ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 290

ตอนที่ 290

บทที่ 290 จากนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง

ฉินอีหลินถือโทรศัพท์คุยกับหลงจิ่นเซวียน เพียงเพราะว่าเด็กๆ คิดถึงแม่ ก็เลยป่วนจนได้เบอร์โทรมา

หลงหมิงเจ๋อแย่งโทรศัพท์ในมือของหลงจิ่นเซวียนมา “แม่ครับ แม่ห้ามบอกพ่อเด็ดขาดว่าผมแอบดักฟังพ่อคุยโทรศัพท์ ไม่อย่างนั้นเขาต้องยึดคอมพิวเตอร์ผมไปแน่ๆ”

ก่อนหน้านี้ไม่นานหลงหมิงเจ๋อดื้อดึงร้องขอให้ลี่โม่อวี่ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ลี่โม่อวี่นึกว่าเขาอยากเล่นเกมเลยซื้อให้เขาเครื่องหนึ่ง ลี่โม่อวี่ก็คิดไม่ถึงว่าหลงหมิงเจ๋อจะมีฝีมือด้านคอมพิวเตอร์สูงขนาดนี้

“โอเค แม่จะไม่บอกพ่อ แต่ว่าหลังจากนี้แม่ก็จะดักฟังพ่อคุยโทรศัพท์เหมือนกัน โอเคไหม?” ฉินอีหลินใช้เล่ห์เหลี่ยมหยอกผ่านสาย

ลี่โม่อวี่ที่น่าสงสารไม่รู้ว่าตนเองถูกลูกๆ และภรรยาดักฟังด้วยเหตุการณ์ฉะนี้

ฉินอีหลินพูดคุยกับลูกๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็วางสายโทรศัพท์ วันนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ เธอจึงหลับไปอย่างรวดเร็ว

“อีหลิน! อีหลิน! ตื่นได้แล้ว!” หลงหลิงมาเคาะประตูห้องของฉินอีหลินตั้งแต่เช้า ฉินอีหลินลากร่างกายที่เหนื่อยล้าของตัวเองไปเปิดประตูห้อง

จากนั้นก็เจอหลงหลิงพุ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู จูงมือฉินอีหลิน แล้วแกว่งไปมาไม่หยุด “อีหลิน ไปเที่ยนเป็นเพื่อนฉันเถอะ” เธอทำหน้าอ้อนวอนมองฉินอีหลิน

ฉินอีหลินคลึงตาคู่ที่สะลึมสะลืออยู่ “อย่างนั้นเธอรอฉันจัดการตัวเองเสร็จก่อน” ไม่ว่าเธอจะไม่อยากไปแค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องผูกสัมพันธ์กับคนตระกูลดีๆ หลงก่อน จากนั้นก็หมุนตัวไปอาบน้ำ

รอจนฉินอีหลินเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกายสบายๆ เสร็จแล้วเดินออกจากห้องพร้อมกับหลงหลิง ตอนพวกเธอลงจากบันได ตรงหน้าก็มีผู้หญิงแต่งตัวสวยหยาดเยิ้ม อายุใกล้ดูเคียงกับพวกเธอเดินมา หญิงสาวเมื่อเห็นหลงหลิง ก็ร้อง “เหอะ” อย่างเย็นชาออกมาหนึ่งที หลงหลิงมองเธอด้วยสายตารังเกียจเป็นอย่างมาก แล้วก็เดินผ่านไปอย่างงี้

เดินมาได้ไม่ไกล หลงหลิงก็พูดกับฉินอีหลิน “อีหลิน ยัยผู้หญิงหยิ่งๆ เมื่อกี้ก็คือลูกสาวของหลงเจี้ยน ตอนเธอยังไม่มาทั้งบ้านตระกูลหลงก็มีฉันกับยัยนั่นสองคน ฉันยิ่งไม่ชอบเห็นยัยนั่น เฮ้อ เพราะอย่างนั้นฉันเลยเบื่อมากๆ ทุกวันเลย”

“เธอชื่ออะไรเหรอ?”

“หลงว่านชิง!”

“อีหลิน ไม่พูดถึงยัยนั่นแล้ว ตอนนี้เธอมาก็มีคนอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ฉันดีใจมากเลย!” หลงหลิงกล่าวต่อ

“โอเค! จากนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง!” ฉินอีหลินกล่าวรับคำ

เมื่อใกล้จะเที่ยง ฉินอีหลินและหลงหลิงก็กลับมาถึงตระกูลหลงจากข้างนอก กลับมาทันตระกูลหลงทานข้าวที่โถงอาหารพร้อมกันทั้งตระกูลพอดี หลังจากนั้นฉินอีหลินและหลงหลิงก็นั่งลง ก็พบหลงเสี่ยวเซิน หลงเซี่ยวเทียนและหลงเสี้ยวตี้สามคนคุยกันอย่างสนุกสนาน ฉินอีหลินทราบดี หลงเซี่ยวเทียนห่างจากตระกูลหลงมา 20ปีกลับมาที่ตระกูลหลงครั้งนี้ ก็เพื่อรับหน้าที่ผู้นำตระกูลต่อจากหลงเสี่ยวเซิน จากนั้นก็มีสายเลือดทั่วไปที่นำโดยหลงเจี้ยน อาจจะหาวิธีต่างๆ นานา มาคอยขัดขวางการรับช่วงต่อผู้นำตระกูลของหลงเซี่ยวเทียน

ฉินอีหลินเชื่อมั่นว่าตนเองจะจัดการปัญหาพวกนี้ในตระกูลหลงให้ได้ ตระกูลหลงจะต้องอยู่ในการควบคุมของคุณพ่อ

“อีหลิน วันนี้ไปเที่ยวกับหลิงเอ๋อมาสนุกไหม?” หลงเสี่ยวเซินเอ่ยถาม

“คุณลุงคะ หลิงเอ๋อพาฉันไปเที่ยวเล่นสนุกมากเลยค่ะ”

“อื้ม อย่างนั้นก็ดีแล้ว เธอกลับมาก็ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนเธอ จากนี้ก็มีหลิงเอ๋ออยู่ด้วยละกันนะ” หลงเสี่ยวเซินพูดขึ้นอีกครั้ง

หลงหลิงเห็นด้วยกับข้อตกลงของพ่อมาก แล้วพยักหน้าแรงๆ

หลงเซี่ยวเทียนที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ส่งสายตาห่วงใยไปให้กับฉินอีหลิน ฉินอีหลินก็ส่งยิ้มให้เขาเป็นเชิงว่าตนเองไม่เป็นอะไร

คนทั้งห้องโถงก็พึงพอใจกับมื้อกลางวันอย่างสุขสันต์ต่อ

“หมิงเจ๋อ พี่ดักฟังโทรศัพท์ของแม่ได้ไหม?” เด็กดื้อสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน หลงหมิงเจ๋อกำลังเคาะแป้นพิมพ์ไม่หยุด

“ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ฉันลองทำได้” หลงหมิงเจ๋อพูด จากนั้นก็เห็นมือเล็กๆ ของเขากดแป้นพิมพ์ต่อไม่หยุด ผ่านไปสิบนาที หลงหมิงเจ๋อหมุนตัวกลับมาพูดกับหลงจิ่นเซวียน “ได้แล้ว แต่ว่า เธอห้ามบอกใครเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ให้เธอคุยโทรศัพท์กับแม่”

หลงหมิงเจอพูดกับหลงจิ่นเซวียนด้วยน้ำเสียงสั่ง หลงจิ่นเซวียนพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง

ฉินอีหลินและลี่โม่อวี่คงคิดไม่ถึง ว่าตนเองจะถูกหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนดักฟังเสียอย่างนี้

แต่ว่าก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้มีสิทธิ์ในเครือข่ายเน็ตบ้านตัวเองสูงขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นดูจากระดับฝีมือของหลงหมิงเจ๋อแล้ว ก็ยังไม่สามารถปลดล็อกการตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ตได้

ลี่โม่อวี่มีไป๋หลางเป็นเพื่อนร่วมทางทำงานยุ่งอยู่ตลอดเช้า “ไป๋หลาง นายหาเวลาไปเรียนขับรถเถอะ ไม่อย่างนั้นให้ฉันที่เป็นพี่ใหญ่มาขับรถก็คงไม่ใช่เรื่อง”

จริงๆ แล้วลี่โม่อวี่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับการที่ตัวเองมาขับรถแล้วพาไป๋หลางไปด้วย เพียงแต่ว่าไป๋หลางนอกจากอยู่กับเขาทั้งวันก็ไม่มีเรื่องอื่นให้ทำ ให้ไป๋หลางไปเรียนขับรถหลังจากนี้เขาก็เดินทางไปไหนมาไหนได้

“ครับ พี่เจ๋” ไป๋หลางเองก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างนี้ไม่ค่อยเหมาะนัก

“ไป วันนี้ฉันจะพาไปดื่มซุปแกะ” วันนี้ลี่โม่อวี่อารมณ์ดี ทั้งยังอยากไปดื่มซุปแกะของร้านซุปแกะข้างทางที่ไม่ได้ไปมานานแล้ว

เมื่อได้ยินว่าดื่มซุปแกะ ไป๋หลางก็ตาลุกวาว ตั้งแต่ไป๋หลางออกจากวัดเส้าหลินมา พอออกศีล ก็วางใจอย่างถึงที่สุด เข้าสู้เส้นทางธุลีแดง ดื่มซุปแกะก็กลายมาเป็นความชอบปกติของเขาไปแล้ว

เพียงแต่ใจของไป๋หลางไม่เหมือนใคร คนอย่างลี่โม่อวี่ เขาก็มองไม่ออกเลยว่าจะชอบดื่มซุปแกะร้านเล็กๆ ข้างทาง ลี่โม่อวี่จอดรถที่หน้าประตูร้านซุปแกะ แล้วพาไป๋หลางเดินเข้าไป ก็พบว่าร้านซุปแกะที่ใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงโต๊ะเดียวที่มีคนนั่งอยู่สามคน โต๊ะอื่นนั้นว่างหมด

เถ้าแก่ร้านซุปแกะมองลี่โม่อวี่เดินเข้ามา ก็รีบเดินไปต้อนรับ “ขอโทษทีครับ วันนี้ร้านเราไม่เปิด พวกคุณไปที่อื่นเถอะครับ” เถ้าแก่พูดจบ ก็มองชายร่างใหญ่สามคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างจนปัญญา

ลี่โม่อวี่เมื่อเห็นท่าทางของเถ้าแก่ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้พาไป๋หลางเดินไปด้วย แต่ทั้งสองคนเดินมุ่งตรงไปนั่งลงตรงโต๊ะว่างข้างๆ “เถ้าแก่ ซุปแกะสองชามครับ แล้วก็เอาขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่อีกสี่แผ่น ใส่พริกเยอะๆ”

เถ้าแก่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี จากนั้นก็ส่ายหัวเดินเข้าไปในห้องครัว และชายร่างใหญ่สามคนที่นั่งข้างๆ ก็หันมามองพวกลี่โม่อวี่สองคน ไม่พูดอะไรมาก พวกเขาก็รู้ว่าตัวตนของพวกลี่โม่อวี่สองคนนั้นไม่ธรรมดา

“เถ้าแก่ คิดเงิน!” ในทั้งสามคน ชายคนนั้นที่เป็นคนนำควักปู่เหมาสีแดงวางไว้บนโต๊ะ แล้วก็หมุนตัวเดินจากไป แต่ว่าตอนเขากำลังออกไป ลี่โม่อวี่ก็เห็นรอยสักรูปนักอินทรีเห็นบนข้อมือที่เปลือยเปล่าของเขา

เถ้าแก่ร้านซุปแกะรอจนสามคนนั้นจากไป ถึงออกมาจากห้องครัว เช็ดเหงื่อกลางหน้าผาก แล้วถอนหายใจเบาๆ

“เถ้าแก่ คนสามคนเมื่อกี้เขาทำอะไรกันเหรอ?” ลี่โม่อวี่เห็นเถ้าแก่ออกมา ก็เอ่ยปากพูดเสียงเย็น

“พวกคุณไม่รู้หรอก พวกเขาพกปืนติดตัวด้วย ลูกค้าที่มาก่อนหน้านี้ก็โดนพวกเขาขู่จนต้องออกจากร้าน”

“อ่อ เดี๋ยวนี้ยังมีคนพกปืนเดินไปมาในถนนใหญ่อย่างนี้อยู่หรอ?”

หรือว่าจะเป็นคนของฝ่ายทหาร?

ลี่โม่อวี่คิดไปมาหลายตลบ ก็คิดไปถึงพฤติกรรมของชายสามคนนั้น ก็มั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าถึงสามคนนั้นจะไม่ใช่ทหาร ก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับสายอาชีพทหารเป็นแน่ เรื่องนี้ต้องกลับไปถามคุณปู่ของตระกูลตน ยังไงเขาก็มีประสบการณ์มามากมาย

ไป๋หลางที่อยู่ข้างๆ กุมถ้วยซุปแกะยกดื่มไปตั้งนานแล้ว จนทำให้ลี่โม่อวี่อดที่จะขำไม่ได้

ถ้าเกิดให้เขาไปปกป้องอีหลิน เขาก็คงสบายใจ

ไม่รู้ว่าอีหลินอยู่ที่นั่น ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท