บทที่ 390 ฉันต้องจีบนายให้ได้
เหตุผลที่ลี่โม่อวี่กลับไปเพราะว่าเขานึกขึ้นได้ว่าการกระทำของเสี่ยวหลิวก่อนหน้านี้มันแปลกๆ เขารู้ว่าความฉลาดของผู้หญิงคนหนึ่งน่ากลัวขนาดไหน
ถึงแม้จะคิดว่าคิดมากไป แต่เขาก็ยังอยากจะกลับไปดูก่อนว่าเป็นอะไรกันแน่ ยอมที่จะฆ่าผิดไปล้านครั้ง ก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้คนหนึ่งหลุดรอดไป
เพราะว่าในใจนั้นอยู่ๆก็ได้กังวลแปลกๆ เขาขับรถเร็วมาก เหมือนว่าตัวเองกลับช้าหน่อย ฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อก็จะเจอกับอันตรายยังไงอย่างงั้น
และตอนที่ได้ออกไปจากห้องผู้ป่วยนั้น หลิวหรูหยุนไม่ได้ฟังคำสั่งของเขาไปเฝ้าฉินอีหลินอยู่ข้างๆ แต่เป็นการเอาขนมที่ตัวเองแอบเอาเข้ามาในโรงพยาบาล นั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่างแล้วก็ค่อยๆ กิน
ลี่โม่อวี่ไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น เขานั้นได้เข้ามาในโรงพยาบาลจากประตูหน้า และหน้าต่างที่หลิวหรูหยุนนั่งข้างๆ ก็ได้เห็นกับประตูหน้าพอดี
ตอนที่กินอย่างเอร็ดอร่อยนั้นหลิวหรูหยุนก็พบรถที่คุ้นเคยได้ขับเข้ามาจากประตูหน้า เธอจำได้ว่าเป็นรถของลี่โม่อวี่ ตอนที่เห็นลี่โม่อวี่ขับรถมาเร็วขนาดนั้น หลิวหรูหยุนก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ
สีหน้าก็ได้รีบร้อน เธอได้รีบเก็บขนมลงไป วางไว้ที่หลังหน้าต่าง และตัวเองนั้นก็ได้เช็ดเศษขนมที่ปากของตน เอาไม้ถูพื้นอันหนึ่งขึ้นมาถูพื้น ท่าทางที่ได้เสแสร้งแกล้งทำนั้นเหมือนว่าได้ทำเรื่องนั้นจริง
ต่อให้ลี่โม่อวี่ขับรถมาเร็วขนาดไหน แต่เมื่อคนเฝ้าประตูรู้ว่าเจ้าของรถเป็นใคร ขนาดผู้อำนวยการของตัวเองก็ยังต้องเกรงใจเขา งั้นตนก็ไม่ต้องเอ่ยเลย เขาก็เลยไม่ได้สนใจอะไร
ลี่โม่อวี่ได้จอดรถอยู่ที่ลานจอดของโรงพยาบาล แล้วก็รีบลงมาจากลง ตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วยของพวกฉินอีหลิน ตอนที่เขาไปถึงประตูห้องนั้น หลิวหรูหยุนก็ได้แกล้งทำเป็นถูกพื้นแล้ว
ลี่โม่อวี่ได้แอบจ้องวิเคราะห์สถานการณ์จากหน้าต่างของประตู กลับพบว่าไม่ได้เป็นเหมือนที่ตนคิดไว้
เสี่ยวหลิวได้เก็บกวาดห้องอย่างตั้งใจ อีกอย่างฉินอีหลินกับหลงหมิงเจ๋อที่อยู่บนเตียงก็ได้ถูกจัดการจนสะอาดเรียบร้อย
ก็ได้ส่ายหน้าด้วยความมึน ลี่โม่อวี่ได้ตีหัวของตัวเอง ช่วงนี้เขานั้นถูกเรื่องนี้ปั่นป่วนจนสับสนไปหมดแล้ว
ที่จริงตอนที่เขาพึ่งมาถึงประตูห้องผู้ป่วยนั้น หลิวหรูหยุนก็รู้สึกว่ามีคนได้จ้องมองตัวเองอยู่ เธอได้จับไม้ถูแน่นด้วยความตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่ร้อนรนออกมา รู้สึกว่าคนคนนั้นได้จากไปนั้น หลิวหรูหยุนถึงได้นั่งที่โซฟาแล้วก็ถอดหายใจยาวๆ ออกมา
ดีที่ตัวเองนั้นเจอเขาก่อน ไม่อย่างนั้นได้ซวยแน่ ก็ได้เอาขนมของตัวเองออกมาอย่างอารมณ์ดี หลิวหรูหยุนเห็นแผ่นหลังที่เท่ขนาดนั้นของลี่โม่อวี่ ก็ได้ทำให้เธอนั้นหยีตาไปดู
เธอได้ยื่นมือขวาแล้วจับกลางอากาศ มองรถที่ได้ขับออกไป แล้วก็พูดกับตัวเองว่า “หึ ฉันต้องจีบนายให้ได้”
พึ่งจะขับรถออกไป ทางซือเซี่ยก็ได้โทรมา
“ลี่โม่อวี่ นายถึงไหนแล้ว นานขนาดนี้แล้วยังไม่ถึง” ซือเซี่ยก็ได้ถามด้วยความกังวล ที่จริงเขาไม่ได้บอกลี่โม่อวี่ว่าเป็นเรื่องอะไร บอกแค่ว่าเป็นเรื่องใหญ่
“เมื่อกี้ได้จัดการกับอะไรนิดหน่อย ก็เลยเสียเวลาไป ตอนนี้อยู่ระหว่างทางแล้ว เดี๋ยวก็ถึง” ลี่โม่อวี่ก็ได้รีบอธิบาย
เสียงของปลายสายนั้นวุ่นวายนิดหน่อย ได้ยินที่ลี่โม่อวี่อธิบาย ซือเซี่ยก็ได้ตอบไปคำหนึ่งแล้วก็วางสายไป
ลี่โม่อวี่ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมซือเซี่ยถึงได้เรียกตัวเองไปหา
รถได้ขับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ราบรื่นมากๆ รถPorscheสีดำเหมือนกับแสงแฟลช ได้ขับอยู่บนถนนไปมาอย่างลื่นไหล
ในเวลานี้คฤหาสน์ของตระกูลซือมีคนอยู่เยอะมา โถงของคฤหาสน์ตระกูลซือ คนมากมายได้รวมกลุ่มอยู่ตรงนั้น ข้างๆ ก็ได้มีคนที่ชุดพนักงานถือถาดอาหารอยู่ บนนั้นได้มีแก้วไวน์วางอยู่ และก็บนโต๊ะที่มีของกินต่างๆ มากมาย แต่เป็นแค่ของหวาน
มีคนที่มีชื่อเสียงมากมายได้เดินอยู่ในนั้น รู้จักหรือไม่รู้จักก็ได้พูดคุยอยู่ตรงนั้น แล้วก็ได้ยกแก้วของตัวเองไปชนกันเป็นพักๆ
ถ้าเกิดให้พวกนักข่าวมา ต้องตกใจมากแน่ๆ
เพราะว่าคนที่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้นั้นต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงเมืองตี้ตูทั้งนั้น มีคนยศสูง มีนักธุรกิจ แต่ว่าวันนี้ก็ได้รวมตัวกันที่คฤหาสน์ของตระกูลซือ เหมือนว่าเป็นอะไรที่ยากที่จะเชื่อ แต่ก็สามารถที่จะแสดงความมีอำนาจของตระกูลซือออกมาได้ในอีกมุมหนึ่ง
ซือเซี่ยกับซือเอ๋อไม่ได้อยู่ที่ห้องโถงใหญ่ เวลานี้พวกเขาได้อยู่ในห้องของตน ที่แปลกคือวันนี้ซือเอ๋อได้เปลี่ยนชุดที่ใส่ก่อนหน้าไป ได้ใส่เสื้อที่ค่อนข้างหลวม และซือเซี่ยก็ยังไม่ได้เปลี่ยนสไตล์การใส่ชุดสูทสีดำทั้งชุดของตนไป มองดูแล้วดูหล่อมากๆ
“ซือเอ๋อ ผมมีความสุขจริงนะ” ซือเซี่ยได้เอาหัวไปวางน่องของซือเอ๋อ ได้พูดออกมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข
ซือเอ๋อนั่งอยู่บนเตียง ได้ยินคำพูดของซือเซี่ยก็ได้ดีใจไม่มากก็น้อย เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอได้พบว่าตนนั้นได้ท้องแล้ว!
นี่เป็นข่าวดีที่สุด ตอนนั้นซือเอ๋อก็ได้กระโดดขึ้นมาด้วยความไม่น่าเชื่อ ซือเซี่ยก็ได้มองซือเอ๋อด้วยสีหน้ายากที่จะเชื่อเหมือนกัน
ที่จริงพวกเขานั้นได้หวังที่จะมีลูกของตัวเองมาโดยตลอด โดยเฉพาะซือเอ๋อ ตั้งแต่ได้เจอกับหลงหมิงเจ๋อและหลงจิ่นเซวียน ก็ชอบพวกเขาสองคนมากๆ นี่อาจจะเป็นความเป็นแม่ของผู้หญิง
แน่นอนซือเซี่ยต้องรู้ความคิดของอีกฝ่าย เพราะงั้นโดยปกติทั้งสองนั้นก็ได้พยายาม……พยายามอย่างเงียบๆ
จนกระทั่งได้รู้ว่าท้องแล้วนั้น ซือเอ๋อก็ดีใจมากๆ เลยล่ะ
ในที่สุดเธอก็จะมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว ต่อไปไม่ต้องอิจฉาอีหลินแล้ว แต่ว่าเธอก็ยังจะรักและเอ็นดูหลงหมิงเจ๋อกับหลงจิ่นเซวียนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ไม่ว่าเป็นชายหรือหญิง เธอก็สามารถที่จะเป็นครอบครัวเขยสะใภ้กับฉินอีหลินได้
ปู่ของซือเซี่ยได้รู้ข่าวนี้แล้วนั้น ก็ดีใจมากๆ เหมือนกัน พอคิดว่าตัวเองที่มีอายุขนาดนี้สามารถรอวันที่เหลนของตนนั้นเกิดมาบนโลกแบบนี้ ก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง
ตอนนั้น คุณท่านได้กวักมือ สั่งให้ลูกน้องนั้นได้จัดงานเลี้ยงขึ้น ก็เพราะเขาอยากให้คนในเมืองตี้ตูได้รู้ว่าตัวเองจะมีเหลนแล้ว
เรื่องนี้ซือเซี่ยกับซือเอ๋อก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเข้าใจความรู้สึกของคนแก่ดี
ลี่โม่อวี่ได้ขับรถไปจอดที่ที่จอดรถใต้ดินของตระกูลซือ ในที่จอดรถเขาได้เห็นรถได้จอดเต็มไปหมด เป็นรุ่นที่ไม่เหมือนกันเลย อีกอย่างเป็นรถที่หรูหราไม่แพ้กัน
ลี่โม่อวี่ไม่ได้สงสัยอะไร จอดรถแล้วก็ได้ออกมาจากที่จอดรถ เข้าไปยังคฤหาสน์ของตระกูลซือ
ไม่พูดไม่ได้เลยนะ ตระกูลซือสามารถเรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่เก็บตัวเงียบ ต้องมีอำนาจของตัวเองอยู่แล้ว
จากการออกแบบของคฤหาสน์นี้ก็สามารถมองออก ทั้งคฤหาสน์นั้นได้ใช้แรงงานคนในการแกะสลักรูปปั้นทั้งหมด ได้สร้างขึ้นมาได้สไตล์ย้อนยุค ไม่ว่าไปทางไหนก็ได้มีบรรยากาศของการย้อนยุค
เดินไปตามทางที่สร้างด้วยอิฐ ทางทั้งสองข้างทางยังเป็นแบบโบราณ เหมือนว่าตัวเองนั้นได้อยู่ในคฤหาสน์ของสมัยก่อน ดูแล้วสวยงามเอามากๆ
แต่ว่าลี่โม่อวี่ไม่ได้เมามายกับบรรยากาศนั้น ตอนนี้เขาอยากจะรู้ว่าที่ซือเซี่ยเรียกเขามามีเรื่องอะไรกันแน่
ที่สามารถทำให้ซือเซี่ยตามตัวขนาดนี้ ต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน
ก็ได้รีบก้าวเขาไปในโถงของคฤหาสน์ตระกูลซือ ลี่โม่อวี่ยังไม่ถึงโถงหลัก เขาก็ได้ยินเสียงที่ประกาศมาจากโถงใหญ่