บทที่ 281 ไม่มีใครช่วยคุณได้แล้ว
ไม่มีใครรู้เรื่องที่ฉินอีหลินถูกคนของตระกูลหลงลักพาตัวไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเมื่อใกล้จบมื้ออาหาร คนตระกูลลี่นั่งอยู่ด้วยกัน ลี่โม่อวี่ยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อโทรหาฉินอีหลิน แต่สายคู่ตรงข้ามกลับเป็นเสียงของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
“ฉินอีหลินอยู่กับพวกฉันที่นี่ พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลไป พวกฉันคือคนของตระกูลหลงบ้านบรรพบุรุษ ถ้าอยากเจอตัวฉินอีหลินล่ะก็ ให้หลงเซี่ยวเทียนมาที่นี่ด้วยตัวเองซะ” พูดจบสายตรงข้ามก็ตัดสาย
ลี่โม่อวี่วางโทรศัพท์ลง ลี่หยินหู ลี่อานโก๋แล้วก็หยางผิงที่อยู่ข้างๆ เห็นลี่โม่อวี่มีท่าทางแปลกๆ ก็ถามเขา “โม่อวี่ เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอีหลินหรือเปล่า?”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลี่โม่อวี่จะปิดบังพวกเขา ก็เลยเอาเรื่องของตระกูลหลง และเรื่องที่ฉินอีหลินถูกคนของตระกูลนั้นลักพาตัวไป เล่าให้พวกเขาฟัง ฟังจบ ท่านลี่ที่ปกติตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ก็ไม่ได้โมโหเดือดดาลเหมือนอย่างเคย เพียงแต่มองลี่โม่อวี่ และกล่าวกับเขา “คุณเอาเรื่องนี้ไปบอกหลงเซี่ยวเทียนเถอะ”
ลี่โม่อวี่ตอบรับอย่างไม่มีทางเลือก แม้แต่คุณปู่เอง หลังได้ยินเรื่องของตระกูลหลงก็รู้สึกพ่ายแพ้ ดูท่าแล้ว คนของตระกูลหลงนั้นแตกต่างกันมากจริงๆ
“ฮัลโหล พ่อ ผมคือลี่โม่อวี่ อีหลินถูกคนตระกูลหลงจับตัวไป เป็นความผิดของผมเอง” ลี่โม่อวี่กล่าวตำหนิตัวเองกับหลงเซี่ยวเทียน
“อืม ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้โทษคุณ คุณวางใจเถอะ อีหลินอยู่กับคนของตระกูลคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนนี้ พรุ่งนี้คุณมาพบฉันสักรอบสิถ้ามีเวลา” เสียงเย็นชาของหลงเซี่ยวเทียนกล่าวออกมา แต่ว่าก็ไม่ได้ถือโทษเขาเลย
โชคดีที่หลงเซี่ยวเทียนบอกกับลี่โม่อวี่ว่าจะไม่เกิดเรื่องกับฉินอีหลิน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะโทษตัวเองมากแน่ๆ แต่ถึงเป็นแบบนี้ เขาก็ยังคงรู้สึกโทษตัวเองอยู่ดี
อีกทางด้านหนึ่ง ตั้งแต่ลี่จิ่งได้รับคำสั่งจากตระกูลหลี่ เขาต้องคอยดูทุกวันว่าฉินอีหลินไปไหนมาไหนด้วยตัวคนเดียวหรือไม่ เพราะว่าตอนนั้นเขาจะได้ลงมือได้ง่าย ตอนที่รู้ว่าลูกๆทั้งสองคนของฉินอีหลินเข้าเรียนที่เมืองหลวง เขาก็รู้ว่าโอกาสของตนมาถึงแล้ว แต่ทว่า คนที่คอยไปรับส่งเป็นลี่โม่อวี่ อีกทั้งเวลาที่ฉินอีหลินไปรับเด็กๆ ก็ไม่แน่นอน นี่ทำให้ลี่จิ่งกลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก
และในที่สุดเขาก็รอจนเจอฉินอีหลินออกมารับเด็กๆเพียงลำพัง เขาที่กำลังเตรียมจะลงมือก็เห็นคนอื่นชิงคว้าตัวไปก่อน แล้วนำตัวพวกฉินอีหลินสามแม่ลูกไป
ลี่จิ่งรู้สึกเหมือนอกตัวเองกำลังจะแตก ทำไมมาเป็นโจรลักพาตัวแล้วก็ยังเจอเพื่อนร่วมวิชาชีพแย่ง “ธุรกิจ” ได้ล่ะเนี่ย หมดหนทางแล้วจริงๆ ลี่จิ่งจึงทำได้แค่นำเรื่องที่ฉินอีหลินโดนจับตัวไป ไปบอกกับตระกูลหลี่ แต่ว่าตระกูลหลี่กลับไม่สนใจสิ่งที่เขาทำเลยแม้แต่น้อย เรียกร้องแค่ต้องได้ตัวฉินอีหลินเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องคิดอยากจะได้รับมรดกของตระกูลลี่
จนปัญญาแล้ว ลี่จิ่งจึงได้แต่ไปเมาเหล้าที่ผับคนเดียว
ดู้เทาและลี่จิ่งพบกันโดยบังเอิญ ทั้งสองคนเมื่อพบกันก็ชวนกันดื่มไม่หยุด ลี่จิ่งดื่มเพื่อเรื่องว้าวุ่นใจหลังจากนี้ แต่ดู้เทามาก็เพื่อดื่มเหล้าโดยเฉพาะ
ทั้งสองคนยิ่งดื่มก็ยิ่งเยอะขึ้น ลี่จิ่งก็หยุดปากตัวเองไว้ไม่ได้ หลุดพูดเรื่องที่ตัวเองต้องไปจับตัวฉินอีหลินออกมา ดู้เทายังไม่ได้เมามากนัก หลังจากได้ยินที่ลี่จิ่งพูดออกมา ก็แปลกใจขนาดหนัก เขาสร่างเมาไปแล้วกว่าครึ่ง
และลี่จิ่งพอพบว่าตัวเองหลุดปากไปแล้ว ก็สร่างเมาไปแล้วครึ่งหนึ่งเช่นกัน เขารีบร้อนพูดกับดู้เทา “เมื่อกี้ฉันก็พูดไปเรื่อยน่ะ หยอกคุณเล่น”
ดู้เทาพูดอย่างโง่ๆ “คุณคิดว่าฉันจะเชื่อประโยคนั้นของคุณเหรอ” พูดจบก็แอบเหลือบมองลี่จิ่ง
“ลี่จิ่ง คุณต้องตื่นได้แล้ว อย่าทำผิดอีกเลย ถ้าคุณยังทำผิดต่อไปก็ไม่มีใครช่วยคุณได้แล้ว”
ลี่จิ่งมองดู้เทาด้วยความสำนึกเสียใจอย่างยิ่ง
“ดู้เทา ฉันไม่มีเพื่อนแล้ว มีแค่คุณคนเดียวจริงๆ ตระกูลหลี่บังคับให้ฉันทำอย่างนี้ ถ้าเกิดฉันไม่ทำอย่างนี้ ฉันก็จะไม่เหลืออะไรเลย คุณช่วยฉันไม่ได้หรือ” เขาทำหน้าตาน่าสงสาร วิธีนี้ได้ผลกับดู้เทาที่มีระดับไอคิวที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง
ดู้เทาคนทึ่มทื่อยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะถูกลี่จิ่งหลอกใช้หาผลประโยชน์ เขามองลี่จิ่งด้วยสีหน้าเวทนา
“ฉันรับรองว่าฉันจะไม่ทำร้ายฉินอีหลิน คุณรับปากฉันสิว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น ดู้เทา ถือว่าฉันขอร้องล่ะ”
“ถ้าฉันรับปากช่วยคุณลักพาตัวฉินอีหลิน คุณจะตอบแทนฉันยังไง?” ดู้เทาพูดอย่างเชื่องช้า
ลี่จิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง ถึงเขาจะรู้ว่าดู้เทาระดับไอคิวไม่ได้เรื่อง แต่เขาก็รู้สึกว่าในที่สุดก็มีคนยอมช่วยเขา ในที่สุดก็มีคนเชื่อตนเองเสียที
เขาตบบ่าของดู้เทาแรงๆ พูดกล่าว “พรรคพี่น้อง เพียงแค่ฉันลักพาตัวฉินอีหลินได้สำเร็จ ฉันก็จะสามารถได้รับมรดกของตระกูลหลี่ ถึงตอนนั้น ฉันจะไม่ลืมคุณแน่นอน”
ดู้เทาเมื่อฟังคำของลี่จิ่ง พยักหน้าอย่างได้ผลประโยชน์ แล้วก็ตกลงรับปาก
ลี่จิ่งที่น่าสงสารไม่รู้ ว่าหลังจากที่ดู้เทาแยกจากไปเขาก็โทรหาลี่อานโก๋ บอกกับลี่อานโก๋ว่าลี่จิ่งจะดำเนินการลักพาตัวฉินอีหลิน
หลังจากลี่อานโก๋ได้รับสายจากดู้เทา ก็บอกกับเขาว่า ให้คอยดูทิศทางการเคลื่อนไหวของลี่จิ่งอย่างละเอียด จากนั้นก็ปาถ้วยชาในห้องสำนักงานจนแตก แล้วพูดด่าทอ “ฉันไม่มีลูกชายโง่เง่าอย่างนี้”
ถึงอย่างไรก็เลี้ยงเขามาจนตัวโตขนาดนี้ จู่ๆ ลี่จิ่งก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนอย่างนี้ ทำให้ลี่อานโก๋ผิดหวังอย่างมาก
ก่อนที่เขายังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการลักพาตัวฉินอีหลิน ลี่อานโก๋ยังคงคิดว่าควรเอาเรื่องนี้ไปบอกลี่โม่อวี่จะดีกว่า เขากดเปลี่ยนเบอร์แล้วกดโทรไป ลี่โม่อวี่เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของพ่อตนเอง ก็รีบเร่งรับสาย
เสียงจากสายโทรศัพท์ทางโน้นลอดออกมา เสียงกระวนกระวายของลี่อานโก๋ “โม่อวี่อา ฉันเพิ่งได้ข่าวมาเมื่อกี้ จริงๆ แล้วช่วงนี้ลี่จิ่งก็กำลังเตรียมจะลักพาตัวฉินอีหลินไปเหมือนกัน คุณไปหาหลงเซี่ยวเทียนทางนั้นก็ถามให้เยอะๆ ว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“คุณพ่อ ผมทราบแล้วครับ คุณวางใจเถอะ”
วางสายโทรศัพท์ ลี่โม่อวี่ขับรถเหยียบคันเร่งอย่างเร็วมุ่งหน้าไปทางตระกูลซือ
ห้องโถงใหญ่ของตระกูลซือ หลงเซี่ยวเทียนและซือเซี่ยที่แต่งตัวในชุดจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น มานั่งรอการมาของลี่โม่อวี่อยู่ที่นั่นตั้งนานแล้ว ลี่โม่อวี่โค้งตัวให้หลงเซี่ยวเทียนเล็กน้อย เป็นการทักทาย
เมื่อหลงเซี่ยวเทียนเห็นลี่โม่อวี่นั่งลง จึงเริ่มพูดกล่าว “ฉันคิดว่าเรื่องตระกูลหลงของพวกเรา อีหลินคงจะบอกคุณแล้ว แต่เรื่องที่ฉันจะพูดต่อไปนี้คือ เรื่องคราวนี้เกี่ยวข้องกับฝั่งบ้านบรรพบุรุษที่ลักพาตัวอีหลินไป”
ลี่โม่อวี่รีบสบรับสายตาของหลงเซี่ยวเทียน ตั้งใจรับฟัง ซือเซี่ยที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าหลงเซี่ยวเทียนไม่ได้สั่งให้เขาแยกไปที่อื่น ก็เลยตั้งใจฟังด้วยเช่นกัน
“จริงๆแล้ว ในตอนแรกที่จู่โจมอานหน้าแม่ของคุณ ก็มีเบื้องหลังจากคนในตระกูลนี้ ตอนนั้นเพราะฉันโกรธจนทนไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านอำนาจของตระกูลหลงบ้านบรรพบุรุษได้ เลยทำได้เพียงประกาศตัดขาดจากตระกูลหลง”
เขาพักไปนิดหนึ่ง ก่อนกล่าวต่อ “แต่จริงๆแล้ว นี่เป็นเพียงความต้องการของฉันเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ถึงแม้ฉันจะออกจากตระกูลหลงมาแล้ว หรือถึงแม้สายเลือดโดยตรงฉันจะไม่สำคัญ แต่คนของตระกูลหลงก็ไม่ยินยอมตอบรับฉันง่ายๆ ตามอำเภอใจขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ถึงแม้ในสายตาของพวกคุณ ฉันคือคนที่ตัดขาดจากตระกูลหลงแล้ว แต่หลายปีมานี้ ถ้าเกิดไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลหลงแล้ว ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อในเมืองหลวงได้อย่างไร คนของตระกูลหลงเป็นการมีอยู่ที่จับต้องไม่ได้จริงๆ”
“คุณพ่อ ไปบ้านตระกูลหลงครั้งนี้ก็พาผมไปด้วยเถอะครับ ผมอยากไปพบคนตระกูลหลง” ลี่โม่อวี่ลุกขึ้นยืนเอ่ยเสียงเย็นเยือก
เขามองลี่โม่อวี่ หลงเซี่ยวเทียนก็พยักหน้ารับอย่างพอใจมาก “วางใจเถอะ การเดินทางไปตระกูลหลงครั้งนี้ฉันจะพาคุณไปด้วย ถึงตอนนั้นอย่าให้เสียชื่อคนของหลงเซี่ยวเทียนล่ะ”