บทที่280 ภรรยาแบบนี้ยังต้องมีข้อเรียกร้องอะไรอีก
นอกจากนี้ลี่โม่อวี่ยังพาหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียน สามคนพ่อลูกไปเล่นที่สวนสนุกสำหรับเด็กหลายแห่งในปักกิ่งตลอดทั้งวัน แม้แต่หลงหมิงเจ๋อที่แกล้งทำตัวเท่มาตลอดก็ยัง “รับน้ำใจนี้”ของลี่โม่อวี่
ในตอนเย็น เมื่อฉินอีหลินโทรศัพท์ตาม ลี่โม่อวี่จึงทำได้แค่กลับไปที่ตระกูลซือพร้อมกับลูกทั้งสองคน
“คุณดูสิเด็กทั้งสองมีความสุข!”
ฉินอีหลินมองไปที่ลูกๆที่กลับมาจากเที่ยวพร้อมกับลี่โม่อวี่ และพูดว่า
“ อย่างไรก็ตามเขาเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดลูก 2 คนเลือดข้นกว่าน้ำไหม” อานหน้าพูดออกไปอย่างนี้ แต่ใจก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
เมื่อฉินอีหลินได้ยินก็ตาแดงขึ้นมา
“ คุณลุงหลงครับ คุณป้าครับ คืนนี้ผมขอพาเด็กๆไปเยี่ยมคุณปู่ได้ไหมครับ”
“เด็กโง่ตอนนี้ยังจะมาเรียกเราว่าลุงกับป้าอยู่เหรอ”อานหน้าพูดเชิงดุ
ลี่โม่อวี่ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเรียกอานหน้าและหลงเซี่ยวเทียนอย่างเคารพ“ คุณพ่อ คุณแม่”
อานหน้ายอมรับอย่างพึงพอใจและหลงเซี่ยวเทียนก็พยักหน้า
“ไปเถอะ พาลูกสองคนของเธอไป ครอบครัวของเธอทั้งสี่คนจะไปเยี่ยมปู่ของเธอ ท่านก็คงจะดีใจ”
อานหน้าพูด
ลี่โม่อวี่พยักหน้า กล่าวลาซือเซี่ยและซือเอ๋อ แล้วขับรถไปที่บ้านตระกูลลี่
เมื่อพูดถึงหลี่จิ่งหลังจากที่ออกจากตระกูลลี่ไป เขาก็หนีไปหาตระกูลหลี่อีก แต่ตระกูลหลี่กลับใช้ประโยชน์จากเขาอย่างเต็มที่ เขาทำได้แค่ตอบตกลงและร่วมแผนการสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลหลี่ และในครั้งนี้ตระกูลหลี่ก็บังคับให้เขาลักพาตัวฉินอีหลิน ทำให้เขาหมดหนทาง เขาไม่มีอะไรเหลือแล้ว ยังถูกบังคับให้ลักพาตัวฉินอีหลินอีก พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมกับเขาจริงๆ แต่สำหรับคนที่มีบาปที่ร้ายแรงนี่ก็สมควรเป็นเช่นนั้น
“แม่ครับ พ่อครับ คุณปู่ครับ ดูสิครับว่าใครมา”
ลี่โม่อวี่ตะโกนก่อนที่จะเดินเข้าประตูไป หยางผิงและลี่อานโก๋ได้ยินเสียงจึงรีบมาทักทายพวกเขา
“หมิงเจ๋อ, จิ่นเซวียนรีบเรียกคุณปู่ คุณย่าสิ” ฉินอีหลินพูดกับเด็กทั้งสอง
“คุณปู่คุณย่า สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ” เด็กทั้งสองเคยพบกับหยางผิงมาก่อน และตอนนี้พวกเขาก็สนิทกันมากขึ้น
ลี่โม่อวี่รู้สึกแปลกใจ ทำไมหลงหมิงเจ๋อเด็กคนนี้จึงทำตัวเชื่อฟัง ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังคงจัดลำดับความสำคัญได้อยู่ ไม่เลวเลย ลูกชายของฉัน
เมื่อลี่หยินหูรู้ว่าเหลนสองคนของเขากำลังจะมา ใบหน้าที่แก่ชราของเขาก็แสดงความดีใจที่หาได้ยาก ใช้ไม้เท้าเขาก็เดินจากห้องไปที่ห้องโถง
“ นี่คือคุณทวด”
ฉินอีหลินชี้ไปที่ลี่หยินหูที่เดินผ่านมาและพูดกับเด็กทั้งสอง
“ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ คุณทวด” เด็กทั้งสองพูดพร้อมกันในครั้งนี้
“คุณปู่ครับ คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ ผมพาเด็กๆทั้งสองคนมาเยี่ยมครับ “ลี่โม่อวี่พูด
ท่านลี่มองดูเด็กทั้งสองด้วยน้ำตา และพูดกับลี่โม่อวี่ด้วยความรู้สึกดีใจ “นึกไม่ถึงว่าฉันลี่หยินหูจะได้เห็นหลานและเหลนของฉันในช่วงชีวิตของตัวเอง ฉันพอใจ”
หยางผิง’พูดกับลี่หยินหูว่า“ คุณพ่อคะ พ่อกำลังพูดเรื่องอะไร ต่อจากนี้พ่อยังจะเฝ้าดูหลงหมิงเจ๋อพาลูก ๆ ของเขามาหาอีกนะคะ”
ลี่หยินหูยิ้มและพูดว่า“ อยู่นานขนาดนั้น ฉันจะไม่เป็นเทวดาแก่ ๆไปแล้วเหรอ ฮ่าฮ่า!”
หยางผิงเห็นว่าท่านลี่มีความสุขมากในวันนี้ เธอจึงรีบพาฉินอีหลินและหลานทั้งสองคนไปนั่ง หลังจากนั้นก็พูดกับทุกคนว่า “ทุกคนนั่งไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมอาหารมาให้”
ฉินอีหลิน พูดอย่างครุ่นคิด “ คุณแม่คะ ฉันจะไปช่วยคุณเอง”
สุดท้ายยังไงงานบ้านก็ยังเป็นงานของผู้หญิง
ทางด้านของท่านลี่และเหลนทั้งสองกำลังสนุกสนาน ในทางกลับกัน ลี่อานโก๋เรียกให้ลี่โม่อวี่ไปข้างๆและพูดกับเขาว่า “พ่อกลัวว่าการจากไปของลี่จิ่งในครั้งนี้จะไม่ง่ายอย่างนั้น ลูกและอีหลินต้องระวังตัว พ่อกลัวว่าเขาจะกลับไปที่บ้านลี่อีก”
“ พ่อครับ ผมรู้แล้วครับ อย่าให้คุณปู่รู้เรื่องนี้นะครับ”
“อืม พ่อเข้าใจแล้ว”
คำสั่งที่ลี่จิ่งได้รับในตระกูลหลี่คือการลักพาตัวฉินอีหลิน หากเกิดความผิดพลาดลี่จิ่งจะต้องไม่ซัดทอดถึงตระกูลหลี่ ในความเป็นจริงลี่จิ่งรู้ดีว่าแม้ว่าเขาจะลักพาตัวฉินอีหลินไปได้ ก็ไม่มีที่สำหรับเขาในเมืองหลวง
พอถึงเวลาไม่ว่าจะมาจากตระกูลลี่หรือตระกูลซือ แม้ว่าหลงเซี่ยวเทียนจะสามารถทำลายเขาได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ยังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของหลงเซี่ยวเทียน หลังจากที่เขารู้แล้ว เขาจะไม่กล้าดูถูกหลงเซี่ยวเทียนอีกเลย
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ ลี่โม่อวี่ได้ขออนุญาติจากอานหน้าว่าเขาก็จะไม่ส่งเด็กทั้งสองคนกลับไป ซึ่งจะให้พวกเขาอยู่ที่บ้านตระกูลลี่ เพราะลี่หยินหู ลี่อานโก๋และหยางผิงก็ไม่ได้เจอหน้าเด็ก ๆเลย ดังนั้นจึงอยากให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น
ในตอนค่ำ ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินกำลังนอนอยู่บนเตียง
“ อีหลิน คุณบอกผมเกี่ยวกับพ่อของคุณได้ไหม และทำไมวันนั้นซือเซี่ยถึงเรียกท่านว่าคุณปู่”
ลี่โม่อวี่ถามอย่างสงสัย
หลังจากนั้น ฉินอีหลินก็บอกลี่โม่อวี่ถึงสิ่งที่หลงเซี่ยวเทียนพูดกับเธอในวันนั้น ลี่โม่อวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาได้ยิน แม้เรื่อง ตระกูลซือจะทำให้ลี่โม่อวี่ประหลาดใจแล้ว แต่เบื้องหลังของอีหลินที่เป็นคนตระกูลหลงที่เป็นตระกูลที่เก่าแก่ยิ่งกว่าตระกูลซือ ซึ่งนี้สร้างความอยากรู้อยากเห็นลี่โม่อวี่มาก แถมยังต้องกังวลว่าคนจากบ้านตระกูลหลงจะหาอีหลินเจออีก
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่า สำหรับลี่โม่อวี่ที่จะต้องปกป้องผู้หญิงของเขาเอง ลี่โม่อวี่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง นี่คือคำสัญญาของผู้ชาย
เพราะลี่โม่อวี่วางแผนที่จะอาศัยอยู่ในเมืองหลวงเป็นเวลานาน หลงเซี่ยวเทียนและอานหน้าก็จะยังไม่จากไปในช่วงระยะนี้ ฉินอีหลินจึงให้ลูกทั้งสองอยู่ในโรงเรียนที่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลลี่
ทุกๆวันลี่โม่อวี่มีหน้าที่รับและส่งลูกสองคน ยังไงนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาอย่างช้าๆ ซึ่งหลงหมิงเจ๋อก็เริ่มยอมรับลี่โม่อวี่แล้ว ในสายตาของหลงหมิงเจ๋อ ผู้ชายคนนี้ดูแข็งแรงกว่าตัวเอง
ตอนได้รู้เหตุผลจากปากของหลงเซี่ยวเทียน ลี่โม่อวี่ก็หัวเราะอยู่นาน ช่างเป็นลูกชายที่น่ารักของเขาจริงๆ
และลี่โม่อวี่ยังคงมีพรรคพวกพี่น้องอยู่ภายใต้การดูแลของเขา บางครั้งเพราะเมื่อเกิดเรื่องจนเขาไม่สามารถรับเด็กๆได้ ซึ่งฉินอีหลินก็เข้าใจสถานการณ์ของลี่โม่อวี่เป็นธรรมดา และเธอก็ชิงพูดว่า ตอนไหนที่คุณไม่ว่าคุณบอกฉันก็ได้ ฉันจะไปรับพวกเขาเอง
มีภรรยาแบบนี้ ลี่โม่อวี่ยังจะบ่นอะไรได้อีกล่ะ
อย่างไรก็ตามมันก็ควรเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่ลี่โม่อวี่มีงาน เรื่องการไปรับลูกก็ต้องเป็นหน้าที่ของฉินอีหลินเป็นธรรมดา
พอเวลาประมาณห้าหกโมง ฉินอีหลินก็รีบวิ่งไปที่ประตูโรงเรียน และมีเด็ก ๆ รีบวิ่งออกมาตามหาพ่อแม่ของพวกเขาที่มารอรับพวกเขา เมื่อหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนเห็นฉินอีหลินจากระยะไกล หลังจากนั้นก็วิ่งไปหา
ฉินอีหลินจับมือหลงจิ่นเซวียนไว้ในมือข้างหนึ่งและจับหลงหมิงเจ๋อไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง แล้วเดินไปที่รถ
ในเวลานี้มีคนเดินออกมาจากด้านข้าง และมองไปที่ฉินอีหลิน ฉินอีหลินก็มองไปที่เขาเช่นกัน ร่างสูงอยู่ในรัศมีที่อันตรายของอีกฝ่าย ทำให้ฉินอีหลินนึกถึงสิ่งที่หลงเซี่ยวเทียนบอกเธอเกี่ยวกับตระกูลหลง เธอไม่ได้ทำอะไรผลีผลาม เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถหนีได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอยังต้องดูแลลูกทั้งสองคน
หลงหมิงเจ๋อมองไปที่บุคคลนั้นอย่างระมัดระวัง คนคนนั้นเหมือนกับว่าเขากลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อม โดยมันไม่มีผลอะไรกับสิ่งรอบข้างเลย
“คุณฉิน ไปกับผมเถอะ ผมเป็นคนของตระกูลที่ถูกส่งมา”
ฉินอีหลินไม่ได้ต่อต้านเพราะเธอรู้ดีว่าการขัดขืนนั้นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงเข้าไปนั่งในรถของฝ่ายตรงข้ามและไปกับเขา