บทที่ 306 พวกเขาจะโจมตีแล้ว
ซือเซี่ยรู้ว่าการที่เด็กทั้งสองถูกลอบทำร้ายทำให้ลี่โม่อวี่โกรธมาก มองดูสายตากร้าวของลี่โม่อวี่ ซือเซี่ยยังรู้สึกหนาวสั่นเล็กน้อย
“ต่อไปคุณมีแผนจะทำยังไงต่อ” ซือเซี่ยถามลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่จัดการกับอารมณ์สักพัก มองซือเซี่ย บอกนิ่งๆ “ศึกภายในต้องสงบก่อนจึงค่อยสู้ศึกภายนอก ฉันต้องการกุมเมืองหลวงไว้แทบเท้า”
“หมายถึงจะลงมือกับตระกูลsลี่หรอ” ซือเซี่ยมองลี่โม่อวี่ด้วยความตกใจ
“อืม” ลี่โม่อวี่พยักหน้า ดวงตาคมลึกจ้องไปด้านหน้า ให้ความรู้สึกยากที่จะหยั่งถึง
ซือเซี่ยแม้จะยอมรับความสามารถของลี่โม่อวี่ แต่เผชิญหน้ากับตระกูลหลี่ที่ยิ่งใหญ่ ขนาดตัวเขาเองก็ยังไม่กล้า หรือว่าลี่โม่อวี่จะมีกำลังขนาดนั้นพอจะเอาคืนตระกูลหลี่ได้เลยหรอ
ซือเซี่ยยิ้มเย็น “เหอะ อาศัยความสามารถของนายในตอนนี้น่ะหรอ คุณจะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลหลี่”
ไม่ใช่ซือเซี่ยดูถูกลี่โม่อวี่ ในความเป็นจริงตระกูลหลี่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ใส่ใจกับการเย้ยหยันของซือเซี่ย เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ควรคิดโค่นล้มตระกูลหลี่ แต่ในใจเขายึดหมั่นว่ามันจะต้องมีสักวัน วันที่เขาจะสามารถเผชิญหน้ากับตระกูลหลี่ได้ และวันนั้นยังอีกไม่ไกลแน่
เขาเห็นว่าลี่โม่อวี่ไม่ได้รู้สึกสะท้านเพราะคำพูดของเขาเลยสักนิด ซือเซี่ยก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขายังคิดว่าลี่โม่อวี่กำลังมีความคิดพิสดาร
แต่ต่อมาเมื่อลี่โม่อวี่ทำลายตระกูลหลี่ได้จริงๆ เขาไม่ยอมรับไม่ได้เลยจริงๆว่าตัวเองห่างจากลี่โม่อวี่มากทีเดียว
จากนั้นซือเซี่ยจึงบอกข้อมูลสำคัญให้กับลี่โม่อวี่ ความจริงข่าวนี้หลงเซี่ยวเทียนเป็นคนส่งให้เขา ไม่งั้นอาศัยกำลังของเขาเองคงไม่สามารถสืบมาได้ เรื่องนี้มีเพียงหลงเซี่ยวเทียนคนเดียวที่รู้
“โม่อวี่ ก่อนหน้าที่อีหลินจะเข้าโรงพยาบาลเธอท้องแล้ว เรื่องนี้คุณรู้หรือเปล่า”
“อะไรนะ”
ลี่โม่อวี่ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่เขาอยู่กับฉินอีหลินนั้นได้ทำให้เธอท้องอีกครั้ง เขาคิดให้ละเอียดอีกครั้ง ถามกลับไป “เด็กใช่ไม่ใช่….”
ซือเซี่ยมองไปยังลี่โม่อวี่ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจ พยักหน้าเบาๆ เด็กไม่อยู่แล้วจริงๆ ตอนนั้นหมอไม่ได้บอกฉินอีหลิน บอกแค่หลงเซี่ยวเทียน
และหลงเซี่ยวเทียนก็ปิดเรื่องนี้เอาไว้ ตอนนี้ถึงยอมให้ซือเซี่ยบอกกับลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่พอรู้ข่าวก็นิ่งเงียบ ความโกรธบนใบหน้าก็หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงใบหน้าไร้ความรู้สึก
ลี่โม่อวี่ท่าทางนิ่งเงียบแผ่รังสีทะมึน คล้ายกับสัตว์ร้ายที่ถูกทำร้าย กำลังเลียบาดแผลตัวเอง ขณะเดียวกันก็เตรียมเอาคืนพวกที่ลงมือกับตัวเอง เมื่อการตอบโต้กลับเริ่มขึ้น เขาก็จะแสดงความบ้าคลั่งออกมา
ครั้งนี้ผู้นำตระกูลซือส่งซือเซี่ยออกมา ก่อนออกมาได้บอกกับเขา กล้าที่จะทำ ตระกูลซือจะคอยรับฟังคำสั่งของเขา แสดงให้เห็นว่าผู้นำตระกูลซือได้ฝึกให้เขาคุ้นเคยกับตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว
ซือเซี่ยไม่ใช่คนทะเยอทะยานซะเมื่อไหร่ เขาบอก “คุณจะเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ ตระกูลซือพร้อมให้ความร่วมมือกับคุณ”
ซือเซี่ยอยากจะเป็นผู้นำพาตระกูลซือออกจากเขาตั้งนานแล้ว เพราะตระกูลซือนิ่งเงียบมานานแล้ว นานจนกระทั่งน้อยคนมากที่จะเข้าใจพวกเขา ถือโอกาสครั้งนี้ป่าวประกาศกับทั้งโลก ว่าตระกูลซือของพวกเขาได้กลับมาแล้ว
ได้ยินซือเซี่ยบอกดังนั้น ลี่โม่อวี่ตื่นจากความโกรธ มองซือเซี่ยอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณ”
แม้จะเป็นเพียงสองคำ แต่รู้ไว้เลยว่าลี่โม่อวี่ไม่เคยเอ่ยขอบคุณใครง่ายๆ คนที่จะทำให้ลี่โม่อวี่ขอบคุณได้นั้นนับได้เลยทีเดียว
“ไม่ต้องขอบคุณผม ผมทำทุกอย่าง ก็เพื่อตระกูลซือ” ซือเซี่ยบอกยิ้มๆ มิตรภาพระหว่างทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องเอ่ย
……
ซือเซี่ยขับรถออกไป ซือเอ๋อนั่งอยู่ข้างๆซือเซี่ย มองท่าทางที่แปลกไปจากเดิมของสามีตัวเอง ซือเอ๋ออดไม่ได้ถามออกไป “เซี่ยเซี่ย คุณเตรียมลงมือแล้วหรอคะ”
ซือเซี่ยได้ยินคำถามของซือเอ๋อ ร่างกายแผ่ความเยือกเย็นออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาที่ปกติดูนิ่งเงียบ ตอนนี้เหมือนสิงโตที่พึ่งตื่นขึ้นมา แม้ซือเอ๋อที่อยู่ด้านข้างยังรู้สึกการกดขี่
“ตระกูลซือจะนิ่งต่อไปไม่ได้อีกแล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไป ก็คงจะหลับไม่ตื่นแล้ว”
ขับรถไป สายตาของซือเซี่ยมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังที่ที่แสนไกล
ตอนกำกังจะไปเขาได้รับโทรศัพท์จากพ่อ เขาก็รู้แล้วว่าถึงเวลาที่เขาต้องแสดงฝีมือแล้ว นิ่งสงบมาตั้งแต่เด็ก ก็เพื่อรอให้ถึงวันนี้ ในที่สุดเขาก็ได้สมปรารถนาของเขาแล้ว
รถสปอร์ตวิ่งออกไปตามถนนราวกับคมดาบ เหลือไว้เพียงเสียงคำรามที่บ่งบอกว่ารถเคยแล่นผ่านไป
……
หลังจากซือเซี่ยไปแล้ว ลี่โม่อวี่ก็ขับรถกลับมาถึงบ้านตระกูลลี่ ทุกครั้งที่เขานึกถึง ลูกที่ฉินอีหลินสูญเสียไป ความเยือกเย็นก็แผ่ออกมาจากร่างของเขา
ฉินอีหลินลำบากแล้ว แต่เขาจะบอกเรื่องนี้กับฉินอีหลินไม่ได้ เพราะตอนนี้ฉินอีหลินคงรับเรื่องพวกนี้ไม่ไหว เธอต้องการการใส่ใจ การปลอบใจ
นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องหนังสือ ลี่โม่อวี่หยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาฉินอีหลิน
“อีหลิน คุณสบายดีไหม”
ฉินอีหลินพึ่งรับโทรศัพท์ ลี่โม่อวี่ก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฉินอีหลินแปลกใจว่าทำไมลี่โม่อวี่ถึงโทรหาเธอตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก “อืม ฉันไม่เป็นไร คุณเป็นยังไงบ้าง”
“ผมไม่มีอะไร แค่คิดถึงคุณ” ลี่โม่อวี่รู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองไม่ปกติ ค่อยๆปรับน้ำเสียง
“เด็กโง่ ไม่นานเดี๋ยวฉันก็กลับไปแล้ว” ฉินอีหลินฟังออกว่าน้ำเสียงของลี่โม่อวี่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงกังวล ความจริงไหนเลยเธอจะไม่คิดถึงลี่โม่อวี่
“อีหลิน ผมอยากส่งคนไปปกป้องคุ้มกันคุณ”
ลี่โม่อวี่เอ่ยถึงเป้าหมายก่อนที่เขาจะกดโทร เขาเตรียมจะส่งไป๋หลางไปคุ้มกันฉินอีหลิน เพราะเขาเชื่อใจในฝีมือของไป๋หลาง
“ไม่ต้องลำบากหรอก ตอนนี้อาโน่ได้ยืนเฝ้าประตูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว” ฉินอีหลินไม่อยากให้ข้างกายของลี่โม่อวี่ขาดผู้ช่วย
“เรื่องนี้ ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องรับปากผม คุณอยู่ที่บ้านตระกูลหลงผมวางใจไม่ลงจริงๆ”
เมื่อพูดถึงบ้านตระกูลหลง ลี่โม่อวี่ก็กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ เขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อตระกูลหลงนี่เลยสักนิด เพราะตระกูลหลงทำให้ฉินอีหลินของเขาต้องลำบาก
ได้ยินน้ำเสียงเด็ดขาดของลี่โม่อวี่ ฉินอีหลินจึงรับปากทันใด
ยังไงก็มีคนที่รักเธอมาใส่ใจเธอ แม้จะเป็นคำพูดแข็งๆ คุณก็จะรู้สึกมีความสุข ท่าทางสาวน้อยของฉินอีหลินในตอนนี้ ในเวลาปกตินั้นไม่สามารถเห็นได้
ทั้งคู่คุยโทรศัพท์กันนานมาก นานกว่าปกติมาก เพราะวันนี้ลี่โม่อวี่มีคำพูดมากมาย เขาทำได้เพียงเป็นห่วงฉินอีหลินผ่านโทรศัพท์
และเรื่องที่คนทั่วไปไม่รู้ก็คือ ท้องฟ้าในเมืองหลวงกำลังจะเปลี่ยนไป ลี่โม่อวี่จับมือกันกับซือเซี่ย ตอนนี้จีนมีน้อยมากคนที่จะสู้กับพวกเขาได้ พวกเขาจะโจมตีแล้ว