บทที่ 377 อย่าทำร้ายฉัน
ภาพตรงหน้านั้นทำให้คนตกใจ ฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อได้นอนอยู่ใจกลางห้องราวกับหนูทดลอง
นักวิจัยที่สวมเสื้อกาวน์ได้เดินไปมา พวกเขานั้นได้กระทำกับทั้งสองราวกับหนูทดลอง
นัยน์ตาของลี่โม่อวี่ได้แดงขึ้น ลมหายใจได้หนักขึ้นอย่างไม่อาจที่จะห้ามได้
เขาเข้าไปกระชากนักวิจัยคนนี้ แล้วก็ได้กระแทกหัวของเขาไปบนพื้นอย่างแรง เสียงดังปึ้ง นักวิจัยคนนั้นได้หยุดหายได้ไปเลยทันที บนพื้นได้มีเลือดไหลออกมา
การกระทำที่กะทันหันของลี่โม่อวี่ ทำให้คนที่เป็นนักวิจัยคนอื่นต่างพากันตกใจ
พวกเขาเห็นท่าทางที่น่าเกรงขามของลี่โม่อวี่ เวลานั้นไม่มีคนกล้าออกเสียงแม้แต่น้อย ทุกคนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ เหมือนว่าขอแค่พวกเขาขยับ ก็จะถูกปีศาจร้ายที่อยู่ตรงหน้าฆ่าโดยทันที
ลี่โม่อวี่ได้ไปจับตัวคนที่รับผิดชอบวิจัยเรื่องนี้มาคนนึง พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “อาการพวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”
คนคนนั้นมองตามมือที่ชี้ไปของลี่โม่อวี่ พบว่าที่ลี่โม่อวี่ถามเป็นคนสองคนที่ตนกำลังวิจัยอยู่ เห็นท่าทางแบบนี้ของเขาเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นภรรยาและลูกของตน
รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีเรื่องด้วยไม่ได้ คนที่รับผิดชอบคนนี้ก็ได้พูดความจริงออกไป เขาได้พูดไปว่า “สองคนนี้ไม่เป็นอะไรครับ ก็แค่ถูกฉีดยาชาเข้าไป กำลังหลับไป”
ถึงแม้ว่าเขาพยายามที่จะใจเย็น แต่ว่าขาที่กำลังสั่นไม่หยุดของเขานั้นได้เผยความกลัวในจิตใจเขาออกมา
ลี่โม่อวี่ได้ยินก็ได้ปล่อยเขาลง จากนั้นก็ได้รีบวิ่งไปที่เตียงของฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อ
เวลานี้ใบหน้าของทั้งสองได้ซีดจนทำให้คนกังวล ลี่โม่อวี่ได้ตะคอกใส่นักวิจัยว่า “เอาเครื่องพวกนี้ออกไป”
ลี่โม่อวี่คิดว่าพวกเขาก็แค่โดนยาชาไปเฉยๆ ก็คิดที่อยากจะเอาเครื่องที่ติดตามร่างกายของพวกเขาออก
นักวิจัยไม่กี่คนได้มองลี่โม่อวี่ด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็ได้มองไปยังใบหน้าของผู้ที่รับผิดชอบเป็นการถาม คิดไม่ถึงว่าคนที่รับผิดชอบกลับพยักหน้าให้พวกเขา พวกเขาก็เลยทำตามที่ลี่โม่อวี่บอก ได้เอาเครื่องวัดต่างๆ ออกจากตัวฉินอีหลินทั้งสองคนด้วยความสั่น
เวลานี้ลี่โม่อวี่ใช้มืออีกข้างกอดฉินอีหลิน อีกข้างได้กอดหลงหมิงเจ๋อ ตาทั้งสองข้างเริ่มเปียก
คนที่ภูมิใจในตัวเองอย่างลี่โม่อวี่ เขาจะทนให้ผู้หญิงที่ตนรักกับลูกต้องมาทรมานแบบนี้ได้ไง!
ไป๋หลางก็คิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ เขาได้โบกมือ ที่เหลือทั้งหกคนก็ได้ช่วยหลีกทางให้ลี่โม่อวี่
เวลานี้ลี่โม่อวี่ได้ใจเย็นลงไปเล็กน้อย เขาได้หันไปพูดกับหยางเฟิง “พาพวกนักวิจัยพวกนี้กลับไปด้วย ถ้าเกิดอีหลินกับหมิงเจ๋อเป็นอะไรขึ้นมา ก็จัดการกับพวกเขาไปตาม”
สายตาที่เยือกเย็นของลี่โม่อวี่ได้มองไปยังนักวิจัยทุกคน คนพวกนั้นได้ยินแบบนี้ ก็ได้ล้มนั่งลงไปกับพื้น สีหน้าได้ซีดเผือด
เหมือนพวกเขาจะเดาได้แล้วว่าจะมีชีวิตได้อีกไม่นานยังไงอย่างงั้น
ลี่โม่อวี่ไม่ได้เห็นสีหน้าพวกนั้น ความสนใจของเขาทั้งหมดได้อยู่บนตัวของทั้งสองคน
เพราะไม่รู้แน่ชัดว่าอาการของฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อในตอนนี้เป็นยังไง เขาอยากจะพาทั้งสองไปที่โรงพยาบาล
ออกมาจากห้องวิจัย ลี่โม่อวี่ก็พบว่ามาถึงช่วงเย็นแล้ว แสงแดดของพระอาทิตย์ที่ใกล้ตกนั้นได้สาดไปยังพื้นดิน เหมือนว่าดีใจจนยิ้มออกมา แต่ว่าลี่โม่อวี่กลับยิ้มไม่ออก
ไป๋หลางได้เดินตามหลังของเขา อ้ายหลุนก็อยู่ คนคนอื่นนั้นก็ได้จัดการเก็บกวาดกับสถานที่
ลี่โม่อวี่หันกลับไปพูดกับไป๋หลางว่า “ไป๋หลาง นายเตรียมรถให้ฉันคันนึง เอาคันที่ขับได้เร็ว เรื่องทางนี้ของฝากนายหน่อย ไม่ว่ายังไงต้องจับได้ตัวนายพลมาให้ได้” คำพูดสุดท้ายของลี่โม่อวี่ได้พูดไปพร้อมกัดฟัน
ไป๋หลางพยักหน้า ตั้งแต่ตนรู้จักมาลี่โม่อวี่มา ตนไม่เคยเห็นเขาโมโหขนาดนี้มาก่อน ตนรู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำมาทั้งหมดนั้น ได้เกินกว่าสิ่งที่ลูกพี่จะอดทนได้แล้ว
“นายวางใจเถอะ ฉันไม่ทำให้นายผิดหวังแน่” ไป๋หลางเป็นคนฉลาด เขาไม่ได้พูดปลอบอะไรมาก เขารู้ว่าตอนนี้ลี่โม่อวี่ไม่มีทางที่จะฟังหรอก
อ้ายหลุนที่อยู่ข้างๆ ได้เห็นลี่โม่อวี่ที่เป็นแบบนี้ ก็ยังได้ฝืนก้าวออกมา เขามองไปทางฉินอีหลินด้วยความเป็นห่วง “ฉันว่าฉันกลับไปกับนายดีกว่า ระหว่างทางถ้ามีอันตรายจะได้ช่วยได้”
ลี่โม่อวี่ฟังแล้วไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ให้ไป๋หลางเตรียมการ อ้ายหลุนได้เอาขับรถคันสีแดงของเขาเข้ามา
ลี่โม่อวี่ได้นั่งดูแลทั้งสองข้างหลัง อ้ายหลุนได้พูดคุยกับไป๋หลางเสร็จ ก็ได้นั่งไปยังที่นั่งคนขับ ได้สตาร์ทรถเฟอร์รารี แล้วขับไปยังโรงพยาบาลเอกชนของตระกูลหลง
มองรถขับสีแดงที่ขับออกไป ไป๋หลางส่ายหน้า แต่หันกลับไป สายตานั้นได้มีแววของความน่ากลัวแฝงอยู่แสดงออกมาเล็กน้อย
ก่อนหน้าตอนที่พวกเขาบุกเข้ามา ก็พบความลับของที่นี่ไปไม่น้อย เป็นงานวิจัยสัตว์มากมาย แน่นอนก็มีคนมากมายเหมือนกัน สำหรับองค์กรที่ชั่วร้ายแบบนี้ ไป๋หลางตัดสินใจแล้วว่าจะกำจัดทิ้ง
ตอนที่ลี่โม่อวี่จะจากไปได้ให้เขานั้นไปจับนายพลคนนั้น แต่ว่านายพลนั่นได้ขับรถหนีไปก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาแล้ว เขาจะไปตามยังไง? ไป๋หลางเริ่มปวดหัวเล็กน้อย
เวลาเดียวกัน ในมืออาโน่ก็ได้หิ้วคนออกมา เดินไปทางเขา เดินเข้าไปดูคนที่โทรมคนนั้นเป็นนายพลที่ขับรถหนีไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ แต่แค่เวลานี้สภาพเขาดูไม่ได้มาก ไม่มีท่าทางของนายพลเหลืออยู่
อาโน่พูดออกมาว่า “คนอื่นได้เฝ้าอยู่ข้างนอก จับไอ่หมอนี้ได้ ฉันก็เลยพาเขามา”
ไป๋หลางมองอาโน่ด้วยความดีใจแล้วไปตบบ่าเขา จากนั้นก็ได้มองนายพลด้วยความเยือกเย็น คิดไม่ถึงว่านายพลจะดื้อด้านขนาดนี้
“ฉันเตือนนายนะ อย่าทำร้ายฉัน ไม่งั้นผลที่ตามมาพวกนายรับไม่ไหวแน่”
ไป๋หลางมองคนคนนั้นคิดไม่ถึงว่ายังกล้าที่จะข่มขู่ตน ก็ได้หลุดขำออกมา จากนั้นก็ได้ต่อยไปที่หัวใจของนายพล คนที่โดนเพราะว่าหายใจไม่ได้ สีหน้าก็ซีดขาวทันที
“พาไอ่หมอนี่กลับไป ดูว่าลูกพี่จะจัดการเขายังไง”
ภายนอกของไป๋หลางแม้ดูป่าเถื่อน แต่เขารู้ ตอนนี้ยังจะจัดการกับไอ่หมอนี่ไม่ได้ พวกเขาต้องทำขึ้นไปให้เป็นเรื่องระดับประเทศ ให้คนทั่วโลกตัดสินโทษของไอ่หมอนี่ ถึงตอนนั้นไอ่หมอนี่ก็จะถูกคนเชือดได้อยากง่ายๆ
มองนักวิจัยที่ได้ถูกควบคุมออกมาทีล่ะคน ไป๋หลางได้สั่งลูกน้อง ให้พวกเขาอย่าปล่อยใครหลุดไปแม้แค่คนเดียว ส่วนคนพวกนี้นั้น พูดน่าฟังหน่อยพวกเขาเป็นนักวิจัย พูดไม่น่าฟังหน่อยพวกเขาก็คือเพชฌฆาต
พวกทหารรับจ้างก็ให้ความร่วมมือ ตอนที่พวกเขาบุกเข้ามา ก็ได้เห็นพวกที่สวมเสื้อกาวน์นั่น ได้กระทำกับสัตว์อื่นอย่างโหดร้ายแบบนี้
สำหรับทหารรับจ้างแล้ว การฆ่าของพวกเขานั้นอีกฝ่ายจะทรมานไม่มาก ราวกับว่าแทบไม่ให้อีกฝ่ายทรมานเลย
อีกอย่างตั้งแต่ติดตามไป๋หลาง น้อยมากที่พวกเขาจะฆ่าคนที่บริสุทธิ์ เห็นการกระทำของพวกนักวิจัยแล้ว แน่นอนว่าพวกเขานั้นได้เต็มไปด้วยความโกรธ
ส่วนหัวหน้าคนอื่นก็อยู่ ใบหน้าของแต่ละคนได้เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ
พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรที่มันวิปริตขนาดนี้มาก่อน สำหรับลูกผู้ชายแล้วพวกเขามีความยุติธรรมอยู่เต็มอก
ไป๋หลางมองใบหน้าของคนพวกนั้น สายตาก็ได้เยือกเย็นกว่าเดิม
ไอ่พวกวิปริตสมควรตาย แตะต้องของรักของลูกพี่ ยิ่งสมควรตายเข้าไปอีก!