บทที่ 330 ในที่สุดก็จับคุณได้แล้ว
“คุณน้าคนสวยคะ พวกเรามาหาคุณแม่ค่ะ”
ลี่โม่อวี่พาเด็กทั้งสองไปที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า หลงจิ่นเซวียนดวงตากลมโต ปากหวานเอ่ย
พนักงานสาวมองรูปร่างสง่างามของลี่โม่อวี่ ใบหน้าหล่อเหลา ใจลอยไปชั่วขณะ ตอนนี้ได้ยินเด็กสาวบอกจะหาแม่ เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
แต่ชายหนุ่มหล่อเหลาขนาดนี้ ลูกๆน่ารักขนาดนี้ แม่ของพวกเขาก็คงต้องสวยมากแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่าอยู่แผนกไหน
“จิ่นเซวียนโง่ คุณน้าคนสวยจะรู้ได้ยังไงว่าคุณแม่เป็นใคร เธอจะบอกว่ามาหาแม่ไม่ได้”
ตอนนี้หลงหมิงเจ๋อปืนขึ้นมาบนตัวลี่โม่อวี่ ลี่โม่อวี่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงย่อตัวลงไปอุ้มเขาขึ้นมา
“งั้นบอกว่ามาหาใครล่ะ” หลงจิ่นเซวียนเอียงศีรษะถามพี่ชายตนเอง จากนั้นละสายตาไปยังลี่โม่อวี่ “หาเมียของพ่อ”
ลี่โม่อวี่มันเขี้ยวในความน่ารักของลูกสาว เขาจุ๊บเบาๆบนใบหน้าเล็กของหลงจิ่นเซวียน จากนั้นบอกกับพนักงานต้อนรับ “มาหาประธานบริหารของพวกคุณ บอกว่าผมแซ่ลี่”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
มองเห็นความอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้า พนักงานต้อนรับพลันแก้มแดงระเรื่อ รีบโทรหาเบอร์ของประธานกรรมการ “ท่านประธานคะ มีชายแซ่ลี่คนหนึ่งมาขอพบค่ะ”
“แซ่ลี่หรอ”
ฉินอีหลินที่กำลังดูรายงานการเงินของช่วงเดือนนี้ พลันได้รับโทรศัพท์แบบนี้
แซ่ลี่หรอ
“แม่ครับ แม่ครับ”
“แม่คะ แม่คะ”
หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนเห็นว่าต่อสายได้แล้ว จึงตะโกนเรียก “แม่” แม้เสียงจะดัง แต่ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลยสักนิด
“เร็ว ให้พวกเขาขึ้นมา ไม่ เดี๋ยวฉันลงไปรับพวกเขา”
ใบหน้าของฉินอีหลินปกปิดความยินดีเอาไว้ไม่มิด เธอรีบลุกขึ้น เดินราวกับวิ่งมาที่ลิฟต์นั้น กดปุ่มลงทันที
เพราะเป็นลิฟต์เฉพาะประธานกรรมการ ไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็พุ่งตัวออกมา
“แม่ครับ”
“แม่คะ”
เด็กทั้งสองดิ้นออกจากอ้อมกอดของลี่โม่อวี่ วิ่งเข้าไปยังร่างของฉินอีหลิน
ฉินอีหลินกอดเด็กทั้งสองไว้ข้างละคน แม้เด็กๆจะไม่ได้ตัวเล็กแล้ว แต่เพราะร่างกายเธอจึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อย
“คิดถึงแม่ไหมคะ”
“คิดถึง”
“จิ่นเซวียนคิดถึงแม่มากกว่าพี่ชายอีก”
มองเห็นเด็กทั้งสองที่แข่งกันพูดเอาอกเอาใจฉินอีหลิน ใบหน้าของลี่โม่อวี่ก็อ่อนโยนขึ้น
ฟัดเด็กๆทั้งสองแล้ว ฉินอีหลินจึงหันไปมองลี่โม่อวี่ เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา
ไม่ว่าเธออยู่บ้านตระกูลหลงแล้วรู้สึกไม่สบายใจขนาดไหน ไม่ว่าพนักงานในบริษัทจะยอมรับเธอในตำแหน่งประธานกรรมการหรือไม่ แค่มีเพียงเขาอยู่ เธอก็ไม่กลัวแล้ว
ลี่โม่อวี่ มีคุณนี่ดีจังเลย
“ขึ้นไปข้างบนเถอะ”
ลี่โม่อวี่รีบสาวเท้าเดิน มือหนึ่งอุ้มหลงหมิงเจ๋อ อีกมือโอบเอวบางของฉินอีหลิน เขาย่นคิ้วขึ้น ผอมลงไม่น้อยเลย
รอจนสมาชิกครอบครัวทั้งสี่ไปแล้ว คนในโถงตรงนั้นไม่สามารถดึงสติกลับมาได้ชั่วขณะ
พวกเขาไม่คิดว่า คนเฉียบคมแบบฉินอีหลิน จะมีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ฉับพลัน พวกเขาสนับสนุนประธานบริหารเพิ่มขึ้นอีกนิด
ลี่โม่อวี่ไม่คิดว่าความไม่ตั้งใจของเขา ทำให้ฉินอีหลินมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นจำนวนมาก
“แม่คะ แม่ ห้องนอนแม่มีโทรทัศน์”
หลงจิ่นเซวียนตะโกนเสียงดังคล้ายกับค้นพบแผ่นดินใหม่ “ดีกว่าห้องทำงานของพ่อเยอะเลย”
“แม่ครับ แม่ ผมจะดู ‘ฉินฉือหมิงเยว่’”
“ดูสิ หมิงเจอ พาน้องขยับออกห่างอีกหน่อย ไม่ให้อยู่ใกล้โทรทัศน์เกินไป”
ฉินอีหลินตะโกนเข้าไปในห้องนอน
“คิดถึงผมมั้ย”
ลี่โม่อวี่เห็นประตูห้องนอนปิดมิดชิดแล้ว จึงคว้าฉินอีหลินเข้ามาในอ้อมกอดตนเอง นั่งบนตักเขา
“อย่าซน เด็กๆยังอยู่ข้างใน”
“วางใจเถอะ เด็กสองคนนี้ช่วงนี้กำลังติด’ฉินฉือหมิงเยว่’ถ้าผมไม่เรียกพวกเขา พวกเขาไม่ออกมาหรอก” ลี่โม่อวี่กอดคนเอาไว้แน่นยิ่งขึ้น อ้าปากงับใบหูของคนในอ้อมแขน “ไม่ให้เปลี่ยนเรื่อง คิดถึงผมไหม”
“อย่า……” ฉินอีหลินเสียงอู้อี้ ตอบเสียงสั่น “คิดถึง”
“ผมก็คิดถึงคุณ ตรงไหนก็คิดถึง”
ตอนนี้ฉินอีหลินนั่งอยู่บนตักของเขา การเปลี่ยนแปลงของลี่โม่อวี่ เธอสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน
สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของลี่โม่อวี่ ฉินอีหลินดิ้นจะลุกขึ้น
“ชู่…คุณตั้งใจใช่หรือเปล่า” ลี่โม่อวี่หายใจอย่างยากลำบาก มือตบลงที่บั้นท้ายของหญิงสาวหนึ่งที “อย่าขยับ”
“อ้อ” ฉินอีหลินไม่ขยับจริงๆ
กอดหญิงสาวในอ้อมดอกเอาไว้ ลี่โม่อวี่ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อควบคุมให้ตนเองสงบ
ตอนนั้นเองค่อยมองเห็นตารางการเงินบนโต๊ะ
“นี่เป็นผลประกอบการของไม่กี่เดือน”
ลี่โม่อวี่หยิบขึ้นมาไม่กี่แผ่น เอ่ยถาม
“อืม แต่ที่แปลกก็คือ ช่วงนี้บริษัทหลงเวยขาดทุนอย่างหนัก แต่ในบัญชีทั้งหมดกลับทำกำไรได้”
“บัญชีปลอม”
ลี่โม่อวี่เพียงกวาดตามองเล็กน้อย แล้วโยนกระดาษแผ่นนั้นลงบนโต๊ะอีกครั้ง
“บัญชีปลอมหรอ”
ฉินอีหลินย่นคิ้ว ไม่ใช่ว่าเธอไม่สงสัย แต่เพราะไม่มีประสบการณ์จัดการทางด้านนี้ เธอจึงไม่รู้จะเริ่มลงมือจากตรงไหน “งั้นต้องทำยังไง ตรวจสอบได้ไหม”
“เรียกเซียวน่ายมาดูให้ดีไหม”
ลี่โม่อวี่ยักไหล่ มือขวากอบกุมความนุ่มหยุ่นเอาไว้
“ให้เซียวน่ายมาประเทศMหรอ คุณคิดได้ยังไง”
เสียง “เพี๊ยะ” ตีลงบนมือขวาซุกซนของลี่โม่อวี่ ฉินอีหลินกลอกตาอย่างทำอะไรไม่ได้
“งั้นก็ให้เห้อห้าวมา เราพาเด็กทั้งสองไปเที่ยวเล่นหน่อย ผมรับปากกับลูกเอาไว้แล้ว ว่าครั้งนี้เราจะพาเขาไปเที่ยวกัน”
“คุณไม่กลัวเห้อห้าวจะด่าคุณลับหลังรึไง”
ฉินอีหลินรู้ว่าลี่โม่อวี่ล้อเล่น แล้วจึงเล่นไปตามน้ำกับเขา
“เขากล้าหรอ ถ้าเขาด่าผมลับหลังล่ะก็ ผมก็ไม่ได้ยินไง” ลี่โม่อวี่หักมุม ทำให้ฉินอีหลินต้องกลอกตา “อีหลิน ใกล้จะปีใหม่แล้ว ผมยังไม่เคยฉลองด้วยกันกับคุณและลูกๆในช่วงปีใหม่เลย”
“ใกล้จะปีใหม่แล้วหรอ”
ช่วงนี้ฉินอีหลินยุ่งตลอดเวลา จนเธอลืมไปแล้วว่าใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว
“ลูกๆงอแงอยากได้เสื้อผ้าใหม่ แม่บอกให้พาพวกเขาไปซื้อ พวกเขายังไงก็ต้องให้คุณไปซื้อให้ได้”
ฉินอีหลินฟังลี่โม่อวี่พูดจบ พลันปวดหัวใจ เธอพลาดการเติบโตของเด็กทั้งสองไป ยังดีที่เด็กๆว่าง่าย ไม่งอแง ไม่งั้นคงรู้สึกผิดมากกว่านี้”
ประเทศMไม่เฉลิมฉลองปีใหม่จีน บวกกับตอนนี้มีสงครามระหว่างคนเชื้อสายรองและคนเชื้อสายหลัก ฉินอีหลินจึงลืมไปแล้วว่าใกล้ถึงปีใหม่แล้ว
ตอนนี้ลี่โม่อวี่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาฉลองปีใหม่กับเธอ ถ้าฉินอีหลินบอกว่าไม่ดีใจ ก็คงโกหก
“อีหลิน ปีใหม่ปีนี้ เราจะครบรอบหกปีแล้ว ดีจังเลย ในที่สุดผมก็จับคุณเอาไว้ได้แล้ว”
ลี่โม่อวี่โอบกอดคนในอ้อมแขน ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
“ลี่โม่อวี่ ฉันรักคุณ”
ลี่โม่อวี่ไม่คิดว่าจะได้ยินฉินอีหลินบอกรักร้อนแรงแบบนี้ รู้สึกไม่น่าเชื่ออยู่ชั่วขณะ เขายึดไหล่ของฉินอีหลินเอาไว้ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผู้หญิงของตน
ขณะที่สัมผัสถึงความรู้สึกลึกซึ้งนั้น เขาควบคุมการกระทำของตนเองไม่ได้อีกแล้ว อ้าปากประกบเข้ากับริมฝีปากชมพูนุ่มนั้น