บทที่ 359 สงครามนองเลือดกำลังจะมา
“ท่าน” ยังคงหันหลังให้ น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาเช่นเดิม “ไอผีแดง ฉันต้องการให้แกเอาตัวลี่โม่อวี่มาให้ฉันก่อนพรุ่งนี้ ถ้าถึงเวลานั้นสามารถ…” “ท่าน” ทำท่าเชือดคอ
ร่างที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของห้องนั้นไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขาได้ชัด ไอผีแดงพยักหน้าไม่พูดอะไร แล้วหายออกไปจากห้องหนังสือราวกับสายลม
เขาเป็นหัวหน้านักฆ่าที่ได้รับเงินสนับสนุนมหาศาลการฝึกฝนโดย “ท่าน” ในมือไอผีแดงมีทีมนักฆ่า 20 คน กลุ่มนี้ล้วนเป็นนักฆ่าชั้นยอด เป็นกลุ่มปีศาจที่กระหายเลือด
สำหรับไอผีแดงนั้น “ท่าน” มั่นใจในตัวเขามาก ศัตรูจำนวนมากก่อนหน้านี้ก็ตายใต้คมมีดของไอผีแดง
…
ลี่โม่อวี่ในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าคนที่เก่งกาจจะมาเอาชีวิตเขา เขากำลังปรึกษาฉินอีหลินเกี่ยวกับแผนการของเขา
“เราสามารถติดต่อGeoffreyได้ ยังไงซะอ้ายหลุนก็อยู่ในมือของพวกเขา” ฉินอีหลินแนะนำ พอพูดถึงตรงนี้ ฉินอีหลินก็รู้สึกผิดที่ก่อนหน้านี้เธอด่าอ้ายหลุนว่าขี้ขลาด
ลี่โม่อวี่เห็นสายตาของฉินอีหลินก็รู้ทันทีว่าฉินอีหลินคิดอะไรอยู่ แต่กองกำลังGeoffreyก็ไม่ควรมองข้าม ในเมื่ออีกฝ่ายลักพาตัวอ้ายหลุนไป Geoffreyก็ไม่มีทางเพิกเฉยแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนั้น ลี่โม่อวี่ที่เดิมจะโทรหาGeoffrey แต่ก็นึกได้ว่าจิ่นเซวียนอยู่ที่นั่น เขาจึงคิดที่จะไปรับเธอจะได้ไปคุยกับGeoffreyด้วย
ลี่โม่อวี่อธิบายสถานการณ์ให้ฉินอีหลินฟังโดยไม่ลังเลแล้วทั้งสองก็ออกจากบ้านด้วยกัน
ลูกน้องสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูชื่อเมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยล้วนเป็นคนตะวันออกเฉียงเหนือแท้ๆ
เมื่อเห็นลี่โม่อวี่เดินออกมา ชายร่างสูงที่ชื่อเมิ่งจื่อก็รีบขึ้นทันทีถามว่า “คุณจะออกจากบ้านหรือครับ?”
นายบอกว่าให้เขาปกป้องความปลอดภัยของทั้งคู่ด้วยชีวิต ในฐานะทหารผ่านศึกเมิ่งจื่อเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่พูดอะไร ตอนนี้พวกเขากำลังจะออกไป เมิ่งจื่อมีหน้าที่ถามให้ชัดเจน
“อืม ฉันจะไปรับคน” ลี่โม่อวี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วตอบ ผู้ชายที่ตรงไปตรงมามักจะเป็นคนที่น่าคบที่สุด
“เราได้รับคำสั่งให้ปกป้องคุณทั้งสองคน 24 ชั่วโมง ดังนั้นเราต้องไปกับคุณ…” เมิ่งจื่อพูดจบก็เกาหัวด้วยความลำบากใจ
“ได้สิ ลำบากพวกนายซะแล้ว” ลี่โม่อวี่กล่าว
“ไม่ลำบากครับ การดูแลความปลอดภัยของคุณทั้งสองคนครับที่สำคัญ”
เมิ่งจื่อก็เรียกเสี่ยวเป้ยให้ขึ้นรถ ชายชาวตะวันออกเฉียงเหนือคนนี้จัดการเรื่องต่างๆได้ไม่เลวทีเดียว ไม่นานรถบิวอิคก์ที่นั่งสามแถวก็ขับมาจอดหน้าลี่โม่อวี่
เมิ่งจื่อโบกมือ ลี่โม่อวี่ก็พาฉินอีหลินขึ้นมานั่ง
เมิ่งจื่อรับหน้าที่ขับรถ เสี่ยวเป้ยนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ ทั้งสี่คนออกจากเขตคฤหาสน์แล้วขับรถไปตามที่อยู่ที่ลี่โม่อวี่บอก
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือระหว่างทางครั้งนี้มีสงครามนองเลือดที่ยากจะลืมเลือนรอพวกเขาอยู่
ในซอยหนึ่งของถนน ลูกน้องของไอผีแดงยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมมีดสั้นในมือ ทันใดนั้นก็มีร่างที่เห็นหน้าตาไม่ชัดปรากฏอยู่ข้างหลังเขา
“เป้าหมายปรากฏ”
ไอผีแดงพยักหน้าแล้วร่างนั้นก็ถอยออกไป เขาไม่ได้ผลีผลาม เขาต้องการรอให้พวกลี่โม่อวี่ออกมาจากบ้านGeoffreyก่อนแล้วค่อยลงมือ
เมิ่งจื่อขับรถคันนี้แล่นไปตามถนนอย่างชำนาญ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของGeoffrey
ก่อนเอารถไปจอด ลี่โม่อวี่และฉินอีหลินก็ลงจากรถก่อน จากนั้นเมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยก็เดินตามพวกเขาอย่างใกล้ชิดด้วยความระมัดระวัง
“อย่ากังวลไปเลยนี่คือกองกำลังของGeoffrey ศัตรูไม่โง่พอที่จะโจมตีที่นี่หรอก” ลี่โม่อวี่เห็นว่าทั้งสองกังวลก็พูดด้วยรอยยิ้ม
แต่พอทั้งคู่ฟังจบก็ยังคงตื่นตัวเช่นเดิม นี่คือหน้าที่ของพวกเขาในฐานะบอดี้การ์ด
พ่อบ้านหน้าประตูรู้จักลี่โม่อวี่กับฉินอีหลิน พวกเขากล่าวทักทายแล้วเข้าไปในคฤหาสน์
Geoffreyได้รับรายงานจากลูกน้องก็รอพวกเขาที่ห้องโถง ลี่โม่อวี่ให้เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยรออยู่ที่ประตูแล้วเขาก็พาฉินอีหลินเดินเข้ามา
Geoffreyได้สั่งให้คนพาหลงจิ่นเซวียนมา พอเข้าบ้านแล้วเด็กน้อยเจอพ่อแม่ก็โผเข้าไปหาอย่างดีใจ
“แม่จ๋าจิ่นเซวียนคิดถึงแม่มากๆเลย” ขอบตาของเด็กตัวเล็กแดง น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอมีความอาลัยอาวรณ์มากๆ
ฉินอีหลินกอดหลงจิ่นเซวียนแล้วปลอบโยนเธอพลางเรียกGeoffrey “คุณปู่”
ฉินอีหลินกำลังจะพูดถึงเรื่องอ้ายหลุน แต่ชายชราก็โบกมือแสดงว่าเขารู้ทุกอย่างแล้ว
ฉินอีหลินไปดูแลหลงจิ่นเซวียน Geoffreyพาลี่โม่อวี่ที่มีเรื่องในใจมาที่ห้องหนังสือ
“ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายเกินคาดมาก นายมั่นใจมั้ย?” Geoffreyที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพูดอย่างเย็นชา
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ชักแม่น้ำทั้งห้า ตอนนี้เวลาคือชีวิต “ฉันได้ควบคุมพละกำลังอื่นๆไว้แล้ว ตอนนี้เพียงรอทีมของฉันพร้อม ก็จะสามารถต่อสู้กับเขาได้ทันที”
Geoffreyมองลี่โม่อวี่อย่างประหลาดใจ Geoffreyได้ข่าวว่าศัตรูมีอำนาจทางทหาร
เขาไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะควบคุมมันได้ ดูเหมือนว่าตระกูลของเขาจะไม่ธรรมดา
“ถ้านายพูดแบบนี้ ฉันก็โล่งใจ แต่ถ้านายลงมือเมื่อไรต้องบอกฉัน อ้ายหลุนยังอยู่ในมือของพวกเขา” สีหน้าGeoffreyมีความกังวลที่หาดูได้ยาก การที่อ้ายหลุนถูกลักพาตัวทำให้เขากังวลมาก
“ไม่ต้องห่วงครับ ฉันจะช่วยอ้ายหลุนให้ได้”
ไม่ว่าระหว่างพวกเขาจะเป็นยังไง อ้ายหลุนต้องเสี่ยงภัยเพียงลำพังเพื่อซ่อนพวกเขาทั้งสองคนในวันนั้น ซึ่งนั่นทำให้ลี่โม่อวี่ไม่มีอะไรจะมาตอบแทนเขาได้
Geoffreyพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร อันที่จริงหลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ชายชรารู้สึกว่าอ้ายหลุนโตขึ้น
เมื่อดูเวลาลี่โม่อวี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่ต่อ คราวนี้ที่เขามาก็เพื่อติดต่อGeoffreyและมารับหลงจิ่นเซวียน
เมื่อได้ยินว่าลี่โม่อวี่กำลังจะไป Geoffreyก็ไม่ได้คิดจะออกไปส่งเขา แต่พอเขาได้ยินว่าจิ่นเซวียนจะไปแล้ว ชายชราก็อาลัยอาวรณ์
หลงจิ่นเซวียนอยู่กับเขามาตลอดสองวัน เขาก็ชอบเด็กตัวเล็กๆคนนี้มาก
“จิ่นเซวียน เราไปกันแล้วนะ” ฉินอีหลินเห็นลี่โม่อวี่และGeoffreyเดินออกมา ก็ว่าพวกเขาคุยกันเสร็จแล้ว ต้องไปแล้ว
หลงจิ่นเซวียนเดินเบาๆเข้าไปหาแล้วพูดอย่างน่ารักว่า “วันหลังจิ่นเซวียน จะมาหานะคะ” แม้ว่าที่หน้าผากหลงจิ่นเซวียนจะมีรอยแผลเป็น แต่ก็มันก็ไม่สามารถปกปิดความน่ารักของเธอได้
“ตกลง คำไหนคำนั้น” Geoffreyพูดพลางถอนหายใจเล็กน้อย ไปกันหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเขาคนเดียวแล้ว
ฉินอีหลินกล่าวขอบคุณGeoffreyที่ช่วยดูแลหลงจิ่นเซวียนสองสามวันที่ผ่านมา เมื่อกี้เธอได้ฟังหลงจิ่นเซวียนพูดถึงเรื่องสองสามวันที่ผ่านมาแล้ว
ครอบครัวทั้งสามคนขึ้นรถบิวอิคก์อีกครั้ง เดิมทีGeoffreyกะจะส่งคนตามพวกเขาอีกชั้น แต่ลี่โม่อวี่ชี้ไปที่เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยแล้วพูดว่า “พวกเขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งมาก”
Geoffreyพยักหน้าอย่างเข้าใจจึงไม่ได้ส่งคนตาม แต่เมิ่งจื่อและเสี่ยวเป้ยกลับเงยหน้าขึ้นด้วยความขอบคุณ
ทั้งสามคนยังคงนั่งอยู่ที่เบาะหลังแถวที่สอง เพราะหลงจิ่นเซวียนยังเด็กอยู่จึงไม่ได้แออัดมากนัก
เมิ่งจื่อขับรถบิวอิคก์คันนี้อย่างชำนาญกลับทางเดิม
ในตอนนั้นเองพวกเขายังไม่รู้ว่าการต่อสู้กำลังจะมาถึง