บทที่ 365 ทำตัวเองขายหน้า
การกระทำของลี่อานโก๋เริ่มยิงตอบโต้นัดแรก
ลี่โม่อวี่ที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟารู้ข่าว แม้ว่าจะดึกแล้วแต่เขาก็ยังไม่นอน
เมื่อกี้ซือเซี่ยโทรมาบอกเขาว่าผู้อำนวยการลี่ได้จำกัดอำนาจของทหารของประเทศMแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการของลี่โม่อวี่แล้ว
ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้วอย่างกลัดกลุ้ม
เขาประเมินกำลังคนของเขา นอกจากพี่น้อง 300 คนที่หยางเฟิงพามาจากฮั๋วเซี่ยแล้ว ลี่โม่อวี่พบว่าคนอื่นๆยังมาไม่ถึง ตามที่ตกลงกันไว้ไป๋หลางน่าจะมาถึงประเทศMแล้ว แต่กลับยังไม่มีข่าวคราว
จริงๆไป๋หลางเตรียมลงจอดในเมืองDประเทศMในช่วงบ่ายแล้ว แต่เพราะอาโน่ไม่ได้บอกกองทัพประเทศMล่วงหน้า พออีกฝ่ายจึงเห็นทีมเครื่องบินขนาดใหญ่ในเรดาร์ก็นึกว่ามันเป็นผู้ก่อการร้ายรุกราน ดังนั้นกองบินจึงส่งคนไปเตือนทหารรับจ้างหลงจู
อาโน่นั่งอยู่ในอาปาเช่แล้วตบหัว เขาลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้อย่างไร
เขาสื่อสารกับอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นพวกเขาก็ถูกบังคับให้ลงจอดที่สนามบินทหารเก่าในประเทศMซึ่งห่างจากเมืองD
ไป๋หลางกับอาโน่มองทหารรับจ้างหลงจูที่อาวุธครบมืออย่างทำอะไรไม่ถูก
เรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือจะไปหาลี่โม่อวี่ในเวลาสั้นๆแบบนี้ได้อย่างไร
ไป๋หลางหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกอย่างรู้สึกผิด
“พี่ใหญ่ ฉันไป๋หลาง ฉันพาพี่น้องมาถึงแล้ว แต่…” ไป๋หลางอธิบายสถานการณ์ตอนนี้ให้ลี่โม่อวี่ฟัง ลี่โม่อวี่ได้ฟังดังนั้นโทรหาaทันที aต้องมีวิธีแน่นอน…
ไม่คิดเลยว่าคนที่รับสายจะเป็นอ้ายหลุน ลี่โม่อวี่รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าอ้ายหลุนถูกปล่อยตัวแล้ว
เมื่อได้ฟังคำขอของเขา อ้ายหลุนโทรติดต่อหน่วยงานขนส่งของประเทศMที่อยู่ใกล้กับกลุ่มทหารรับจ้างหลงจูมากที่สุดอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นไม่นานรถบรรทุกที่มีใบอนุญาตทางทหารก็หยุดอยู่ตรงหน้าไป๋หลางทั้งหมด 50 คัน
หลังจากไป๋หลางกล่าวลาลี่โม่อวี่ทางโทรศัพท์ หลังจากโบกมือทหารรับจ้างนับพันคนก็ขึ้นรถอย่างเป็นระเบียบ กองทัพกองนี้ก็รีบไปบ้านตระกูลหลงในคืนนั้น
อีกฝั่งหนึ่งเมื่อลี่โม่อวี่รู้ว่าอ้ายหลุนกลับมาแล้ว เขาก็ไม่ได้เสแสร้งขอบคุณอ้ายหลุนสำหรับทุกอย่างที่เขาทำให้พวกเขาสองสามีภรรยา บางครั้งผู้ชายจะไม่แสดงความรู้สึกออกมาโดยตรง แต่จะซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ในใจ
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้พาฉันไปด้วยได้ไหม” อ้ายหลุนถาม
ลี่โม่อวี่ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล สิ่งที่เขาต้องเผชิญคือการรวมตัวกันของตระกูลใหญ่หลายตระกูล การมีอ้ายหลุนเพิ่มจะยิ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้น
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือเพียงพรรคพวกของไป๋หลางมา
ลี่โม่อวี่ไม่รู้สึกง่วงนอนแม้แต่น้อย เขารอมานานแล้วสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาจะทำทุกทางเพื่อช่วยฉินอีหลินและคนเชื้อสายหลักตระกูลหลงโดยไม่สนสิ่งที่ตามมา
ในแววตาที่สงบของลี่โม่อวี่ฉายแววความกระตือรือร้น เขารอต่อไปไม่ไหวแล้ว
…
ในห้องโถงตระกูลหลง หลังจาก “ท่าน” ไปแล้ว ในที่สุดผู้ตัดสินใจทุกอย่างของตระกูลหลงก็เปลี่ยนเป็นมู่ชุน
สองวันมานี้มู่ชุนมีท่าทีภูมิใจมาก ทำให้หลงเจี้ยนค่อนข้างไม่สบายใจ เขาคิดว่ามู่ชุนไม่อยากออกไปจากที่นี่ เขาจึงรู้สึกกลัดกลุ้มแต่เขาไม่กล้าแสดงออก
หลังจาก “ท่าน” จากไปแล้ว ตระกูลที่เขาร่วมมือด้วยเหลือลูกน้องแค่เพียงไม่ถึง 500 คน
คนเหล่านี้ล้วนทำตามคำสั่งมู่ชุน ในสายตาของตระกูลใหญ่ จุดประสงค์ของการเดินทางมาตระกูลหลงประสบผลสำเร็จแล้ว พวกเขาจะไม่เสียพลังงานไปกับคนตระกูลหลงที่เหลือแล้ว ดังนั้นจึงส่งมู่ชุนที่ไร้ประโยชน์มาเฝ้าที่นี่
ลี่โม่อวี่กลับยังไม่รู้ว่าฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อถูกฝ่ายตรงข้ามพาตัวไป
“หลงเจี้ยนฉันรู้ว่านายอยากเป็นผู้นำตระกูลมาโดยตลอด ตอนนี้ฉันจะเติมเต็มความต้องการนายเอง”
หลงเจี้ยนพยักหน้าอย่างยินดี นานมากแล้วที่เขาคอยประจบประแจง คอยร่วมมือกับมู่ชุนโดยไม่สนผลที่ตามมาก็เพื่อรอให้วันนี้มาถึง
“ขอบคุณครับท่านมู่ชุน” หลงเจี้ยนมองอย่างเคารพและเชื่อฟัง
ทั้งสองพูดพลางมาที่ประตูห้องโถง หลงเจี้ยนถือกุญแจเปิดประตูห้องโถง
หลงเซี่ยวเทียนและคนอื่นๆอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว แต่ก็หาโอกาสออกไปข้างนอกไม่ได้
เพราะหลงเจี้ยนจงใจให้คนมาเฝ้าประตูของห้องโถงเป็นพิเศษ
คนเชื้อสายหลักทำตัวเหมือนไม่เห็นพวกเขาเข้ามา ทำให้หลงเจี้ยนที่กำลังรู้สึกภูมิใจอยู่โกรธมาก เขามองคนเชื้อสายหลักแล้วขมวดคิ้ว “พวกแกยังไม่คิดให้ดีอีกหรอ?”
หลงเซี่ยวเทียนมองเขาอย่างเย็นชา “หลงเจี้ยน ฉันจะบอกแกให้นะว่าแกไม่สามารถได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลหลงได้หรอก แกมันไม่คู่ควร”
หลงเจี้ยนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ตอนนี้แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้งั้นหรอ หลงเซี่ยวเทียนรีบเอาแหวนผู้นำตระกูลมาให้ฉันซะเถอะ”
หลงเจี้ยนพูดถึงแหวนขึ้นมาเป็นเพราะหลงเสี่ยวเซินส่งต่อให้หลงเซี่ยวเทียนต้อนรับตำแหน่งต่อ ตอนนี้เขาก็อยากได้มัน
หลงเซี่ยวเทียนถอดแหวนที่นิ้วหัวแม่มือออกแล้วเช็ดมันเบาๆ จากนั้นมองหลงเจี้ยนอย่างดุร้าย “ถ้าแกต้องการก็เข้ามาเอาสิ”
เขาพูดพลางเหยียดแขนที่มีแหวนวางบนฝ่ามือออก
ตอนแรกหลงเจี้ยนนึกว่าหลงเซี่ยวเทียนจะมอบแหวนให้เขา แต่เมื่อเขาเห็นสายตาของหลงเซี่ยวเทียนรวมทั้งสายตาของคนเชื้อสายหลักคนอื่นๆที่อยู่รอบๆ หลงเจี้ยนก็ใจฝ่ออย่างคาดไม่ถึง
“หลงเซี่ยวเทียนอย่าถือตัวไปหน่อยเลย ตอนนี้แกก็เป็นแค่คนที่เสื่อมอำนาจไปแล้ว” หลงเจี้ยนแสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดเพื่อให้กำลังใจตัวเองซึ่งเขาไม่รู้ตัวเลยว่ามันยิ่งทำให้ดูเขาตลกมากขึ้นในสายตาของคนอื่น
มู่ชุนยืนอยู่ข้างหลังหลงเจี้ยน ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาก็เห็นแค่หลงเจี้ยนที่ทำตัวเหมือนเป็นตัวตลกที่ค่อยๆทำให้ตัวเองขายหน้าเรื่อยๆ
มู่ชุนยิ้มอย่างดูถูก พูดในใจว่าทำไมเขาถึงอยู่กับคนแบบนี้ได้
หลงเซี่ยวเทียนมองหลงเจี้ยนอย่างเฉยเมยแล้วเก็บแหวนในมือกลับ แต่เขาไม่ได้ใส่กลับที่เดิม เพียงแต่ใส่มันไว้ในกระเป๋ากางเกงด้วยสีหน้ามืดมัว
อานหน้าสีหน้าหลงเซี่ยวเทียนเปลี่ยนไป เธอจึงจับมือหลงเซี่ยวเทียนอย่างเอาใจใส่แล้วส่งสายตาให้กำลังใจให้
หลงเซี่ยวเทียนยิ้มเพื่อบอกว่าเขาไม่เป็นไร
การกระทำของพวกเขาอยู่ในสายตามู่ชุนกลับกลายเป็นอีกเรื่อง แต่มู่ชุนพยายามระงับความหงุดหงิดในใจแล้วบังคับให้ตัวเองยิ้มอย่างผ่อนคลาย แต่คนอื่นกลับรู้สึกว่ามันน่าสมเพช
“หลงเซี่ยวเทียนฟังให้ดี พรุ่งนี้เช้าจะมีการจัดพิธีรับช่วงต่อผู้นำตระกูลหลงของหลงเจี้ยน ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปแกไม่ใช่ผู้นำตระกูลหลงอีกแล้ว” มู่ชุนพูดอย่างเย็นชา
หลงเจี้ยนได้ยินดังนั้นก็เชิดหน้าขึ้นมองพวกเขาด้วยสายตาหลงระเริง ส่วนหลงหลิงและหลงอี้เซวียนก็ได้แต่กัดฟัน ตอนนี้ในสายตาเขาอำนาจเป็นเหมือนยาปลุกอารมณ์
หลงเซี่ยวเทียนได้ฟังสายตาก็หม่นลง แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังรออะไรบางอย่าง