มีทางจะมาเปรียบเทียบกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลี่จิ่งที่ในตอนนั้นเป็นแค่เด็กที่ถูกทอดทิ้งเท่านั้น

หลังจากที่คุณปู่ลี่พูดคุยกับดู้เทาไปเขาก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก ไม่ใช่เพราะเขาอยากปล่อยให้ลี่จิ่งก่อเรื่อง แต่เป็นเพราะเขาอยากจะดูว่า คนกลุ่มนี้จะประณามหลานของเขาไปถึงระดับไหนกันแน่

เขาเห็นว่าดู้เทาก็แค่แสดงละครตลกกับพวกเขาแค่นั้น แต่ตอนนี้ละครตลกพวกนั้นมันพอแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะต้องอธิบายเสียที

“ตอนนี้พวกคุณอาเพื่อจัดการหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของชาติให้เสร็จเรียบร้อย จึงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่คุณป้าหยางผิงก็ให้กำเนิดลูกมาเสียก่อน ถ้าหากลูกคนนั้นร้องไห้ได้ล่ะก็ พวกเขาก็คงไม่วิ่งหนีแน่ๆ แล้วหน้าที่การป้องกันประเทศก็จะล้มเหลว ดังนั้นเธอจึงต้องโยนลูกทิ้งไปอย่างไรล่ะ แต่หลังจากกลับมาก็กลัวว่าจะถูกตำหนิถูกวิจารณ์ต่างๆ นาๆ จึงต้องไปรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเลี้ยงแทน”

ดู้เทาที่ฟังก็เหมือนจะเข้าใจถึงสาเหตุความเป็นมาเป็นไป ก่อนหน้านี้ยังก่อเรื่องส่งเสียงดัง แต่ตอนนี้เขากลับหน้าหนา ทำตัวรู้สึกว่าลำบากใจเสียเต็มทน

แต่ลี่จิ่งนั้นพอได้ยินคุณปู่เล่าเรื่องนั้นออกมา จากเดินที่คลายหมัดทั้งสองข้างไปแล้ว ก็กลับมากำแน่นอีกครั้ง ถึงขั้นได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบแกร๊บไปมาเลย

จริงๆ แล้วลี่จิ่งนั้นไม่สนใจว่า ดู้เทาจะรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้าหรือไม่ เพราะพวกเขาเองก็เติบโตมาด้วยกัน เพราะฉะนั้นดู้เทาไม่สนใจอยู่แล้วว่าเขาจะมีต้นกำเนิดมาอย่างไร

แต่คำพูดดังกล่าวไม่ควรที่จะให้คุณปู่ลี่เป็นคนพูดเสียด้วยซ้ำ

แขนทั้งสองข้างของลี่จิ่งสั่นเทิ้มไปเพราะการใช้แรงกำหมัด แต่เขากลับไม่สนใจสิ่งนั้นเลย

เพราะการที่คุณปู่ของเขาพูดถึงเรื่องต้นกำเนิดของเขาและลี่โม่อวี่แบบนี้ เท่ากับว่าเขากำลังพูดประจบผู้ชายคนนั้นอยู่

ที่แท้ เขาก็ไม่ใช่หลายของตระกูลลี่ ทำไมถึงถูกทอดทิ้งอย่างรวดเร็วขนาดนี้นะ

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท