บทที่ 314 ขับรถตามหาแฟนสาว
ทั้งสามคนหน้าตาดีมาก บุคลิกก็ดีมากเหมือนกัน เมื่อทั้งสามคนลงจากรถ ก็ทำให้คนรอบข้างมองมาด้วยสายตาที่ประหลาดใจทันที
“Oh!Alen!”
“Mygod!”สาวๆประเทศ Mและผู้หญิงแต่งตัวอลังการในห้างสรรพสินค้า เห็นว่าคนที่ลงจากรถคืออ้ายหลุน ทันใดนั้นทั้งห้างก็เกิดความชุลมุนขึ้นและทุกคนก็รุมล้อมพวกเขาด้วยความวุ่นวาย
ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่าพลังของความบ้าผู้ชายแบบนี้มันยิ่งใหญ่มากจริงๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ อ้ายหลุนรีบจับมือฉินอีหลินไว้ แล้ววิ่งไปที่เฟอรารี่ของเขา และฉินอีหลินก็ไม่ลืมที่จะดึงหลงหลิงที่อยู่ด้านข้างไปด้วย
ทั้งสามคนหลีกเลี่ยงฝูงชนออกไปและรีบเข้าไปในรถ อ้ายหลุนขับรถโดยไม่พูดอะไรและรีบออกจากห้างสรรพสินค้าไป ด้านหลังมีแฟนคลับสาวๆอยู่กลุ่มหนึ่ง มองเฟอรารี่สีแดงที่ห่างไกลออกไป ไม่สามารถสงบอารมณ์ได้เป็นเวลานาน
“ขอโทษ ผมลืมว่าผมไม่สามารถเข้าไปในสถานที่สาธารณะได้……”อ้ายหลุนมองไปที่ฉินอีหลินและหลงหลิงอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย
เนื่องจากเอฟเฟกต์คนดังของอ้ายหลุน การเดินทางช้อปปิ้งของฉินอีหลินและหลงหลิงจึงได้สิ้นสุดลง แต่ ดูเหมือนว่าหลงหลิงไม่ได้เศร้าแม้แต่น้อย
“ขี้อวด……”ฉินอีหลินบ่นพึมพำเสียงเบา เธอรู้จักอ้ายหลุนดี คำพูดก่อนหน้านี้ของอ้ายหลุนแค่ต้องการโอ้อวดให้กับตัวเอง:“ส่งพวกเรากลับไปที่ตระกูลหลงเถอะ”
อ้ายหลุนที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับนั้น คู่ควรกับตำแหน่งดาราระดับนานาชาติของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาและบุคลิกแบบผู้ดี ซึ่งสามารถทำให้สาวน้อยที่อ่อนต่อโลกอย่างหลงหลิงนั้นหลงใหลมากจริงๆ แต่กับฉินอีหลินกลับไม่ได้ผลมากนัก
“กลับตระกูลหลง?หรือให้ผมพาพวกคุณไปเที่ยวดีกว่าไหม?”
อ้ายหลุนได้ยินว่าฉินอีหลินต้องการจะกลับ เขาจึงรีบยื่นข้อเสนอ ในความคิดของเขาแล้ว ถ้าฉินอีหลินได้กลับไปที่ตระกูลหลง งั้นก็คงจะไม่ปรากฏตัวอีกแน่นอน
“ได้สิ!ได้สิ!”หลงหลิงปรบมืออย่างมีความสุขและบอกว่าดี สามรถไปเที่ยวกับอ้ายหลุน ในความคิดเธอแล้วเป็นเรื่องที่มีความสุขมากเหลือเกิน
ใช้มือประคองหน้าผากอย่างช่วยไม่ได้ ฉินอีหลินลืมคนบ้าผู้ชายที่อยู่ด้านข้างไปได้อย่างไร อ้ายหลุนได้ยินหลงหลิงตะโกน ก็รีบขับรถไปยังสถานที่ที่เขามักจะไปบ่อยๆ
เมื่อนึกถึงท่าทางที่อ้ายหลุนมีต่อตัวเอง ถ้าตอนนี้ส่งผ่านไปเข้าหูของลี่โม่อวี่แล้วละก็ ลี่โม่อวี่ที่มีนิสัยขี้หึงหวงจะต้องตามไปถึงประเทศ M อย่างแน่นอน
“ใช่แล้ว อ้ายหลุนตอนคุณออกมาคงไม่ได้โดนตามโดยนักข่าวใช่ไหม?”ฉินอีหลินก็นึกถึงประเด็นสำคัญนี้อย่างกะทันหัน
แต่อ้ายหลุนในตอนนี้ กลับตั้งใจขับรถเป็นอย่างมาก จ้องมองกระจกมองหลังอยู่ตลอดเวลา ที่แท้ปาปารัสซี่ส่งรถมาติดตามอ้ายหลุนแล้ว เพราะพวกเขาได้ข่าวมาจากห้างสรรพสินค้าว่ามีผู้หญิงอีกสองคนที่มากับอ้ายหลุน สำหรับข่าวใหญ่ระเบิดระเบ้อขนาดนี้แล้ว ปาปารัสซี่จะปล่อยมันไปได้อย่างไรกัน
แม้ว่าทักษะการขับรถของอ้ายหลุนบวกด้วยสมรรถนะที่ดีของเฟอรารี่แล้ว แต่เขาก็ยังถูกตามมาติดๆโดยปาปารัสซี่ที่ไม่คิดชีวิตแบบนี้
รถที่ปาปารัสซี่ส่งมาในครั้งนี้เป็นรถแลมโบกินี่ที่ที่สูงกว่าเฟอรารี่ระดับหนึ่ง นักข่าวที่นั่งอยู่ในเบาะนั่งข้างคนขับถือกล้องไว้ในมือขวาและไมโครโฟนในมือซ้าย:“อ้ายหลุน ไม่ทราบว่าคุณจะพาผู้หญิงทั้งสองคนไปที่ไหน”
แม้ว่ารถทั้งสองคันไม่ได้ทีท่าว่าจะชะลอความเร็ว แต่การสัมภาษณ์ก็ได้เริ่มต้นขึ้นขณะที่ขับรถแล้ว ผมจะพาแฟนสาวของผมไปโต้คลื่น
คำพูดของอ้ายหลุนเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำให้คนตกใจ โยนข่าวใหญ่ให้ปาปารัสซี่โดยตรง
ปาปารัสซี่ถามอีกครั้ง:“อย่างนั้น ผู้หญิงคนไหนในสองคนนี้หล่ะ?”
อ้ายหลุนพูดอย่างเด็ดขาด:“ฉินอีหลิน”
เมื่อปาปารัสซี่ต้องการจะถามอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็พบว่าอ้ายหลุนได้กดปุ่มบางอย่างในรถที่ไม่รู้ว่าคือปุ่มไหน เดิมทีเฟอรารี่ที่ความเร็วสูงสุดแล้วก็ได้เร่งความเร็วขึ้นอีกทันที!ทันใดนั้นก็ได้หลุดพ้นจากแลมโบกินี่ของปาปารัสซี่
“หึ คิดว่ารถของผมเป็นรถธรรมดาจริงๆงั้นเหรอ”
อ้ายหลุนมองเงาของแลมโบกินี่จากกระจกมองหลังอย่างโอ้อวด ความจริงแล้วรถของเขาถูกดัดแปลงโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เขาสามารถหลุดพ้นจากปาปารัสซี่ได้ เมื่อโดนพวกติดตาม
“ทำไมคุณไม่สลัดพวกเขาทิ้งไปตั้งแต่แรก!”
ฉินอีหลินถามเขาอย่างดุร้าย เพราะปาปารัสซี่ได้รู้จักชื่อของตัวเองและอ้ายหลุนก็ยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นแฟนสาวของเขา ฉินอีหลินเครียดขึ้นมาทันที
“อ้ายหลุน ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้คุณรีบส่งฉันกลับไปที่ตระกูลหลง มิเช่นนั้นฉันจะกระโดดลงจากรถ”เหตุการณ์ที่ฉินอีหลินพบเจอตั้งแต่ออกมาจนถึงตอนนี้นั้นทำให้เธอรู้สึกพังทลายไปหมดจริงๆ
เมื่อมองสีหน้าของฉินอีหลินผ่านกระจกนั้นจริงจังและโมโหมากจริงๆ ไม่เหมือนว่าเธอกำลังล้อเล่น อ้ายหลุนทำได้เพียงแค่กลับรถและกลับไปตามถนนเส้นเดิม
ระหว่างทางกลับไปยังเจอกับปาปารัสซี่ก่อนหน้านี้อีก คราวนี้ปาปารัสซี่ถ่ายรูปผู้หญิงสองคนในรถด้วยกล้องอย่างเฉียบขาด ดูเหมือนว่าเตรียมที่จะเขียนข่าวใหญ่
กลับไปถึงตระกูลหลง ฉินอีหลินลงจากรถโดยไม่สนใจอ้ายหลุน และเดินไปที่บ้านของเธอ แต่หลงหลิงกลับได้แนบอยู่ข้างกายอ้ายหลุนอย่างแน่นอยู่ตลอด ใบหน้าเต็มไปด้วยความบ้าผู้ชายและทำอะไรไม่ถูก
กลับไปที่ห้อง ยื่นมือไปเปิดทีวีอย่างไม่ตั้งใจ ฉินอีหลินนั่งลงบนโซฟาอย่างโมโหและดูทีวี
“อ้ายหลุนนักแสดงผู้ทุ่มเทในการงานได้ทิ้งการถ่ายทำของ《อวตาร 2》 ขับรถตามหาแฟนสาว”
พาดหัวข่าวที่สะดุดตาในข่าวบันเทิง กำลังถ่ายทอดข่าวเกี่ยวกับอ้ายหลุนในวันนี้
“จบกัน จบกัน”ฉินอีหลินนวดขมับอย่างปวดหัว เธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่ ครั้งที่แล้วในประเทศจีนก็เหมือนกัน อ้ายหลุนคนนี้นี่ไม่เคยรู้เลยว่าอะไรคือการทำตัวค้อมต่ำไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ
เธอเดาว่าอีกไม่นาน ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจอ้ายหลุนก็จะรู้ว่าอ้ายหลุนยอมรับว่าตัวเองมีแฟนสาวแล้ว และเธอมีชื่อเรียกว่า “ฉินอีหลิน”
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ฉินอีหลินก็กลัวว่าเรื่องพวกนี้จะรู้โดยลี่โม่อวี่ที่อยู่ประเทศจีน จึงรีบเปิดประตูห้อง และได้เห็นอ้ายหลุนที่รออยู่ด้านนอกพอดี
เธอขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึม:“อ้ายหลุน ฉันต้องการให้คุณทำทุกวิถีทางเพื่อปิดกั้นข่าวนี้”
“ไม่อย่างนั้นขาดกัน”ฉินอีหลินพูดอย่างข่มขู่
“โอเค ผมจัดการเอง”
อ้ายหลุนรู้ว่าตัวเองทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่ เขามาก็เพื่อขอโทษอย่าง“จริงใจ”อยู่แล้ว เห็นอย่างนี้เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาไม่รู้ว่าโทรหาใคร จากนั้นก็วางสายอย่างสบายใจ:“OK แล้ว”
ฉินอีหลินรู้ถึงความสามารถของอ้ายหลุนดี จากท่าทางของเขาแล้วก็ไม่เหมือนว่าหลอกตัวเอง จึงกลับไปที่ห้องของเธอและเปิดทีวีด้วยความโล่งอก จากนั้นไม่นาน ข่าวนั้นก็ถูกลบไปและเธอก็โล่งใจ
ฉินอีหลินไม่ต้องการคุยกับอ้ายหลุนต่อ:“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน”
หลังจากปิดประตูฉินอีหลินหาวและเตรียมพร้อมที่จะนอนหลับต่อ
อ้ายหลุนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้หลงหลิงเดินเล่นในตระกูลหลง
แม้ว่าข่าวจะถูกปิดกั้นโดยไม่มีเหตุผล แต่ในฐานะแฟนคลับของอ้ายหลุน ทั่วโลกมีชาวเน็ตมากมาย จึงส่งต่อข่าวผ่านอินเทอร์เน็ตเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ภาพของอ้ายหลุนและผู้หญิงสองคนก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนอินเทอร์เน็ต และทุกคนกำลังเดาว่าคนไหนคือฉินอีหลิน
แต่เหยื่อตัวจริงในเรื่องกลับถูกปิดบังไว้มีรู้เรื่องอะไรเลย