ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 282

ตอนที่ 282

บทที่ 282 ความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นมากเกินไป

ฉินอีหลินที่ถูกจับตัวมานั่งอยู่ในรถ หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนเบียดเธอแน่น แต่ฉินอีหลินกลับไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกว่าคนของตระกูลหลงจะไม่ทำร้ายเธอ แต่นี่เป็นความความรู้สึกของเธอ

“คุณฉิน รบกวนคุณนั่งให้มั่นคงหน่อยนะครับ” ชายแปลกหน้าร่างใหญ่คนนั้นพูดขึ้น

จากนั้น ฉินอีหลินก็รู้สึกว่าความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน อีกทั้งชายร่างใหญ่คนนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเลยสักนิด รถในมือของเขาขับผ่านรถคันข้างๆ ไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แสดงให้เห็นฝีมือการขับรถของเขา

ฉินอีหลินนั่งอยู่ในรถที่นิ่มนวลและมั่นคง จ้องมองชายร่างใหญ่คนนั้น ถามด้วยความประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ “คนของตระกูลส่งคนมาจับตัวฉัน แต่ว่าฉันมีค่าพอให้จับหรือ?”

“ขออภัยครับ ผมแค่ได้รับคำสั่งมา อย่างอื่นผมไม่ทราบเลยครับ” ชายหนุ่มหลุดเอ่ยเสียงเย็นเยือก

ภายใต้ความช่ำชองในฝีมือการขับรถของชายหนุ่ม ไม่นานนักฉินอีหลินและเด็กๆ ก็ถูกพาตัวมาถึงด้านหน้าของบ้านทรงจีนเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ฉินอีหลินที่อยู่บนรถรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าทิศทางของรถมุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางเมืองตลอด ทำให้ได้เห็นว่ามีบ้านทรงโบราณหลังขนาดนี้ซ่อนอยู่ใจกลางของเมือง ตระกูลหลงที่ลึกลับนี้ช่างมีความสามารถจริงๆ

ความเก่าแก่ของประตูใหญ่ของจวน เผยให้เห็นการผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างลึกซึ้ง ประตูถูกเปิดออก ก็เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงคนหนึ่ง เดินออกมาจากด้านหน้าของจวน รอจนชายวัยกลางคนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ ตรงมากล่าวกับชายที่คอยคุมตัวฉินอีหลินตลอดทาง “หลงคุน แกกลับไปก่อนเถอะ มีเรื่องอะไรฉันค่อยเรียกอีกที”

หลงคุนถอยออกไปอย่างเงียบเชียบไม่พูดจา หน้าประตูใหญ่ก็เหลือเพียงฉินอีหลินและลูกๆ สามคน แล้วก็ชายวัยกลางคนท่านนั้น ชายวัยกลางคนมองมาทางฉินอีหลิน

“อีหลิน ทำไมแม้แต่คุณลุงของเธอก็จำไม่ได้เสียแล้วล่ะ?”

“คุณลุง?”

“ก็ถูก ตอนนั้นเธอยังเด็ก จะจำฉันไม่ได้ก็ถูกแล้ว”

ฉินอีหลินมองพินิจคนที่เรียกตัวเองว่าคุณลุงตรงหน้า แล้วก็พบว่าเขาเหมือนพ่อของตัวเองมากจริงๆ เขามีนิสัยคล้ายหลงเซี่ยวเทียนมาก ทั้งสองคนให้ความรู้สึกเย็นชาเหมือนกันหมด

“พ่อบ้าน พาเด็กๆ สองคนนี้ไปก่อน ฉันจะคุยกับอีหลินดีๆ”

แล้วก็มีชายชราผมหงอกเต็มศีรษะเดินออกมาจากด้านหลังของคุณลุงหลง ก่อนหน้านี้ฉินอีหลินไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลย ตอนเขาออกมาจึงทำให้ฉินอีหลินตกอกตกใจ เด็กๆ ทั้งสองคนกลับถูกพ่อบ้านพาตัวออกไปราวกับว่าเชื่อฟังมาก

ฉินอีหลินอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมา เพราะว่าพ่อบ้านพาตัวเด็กๆ เดินออกไปจากสายตาของฉินอีหลินแล้ว ฉินอีหลินจึงเงยหน้าจ้องคุณลุงหลง

“ฉันเอาเด็กๆ ไปขายทิ้งได้นะ!” คุณลุงหลงหัวเราะแกมด่ากล่าว

จริงๆแล้วตั้งแต่ตอนที่คุณลุงหลงบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของหลงเซี่ยวเทียน ฉินอีหลินก็รู้สึกได้ว่าคนคนนี้จะไม่ทำร้ายตนเอง คุณลุงหลง เผยให้เห็นกลิ่นอายจางๆ ของคนถ่อมตัวเข้ากับคนอื่นง่ายขนาดนั้น จะมาทำร้ายตนเองได้อย่างไร

คุณลุงหลงเดินนำฉินอีหลินเข้าไปยังเรือนด้านใน เดินผ่านห้องโถงใหญ่ของเรือนไป ก็มีป่าไผ่เล็กๆ แห่งหนึ่ง ด้านในป่าไผ่มีพื้นที่โล่งๆ อยู่ด้วย คุณลุงหลงพาฉินอีหลินเดินเข้าไป ในลานโล่งๆ ตรงนั้นมีโต๊ะหินตั้งอยู่หนึ่งตัว ข้างๆ โต๊ะหินมีเก้าอี้หินอีกสองตัว

คุณลุงหลงนั่งลง แล้วสั่งให้ฉินอีหลินนั่งด้วย ฉินอีหลินนั่งลง แล้วค้นพบว่าป่าไผ่ผืนนี้กว้างมาก อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยังไม่ไม่เห็นขอบเขตของป่านี้เลย

คุณลุงหลงมองออกว่าฉินอีหลินค่อนข้างกังวลเรื่องลูกๆ ก็ออกปากบอกเธอ “วางใจเถอะ คุณลุงฟู๋จะดูแลเด็กๆ เป็นอย่างดี เวลานั้นพ่อเธอกับฉัน ก็มีคุณลุงฟู๋นี่แหละที่คอยเลี้ยงดูจนโต”

คุณลุงฟู๋ที่คุณลุงหลงพูดถึง ดูเหมือนว่าจะเป็นพ่อบ้านชราคนนั้น ดูไม่ออกเลยว่าพ่อบ้านอยู่กับตระกูลหลงมานานมากขนาดนี้แล้ว

“อีหลินอ่า วันนี้ที่เชิญเธอมาที่นี่ ฉันเองก็ไม่มีทางเลือก เรื่องบางเรื่องฉันก็ทำได้แค่นี้ เธอเต็มใจฟังคุณลุงอธิบายหรือเปล่า?”

ในใจของฉินอีหลินคิด ไม่ว่าอย่างไร ชายตรงหน้าก็ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเธอจริงๆ เขาจะไม่ทำร้ายตนเอง จากนั้นเธอก็พยักหน้า

“อีหลินอ่า พริบตาเดียวก็ผ่านมา 12 ปีแล้ว ฉันยังจำเรื่องตอนนั้นที่พ่อของเธอทำเพื่อแม่ของเธอได้ เขาไม่ลังเลที่จะไปจากตระกูลหลง ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของเธอ พ่อของเธอจะไปจากตระกูลได้อย่างราบรื่นขนาดนั้นได้ยังไง”

คุณลุงหลงชะงักไปครู่หนึ่ง นัยน์ตามองความว่างเปล่าและหยุดค้างเล็กน้อย

“พ่อของเธอยังสบายดีใช่ไหม?” พูดสิ่งที่ตนเองอยากพูดมาตลอดหลายปี สุดท้ายคุณลุงหลงก็ถอนหายใจออกมา ยังไงก็เป็นสองพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกัน ไม่ได้พบเจอกับถึง 12 ปี มันน่าทอดถอนใจขนาดไหน

“คุณพ่อ ท่านยังสบายดีค่ะ เป็นเพราะตระกูลหลง เลยไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา”

“อย่างนั้นก็ดี อย่างนั้นก็ดี” คุณลุงหลงถอนหายใจอย่างหดหู่ใจ

“ใช่แล้ว เด็กสองคนเมื่อกี้นี้เป็นลูกของเธอหรือ?”

“อืม ใช่ค่ะ!”

“คุณลุงฟู๋ พาเด็กสองคนนั้นมา” คุณลุงหลงกล่าวอย่างตื่นเต้น หลานชายหลานสาวของหลงเซี่ยวเทียนก็ถือเป็นหลานชายหลานสาวของตนเหมือนกันไม่ใช่หรือไง

หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนเดินพูดคุยหัวเราะคิกคักมากับคุณลุงฟู๋ คุณลุงหลงต้อนรับเด็กๆ ขึ้นมา

“เด็กๆ รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นอะไรกับพวกเธอ?” เขาหันไปหาเด็กๆ พูดกล่าวด้วยท่าทางอ่อนโยน

“สวัสดีครับคุณปู่!”

คุณลุงหลงได้ยินก็ดีใจเป็นอย่างมาก แต่ในใจฉินอีหลินกลับรู้สึกต่างออกไป ตนไม่ได้บอกพวกเขาเลยว่านี่คือใคร พวกเขารู้ได้ยังไงกันว่านี่คือคุณปู่ใหญ่ จากนั้นเธอก็เหลือบไปมองคุณลุงฟู๋ ก็พบว่าคุณลุงฟู๋กำลังยิ้มตาหยีมองเธออยู่เหมือนกัน นี่ทำให้เธออดรู้สึกนับถือความสามารถของคุณลุงฟู๋ไม่ได้

คุณลุงหลงหยอกล้อกับเด็กๆ อยู่พักหนึ่ง ก็ให้คุณลุงฟู๋พาเด็กๆ ลงไปก่อน

“อีหลิน ครั้งนี้เรียกเธอมา เป็นเพราะนิสัยของพ่อเธอที่เธอก็รู้ ถ้าเกิดฉันเชิญเขามา เขาคงไม่เห็นด้วยแน่ๆ เพราะอย่างนั้นฉันเลยใช้ประโยชน์จากเธอเรียกให้เขามา”

“อีหลินเข้าใจค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณลุงคะ คราวนี้คุณเรียกคุณพ่อกลับมาที่ตระกูลเพราะมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ?”

คุณลุงหลงถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพูดยาวๆ “คุณลุงเองก็จะไม่ปิดบังเธอ เธอมองร่างกายของคุณลุงแล้วคงมองไม่ออก จริงๆ แล้วฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายเมื่อนานมาแล้ว เพียงแค่ใช้ความสามารถของตระกูลหลงมาหยุดยั้งเรื่องอาการป่วยนี้ แต่ ณ ตอนนี้ตระกูลหลงที่ยิ่งใหญ่ก็ปกป้องฉันไม่ได้แล้ว ดังนั้น ก่อนฉันจะจากไป ฉันจะต้องพบพ่อของเธอให้ได้ ตระกูลหลงจะขาดผู้นำตระกูลไม่ได้แม้แต่วันเดียว หลังจากฉันจากไป ตำแหน่งผู้นำตระกูลหลงจะต้องเป็นเขามารับช่วงต่อ”

ฉินอีหลินไม่ว่ายังไง ก็คิดไม่ถึงเลยว่าคุณลุงหลงที่ดูแข็งแรงขนาดนี้ กลับเป็นโรคที่รักษาไม่หายได้ โลกเราช่างไม่แน่นอนจริงๆ

“คุณลุงคะ ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ หรือคะ?”

“เธอคิดว่ายังมีวิธีที่ตระกูลหลงคิดไม่ถึงอยู่อีกหรือ?”

เพียงประโยคเดียวของคุณลุงหลงก็ทำให้ฉินอีหลินไร้ซึ่งคำที่จะพูดตอบ แม้แต่ตระกูลหลงที่แข็งแกร่งยังไร้หนทาง ดูท่าแล้ว โรคนี้คงจะหมดหนทางแล้วจริงๆ

“อีหลินอา เธอก็รู้นิสัยของพ่อเธอ อีกทั้งตอนนั้นตระกูลหลงยังทำเรื่องที่ทำร้ายเขาขนาดนั้นไว้ ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็คงไม่มีผล เพราะฉะนั้นเธอต้องช่วยฉันโน้มน้าวพ่อของเธอดีๆ เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้ว”

มองดูสีหน้าที่อ้างว้างของคุณลุงหลง ในใจของฉินอีหลินรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“คุณลุง คุณวางใจเถอะค่ะ คุณพ่อไม่ใช่คนใจร้ายใจดำขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นตอนนั้นเขาขงไม่ยอมออกจากตระกูลเพื่อคุณแม่หรอกค่ะ ฉันเชื่อว่าคุณพ่อจะให้อภัยให้คุณ”

“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ถึงยังไงตอนนั้นความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นมากเกินไป” คุณลุงหลงกล่าวอย่างทอดถอนใจ

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท