บทที่ 369 พวกคุณปลอดภัยแล้ว
หลวเจี้ยนที่สีหน้าไม่สู้ดีนักไม่ได้ตอบไปในทันที เขานั่งลงบนโซฟาแล้วเขาบอกทั้งสองคน “คนของคนเชื้อสายหลักโจมตีเข้ามาแล้ว พวกเธอรีบเก็บข้าวของแล้วตามฉันมา”
สีหน้าหวงจิ้งฝูกับหลงว่านชิงตึงเครียดขึ้นทันที หลายวันมานี้หลังจากที่ได้ควบคุมตระกูลหลง คนเชื้อสายรองอย่างพวกเขากุมตำแหน่งและอำนาจมาโดยตลอด โดยเฉพาะลูกสาวของหลงเจี้ยนอย่างหลงว่านชิงที่ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น
แต่ทว่าจุดเริ่มต้นความขัดแย้งของคนเชื้อสายรองกับคนเชื้อสายรองเกิดจากลูกสาวแสนสวยแต่ไร้สมองคนนี้
“พ่อ เลิกล้อเล่นได้แล้ว มีท่านมู่ชุนอยู่ทั้งคนใครจะโจมตีเข้ามาได้”
หลงว่านชิงมีสีหน้าไม่ใส่ใจแล้วหันกลับไปดูทีวีของตัวเองอีกครั้ง หลงเจี้ยนก้าวไปข้างหน้า ยกมือขวาขึ้นตบใบหน้าสวยของหลงว่านชิง
“ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะล้มลงถึงจุดนี้ได้หรอ รีบเก็บข้าวของ ถ้าไม่ทำฉันจะเอง” หลงเจี้ยนถลึงตามองหลงว่านชิงอย่างดุร้าย เขายังจำฉากทหารรับจ้างนับพันคนของไป๋หลางได้ ใจเขาเริ่มขลาดกลัว
หลงว่านชิงจับแก้มแดงระเรื่อที่ถูกพ่อตบ ดวงตาเป็นประกายจากรอยน้ำตา แล้วมองหวงจิ้งฝูอย่างเจ็บปวด
แต่ทว่าหวงจิ้งฝูไม่สนใจเธอ หวงจิ้งฝูมองออกว่าเรื่องนี้เร่งด่วน ดูเหมือนว่าเสียงดังที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นผลงานของคนเชื้อสายหลัก เธอจึงหันหลังกลับไปที่ห้องเพื่อเก็บข้าวของแล้วเตรียมหนี
หลงว่านชิงก็เปลี่ยนความคิดเมื่อเห็นแม่ที่ตามใจเธอมีท่าทีเปลี่ยนไป จึงรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
ในชั่วพริบตาเธอรู้สึกว่าตัวเองถูกเปลี่ยนสถานะจากเจ้าหญิงเป็นเหมือนหญิงสาวที่มีชีวิตขมขื่นอีกครั้ง เธอหันหน้ามาหยุดจับแก้มที่บวมแดงแล้วเริ่มเก็บข้าวของ
ในอีกด้านหนึ่งกองทัพทั้งสามได้รับชัยชนะจากการนำของลี่โม่อวี่
คนเชื้อสายรองรวมทั้งกลุ่มคนที่มู่ชุนเรียกว่า “มือดี 500 คน” พวกเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของกองทัพทั้งสามได้
เมื่อเจอกับคนถือปืน นักแม่นปืนของทหารรับจ้างก็ยิงอย่างรวดเร็ว จนศัตรูยังไม่ทันถือปืนออกมาก็หลับตาลงก่อนเสียแล้ว เมื่อเจอคนถืออาวุธ ทางด้านหยางเฟิงก็ลงมือเอง พวกเขาสามารถเอาชนะศัตรูได้ด้วยการโจมตีเพียงสองสามครั้ง
เมื่อที่เหลือเห็นรูปแบบการจัดกองทัพก็ทิ้งอาวุธในมือลงแล้วยกมือขึ้นเหนือหัว
อาโน่มองไป๋หลางอย่างไม่พอใจแล้วบ่นว่า “ไป๋หลาง คนแค่ระดับนี้ต้องส่งทหารรับจ้างมาทั้งหมดเลยหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ไป๋หลางก็รู้สึกผิด น่าขายหน้าที่สุด เขามองคนเชื้อสายรองที่เอามือกุมหัวตรงหน้าด้วยความโกรธแล้วเข้าไปที่หน้า จากนั้นก็ตะโกนด่าว่า “ไอ้พวกขยะ ลุกขึ้นมาสู้กับกูสิ!”
แต่หน้าชายคนนั้นกลับมีเลือดออกเต็มหน้าแล้วนอนหมดสติที่พื้นไป
หยางเฟิงกับหลี่จื้อเถิงที่รีบเข้ามาจากด้านซ้ายขวาเห็นการทารุณของไป๋หลางก็ตะลึงอ้าปากค้าง
หยางเฟิงถอนหายใจ ไม่แปลกใจเลยที่ตอนนั้นพี่ใหญ่ให้ความสำคัญ
หลี่จื้อเถิงกลับคิดในใจว่า ลูกน้องของคุณชายลี่คนนี้กล้าหาญมากจริงๆ เก่งสุดๆไปเลย
ในแง่ของการโจมตีทหารรับจ้างหลงจูแกร่งเป็นที่หนึ่ง ทางด้านหยางเฟิงก็แข็งแกร่งขึ้นอยู่บ้าง ทางด้านหลี่จื้อเถิงดูจะแย่ที่สุด แต่ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามา ศัตรูทั้งหมดที่เจอล้วนคุกเข่าขอความเมตตา
เพราะหยางเฟิงเคยพูดคุยกับไป๋หลางมาบ้าง เขาจึงรู้นิสัยใจคอของเขา หยางเฟิงจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ไป๋หลาง ขั้นต่อไปพี่ใหญ่ให้ทำอะไรต่อ”
ก่อนหน้านี้เพราะเขายุ่งอยู่กับการต่อสู้ หยางเฟิงจึงไม่ได้ฟังเสียงในหูฟัง แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ใหญ่ แต่หยางเฟิงก็ยังชอบบุกเข้าต่อสู้ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ลี่โม่อวี่จึงไม่ค่อยว่าเขา
“พี่ใหญ่ให้ไปช่วยคนเชื้อสายหลักที่ติดอยู่ในห้องโถง” ไป๋หลางพูด
เพราะมีกำลังคนเกือบ 1,500 คน ตอนนี้ถนนบ้านตระกูลหลงจึงแออัดมาก
ไป๋หลางหันไปมองก็ขมวดคิ้ว มีคนตั้งมากมายมาโจมตีตระกูลหลง ดูเหมือนคนจะเยอะเกินไป
ไป๋หลางถอนหายใจแล้วแสดงสีหน้าจริงจังอีกครั้ง เขาโบกมือ ทหารรับจ้างหลงจูจึงเข้าไปในบ้านตระกูลหลงอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบตามคำสั่งผู้นำ
หยางเฟิงและหลี่จื้อเถิงมองไป๋หลางที่บอกให้ไปก็ไปรวมทั้งกองกำลังที่ยืนอย่างยุ่งเหยิง ทั้งสองมองไปรอบๆด้วยความโกรธแล้วตะโกนว่า “ยืนดีๆสิ ยืนเละเทะกันไปหมดแล้ว”
คนเหล่านี้มองผู้นำของตัวเอง พวกเขาไม่รู้จะยืนต่อแถวยังไง แต่เมื่อกี้พวกเขายืนแออัดกับทหารรับจ้างหลงจู แล้วจะเป็นระเบียบได้อย่างไร?
แม้จะรู้สึกว่ามันทำไม่ได้แต่พวกเขาก็ต้องเข้าแถวอย่างรวดเร็วแล้วเดินเข้าไปที่ห้องโถงตระกูลหลงตามคำสั่งของผู้นำทั้งสองคน
เนื่องจากห้องโถงตระกูลหลงอยู่ห่างจากทางเข้าหลักของบ้านไกลมาก ทุกคนจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ที่ทางเข้าห้องโถงมีเพียงคนเชื้อสายรองสองคนที่เฝ้าประตูไว้ พอเห็นไป๋หลางกับอาโน่นำกองทหารรับจ้างเดินเข้ามาแต่ไกลอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร ฝีเท้าที่พร้อมกันทำให้พื้นสั่นสะเทือน
ทั้งสองดูแปลกใจมาก ความคิดแรกที่แวบมาคือมีคนมาโจมตีที่นี่ แต่แล้วก็นึกได้ว่านี่คือบ้านตระกูลหลง พวกเขาจึงคุยกันต่อ
ทันทีที่ไป๋หลางยกมือขึ้น ทั้งกองกำลังก็หยุดอย่างเป็นระเบียบ
“ขอโทษครับ ที่นี่คือห้องโถงบ้านตระกูลหลงใช่มั้ยครับ?” ไป๋หลางถามสมุนคนเชื้อสายรองอย่างสุภาพมากจนทำให้คนที่อยู่ข้างหลังเขาเป็นพันๆคนตกใจ
“ใช่ ที่นี่คือห้องโถงของบ้านตระกูลหลง แล้วนี่อยู่ฝ่ายไหนหรอ คุณมู่ชุนส่งมารึเปล่า?”
ชายรูปร่างเตี้ยที่มีท่าทางอิดโรยหนึ่งในสองคนพูดขึ้น ตั้งแต่ได้เจอมู่ชุน เขาก็ถือมู่ชุนเป็นไอดอลมาโดยตลอด
“มู่ชุน?” ไป๋หลางเอ่ยชื่ออย่างแปลกใจ เขายิ้มแล้วเดินไปหาพวกเขาทั้งสองช้าๆ ระหว่างที่ทั้งสองยังไม่ทันป้องกันตัวนั้น ไป๋หลางเคลื่อนไหวเพียงสองครั้งก็ทำให้ทั้งคู่นอนขดตัวด้วยความเจ็บปวดบนพื้น
แล้วหยิบกุญแจจากหนึ่งในนั้น ไป๋หลางลุกขึ้นแล้วสอดกุญแจเข้าไปในรู จากนั้นเปิดประตูห้องโถง
พอผลักประตูเข้าก็เจอหลงเซี่ยวเทียนที่นั่งอยู่ตรงกลาง เมื่อดูจากออร่าและสายตาแล้ว ไป๋หลางก็มองออกว่านี่คือคนที่พี่ใหญ่ต้องการช่วย
เขาโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ท่านลุง ฉันคือคนที่พี่ใหญ่ลี่ส่งมาช่วยพวกคุณ”
คนเชื้อสายหลักมีสีหน้างุนงงตั้งแต่ที่ไป๋หลางเดินเข้ามา พอพวกเขาได้ยินว่าเป็นคนของลี่โม่อวี่ พวกเขาก็มีสีหน้าดีใจทันที ตอนนี้ใบหน้าของหลงเซี่ยวเทียนดูมีความสุขที่หาดูได้ยาก
“โม่อวี่ล่ะ?” หลงเซี่ยวเทียนลุกขึ้นถาม
ไป๋หลางรีบอธิบาย “พี่ใหญ่ยังคงไปดูทางที่ประตูหลัง เชื่อว่าอีกเดี๋ยวก็คงมา”
หลงเซี่ยวเทียนพยักหน้า แต่ยังคงมีสีสงสัย เพราะคนที่เข้ามาในห้องโถงมีเพียงไป๋หลางคนเดียวและเมื่อเห็นท่าทางผ่อนคลายของเขา มันดูเหมือนว่าไม่ได้ผ่านการต่อสู้มาเลย
เมื่อมองสีหน้าสงสัยของทุกคนออก ไป๋หลางก็ไม่ได้คิดจะอธิบายอะไรมาก “ทุกคนตามฉันมา ตอนนี้ตระกูลหลงกลับมาอยู่ในมือของคนเชื้อสายตรงแล้ว ทุกคนปลอดภัยแล้ว”
คนเชื้อสายหลักได้ฟังก็รู้สึกสะเทือนใจ หลายวันที่ผ่านมาพวกเขารู้สึกลำบากมากๆ
หลงเซี่ยวเทียนหรี่ตาลง หลงเจี้ยน เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกคนชั่วไปแน่