บทที่ 372 อย่าถ่วงความเจริญของพวกเรา
บนหน้าของหลงเจี้ยนมีเลือดไหลมากกว่าเดิม คำพูดของหลงเซี่ยวเทียน เขาไม่สามารถต่อต้านได้ ตอนนั้นเขาเคยทำแบบนี้กับคนเชื้อสายหลักจริงๆ
ทันใดนั้น หลงเจี้ยนก็หัวเราะเสียงดัง สายตาก็เปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมา
“หลงเซี่ยวเทียน นายเป็นห่วงหลานและลูกสาวของนายเถอะ” หลงเจี้ยนพูดจบก็ไม่พูดอีก เพียงแค่หยีตามองหลงเซี่ยวเทียนเงียบๆ ใบหน้าได้ใจ
หลงเซี่ยวเทียนได้ยิน สีหน้าเปลี่ยน
และลี่โม่อวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าก็เปลี่ยน เขาเสียเวลามาก เพื่อคิดจะจับมู่ชุน เพื่อถามข่าวของฉินอีหลินและหลงหมิงเจ๋อ
หลงเซี่ยวเทียนโบกมือให้คนนำหลงเจี้ยนลงไป เรื่องจัดการหลงเจี้ยนต้องวางไว้ก่อน ตอนนี้สำคัญที่สุดคือช่วยฉินอีหลินและหลงหมิงเจ๋อกลับมา และหาคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆ
ครั้งนี้ ลี่โม่อวี่ไถ่ถามมู่ชุนด้วยตนเอง เพราะว่าเรื่องในอดีตของมู่ชุนและหลงเซี่ยวเทียน ทำให้ทั้งสองเป็นมิตรกันไม่ได้
นึกถึงฉินอีหลินและหลงหมิงเจ๋อยังอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ลี่โม่อวี่เป็นห่วงมาก
เนื่องจากฉินอีหลินมีร่างกายที่พิเศษ อีกฝ่ายจับแม่ลูกเพราะต้องการวิจัยร่างกายของพวกเขาแน่ๆ นึกถึงตรงนี้ ลี่โม่อวี่ดึงมีดสั้นออกมาวางไว้บนคอของมู่ชุนทันที
ร่างกายของมู่ชุนอดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมา เขารู้ว่าสิ่งที่ควรเกิดขึ้นสุดท้ายก็จะเกิดขึ้น ใบมีดที่แตะบนผิวเขาทำให้ขนลุกขึ้นมา สายตาของลี่โม่อวี่น่ากลัวมากๆ
“บอกคนที่อยู่เบื้องหลังของนายให้ฉัน มิฉะนั้นนายจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก”
ด้วยวิธีการของหลงเซี่ยวเทียนสามารถค้นหาตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน แต่สถานการณ์เร่งด่วนในขณะนี้ พวกเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
มู่ชุนรู้ว่าตัวเองไม่พูด อีกฝ่ายต้องฆ่าตัวเองอย่าไม่ลังเล นึกถึงวิธีการของ “คุณท่าน” ก็กลัว เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง พูดทั้งหมดออกไปแล้ว ให้พวกเขาไปสู้กันเถอะ
“คุณท่านเป็นนายพลที่เกษียณ ร่วมก่อตั้งองค์กรวิจัยทางชีววิทยากับตระกูลใหญ่โบราณหลายครอบครัว จับคนที่มีร่างกายพิเศษทั่วโลกเพื่อการวิจัย”
มู่ชุนรู้เพียงเท่านี้ หากถามอย่างอื่นอีก เขาไม่รู้แน่นอน เพราะคุณท่านไม่เคยมองเขาเป็นคนสนิท
“ตอนนี้คุณท่านจากไป สถานที่ที่น่าจะไปที่สุดคือที่ไหน?” ลี่โม่อวี่ถามอย่างใจร้อน ตอนนี้ทุกวินาทีสำหรับเขานั้นสำคัญมาก
มู่ชุนฟังแล้วนึก แล้วพูดอย่างไม่แน่ใจ “โดยนิสัยของคุณท่าน ต้องอยู่ที่ศูนย์วิจัยลับที่ประเทศM”
มู่ชุนไม่ได้พูดตำแหน่งที่ตั้งของศูนย์วิจัย เพราะเขาไม่รู้ที่ตั้งจริงๆ ลี่โม่อวี่จ้องเขาเขม็ง แต่เขาพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก
“ฉันบอกสิ่งที่ฉันรู้ให้นายแล้ว ปล่อยฉันได้หรือยัง”
สีหน้ามู่ชุนอ่อนแอ แม้แต่หลงเจี้ยนที่อยู่ด้านข้างก็ยังดูถูกเขา
ลี่โม่อวี่ไม่สนใจคำขอของมู่ชุน เขาหมุนตัว เดินไปข้างหน้าหลงเซี่ยวเทียน พูดด้วยสีหน้ารีบร้อน “ท่านพ่อ ตอนนี้ตระกูลมั่นคงในระดับหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าพวกเราต้องรีบตรวจสอบที่ต้องของศูนย์วิจัย”
หลงเซี่ยวเทียนขยิบตา ไม่ได้ตอบทันที เขาคิดตลอด ศูนย์วิจัยนั้นอยู่ที่ไหน
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดหนัก ข้างนอกห้องโถงใหญ่ของตระกูลหลงมีเสียงเบรกของรถดังขึ้น จากนั้นเสียงอันทรงพลังก็ดังเข้ามา “พวกนายจัดการการรบเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ดูเหมือนฉันจะมาช้าไปนะ”
หลังจากที่เจ้าของเสียงเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทุกคนถึงเห็นว่าคนนั้นคือหลงเสี่ยวเซินที่กำลังรักษาตัวที่ประเทศY
เพียงแค่ว่าตอนนี้เขาดูมีพลังมากกว่าเมื่อก่อน ยังดูโอ่อ่ามากขึ้น
จริงๆ หลายวันก่อนเขาก็จะกลับมาแล้ว โทรศัพท์แจ้งล่วงหน้าไปที่ตระกูลหลง แต่ไม่มีคนรับสาย
โทรติดต่อหลายสาย เขาก็รู้ว่าตระกูลหลงเกิดเรื่องแล้ว อย่างไรก็ตามเคยเป็นเจ้าของบ้าน แม้จะสละตำแหน่งแล้ว แต่บารมีของเขายังมีอยู่ ติดต่อเพื่อนที่อยู่ประเทศYทันที และกองกำลังมากมาย แล้วรีบกลับมา
ไม่คาดคิดเลยว่า เพิ่งถึงตระกูลหลง เขาก็เห็นหลงเซี่ยวเทียนนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักอีกครั้ง เขาพูดในใจ อืม ตัวเองมาเสียเที่ยว
มองเห็นว่าเป็นพ่อของตนเอง หลงหลิงเผยสีหน้าตกใจและดีใจออกมา เธอวิ่งเข้าไปซบไหล่กว้างของหลงเสี่ยวเซิน ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา
หลงเสี่ยวเซินลูบหลังหลงหลิงอย่างรักใคร่ เตือนให้เธอสนใจสถานการณ์ก่อน หลงหลิงจึงยิ้มเจื่อน แล้วผละออกจากอ้อมกอดของพ่อ
หลังจากที่หลงเซี่ยวเทียนและหลงเสี้ยวตี้ได้ยินเสียงของพี่ใหญ่ ท่าทางตกใจ เมื่อเห็นหลงเสี่ยวเซินตัวเป็นๆอดก็ไม่ได้ที่จะถอนหายใจเล็กน้อย
สามพี่น้องยืนมองหน้ากัน แล้วหัวเราะเสียงดัง
ลี่โม่อวี่ที่อยู่ข้างๆ ก็เผยรอยยิ้มออกมา แต่เพียงชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียด หลงเซี่ยวเทียนคนอื่นๆ ก็เช่นกัน
“เรื่องราวน่ะ ฉันรู้แล้ว ศูนย์วิจัยนั่นห่างจากที่นี่ไม่มาก แต่ว่าศัตรูค่อนข้างแข็งแกร่ง
หลงเสี่ยวเซินมองลี่โม่อวี่แล้วพูด เขาเคยตรวจสอบที่นั่น เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นทหาร หลังจากปลดประจำการแล้วรวบรวมกลุ่มทหาร มีสองพันนาย
ได้ยินหลงเสี่ยวเซินบอกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่ง ไป๋หลางและอาโน่ที่อยู่ข้างๆ ไม่พอใจ ยืนออกมาทันที หยางเฟิงและหลี่จื้อเถิงก็ออกมาอย่างไม่อ่อนข้อ
ลี่โม่อวี่หันกลับไปมองพวกเขาทั้งสี่อย่างซาบซึ้ง อ้ายหลุนก็ยื่นมือไปตบบ่าเขา อีกคนสดชื่นขึ้นมาทันที ศัตรูเก่งแล้วไง พวกเราก็ไม่อ่อน ไม่สนว่าเป็นจะเป็นถ้ำเสือ ฉันลี่โม่อวี่ก็จะสู้
หลงเสี่ยวเซินมองคนข้างหลังของลี่โม่อวี่อย่างตกใจ เมื่อเขาเข้าไปในตระกูลหลงครั้งแรกเขาเห็นฝูงชนหนาแน่นที่พื้นที่โล่งด้านนอก ทีแรกคิดว่าเป็นศัตรู โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรกับห้าร้อยคนในพื้นที่ของตัวเอง มิฉะนั้นสู้ไม่ไหวจริงๆ
“เด็กน้อย ห้าร้อยคนที่ฉันพามาก็ฝากนายด้วยนะ นายต้องช่วยแม่ลูกออกมา” หลงเสี่ยวเซินพูด
ลี่โม่อวี่มองหลงเสี่ยวเซินอย่างซาบซึ้งเล็กน้อย ไม่พูดอะไร
ห้าร้อยคนในมือหลงเสี่ยวเซินนำโดยชาวอังกฤษที่ชื่อซินเก๋อ ซินเก๋อเป็นคนแข็งแกร่งที่สูงเกือบหนึ่งเมตรเก้า ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ทำตามคำสั่งของหลงเสี่ยวเซินอย่างเป็นพิเศษ และเขายังสังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่นจากชาวตะวันออกคนนี้
เวลานี้ หลงอี้เซวียนที่นิ่งไม่พูดอะไรก็ยืนขึ้นแล้วพูด “พี่เขย ผมก็จะเข้าร่วมการปฏิบัติการครั้งนี้”
ลี่โม่อวี่มองเขา ไม่พูดอะไร เขาเห็นความโกรธและความอัปยศอดสูในดวงตาของหลงอี้เซวียน เขารู้ หากไม่ให้เขาเข้าร่วม เขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต
“อย่าถ่วงความเจริญของพวกเรา” ลี่โม่อวี่แค่พูดประโยคดังกล่าว หลงอี้เซวียนก็กำหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น
มองคนเชื้อสายหลักของตระกูลหลง ลี่โม่อวี่บอกตัวเองว่าต้องพาฉินอีหลินแม่ลูกกลับมา ให้ตระกูลอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน”