บทที่ 284 ภรรยาที่ใส่ใจและจิตใจงดงาม
ลี่โม่อวี่จ้องมองฉินอีหลิน ฉินอีหลินเองก็จ้องมองลี่โม่อวี่อยู่เช่นกัน สองสามีภรรยามองตาก็รู้ความคิดของอีกฝ่ายแล้ว เพียงแต่คุณลุงหลงและหลงเซี่ยวเทียนยังอยู่ข้างๆ ทั้งสองก็เกรงใจถ้าพูดอะไรออกมา
หลงเซี่ยวเทียนอดยิ้มไม่ได้ “หนุ่มสาวอย่างพวกเธอสองคนก็ออกไปเดินเล่นเถอะ อย่าเดินไปไกลล่ะ คนสูงวัยอย่างพวกฉันสองคนก็จะระลึกอดีตดีๆกัน”
ลี่โม่อวี่มองหลงเซี่ยวเทียนอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นก็จูงมืออีหลินและลูกๆ สองคนเดินเล่นกันช้าๆ อยู่ในป่าไผ่ของบ้านตระกูลหลง
พูดจริงๆ ตั้งแต่ลูกๆ ทั้งสองคนมาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองหลวง ครอบครัวพวกเขาสี่คนได้อยู่ร่วมกันแบบนี้น้อยมาก มือขวาของลี่โม่อวี่อุ้มหลงจิ่นเซวียนไว้ มือขวาจับมือของฉินอีหลิน มือขวาของฉินอีหลินเองก็จูงมือหลงหมิงเจ๋อ หลงหมิงเจ๋อก็ยังคงทำหน้าแบบเด็กที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่
“อีหลิน ครั้งนี้ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน เป็นเพราะชั้นไม่ดีเอง” ลี่โม่อวี่กล่าว
“ไม่! ครั้งนี้ฉันไม่โทษคุณ ฉันรู้ว่าคุณเองก็ยุ่งมาก คุณดูแลตัวเองดีๆ ก็พอแล้ว ลูกๆฉันดูแลได้ค่ะ”
ระหว่างสามีภรรยาสิ่งที่สำคัญกว่าไม่ใช่การเชื่อใจและการให้อภัยกันหรอกหรือ สำหรับฉินอีหลิน ภรรยาที่ทั้งใส่ใจและจิตใจงดงามขนาดนี้ ลี่โม่อวี่ก็รู้สึกว่าตนช่างมีความสุขจริงๆ อีกทั้งตนยังมีลูกๆ ที่น่ารักตั้งสองคนอีก ลี่โม่อวี่ชั่วขณะหนึ่งก็รู้สึกว่า ถ้าหยุดเวลาตอนนี้ได้จะดีขนาดไหนกันนะ!
ส่วนกลางของป่าไผ่เป็นแม่น้ำไม่เล็กไม่ใหญ่มากสายหนึ่ง ตรงกลางของแม่น้ำยังมีภูเขาปลอมอยู่อีกหนึ่งลูก ลี่โม่อวี่จูงฉินอีหลินมานั่งตรงริมแม่น้ำ น้ำใสแจ๋วจนเห็นพื้นของแม่น้ำนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจากน้ำที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ มองดูแล้วช่างงดงามเป็นพิเศษ
ลูกๆ ทั้งสองคนเล่นซุกซนกันอยู่ด้านหลังของลี่โม่อวี่และฉินอีหลิน ฉินอีหลินเอียงไปซบตัวเองลงกับลี่โม่อวี่ ภาพภายในระหว่างนั้น ก็ปรากฏเป็นภาพฉากที่เงียบและสงบสุขฉากหนึ่ง
“โม่อวี่ รับปากฉันสิ หลังจากนี้ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรก็จะเล่าให้ฉันฟังด้วย โอเคไหม? ไม่ต้องแบกรับมันไว้แค่คนเดียวอีก” ฉินอีหลินกล่าว
“อืม วางใจเถอะอีหลิน จากนี้ฉันจะดูแลตัวเองดีๆ แน่นอน แล้วก็คุณกับลูกๆ ด้วย ฉันจะต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครกล้าทำร้ายคุณและลูกๆ” ลี่โม่อวี่กล่าวและมองไปยังพระอาทิตย์ใกล้ตกดินที่อยู่ไกลออกไป
แสงอาทิตย์อัสดงที่สาดส่องลงไปบนทะเลสาบยิ่งเพิ่มความงดงามให้กับภาพจนน่าประทับใจ ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินก็ตัวแนบชิดกันอยู่อย่างนั้น ไม่ขยับไปไหน เพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบในยามนี้
หลงเซี่ยวเทียนและคุณลุงหลงมองเด็กๆ ที่เดินออกไปไกล คุณลุงหลงก็พูดกับหลงเซี่ยวเทียน “น้องสอง ไปดื่มกับฉันสักแก้วสองแก้วสิ พี่ใหญ่มีเรื่องต้องคุยกับนาย!”
“ได้สิ! พี่ใหญ่!” หลงเซี่ยวเทียนเองไม่ได้พบเจอคุณลุงหลงในรอบ 20 ปี ในใจก็รู้สึกหดหู่ไม่น้อย เวลาแบบนี้ผู้ชายก็ควรมาดื่มเหล้าระบายความรู้สึกกันหน่อย
สองคนเดินอืดอาดตรงไปยังห้องหนังสือของบ้านตระกูลหลง เงาที่ตกกระทบจากแสงอาทิตย์อัสดงสาดส่องของชายทั้งสองพาดยาวปรากฏภาพที่ดูยิ่งใหญ่ ทำเอาคนเห็นเคารพเลื่อมใส
“น้องสอง อยากรู้ไหมว่าหลังจากนายไปตระกูลเราเกิดอะไรขึ้นบ้าง?” คุณลุงหลงดื่มเหล้าดีกรีแรงในแก้วของตัวเองหมดในทีเดียว และพูดกับหลงเซี่ยวเทียน
“พี่ใหญ่ ฉันตัดขาดจากตระกูลแล้ว เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องของตระกูลอีกแล้วจริงๆ พี่ก็ไม่ต้องบอกฉันดีกว่า!” หลงเซี่ยวเทียนพูดกล่าว ตอนนั้นตระกูลทำกับเขาขนาดนั้น เขาเองความรู้สึกขัดแย้งกับตระกูลไม่มากก็น้อย
“วันนี้ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะต้องพูดสิ่งที่ในใจฉันอยากจะบอกกับนายให้ได้ ก่อนหน้านั้นที่จับตัวอีหลินมาแบบนี้ ก็เพราะอยากให้เธอบอกกับนาย ตอนนี้นายมาแล้วฉันก็เลยคิดว่าฉันบอกนายด้วยตัวเองจะดีกว่า!” คุณลุงหลงยกเหล้าดื่มอีกแก้ว
“ตอนนั้นนายก็รู้ว่านายเป็นคนโดนเด่น พ่อเองตอนนั้นก็พูดว่านายจะต้องได้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปแน่ๆ แต่เพราะว่าความอิจฉาของคนอื่นที่มีต่อนาย การแก่งแย่งกันระหว่างสายเลือดมันดุเดือดเกินไปจริงๆ พ่อกับฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไปของนาย แต่ว่ามักจะมีบางคนต้องการจะทำลายมันเสมอ เรื่องที่เกิดขึ้นกับอานหน้าในตอนนั้น ฉันกับพ่อก็รู้อยู่แล้วว่านายจะต้องก่อเรื่อง พวกเรากลัวว่านายจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จนทำเรื่องอะไรที่กระทบไปถึงอนาคตของนาย ถึงฉันจะคิดไว้อยู่แล้ว แต่ก็ยังควบคุมนายไว้ไม่ได้ คนเลือดร้อนอย่างนายยังคงเลือกที่จะตัดขาดจากตระกูล”
คุณลุงหลงพูดจบในทีเดียว เผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจออกมา
ถ้าตอนนั้นสมาชิกคนอื่นในตระกูลไม่ได้วางแผนร้ายลอบกัดหลงเซี่ยวเทียนล่ะก็ บางทีตอนนี้ตำแหน่งผู้นำตระกูลก็ต้องเป็นของหลงเซี่ยวเทียนไปแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่ไม่ต้องพูดเยอะแล้ว ตอนนั้นพวกคนที่ร่วมโจมตีอานหน้า ไม่ช้าก็เร็วฉันจะให้พวกมันชดใช้เอง เรื่องนี้ไม่โทษพี่กับพ่อ” หลงเซี่ยวเทียนก็แค้นมาก เขาแค้นคนพวกนั้นที่ลงมือกับอานหน้า เขาไม่คิดเลยว่าคนในตระกูลหลงเองก็ร่วมกับพวกนี้ด้วย เขาโกรธมากจนตัดสินใจแยกจากตระกูลหลงไป
ท้ายที่สุดก็เป็นตระกูลหลงที่ต้องขอโทษเขา
“น้องสอง ฉันรู้ว่าหลายปีมานี้นายเองก็ผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ เลย แต่ว่าพี่ใหญ่มีเรื่องบางอย่างอยากจะขอร้องนาย”
คุณลุงหลงเทเหล้าใส่แก้วอีกครั้ง แล้วก็เอ่ยปากต่อ “เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้ว ฉัน….”
“พี่ใหญ่ พี่พูดอะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้น พี่บอกฉันสิ!” หลงเซี่ยวเทียนได้ยินคุณลุงหลงพูด ก็กระวนกระวายถาม
“น้องสอง นายอย่ากระวนกระวายไป จริงๆ โรคนี้ก็อยู่กับฉันมาหลายปีแล้ว ใช้อำนาจของตระกูลหลงเก็บมันไว้มาตลอด แต่ตอนนี้เก็บมันไว้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ฉันอยากบอกกับนายก่อนจะจากไป ตำแหน่งผู้นำตระกูลหลงจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือคนอื่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต่อไปจะอันตรายแน่ ฉันพยายามคิดหาหนทางเรียกตัวนายมา เพราะอยากในนายไปที่ตระกูลเพื่อรับตำแหน่งต่อจากฉัน ดูแลตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้อีกครั้ง” คุณลุงหลงพูดจบในคราเดียว
เมื่อหลงเซี่ยวเทียนได้ยิน ก็ไม่พูดอะไรออกมาพักใหญ่ เขาไม่ใช่คนที่เยือกเย็นไร้ใจ ตอนแรกถ้าไม่มีพี่ใหญ่ของออกตัวถือหางให้ ไม่น่าว่าตอนนี้ตัวเขาเองก็อาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว เพราะอย่างนั้นบุญคุณที่พี่ใหญ่มีต่อเขา ชาตินี้ทั้งชาติหลงเซี่ยวเทียนก็ทดแทนให้ไม่หมด ตอนแรกทั้งตระกูลหลงตั้งตัวเป็นอริกับเขา พยายามคิดหาทางทั้งหมดมาใส่ร้ายเขา ก็มีเพียงพี่ใหญ่ที่คอยปกป้องเขาอย่างสุดกำลัง ให้เดา เขาคิดว่าอาการป่วยของพี่ใหญ่น่าจะมาจากตอนนั้น
“พี่ใหญ่ ขอฉันคิดก่อนนะ!” หลงเซี่ยวเทียนคิดใคร่ครวญอยู่นานมากก่อนตอบแบบนี้ไป
“อืม พี่ใหญ่จะไม่ฝืนใจนาย พี่ใหญ่แค่หวังว่านายรับหน้าที่ดูภารกิจอันหนักอึ้งในการพัฒนาตระกูลหลงนี้ อย่าปล่อยให้ตระกูลหลงถูกทำลายลงในรุ่นของพวกเรา ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษตระกูลหลง”
“เฮ้อ……พี่ใหญ่ ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ!”
หลงเซี่ยวเทียนรู้สึกว่าการเกิดในตระกูลที่ใหญ่โตก็มีความน่าโศกเศร้าของมัน มักจะต้องพร้อมและอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทั้งหมดของตระกูลเสมอ นี่ก็คือความโศกเศร้าของตระกูลใหญ่
สองคนพี่น้องไม่พูดอะไรมากมายอีก แค่ดื่มเหล้าในแก้วของตัวเองเงียบๆ อย่างนี้ แก้วแล้วแก้วเล่า จนกระทั่งพ่อบ้านมาเคาะประตูห้องหนังสือเบาๆ พูดกล่าว “ท่านผู้นำตระกูล มื้อเย็นเตรียมพร้อมแล้วครับ!”
หลงเซี่ยวเทียนถึงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับคุณลุงหลง เพียงแต่ตอนที่เดินออกจากห้อง สีหน้าของหลงเซี่ยวเทียนอึมครึมเป็นอย่างมาก ทั้งตัวแผ่กลิ่นอายไอเย็นยะเยือกจัดออกมา ดูท่าหลงเซี่ยวเทียนจะโกรธจริงๆ แล้ว!
มื้อเย็น ลี่โม่อวี่รีบพาฉินอีหลินและลูกๆ มาทานข้าว ผู้ใหญ่สี่คนกับเด็กอีกสองคน กินข้าวกันอย่างไม่ครึกครื้นเลย