ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 326

ตอนที่ 326

บทที่ 326 ขับออกจากตระกูลหลง สิ้นสกุล

“บังอาจ!”

ฉินอีลินพึ่งจูงมือหลงหลิงเดินมาถึงหน้าประตูห้องประชุม ได้ยินเสียงพ่อตัวเองกำลังโกรธหนัก หัวคิ้วพลันขมวดขึ้น

“อีหลิน…..”

หลงหลิงไม่เคยเห็นหลงเซี่ยวเทียนแสดงความโกรธออกมาแบบนี้ เธอหลบอยู่หลังฉินอีหลินด้วยความกลัว

“ไม่เป็นไร มากับฉัน”

หลงหลิงยืนบังอยู่ด้านหลังของหญิงสาวตรงหน้า ทั้งสองยืนอยู่ในมุมหนึ่งของห้องประชุมดูสถานการณ์

“หลงเหริน แกคิดจริงๆหรอว่าแกมีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้นำตระกูลหลง”

หลงเซี่ยวเทียนโกรธมากแต่กลับหัวเราะ จ้องมองชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเยือกเย็น

“แกพึ่งกลับมาตระกูลหลงกี่วัน แกคิดว่าแกเข้าใจธุรกิจทุกอย่างของตระกูลหลงแล้วหรอ”

แม้หลงเหรินจะคุกเข่าอยู่ แต่กลับตอบกลับอย่างโกรธเกรี้ยว เขาไม่พอใจ อะไรที่คนที่พึ่งจะกลับมาคนหนึ่ง ถึงสามารถขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูล

“ความหมายของแกก็คือ เพราะว่าฉันไม่ได้อยู่ในบ้านตระกูลหลงมาเป็นเวลานาน ก็ไม่สามารถถามแกเรื่องที่เอาอู่เรือไปขายงั้นหรอ”

เพราะหลงเซี่ยวเทียนโกรธมาก กวาดถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะตกแตกระเนระนาด เศษถ้วยกระเบื้องที่แตกกระเด็นมายังร่างของหลงเจี้ยน ทำให้หลงเจี้ยนต้องหรี่ตาลง

“ช่างเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่สร้างอิทธิพลจริงๆ เป็นผู้นำตระกูลหลง ก็ทนพวกเราคนเชื้อสายรองไม่ได้แล้วหรอ”

หลงเจี้ยนเป็นตัวแทนของคนเชื้อสายรอง เวลานี้ทนไม่ได้ที่หลงเซี่ยวเทียนตบหักหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เวลานี้ยิ้มเย็นครั้งหนึ่ง

“ทนไม่ได้หรอ”

หลงเซี่ยวเทียนกวาดตามองคนเชื้อสายรองที่อยู่ตรงนี้ช้าๆ จากนั้นยิ้มเย็นแล้วปาเอกสารไปยังร่างของหลงเจี้ยน “ดูแทนน้องชายสุดที่รักของนาย ตัวหนังสือสีดำบนกระดาษนี้ จะเอาอะไรมาปฏิเสธ”

หลงเหรินไม่คิดว่าหลงเซี่ยวเทียนจะหาหลักฐานมาได้จริงๆ ใบหน้าตื่นตระหนก

ถ้าหากหลงเซี่ยวเทียนเพียงแค่รู้เรื่องนี้ เขาก็สามารถสร้างเรื่องมาแก้ตัวได้ แต่ตอนนี้กลับมีหลักฐาน หากคนของคนเชื้อสายหลักกัดไม่ยอมปล่อย งั้นเขาก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ที่บ้านตระกูลหลงนี้ต่อไปแล้ว…………

“เขาก็แค่ติดกับดักของคนอื่น ผู้นำตระกูลเป็นห่วงคนในตระกูลมาตลอด คงจะมากล่าวโทษเขาแบบนี้ไม่ได้”

ตอนที่หลงเจี้ยนเหลือบมองเอกสารบนพื้น สีหน้าเขาตื่นตระหนกชั่วขณะ แต่เขาก็ยังเป็นตัวแทนของคนเชื้อสายรอง หากไม่มีความสามารถนี้ เขาก็คงปืนขึ้นมาตำแหน่งนี้ไม่ได้ จัดการอารมณ์อยู่ชั่วครู่ เขาค่อยเอ่ยปากกล่าว

ฉินอีหลินได้ฟังดังนั้นหัวคิ้วก็ขมวดแน่น ประโยคนี้ของหลงเจี้ยนช่างยากที่จะเข้าถึง

มองผิวเผินเหมือนเขาจะชมหลงเซี่ยวเทียน แต่ความหมายแฝงกลับทำให้เขาไม่มีทางลงโทษหลงเหรินได้ เกรงว่าหลงเซี่ยวเทียนจะฟังออกถึงความหมายแฝงนี้ เนื่องจากเขาอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูล จึงทำอะไรไม่ได้จริงๆ

ยังคิดว่ามีเพียงหลงเจี้ยนหรอที่ฉลาด

มุมปากยกยิ้มขึ้นมา ฉินอีหลินตบเบาๆลงบนมือหลงหลิงที่กุมมือเธอเอาไว้ จากนั้นก้าวเดินเข้าไปข้างหน้า พลางเอ่ยเสียงดัง

“ลุงเจี้ยนพูดถูก ท่านผู้นำตระกูลมีเมตตามาตลอด ถ้ามองในมุมที่เมตตาต่อคนในตระกูลขนาดนี้ เห็นคุณท่าทางนอบน้อมแบบนี้แล้ว คงไม่ลงโทษคุณแน่นอน”

เมื่อพูดถึง “นอบน้อม” ฉินอีหลินตั้งใจเน้นคำให้หนัก เธอจะทำให้ทุกคนเข้าใจ ถึงแม้ว่าคนเชื้อสายรองมีตำแหน่งในตอนนี้ นั่นก็ไม่ใช่เพราะว่าคนเชื้อสายหลักหลับหูหลับตาไปบ้างก็แค่นั้นหรอกหรือ

หากคนเชื้อสายหลักคิดเอาจริงขึ้นมา คุณจะทำอะไรได้

“แต่หากไม่มีกฎเกณฑ์ทำอะไรให้สำเร็จไม่ได้”

หลงเจี้ยนเห็นฉินอีหลินเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง หัวคิ้วก็พลันขมวดมุ่น แต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร

“ลุงเจี้ยน อีหลินพึ่งจะกลับมาตระกูลหลง ยังไม่คุ้นชินกับกฎมากมาย อยู่ที่นี่ อีหลินอยากให้ช่วยแนะนำสักนิด กฎของตระกูลหลงบทแรกข้อแรกคืออะไรคะ”

หลงเจี้ยนไม่คิดว่าฉินอีหลินจะเอากฎมาบีบเขา ตอบไม่ได้อยู่ชั่วขณะ

ฉินอีหลินก็ไม่ได้คิดให้หลงเจี้ยนได้ตอบอะไร เธอเบนสายตาไปยังหลงหลิงที่ยังคงยืนอยู่มุมห้อง เอ่ยถาม “หลิงเอ๋อ ข้อแรกคืออะไรนะ”

“คนเชื้อสายรองไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายคนเชื้อสายหลัก”

หลงหลิงที่เกลียดความก้าวร้าวของคนเชื้อสายรอง ตอนนี้เห็นฉินอีหลินมีพลังแบบนั้น เธอจึงอดไม่ได้เลือดขึ้นหน้า เอ่ยตอบเสียงดัง

“ที่แท้ก็ไม่มีสิทธิ์นี่นา….”

ฉินอีหลินพอใจกับการให้ความร่วมมือของหลงหลิงเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เธอให้หลงหลิงศึกษากฎระเบียบ ไม่ทำให้เธอเสียหน้าจริงๆ

หลงเจี้ยนได้ยินที่ฉินอีหลินเอ่ยย้ำ “ไม่มีสิทธิ์” คำนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ ช่างทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าผู้คนมากพอจริงๆ

เดิมเขาอยากให้อำนาจของผู้ใหญ่เพื่อที่จะกดฉินอีหลิน แต่รัศมีในร่างกายของฉินอีหลินนั้นแรงกล้าเกินไป ไม่น้อยไปกว่าหลงเซี่ยวเทียนเลยด้วยซ้ำ

แต่เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง แถมยังเด็กกว่าเขาอีก หลงเจี้ยนจะปฏิบัติกับเธอเหมือนหลงเซี่ยวเทียนนั่นก็ไม่ได้ ก้าวร้าวกับเด็ก ไม่งั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ผ่านไปชั่วครู่ หลงเจี้ยนโต้แย้งก็ไม่ได้ จะไม่โต้ตอบก็ไม่ได้ สีหน้านั้นดูไม่สดใสเลย

หลายปีมานี้ฉินอีหลินภายใต้การเลี้ยงดูของหลงเซี่ยวเทียน สามารถเผชิญหน้าคนเดียวได้ตั้งนานแล้ว อีกทั้งยังถูกลักพาตัวอีก ถูกตามฆ่า ยิ่งทำให้การตอบสนองของเธอไวขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าหลงเซี่ยวเทียนเลยสักนิด

“คุณอารอง ผิดกฎตระกูลมีบทลงโทษยังไงคะ”

หลงเสี้ยวตี้เพียงเคยได้ยินมาบ้างว่าหลานสาวคนนี้ของเขานั้นไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจถึงขั้นนี้ ตอนนี้นั้นปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง “คนที่ทำผิดกฎ สถานเบาคือคุกเข่าต่อหน้าบรรพชน สถานหนักคือขับออกจากตระกูล สิ้นสกุล”

หวงจิ้งฝูเห็นสามีตัวเองถูกเด็กเหยียดหยามต่อหน้าผู้คน ใบหน้าเยือกเย็น “ฉินอีหลิน เรื่องของตระกูลหลงคงไม่ต้องให้ผู้หญิงจัดการหรอกนะ”

“ความเห็นของอีหลิน ก็คือความเห็นของผม”

หลงเซี่ยวเทียนเอ่ยออกมาในเวลานั้น ก็เหมือนกับการให้กำลังใจกับคนของคนเชื้อสายหลัก “ในเมื่อคนเชื้อสายรองอย่างพวกคุณไม่เคารพในระเบียบวินัย ผมก็ไม่ทำให้พวกคุณลำบากใจ ประตูของตระกูลหลงพร้อมเปิดให้พวกคุณเสมอ”

หลงเจี้ยนได้ยินดังนั้นใบหน้าจึงถอดสี

คำพูดนี้ของหลงเซี่ยวเทียนราวกับฉีกหน้าของเขาขาดยับ หลงเจี้ยนแม้อยากแข็งข้อแต่ก็ทำไม่ได้

“หลงเซี่ยวเทียน แกคิดว่าแกจะทนได้สักเท่าไหร่กันเชียว ฉันไม่เชื่อความร้ายนี้หรอก

คำพูดเมื่อสักครู่ทำให้ความโกรธของหลงเหรินปะทุขึ้น เขาลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงก่ำมองไปยังหลงเซี่ยวเทียน

ตอนนี้สมบัติมากมายของตระกูลหลงอยู่ในมือของพวกเขาแล้ว เขาไม่กลัวจะถูกไล่ออกจากตระกูลเลยสักนิด

“บังอาจ”

หลงเจี้ยนไม่เหมือนน้องชายโง่เง่าคนนี้สักนิด เขารู้ถึงความร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น

หากเขาฉีกหน้ากันกับหลงเซี่ยวเทียน เขาทำได้แน่ คนเชื้อสายหลักคงไม่ให้สมบัติของตระกูลหลงไปแม้แต่น้อย อีกทั้งเขาก็ไม่ได้เตรียมตัวมาต่อต้านกับคนเชื้อสายหลัก ตอนนี้พวกเขาไม่มีกำลังมาต่อกรกับหลงเซี่ยวเทียนเลยด้วยซ้ำ

“พี่ใหญ่”

หลงเหรินสีหน้าไม่ยินยอม เขาจ้องมองหลงเจี้ยนด้วยใบหน้าโกรธแค้น

มุมปากของฉินอีหลินยกขึ้น ตั้งใจดูละครฉากนี้

หลงเจี้ยนไม่สนใจหลงเหรินที่กำลังโมโห เขากวาดสายตามองคนเชื้อสายรองเยือกเย็น มุมปากยกยิ้มหยัน “ฉันยอมคุกเข่า”

หลงเจี้ยนค่อยๆก้าวขึ้นมา ดวงตากวาดมองฉินอีหลินและหลงเซี่ยวเทียน จากนั้นจ้องมองไปยังหลงเซี่ยวเทียนบนที่นั่งอย่างเย็นชา สายตาเย้ยหยัน

“คุกเข่าต่อหน้าบรรพชน”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท