บทที่ 292 ถ้าเขาอยู่ด้วยก็คงดี
“ซือเซี่ย ที่มาหานายครั้งนี้มีเรื่องอยากจะขอให้นายช่วยหน่อย”
“โอ้? ลี่โม่อวี่ ขอร้องคนเป็นด้วย?”ซือเซี่ยน้ำเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อย
“ฉันอยากให้นายช่วยสอดส่องดูแลตระกูลหลงเป็นพิเศษหน่อย ถึงยังไงบ้านซือของพวกนายก็เป็นตระกูลที่เก่าแก่”
ถ้าเกิดเป็นเรื่องของตนเอง เขาไม่มีทางขอช่วยคนอื่นแน่นอน แต่เพื่อฉินอีหลินแล้ว เขาเต็มใจ
ซือเซี่ยได้ฟังแบบนั้น ก็พยักหน้าไม่ปริปากพูดอะไร ลี่โม่อวี่ในตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปสอบถามเรื่องของตระกูลหลงได้จริงๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านซือกับตระกูลหลง เขาที่มีสถานะเป็นคุณชายของบ้านซือ ก็สามารถที่จะติดต่อกับตระกูลหลงได้
“ฉันรับปาก ถ้ามีเรื่องอะไรจะรีบบอกให้นายทราบทันที”
ลีโม่อวี่หันมามองซือเซี่ย แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็สามารถเห็นความรู้สึกซาบซึ้งของเขาได้อย่างชัดเจน
หลงว่านชิงระบายความอัดอั้นตันใจออกมา เธออาละวาดปัดข้าวของในห้องไม่หยุด ในห้องรับแขกของตระกูลหลงที่อยู่ข้างนอก
หวงจิ้งฝูแม่ของหลงว่านชิงได้ยินเสียงดังมาจากในห้องลูกสาว ก็รีบขึ้นมาเปิดประตูห้องของหลงว่านชิง
หลงว่านชิงนึกว่าคนรับใช้เข้ามา เธอที่กำลังโกรธเดือดดาล หยิบหมอนขึ้นมาแล้วซัดไปตรงประตูที่กำลังจะเปิดออกมา หวงจิ้งฝูถูกหมอนซัดเข้าไปเต็มๆ เธอขมวดคิ้วมองหลงว่านชิงที่ทั้งตัวสวมใส่แค่ชุดชั้นใน กำลังนั่งเอาสองมือกอดเข่าอยู่บนเตียง
“เป็นอะไรไป ว่านชิง?” หวงจิ้งฝูถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
หลงว่านชิงพอเห็นว่าเป็นแม่ของตนเองที่เข้ามา เธอก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจขึ้นไปอีก โผเข้าไปในอ้อมกอดของหวงจิ้งฝูร้องห่มร้องไห้ออกมาทันที
“เป็นอะไรๆ โอ๋ลูกสาวแม่อย่าร้องนะ”หวงจิ้งฝูเห็นสีหน้าท่าทางของลูกสาวที่ดูผิดปกติ ก็เลยรีบพูดปลอบเธอด้วยความกระวนกระวายใจ
หลงว่านชิงเงียบเสียงร้อง แล้วบอกเรื่องที่เจอเข้ากับฉินอีหลินเมื่อตะกี้ แถมยังถูกเธอดึงกระชากชุดจนหลุดอีกให้หวงจิ้งฝูฟัง
ถึงขนาดที่พูดใส่ไฟให้ฉินอีหลินดูไม่ดี สรุปสั้นๆก็คือพูดให้ตนเองเหมือนถูกเอาเปรียบ แล้วฉินอีหลินจงใจที่จะทำให้ชุดของเธอหลุด
หวงจิ้งฝูลูบหัวของหลงว่านชิงด้วยความรักและเอ็นดู ขมวดคิ้วครุ่นคิด“ฉินอีหลิน? ใช่เด็กที่มากับหลงเซี่ยวเทียนคนนั้นหรือเปล่า?”
“อื้อ นังชั้นต่ำคนนั้นแหละค่ะ เธอเป็นลูกสาวของหลงเซี่ยวเทียน”
หวงจิ้งฝูครุ่นคิดอยู่เงียบๆ เหมือนกับจะเคยเจอฉินอีหลินมาก่อน แต่จำไม่ได้แล้วว่าเคยเจอเธอที่ไหน
“แม่ จะต้องแก้แค้นให้หนูนะ จะให้หนูต้องอับอายเปล่าๆแบบนี้ไม่ได้นะ”หลงว่านชิงพูดออกมาทั้งน้ำหูน้ำตาที่ไหลอยู่ ทำให้ตัวเองดูน่าสงสารสุดๆ
“อื้อ ลูกวางใจเถอะนะ แม่จะเรียกความยุติธรรมคืนมาให้ลูกเอง”จริงๆแล้ว พอได้ฟังหลงว่านชิงพูดขนาดนี้ หวงจิ้งฝูก็รู้สึกว่าฉินอีหลินที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลยก็เป็นคนเจ้าเล่ห์อยู่เหมือนกัน
หลงว่านชิงสำคัญกับหวงจิ้งฝูมาก ปกติแล้วเธอกับหลงเจี้ยนกลัวว่าหลงว่านชิงจะรู้สึกน้อยใจ ทั้งสองคนจึงเอาแต่ประคบประหงมเอาใจลูกสาวคนนี้สุดๆ ทำให้หลงว่านชิงมีนิสัยหยิ่งผยองเอาแต่ใจ
พอได้ยินคำรับปากของหวงจิ้งฝู หลงว่านชิงมุมปากก็เผยรอยยิ้มได้ดั่งใจ
ในเมื่อฉินอีหลินทำให้เธอต้องอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าสาธารณะ เธอก็จะตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำให้ฉินอีหลินได้ลิ้มรสของความอับอายเช่นเดียวกันกับเธอที่ได้รับ
ฉินอีหลินที่ไม่รู้อะไรด้วย หลังจากที่เธอทานอาหารเย็นเสร็จก็มาพูดคุยกับหลงหลิงที่ห้องของหลงหลิง หลงหลิงที่วางแผนจะพาฉินอีหลินออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่เนื่องจากฉินอีหลินข้อร้องครั้งแล้วครั้งเล่า เธอรับปากับฉินอีหลินแล้วว่าจะเชื่อฟังเธอ จากนั้นฉินอีหลินก็พาหลงหลิงไปที่ห้องของเธอ
ตั้งแต่เห็นจังหวะที่ฉินอีหลินกระชากเสื้อของหลงว่านชิงขาดจนร่วงหล่นลงกับตาของตัวเอง หลงหลิงก็เริ่มรู้สึกนับถือฉินอีหลินอยู่ภายในใจ เชื่อฟังคำพูดของฉินอีหลิน เหมือนกับว่าเป็นสาวใช้ที่คอยเดินตามขนาบข้างซ้ายขวาของฉินอีหลิน
พอมาถึงห้องส่วนตัวของหลงหลิง หลงหลิงรีบลากเก้าอี้มาให้กับฉินอีหลิน ปกติเก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ที่หลงหลิงชอบนั่งบ่อยๆ แต่พอฉินอีหลินมา หลงหลิงก็ยอมย้ายไปให้เธอนั่งแทน
“อีหลิน นั่งก่อนสิ เดี๋ยวฉันไปเอากาแฟมาให้”
มองท่าทางที่ดูวุ่นไปวุ่นมาของหลงหลิง ฉินอีหลินไม่ได้พูดอะไร เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรด้วยเหมือนกัน หลังจากที่เธอทำการสั่งสอน หลงว่านชิงไป หลงหลิงก็เหมือนกับยอมจำนนให้กับเธอซะอย่างนั้น ดูเคารพศรัทธาตนเองสุดๆ
“หลิงเอ๋อ ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ คุณนั่งลงก่อน ฉันมีหลายเรื่องที่อยากจะถามคุณ”
“อ้อ!ได้เลย คุณจะถามอะไรก็ถามมาเลย ถ้าฉันรู้ฉันจะบอกหมดเลย”
หลงหลิงรีบหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่ แล้วมานั่งข้างๆฉินอีหลิน แววตาเผยให้เห็นความเคารพศรัทธา นี่มันทำให้ฉินอีหลินรู้สึกอึดอัดจริงๆ
จริงๆแล้วตั้งแต่ฉินอีหลินมาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลงมันก็ผ่านมาสองวันแล้ว สองวันมานี้ล้วนแต่มีเรื่องเกิดขึ้นในตระกูลหลงอย่างไม่หยุดไม่หย่อน เธอเริ่มเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของตระกูลหลงบ้างแล้ว แต่มีเรื่องที่ยังไม่ค่อยแจ่มแจ้งเท่าไรอยู่ เธอจึงอยากที่จะถามหลงหลิงสักหน่อย
“ฉันถามหน่อยสิ ว่าตอนนี้ภายในตระกูลหลงเชื้อสายหลักมีอำนาจมากกว่า หรือว่าเชื้อสายรองมีอำนาจมากกว่าเหรอ?”
หลงหลิงตอบไปอย่างไม่ต้องคิด“จริงๆแล้วตระกูลหลงในตอนนี้ เชื้อสายหลักซึ่งนำโดยคุณพ่อของฉันดูเหมือนจะเป็นผู้มีอำนาจมากกว่า แต่ความเป็นจริงแล้ว พวกของคุณพ่อมีอำนาจแค่ในนามเท่านั้น หลังจากที่หัวหน้าตระกูลคนก่อนสละอำนาจลง เหล่าคนของเชื้อสายรองก็เริ่มให้ความสนใจกับธุรกิจของตระกูลเป็นพิเศษ”
เธอหยุดไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นต่อด้วยความช้ำใจ“พวกเขาได้เปรียบตรงที่คนเยอะกว่า แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตำแหน่งชั้นสูงของตระกูลหลง แต่พวกเขาก็อาศัยจังหวะที่พวกเราไม่ทันได้ตั้งตัวเข้ามาควบคุมธุรกิจส่วนใหญ่ของตระกูลหลง นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่คุณพ่อปวดหัวสุดๆ”หลงหลิงพูดจบด้วยความจำใจ
พอได้ยินเรื่องพวกนี้ที่หลงหลิงพูดมา ฉินอีหลินก็ตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าจะต้องสืบหาข้อมูลให้ได้ภายในช่วงสองสามวันนี้ เธอครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้น“ถ้าอย่างนั้นพวกคนของเชื้อสายรองมีใครเป็นผู้นำเหรอ?”
“ก็คือพ่อของหลงว่านชิงที่คุณเจอวันนี้ไง แล้วก็มีหลงเหรินน้องชายของหลงเจี้ยน คนของเชื้อสายรองก็มีพวกเขาสองคนเป็นผู้นำ ยิ่งไปกว่านั้นคุณก็ต้องระวังหวงจิ้งฝูแม่ของหลงว่านชิงให้ดีๆด้วยล่ะ ถ้าเธอรู้ว่าวันนี้คุณไปทำอะไรลูกสาวของเธอล่ะก็ สาวแก่ที่มีจิตใจแบบเธอคนนั้น จะต้องหาทางแก้แค้นคุณอย่างแน่นอน”หลงหลิงคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าก็เผยให้เห็นความรู้สึกกังวลไม่น้อย
ฉินอีหลินได้ฟังแบบนี้ก็ครุ่นคิด ดูๆแล้วตนเองคงจะดูถูกความสามารถของพวกคนเชื้อสายรองเกินไป แค่หวงจิ้งฝูคนเดียวก็ทำให้หลงหลิงต้องรู้สึกกลัวขนาดนี้ได้ แล้วนี่มีทั้งครอบครัว ดูแล้วสถานการณ์ของตระกูลหลงย่ำแย่มากๆ
ฉินอีหลินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็เริ่มครุ่นคิด หลงหลิงที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้ทำลายสมาธิของเธอ ฉินอีหลินเข้าใจแล้ว ไหนๆตนเองก็มาถึงแล้ว ยังไงก็ต้องสกัดกั้นพวกคนของเชื้อสายรองให้ได้
แต่ว่าทางฝั่งนั้นจะหาวิธีอะไรมาแก้แค้นตนเอง มันทำให้เธอปวดหัวมากจริงๆ พอจากลี่โม่อวี่มา เธอก็พบว่าช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับลี่โม่อวี่ มันมีความสุขมากขนาดไหน
ถ้าลี่โม่อวี่อยู่ด้วยก็คงดีสิ
พอออกมาจากห้องของหลงหลิง ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ฉินอีหลินที่ครุ่นคิดมาตลอดช่วงค่ำก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย
กลับมาถึงห้อง เธอนอนแช่ลงในอ่างอาบน้ำ ผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเองสักหน่อย เวลามีเรื่องยุ่งยากหาวิธีแก้ไม่ได้ฉินอีหลินชอบที่จะแช่อยู่ในน้ำ มันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย และทำให้เธอรู้สึกมีกำลังในการคิดหาวิธีว่าจะแก้ปัญหานี้ต่อ
ไม่ว่ายังไงสิ่งที่ฉินอีหลินไม่รู้ก็คือ แผนการที่หวงจิ้งฝูจะจัดการกับเธอมันกำลังเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆแล้ว