บทที่ 309 ควรบอกเธอไหม
“คุณอาสาม” หลงหลิงเข้ามาแล้วจึงทักทายหลงเซี่ยวเทียนอย่างนอบน้อม
“ทำไม หลิงเอ๋อ มีเรื่องอะไรหรอ” หลงเซี่ยวเทียนมองหลงหลิงด้วยท่าทางสงสัย ตอนนี้หลงหลิงไม่อยู่เป็นเพื่อนฉินอีหลิน กลับมาหาเขาที่นี่ เขาไม่เข้าใจ
“คุณอาสาม ฉันขอถามอะไรอาสักเรื่องได้ไหมคะ” หลงหลิงมีสีหน้าลังเลไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงดี
“เธอบอกอาสามมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ” หลงเซี่ยวเทียนก็เป็นแบบนี้ กับคนอื่นเขาดูเย็นชา แต่กับครอบครัวเขายังคงจิตใจดี
“อีหลิน ก่อนที่เธอจะโดนพิษเธอท้องมาก่อนเรื่องนี้คุณอารู้ไหมคะ”
หลงหลิงคำถามของตัวเองออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
แต่เมื่อเธอเอ่ยจบ เห็นว่าใบหน้าของหลงเซี่ยวเทียนพลันนิ่งลง ทั่วร่างแผ่รังสีเย็นยะเยือก
“คงเป็นพวกคนเชื้อสายรองบอกเธอมาใช่ไหม เรื่องนี้อย่าให้อีหลินรู้ อาเองก็พึ่งรู้หลังจากเกิดเรื่องแล้วว่าอีหลินท้อง”
น้ำเสียงของหลงเซี่ยวเทียนแฝงไปด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อคนเชื้อสายรอง
“หนูจะไม่บอกอีหลินค่ะ อาสาม” หลงหลิงได้รับคำตอบที่ตัวเองคาดหวัง ในใจนั้นเป็นทุกข์ถึงที่สุด เธออยากใช้เวลาอยู่เป็นเพื่อนฉินอีหลินมากๆ
“จะช้าจะเร็วต้องมีสักวัน ฉันจะทำให้คนพวกนั้นที่ทำร้ายฉินอีหลินต้องชดใช้”
หลงเซี่ยวเทียนหันออกไปมองนอกหน้าต่างแล้วพึมพำกับตัวเอง
หลงหลิงเดินออกจากห้องไปเอง ไม่ได้รบกวนเขา
เมื่อออกมาจากห้องหนังสือของหลงเซี่ยวเทียนแล้ว หลงหลิงคิดแล้วคิดอีกสุดท้ายก็ยังไม่ตรงไปห้องพักของฉินอีหลิน เพราะเธอกลัวว่าฉินอีหลินจะดูออก เธอตั้งใจจัดการอารมณ์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนก่อนที่จะไปหาฉินอีหลิน
……
บ้านตระกูลซือ ณ เมืองหลวง ลี่โม่อวี่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าซือเซี่ย
วันนี้ส่วนบนลี่โม่อวี่สวมเสื้อรัดรูปแขนสั้นสีเข้ม ส่วนล่างสวมกางเกงกีฬาสีดำ ดูเหมือนพึ่งจะออกกำลังกายเสร็จก็มาหาซือเซี่ย และซือเซี่ยยังคงอยู่ในชุดคลุมผ้าฝ้ายทั้งตัว คู่นี้ดูแล้วก็แปลกพิกล
“นี่คุณพึ่งต่อสู้มาแล้วมาอวดร่างกายที่นี่หรือไง”
ซือเซี่ยมองเสื้อรัดรูปจะเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเด่นชัดของลี่โม่อวี่ที่มีเด่นชัดกว่าเขามาก เอ่ยออกไปด้วยความอิจฉา
“นี่ที่ผมรีบมาก็เพราะอยากจะคุยกับคุณเรื่องแผนขั้นต่อไปของเรา” ลี่โม่อวี่ไม่สนคำถากถางของซือเซี่ย ใบหน้าจริงจัง
“แต่นั้นยังไงก็ตระกูลหลี่นะ ผมว่ายังไงเราก็ต้องเริ่มจากแผนระยะยาว” ซือเซี่ยคร่ำครวญ แม้ว่าตระกูลซือจะไม่กลัวตระกูลหลี่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้าตัวต่อตัว
“รอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เวลานานเรื่องก็จะมากไปด้วย เราต้องทำให้เขารับมือไม่ทัน”
ซือเซี่ยเลิกคิ้ว เขาไม่ยอมรับไม่ได้ เขาได้รับเชื้อความเด็ดขาดมาจากลี่โม่อวี่แล้ว นี่ใช่ว่าจะไม่ใช่โอกาส…..
……
เช้าวันต่อมา หลงหลิงตื่นเข้าครัวแต่เช้าไม่รู้ทำอะไรบ้าง เมื่อวานหลังจากกลับมาถึงบ้าน ก็ไปส่งหลงเสี่ยวเซินขึ้นเครื่องส่วนตัวเพื่อไปรักษาตัวที่อังกฤษ จากนั้นหลงหลิงก็ขังตัวเองไว้ในห้องไม่ออกมาอีก จนกระทั่งถึงวันนี้ตอนเช้าค่อยออกมา
เห็นเธอวุ่นวายอยู่ในครัว ไม่ง่ายเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรบ้าง อีกทั้งทำให้ใคร
เธอเริ่มตั้งแต่ตีสี่ ยุ่งจนมาถึงตอนนี้ เงยหน้ามองนาฬิกา แปดโมงเข้าไปแล้ว เธอวุ่นวายมาเป็นเวลาสี่ชั่วโมงเต็ม มองดูผลงานชิ้นเอกของเธอด้วยความพึงพอใจ หลงหลิงก็ยกมันมุ่งตรงไปทางโรงพยาบาล
หน้าห้องของฉินอีหลินไม่มีอาโน่และไป๋หลางเฝ้าอยู่แล้ว เพราะหลงเซี่ยวเทียนรับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ฝั่งคนเชื้อสายรองคงไม่กล้าลงมือกับฉินอีหลินอย่างเปิดเผย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีคนเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว
อาโน่กลับไปที่กองกำลังของเขา ก่อนไปไป๋หลางขอติดตามเขาไปด้วย โทรไปถามลี่โม่อวี่ ไป๋หลางจึงจากไปพร้อมกับอาโน่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเขา
และเมื่อมีไป๋หลางเข้าร่วมกองกำลังยิ่งทำให้กองกำลังเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันก็ทำให้ลี่โม่อวี่มีกำลังสนับสนุนที่แข็งแกร่งมากขึ้น นี่คือผลที่ตามมา
ห้องพักผู้ป่วยที่เงียบสงบ ฉินอีหลินพึ่งจะตื่นนอน ตอนนี้เธอเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองแล้ว วันนี้เธอก็จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอที่พึ่งตื่นขึ้นมา ก็พุ่งไปเปิดประตูห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่น
เพราะฉินอีหลินอยู่ห้องพักวีไอพี ห้องทั้งห้องจึงราวกับห้องในโรงแรมหรู ยืนอยู่ใต้ฝักบัว ฉินอีหลินเริ่มชำระร่างกายที่ไม่ได้ชำระมาหลายวัน จนลืมไปแล้วว่าหมอกำชับให้เธอห้ามลงจากเตียง
หลงหลิงหิ้วซุปไก่ที่เธอพึ่งทำมา เปิดประตูห้องพักผู้ป่วยของฉินอีหลิน กลับพบว่าบนเตียงว่างเปล่า
คราแรกหลงหลิงคิดว่าฉินเกิดเรื่องอีกแล้ว ตกใจจนเธอตะโกนร้องเรียกชื่อฉินอีหลอนเสียงดัง จากนั้นตกใจจนหน้าถอดสีมองฉินอีหลินที่ออกมาจากห้องน้ำด้วยผมที่เปียกชื้น
“หลิงเอ๋อเธอจะตกอกตกใจไปทำไม” ฉินอีหลินถูกเสียงดังของหลงหลิงทำจนตกใจ รีบออกมาจากห้องน้ำ
“เฮ้อ…….” เมื่อมองเห็นฉินอีหลินที่ยังปลอดภัย หลงหลิงไม่รู้จะพูดอะไรที่จะมากลบความกระอักกระอ่วนของเธอ
“อีหลิน เธอลงจากเตียงไปอาบน้ำได้ยังไง”
หลงหลิงพบว่าฉินอีหลินพึ่งออกมาจากห้องน้ำ แถมยังเช็ดผมยังไม่แห้ง รีบดุเธอ “รีบขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้เลย ห้ามลงมาอีก”
หยิบผ้าในมือของฉินอีหลิน เธอผลักฉินอีหลินไปที่เตียง ฉินอีหลินถูกท่าทางแปลกประหลาดของหลงหลิงทำเธอแปลกใจ
หลงหลิงวางซุปไก่ในมือลง ใช้ผ้าขนหนูเช็ดเบาๆที่ผมของฉินอีหลินในส่วนที่ยังเช็ดไม่แห้ง จากนั้นบอกอย่างเป็นห่วง “อีหลิน เธอต้องฟังที่หมอบอก ห้ามลงมาจากเตียง รู้ไหม”
จากนั้นวางผ้าขนหนูลง จากนั้นเปิดซุปไก่ที่ยังร้อนอยู่บอกกับฉินอีหลิน “เร็ว ดื่มตอนที่ซุปยังร้อนๆอยู่ บำรุงร่างกาย”
ฉินอีหลินถูกท่าทีเป็นห่วงอย่างงแปลกประหลาดของหลงหลิงทำให้รู้สึกแปลกใจ ทั้งรับซุปมาแล้วถามกับหลงหลิง “ทำไม อยู่ดีๆถึงได้เป็นห่วงฉันขนาดนี้ แต่ฉันต้องเก็บเสื้อผ้า เดี๋ยวอีกสักพักทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลลเสร็จฉันก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
ได้ยินฉินอีหลินบอกจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ หลงหลิงก็ร้อนใจอย่างห้ามไม่อยู่ “รีบออกจากโรงพยาบาลทำไม รีบดื่มซุปไก่ได้แล้ว”
แค่คิดว่าฉินอีหลินพึ่งจะเสียลูกในท้องไป หลงหลิงก็รู้สึกเป็นห่วงร่างกายของฉินอีหลิน
“โอเค โอเค ฉันดื่มแล้ว ฉันดื่ม” ฉินอีหลินดื่มซุปอย่างว่าง่าย แต่เธอก็รู้สึกว่าซุปไก่อร่อยอยู่เหมือนกัน
มองฉินอีหลินดื่มซุปไก่อย่างว่าง่าย หลงหลิงก็ช่นชมเธอ จ้องมองเธอ หลงหลิงพลันนึกถึงเรื่องตั้งครรภ์ของฉินอีหลิน จากนั้นกระบอกตาของเธอก็แดงขึ้น กระทั่งตัวเธอเองยังไม่รู้ตัว
เมื่อดื่มหมดแล้ว ฉินอีหลินจึงวางถ้วยไว้ข้างเตียง พอหันไม่เห็นหลงหลิงที่ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเธอก็ตกใจ
“หลิงเอ๋อ เป็นอะไร ที่บ้านเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า เธอรีบบอกฉันสิ” ฉินอีหลินถามอย่างร้อนใจ
หลงหลิงถูกฉินอีหลินถามแบบนั้นก็ตระหนก เธอควรจะบอกไหมนะ เรื่องของลูกเธอ