บทที่ 335 ใช้ชีวิตปกป้องอีหลิน
เช่นเดิม ฉินอีหลินให้ความร่วมมือกับลี่โม่อวี่เป็นอย่างดี จูบร้อนแรงกลับไป ในขณะที่ทั้งสองกำลังมัวเมา
ประตูห้องของพวกเขาก็ถูกเปิดออก หลงจิ่นเซวียนสวมชุดนอนสพันจ์บ็อบน่ารัก ขยี้ดวงตาที่ยังไม่เปิด อ้าปากกำลังจะพูด แต่เห็นฉินอีหลินและลี่โม่อวี่กำลังจูบกันอยู่แบบนั้น
ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินรีบผละออกจากกัน มองจิ่นเซวียนอย่างกระอักกระอ่วน คิดในใจ เจ้าเด็กคนนี้ มาอะไรตอนนี้
“คุณพ่อคุณแม่ ทำอะไรอยู่คะ” หลงจิ่นเซวียนเห็นทั้งสองรีบแยกออกจากกันจึงถาม
“เอ่อ……….”ฉันอีหลินและลี่โม่อวี่พลันไม่รู้จะอธิบายให้หลงจิ่นเซวียนฟังอย่างไร เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่หลงจิ่นเซวียนเจอเรื่องแบบนี้
ดีที่คนเป็นแม่อย่างฉินอีหลินดึงสติกลับมาได้เร็ว เอ่ยกับหลงจิ่นเซวียนอย่างเป็นธรรมชาติ “เด็กน้อย มาหาแม่มา”
หลงจิ่นเซวียนก้าวเท้าเล็กๆเดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านข้างของฉินอีหลิน ฉินอีหลินจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นลูบศีรษะของหลงจิ่นเซวียนแล้วบอก “เด็กดี เมื่อสักครู่พ่อหนูกำลังรังแกแม่”
เอ่ยจบฉินอีหลินจึงแสร้งทำท่าทางน่าสงสาร
หลงจิ่นเซวียนได้ฟังดังนั้น ชั่วครู่จึงมุ่ยปากเล็กด้วยความขุ่นเคือง ยื่นมือชี้นิ้วไปยังลี่โม่อวี่แล้วบอก “คุณพ่อคะ ต่อไปไม่อนุญาตให้รังแกคุณแม่อีกนะคะ”
ลี่โม่อวี่ได้ยินแล้วไม่รู้จะทำยังไง จึงได้แต่ตามน้ำ มองฉินอีหลินที่ยิ้มขำอยู่ด้านหลังหลงจิ่นเซวียน ลี่โม่อวี่จึงต้องตอบออกไป “พ่อผิดไปแล้วครับ เด็กดีให้อภัยพ่อได้ไหมครับ” เอ่ยจบจึงแสร้งทำท่าทางน่าสงสาร
หลงจิ่นเซวียนที่จิตใจดีและบริสุทธิ์วางมือลง คิดอยู่เล็กน้อย จากนั้นจึงบอกอย่างประนีประนอม “งั้นคุณพ่อต้องรับปากว่าต่อไปจะไม่รังแกคุณแม่อีกนะคะ”
“ครับ พ่อรับปาก” ลี่โม่อวี่แสดงสีหน้าให้คำมั่นสัญญา
นี่เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ หลังจากล้างหน้าล้างตา ฉินอีหลินและลี่โม่อวี่พาเด็กน้อยทั้งสองที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลงบันไดมา พึ่งจะก้าวออกประตูห้อง ก็ได้พบกับหลงหลิงที่ไม่ได้อยู่ทานอาหารเย็นพร้อมกันเมื่อวาน
ห่างออกไป หลงหลิงก็มองเห็นฉินอีหลินและชายแปลกหน้าเดินไปด้วยกันท่าทางสนิทสนม แถมทั้งสองยังต่างคนต่างอุ้มเด็ก
“เอ๋ คุณเป็นใคร” หลงหลิงยังคงเสียงดัง แม้จะมองออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่ธรรมดา แต่หลงหลิงยังคงถามแบบนี้
ฉินอีหลินรีบออกมายืน กะพริบตาปริบใส่หลงหลิง จากนั้นจึงบอกยิ้มๆ “หลิงเอ๋อ ลืมบอกเธอเลย นี่คือว่าที่สามีของฉันลี่โม่อวี่ เขามาเมื่อวาน”
“อ้อ จริงสิ นี่คือลูกทั้งสองของฉัน หมิงเจ๋อ จิ่นเซวียน รีบทักทายคุณน้าสิ” ฉินอีหลินบอกอีกครั้ง
“สวัสดีครับคุณน้า”
“สวัสดีค่ะคุณน้า”
เด็กทั้งสองกล่าวทักทายหลงหลิงอย่างว่าง่าย เพียงแต่ก่อนหน้านี้ลี่โม่อวี่ถูกหลงหลิงทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ได้ฟังคำถามของเธอ เหมือนกำลังสงสัยเขา
หลิงหลงเองก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองไม่มีมารยาท จึงรีบกล่าวขอโทษลี่โม่อวี่ยิ้มๆพึ่งเจอไม่ทันไร เธอก็ถูกลี่โม่อวี่ดึงดูดซะแล้ว
ถึงแม้ว่าลี่โม่อวี่จะไม่ออกแนวอังกฤษเหมือนอ้ายหลุน แต่กลิ่นอายน่าเกรงขามอย่างผู้มีประสบการณ์ที่คนทั่วไปไม่มี โดยเฉพาะใบหน้าเรียบนิ่งรวมทั้งรูปร่างสูงสันทัด ทำให้หลงหลิงผู้ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ยากที่จะถอนตัวขึ้น
แน่นอนว่าฉินอีหลินมองเห็นความเขินอายของหลงหลิง ตบหน้าผากเธอไปหนึ่งครั้ง เธอเดินเข้าไปข้างหน้า ผลักหลงหลิงที่มีท่าทางบ้าผู้ชาย พูดยิ้มๆ “มองจนเป็นบ้าไปแล้วรึไง”
หลงหลิงดึงสติกลับมา ใบหน้ากระอักกระอ่วน จากนั้นยื่นมือออกไปทักทายลี่โม่อวี่อย่างมีมารยาท “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
ลี่โม่อวี่จับมือกับเธอท่าทางเกรงใจ ความจริงฉินอีหลินเคยพูดถึงหลงหลิงให้เขาฟังด้วย สามารถเป็นเพื่อนรักของฉินอีหลินได้ ในใจลี่โม่อวี่ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจเธอ
“ไปกันเถอะ ไปทานข้าวด้วยกัน” ฉินอีหลินค่อยๆทำลายบรรยากาศกระอักกระอ่วน
จากนั้นเดินไปพร้อมกันทั้งห้าคน ผู้ใหญ่สาม เด็กสอง มุ่งหน้าตรงไปยังห้องรับประทานอาหาร
ห้องรับประทานอาหารตระกูลหลง หลงเซี่ยวเทียน หลงเสี้ยวตี้และซ่งชือยุ่นนั่งอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นเด็กๆเข้ามา ใบหน้าของผู้อาวุโสทั้งสามเผยอาการดีใจออกมา
หลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียนรีบกระโดดจากอ้อมกอดของลี่โม่อวี่และฉินอีหลินตั้งแต่ก้าวเข้ามา เด็กทั้งสองกระโดดโลดเต้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าหลงเซี่ยวเทียน พูดอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับ/ค่ะ คุณตา” จากนั้นหันไปหาหลงเสี้ยวตี้และซ่งชือยุ่นแล้วเอ่ย “คุณปู่สอง คุณย่าสอง สวัสดีครับ/ค่ะ”
เด็กน้อยน่ารักทั้งสอง ไม่นานก็สามารถทำให้คนแก่ทั้งสามยิ้มไม่หุบได้
“รีบนั่งกันเถอะ” หลงเซี่ยวเทียนบอกยิ้มๆ
จากนั้นฉินอีหลินและลี่โม่อวี่จึงนั่งลง หลงหลิงนั่งลงข้างฉินอีหลิน
“ลุงสอง ป้าสองสวัสดีครับ” ลี่โม่อวี่ไม่ลืมฐานะตนเอง ทักทายหลงเสี้ยวตี้และซ่งชือยุ่นอย่างมีมารยาท หลงเสี้ยวตี้ไม่ได้ตอบสนองอะไร ซ่งชือยุ่นยิ้มให้และส่งเสียงตอบรับเล็กน้อย
“หลงหมิงเจ๋อ หลงจิ่นเซวียน อย่ารบกวนคุณตาทานข้าว นั่งลงทานข้าวเองเลย” ฉินอีหลินพูดกับเด็กทั้งสองน้ำเสียงเข้มเล็กน้อย
เด็กทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้เด็กที่มีไว้ให้ตนโดยเฉพาะแล้วทานอาหารตรงหน้า หลงหลิงที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นเด็กทั้งสองว่าง่ายขนาดนี้ จึงชื่นชอบอย่างช่วยไม่ได้
“อีหลิน ในเมื่อโม่อวี่และเด็กๆก็มาแล้ว บริษัทฝั่งนั้นก็ไม่ต้องไปหรอก พ่อจะส่งคนอื่นไปแทน” หลงเซี่ยวเทียนบอก
ฉินอีหลินมองพ่อตนเองด้วยความรู้สึกขอบคุณ และก็คงมีเพียงพ่อที่เข้าใจความคิดของลูกสาวตน หลงเซี่ยวเทียนยิ้มตอบกลับฉินอีหลินไป
“เย้”
“เย้” เด็กทั้งสองได้ยินว่าแม่ไม่ต้องไปทำงาน ก็ดีใจกันอย่างมาก เพราะแบบนี้ก็จะได้อยู่กับพวกเขาแล้ว
แต่ว่าหลงเสี้ยวตี้ที่อยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อวานที่ลี่โม่อวี่มาถึงแล้วก็มีท่าทีเย็นชากับเขาตลอด แน่นอนว่าลี่โม่อวี่มองออก
ลี่โม่อวี่ดูแล้ว ลุงสองคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับตน เขามองออกว่าลุงสองคนนี้ปกติดูไม่ค่อยพูด แต่นี่เป็นสิ่งที่เขาซ่อนมันจากตัวเอง
ลี่โม่อวี่ดูออกว่าลุงสองคนนี้ห่วงใยตระกูลหลงและฉินอีหลินจริงๆ คงเป็นเพราะเรื่องที่ฉินอีหลินแท้ง ลุงสองเข้าใจตนเองผิดไป ลี่โม่อวี่คิดแบบนี้อยู่ในใจ แต่เขายังเคารพต่อหลงเสี้ยวตี้อยู่
“ลี่โม่อวี่ใช่ไหม ในเมื่อคุณเรียกผมว่าลุงสอง ผมก็ไม่สนใจว่าครอบครัวของคุณต่อไปจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ถ้าทำให้ฉินอีหลินต้องเสียใจ ตระกูลหลงของเราไม่ปล่อยคุณไว้แน่” หลงเสี้ยวตี้กล่าวอย่างเด็ดขาดและหนักแน่น
ซ่งชือยุ่นที่อยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้น รีบบอกกับลี่โม่อวี่ยิ้มๆ “โม่อวี่ อย่าไปฟังลุงสองเขาพูดเลอะเทอะเลย”
ลี่โม่อวี่ฟังออกถึงความห่วงใยที่หลงเสี้ยวตี้มีต่อฉินอีหลิน เขายกแก้วเหล้าข้างๆขึ้นแล้วบอกกับหลงเสี้ยวตี้อย่างนอบน้อม “ลุงสอง คุณวางใจได้เลยครับ ผมลี่โม่อวี่ ชาตินี้ทั้งชาติจะใช้ชีวิตปกป้องอีหลิน”
“ให้ดีขอให้คุณพูดได้ทำได้” หลงเสี้ยวตี้กลับมาปกติบ้างแล้วจากนั้นเอ่ยตอบรับเบาๆครั้งหนึ่ง
ซ่งชือยุ่นมองคนของตนเองอย่างเบื่อหน่าย ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าหลงเสี้ยวตี้กำลังปกป้องและใส่ใจคนในครอบครัวตนเองอยู่