ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 264

ตอนที่ 264

บทที่ 264 กลับไปรอข้าที่ห้อง

ฉินอีหลินกัดริมฝีปากไปมา และหันสายตาไปทาง ซือเซี่ย แต่สายตาที่เห็นนั้นยิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา จึงปิดประตูและออกไป

ในสถานการณ์คับขันแบบนี้ เธอจะทำให้ซือเซี่ยไม่พอใจไม่ได้

ซือฉีเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยปกติ จึงลองถามว่า

“คุณนายน้อย จะกลับไปห้องหรือ?”

“ไปห้องรับแขก”

ห้องรับแขกเป็นที่สำคัญในการเดินทางไปมาในบ้าน ถ้าหากท่านลี่และลี่อานโก๋จะออกไป พวกเขาจะต้องผ่านมาทางนี้

รอจนกระทั่งผ่านไปเกือบชั่วโมง เธอก็ได้พบพวกเขา

“ท่านลี่ ลุงลี่”

ซือเซี่ย ที่คุยกับทั้งสองคนอยู่ ตอนนี้เมื่อเห็นฉินอีหลินเดินมา เขาจึงหยุดการพูดคุย

ฉินอีหลินเดินเข้าไป และก็หันไปบอกทาง ซือเซี่ย ว่า “ฉันไปส่งพวกเขาเอง”

ไม่รอ ซือเซี่ยพูด ซือฉีก็พูดตามขึ้นมาทันทีว่า “คุณนายน้อย แบบนี้ไม่ถูกต้อง”

คุณนายน้อยหรือ?

ท่านลี่นั้นก็ต้องรักษาอำนาจของวงศ์ตระกูล เมื่อเขาได้ยินข่าวที่เหมือนระเบิดนี้ สีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยน แม้แต่สีหน้าเพียงน้อยนิดก็ไม่แสดงออกมา

แต่ว่าลี่อานโก๋สีหน้าเปลี่ยนในทันที ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเก็บอาการได้อย่างรวดเร็ว

“ใครให้คุณพูดแทรก!”

ฉินอีหลินนั้นไม่อยากให้สถานะของตัวเองถูกเปิดแทรก เธออยากจะบอกพวกเขาด้วยตัวเอง

ซือฉี เห็นว่าเธอโกรธจริง ๆ แล้ว จึงได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดว่าอะไร

ซือเซี่ยนั้นไม่ทันสังเกตสถานการณ์ตึงเครียดตรงหน้า พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว”

“เชิญตามสบายครับ”

ท่านลี่ทำท่าผายมือ “เชิญ”เมื่อเห็นซือเซี่ยเดินไปแล้ว จึงเดินออกไปบ้าง

ฉินอีหลินพูดกับซือฉีว่า “กลับไปรอที่ห้อง” แล้วเธอก็รีบเดินตามทั้งสองคนไป

“พวกคุณมาหาซือเซี่ยเพื่อให้เขาช่วยลี่โม่อวี่ใช่ไหม?”

“ใช่”

ลี่อานโก๋พยักหน้า แล้วก็พูดขึ้นว่า: “แต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนก้บเรา”

ฉินอีหลินฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว นี่หมายความว่าอะไร ไม่สามารถทำได้ หรือรอให้ตระกูลลี่ยื่นข้อเสนอที่พอใจหรือ?

ลี่อานโก๋ไม่ใช่นายใหญ่ของบ้าน เขาทนไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า

“คุณนายน้อยหมายความว่ายังไง?”

ฉินอีหลินฟังแบบนี้จนคิ้วกระตุก รู้ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด จึงถอนหายใจ อธิบายว่า “พูดแล้วเรื่องมันยาว ฉันเองก็พยายามหาวิธีจาก ตระกูลซือ จับพลัดจับพลูมาเจอ ซือเซี่ย ต่อมามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย จึงกลายมาเป็นแบบนี้”

หยุดไปสักพัก เธอมองท่านลี่และลี่อานโก๋อย่างเชื่อมั่นและพูดว่า “รอให้เรื่องของลี่โม่อวี่ผ่านพ้นไปแล้ว เธอก็จะเป็นอิสระ”

ท่านลี่เหมือนจะมองความคิดของฉินอีหลินออก ก็ไม่รอให้ลี่อานโก๋พูดอะไร จึงพูดว่า: “ถ้าคุณมั่นใจ เราก็ไม่ยุ่งอะไร”

“ฉันเจอลี่โม่อวี่แล้ว แต่เขาจำฉันไม่ได้ พูดถึงตรงนี้ฉินอีหลินก็ยิ้มเศร้า ๆ พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงเขา”

คิดถึงใบหน้าเขียวช้ำของลี่โม่อวี่ เธอพยายามแสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไรและยิ้ม เขาสบายดี ฉันจะช่วยเขาออกมาให้ได้

ท่านลี่และลี่อานโก๋ทำไมจะดูสายตาที่เป็นทุกข์และเศร้าสร้อยนั้นไม่ออก แต่พวกเขาต่างก็ไม่แสดงให้เธอรู้

“พูดคุยตรงนี้ก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ พวกเรากลับก่อนแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ”

ท่านลี่นั้นรู้ว่าตอนนี้มีแต่คนจับตาดูอยู่ จึงได้ก้าวเท้าเดินไปก่อน

ลี่อานโก๋เห็นแล้วจึงเดินตามพ่อออกไป เธอกลับไปเถอะ ดูแลตัวเองดีๆนะ

“ฉันรู้แล้ว”

ส่งทั้งสองเสร็จ ฉินอีหลินก็เดินกลับห้อง แต่ไม่ทันเดินไปได้ครึ่งทาง ซือฉีก็เดินมารับ

“คุณนายน้อย คุณชายเรียกให้ไปพบที่ห้องท่าน”

ฉินอีหลินพอจะรู้ว่าเขาเรียกพบเธอด้วยเรื่องอะไร แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวตกใจอะไรเหมือนเคย เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องของ ซือเซี่ย เธอโบกมือให้ ซือฉี ออกไป แล้วก็เปิดประตูเข้าไปด้วยสีหน้าปกติ

“เธอยิ่งอยู่ยิ่งกล้ามากนะ ไม่รู้กฎระเบียบบ้างเลย”

ซือเซี่ยนั้นโกรธจริง ๆ ต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น เธอกลับไปส่งพ่อของคนรัก

“ฉันไม่ใช่พวกคุณ ในสายตาฉัน นั่นก็คือกฏ”

ฉินอีหลินก็ไม่ยอมอ่อนข้อ มองชายตรงหน้าที่ได้ขึ้นชื่อว่าสามีอย่างถูกต้องด้วยสายตาเย็นชา

“ดีมาก” ซือเซี่ยโกรธจนหัวเราะ “ฉันตามใจเธอมากเกินไปใช่ไหม ทำให้เธอกล้าทำถึงขนาดนี้”

หยุดไปสักพัก เขาพูดต่อว่า: “จากวันนี้ไป เธอก็อยู่เรียนรู้กฎระเบียบให้ดี ฉันจะดูว่าเธอจะฝึกได้ไหม”

“จะช่วยลี่โม่อวี่ได้เมื่อไหร่?”

ตอนนี้ฉินอีหลินสนใจแค่เรื่องนี้ กฎระเบียบบ้าบออะไรกัน ให้คนปัจจุบันแบบเธอไปทำอะไรบ้าบอแบบนั้น

“อยากช่วยลี่โมอวี่หรือ?” ซือเซี่ย หัวเราะหึ ๆ ด้วยใบหน้าเย็นชา: “ถ้าอย่างนั้นก็ไปตั้งใจเรียนกฎระเบียบ ไปเรียนรู้ว่าคุณนายบ้านตระกูลซือนั้นต้องทำตัวยังไง”

“คุณขู่ฉันหรือ?”

ฉินอีหลินก็มองเขาด้วยสายตาแบบเดียวกัน เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้

“จะว่าใช่ก็ได้” ซือเซี่ยไม่สนใจความคิดของผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิด หันหลังแล้วก็เดินไปที่โต๊ะ “เมื่อไหร่ที่เธอรู้ว่าอะไรคือคุณนายบ้านตระกูลซือ แล้วค่อยมาคุยเรื่องที่จะช่วยลี่โม่อวี่”

ดวงตาของฉินอีหลินนั้นเย็นชา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมีแค่เธอเท่านั้นที่จะช่วยคนรักของเธอได้

คิดถึงตรงนี้ เธอก็หันหลังจากไป

ซือเซี่ย รู้ว่าเธอจะตั้งใจเรียนรู้การเป็นคุณนายบ้าน ตระกูลซือ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเขา

ไม่ใช่เป็นเพราะเขา

ฉินอีหลินหน้ามุ่ยตอนฝึกเดิน

เธอคิดว่ามารยาทพื้นฐานเหล่านี้นั้นง่าย ๆ แต่เมื่อเธอเริ่มเรียนรู้ เธอถึงรู้ว่า บนโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ง่าย

ทานข้าว ดื่มชา การเดิน แม้กระทั่งรอยยิ้มยังมีข้อกำหนด

ช่วงนี้เธอไม่ได้เจอ ซือเซี่ย มีแค่การเรียนมารยาทพวกนี้ซ้ำไปมา

อาจารย์สอนมารยาทที่อยู่ข้าง ๆ พูดอย่างเคารพว่า

“คุณนายน้อย คุณก้าวเท้าเร็วไป”

แม้ว่าฉินอีหลินเองจะถูกสอนมารยาทมาแต่เด็ก แต่นั่นก็เป็นวิธีการของคนสมัยนี้ แม้ว่าก็จะลำบาก แต่ไม่น่ารำคาญใจ แต่ทว่ามารยาทตรงหน้านี้ นอกจากยืนและนั่ง ด้วยสถานภาพที่ต่างกัน แม้แต่อารมณ์และการทักทายคนด้วยกันเองยังไม่เหมือนกัน

เรื่องพวกนี้ต่างหากที่จะทำให้เธอตาย

ซือฉีเห็นฉินอีหลินฝึกมาทั้งวันแล้วจึงถามขึ้นว่า

“คุณนายน้อย อยากดื่มน้ำสักหน่อยไหม”

เธอพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อให้รู้ว่าเห็นด้วย

ในตอนนี้ ซือฉีจึงผลักประตูเข้ามา: “อาจารย์ คุณนายน้อยเรียนรู้เป็นยังไงบ้าง?”

ฉินอีหลินเห็น ซือเซี่ย เดินเข้ามา ก็ไม่สนใจที่จะดื่มน้ำ คำนับเล็กน้อย พูดจาเสียงอ่อนโยนว่า: “สวัสดีท่านพี่”

“ลุกขึ้นเถอะ”

ซือเซี่ยเห็นท่าทีของฉินอีหลิน ก็รู้สึกตกใจ

“เรียนคุณชาย คุณนายน้อยนั้นฉลาด เรียนรู้เร็ว ตอนนี้ก็เรียนรู้ได้มากจนเกือบจะทั้งหมดแล้ว”

เห็นผู้หญิงที่ยืนอย่างเป็นระเบียบตรงหน้า ไม่มีท่าทีวุ่นวายแบบแต่ก่อน ซือเซี่ย ไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี

“ก็ยังดี เก็บของให้เรียบร้อย คืนนี้ไปงานเลี้ยงพร้อมกับผม”

ฉินอีหลินได้ยินแล้วก็ประหลาดใจ แม้ว่าจะไม่ได้ถาม แต่ความหมายก็ชัดเจนแล้ว

“วางใจได้ ผมซือเซี่ยพูดคำไหนคำนั้น ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด พรุ่งนี้คุณก็จะได้พบกับเขา”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท