บทที่ 392 ในชาตินี้จะไม่ขอแต่งกับใครนอกจากเธอ
ห้องโถงเต็มไปด้วยแขกเหรื่อ เมื่อเห็นคนที่เป็นประธานจัดงานวันนี้ปรากฏตัว ทุกคนก็หยุดสิ่งที่ทำในมือ
ความหล่อเหลาของซือเซี่ยและความสุภาพเรียบร้อยของซือเอ๋อ ทำให้คนที่นั่งอยู่ชำเลืองมองพลางอดที่จะชื่นชมคู่ที่แสนเหมาะสมไม่ได้
ลี่โม่อวี่ไม่อยู่ในสายตาของทุกคน ยังไงซะคนที่เป็นเจ่ของงานวันนี้ก็ไม่ได้เขา
แต่การปรากฏตัวอีกครั้งของเขายังคงดึงดูดสายตาของสาวๆกลุ่มหนึ่ง ทุกคนเห็นว่าซือเซี่ยมีแฟนกับลูกแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงหันมาสนใจลี่โม่อวี่
ลี่โม่อวี่ไม่ได้แสดงออกใดๆออกมา ใครอยากมองก็มองไป
แต่สาวๆเหล่านั้นก็ยังไม่พอ สาวๆกระจุกเล็กๆที่ค่อนข้างเอียงอายเดินเข้ามาหาเขา ในขณะที่สาวๆที่มีความกล้ากลับเดินเชิดคอเข้ามาหาเขาตัวคนเดียว ชั่วพริบตาฝูงชนก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ซือเซี่ยที่อยู่บนเวทีเห็นอย่างชัดเจนว่าสาวๆเกือบทั้งหมดต่างวิ่งเข้าหาลี่โม่อวี่ เขามองไปที่ลี่โม่อวี่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลี่โม่อวี่กลับยิ้มให้เขาอย่างมีชัย
“ทุกคนเงียบ” ซือเซี่ยโบกมือขณะพูด
จากนั้นทุกคนในงานก็เงียบลง ยังไงซะทุกคนก็ได้รับเชิญมา สาวๆที่เดินเข้าไปหาลี่โม่อวี่ก็หยุดฝีเท้าเช่นกัน
เมื่อพอใจกับผลลัพธ์ของตน ซือเซี่ยก็กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่ง ตระกูลซือของเรากำลังจะมีสมาชิกเพิ่มอีกคน”
หลังจากได้ยินทุกคนก็หันหน้าคุยกัน มีสมาชิกเพิ่ม หรือว่าท่านชายซือจะมีเมียเพิ่ม?
ทุกคนมองไปที่ซือเซี่ยอย่างไม่เข้าใจ ส่วนคนที่เข้าใจก็ไม่ได้หันหน้าไปคุยกับพวกเขา แต่มองไปที่ร่างที่อยู่ถัดจากซือเซี่ยซึ่งก็คือซือเอ๋อคนรักของซือเซี่ย
“ซือเอ๋อภรรยาของผมตั้งครรภ์แล้วครับ” ซือเซี่ยบอกเหตุผลกับทุกคน อย่างไรก็ตามสำหรับวงศ์ตระกูลที่เก่าแก่และลึกลับเหล่านี้ ปกติอำนาจของคนเชื้อสายหลักจะค่อนข้างอ่อนแอ หากพวกเขาสามารถเพิ่มสมาชิกได้อีกหนึ่งคนมักจะต้องเป็นเรื่องใหญ่
จริงๆซือเซี่ยไม่มีอะไรจะพูดมากนัก หลังจากจบคำพูดสองสามคำเขาก็รีบส่งสัญญาณว่าพูดจบแล้วเพื่อให้ทุกคนตามสบาย อีกเดี๋ยวจะมีงานเลี้ยง
ทุกคนเคยชินกับการประกาศที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลซือดี ยังไงซะอำนาจตระกูลของทุกคนก็มักจะแตกต่างกัน
พูดจบซือเซี่ยก็พาซือเอ๋อเดินลงจากเวทีไป ในขณะเดียวกันเหล่าคนที่สำคัญข้างล่างก็ยกแก้วบอกใบ้แล้วเดินไปหาลี่โม่อวี่ช้าๆ
ลี่โม่อวี่กำลังขยับแก้วไวน์ เขาไม่คิดจะดื่มเพราะเขาต้องไปอยู่เป็นเพื่อนฉินอีหลิน เขาไม่อยากให้ฉินอีหลินรู้สึกว่าตัวเองชอบผู้ชายเข้าสังคม
“อีหลินเป็นยังไงบ้าง?” ซือเอ๋อถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย
“สบายดี ฉันเชื่อว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาได้” ลี่โม่อวี่พูดด้วยแววตาอย่างแน่วแน่และ ซือเอ๋อได้ฟังก็พยักหน้า อีหลินคงมีความสุขที่มีผู้ชายที่รักเธอคอยปกป้องเธอ
ซือเซี่ยส่งสายตาให้กำลังใจให้ลี่โม่อวี่ บางครั้งระหว่างผู้ชายด้วยกันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก แค่การกระทำเดียว แค่สายตาเดียวก็สามารถเข้าใจความหมายทั้งหมดได้ นี่คือโลกของผู้ชาย
“กำหนดคลอดเมื่อไร?” ลี่โม่อวี่ถาม
“เดือนพฤศจิกายนปีนี้” ซือเซี่ยตอบ
“อืม…” จริงๆแล้วลี่โม่อวี่รู้สึกว่าการที่เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ติดที่ต้องเห็นแก่หน้าของซือเซี่ยเขาจึงไม่ได้รีบออกไป เขารู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่ามีเสี่ยวหลิวอยู่เป็นเพื่อนพวกเขาแม่ลูกที่โรงพยาบาลแล้ว
ตอนนั้นเองขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน หญิงสาวคนหนึ่งที่ทนรอไม่ไหวเดินตรงเข้ามาหาลี่โม่อวี่ เมื่อเห็นท่าทางยโสโอหังของเธอก็รู้ทันทีว่าเป็นคุณหนูที่บ้านร่ำรวย
“คุณคือลี่โม่อวี่สินะคะ มาเป็นแฟนฉันเถอะค่ะ” แม้ว่าเนื้อหาจะดูป่าเถื่อน แต่น้ำเสียงของหญิงสาวนั้นกลับน่าฟังมากบวกกับนิสัยการใช้เงินมากของเธอ หากเป็นคนทั่วไปก็คงตอบตกลงไปแล้ว
แต่ลี่โม่อวี่กลับไม่มองเธอด้วยซ้ำ เขายังคงคุยกับซือเซี่ยต่อ
หญิงสาวพูดอีกครั้งอย่างไม่รีบร้อนว่า “คุณคงยังไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ถ้าคุณคบกับฉัน ฉันสามารถให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” พูดจบสีหน้าเธอก็ปรากฏความภาคภูมิใจขึ้นมา
คนที่นั่งอยู่ข้างๆบางคนฟังแล้วก็ด่าเธอในใจว่า เธอไม่รู้รึไงว่าคนตรงหน้า เธอเป็นลูกชายของผู้อำนวยการลี่ เสแสร้งได้ดีจริงๆ
เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดเช่นนี้ ไม่เพียงมีแค่ลี่โม่อวี่เท่านั้นที่ประหลาดใจ แต่ซือเซี่ยก็ยังมองมาด้วยความสนใจ
“คุณผู้หญิงครับ ไม่ทราบคุณชื่ออะไร?” ลี่โม่อวี่ยิ้มเยาะ
หญิงสาวที่ตีเบลอนึกว่าลี่โม่อวี่สนใจข้อเสนอที่เธอยื่นให้จึงรีบพูดว่า “ฉันนามสกุลไป๋ ชื่อของฉันคือฟู่เหม่ย คุณจะเรียกฉันว่าอะเหม่ยก็ได้” พูดจบเธอก็ก้มหน้าอย่างเขินอาย
“คุณไป๋ฟู่เหม่ย ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้ว ผมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ขอโทษด้วยครับ” สำหรับผู้หญิงแบบนี้ต้องปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามากมายที่อาจตามมา
แต่ซือเซี่ยกับซือเอ๋อที่อยู่ด้านข้างแอบหัวเราะให้กับท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของลี่โม่อวี่ ทำให้ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้ว
“อ้อ งั้นหรอ งั้นฉันอยากรู้ว่าคู่หมั้นของคุณชื่ออะไร เธออยู่ที่ไหนล่ะ?”
ไม่ช่แค่เพียงไป๋ฟู่เหม่ยที่ได้ยินแล้วรู้สึกเศร้า แต่สาวๆรอบๆก็ดูเศร้ามากเช่นกัน
พอไป๋ฟู่เหม่ยถามคำถามนี้ออกมา ทุกคนก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเพื่อให้ลี่โม่อวี่อธิบาย
ลี่โม่อวี่มองไป๋ฟู่เหม่ยอย่างเย็นชา เขาเกลียดการที่คนอื่นเอาฉินอีหลินไปพูด เพราะในใจเขาฉินอีหลินเป็นคนที่ไม่สามารถแตะต้องได้
“ผมจะบอกคุณให้ว่าคนรักของผมชื่อฉินอีหลิน เธอสวยกว่าคุณหมื่นเท่าและในชาตินี้จะไม่ขอแต่งกับใครนอกจากเธอ คุณเข้าใจใช่ไหม”
พอนึกถึงฉินอีหลินที่นอนไม่ได้สติบนเตียง แต่เขากลับถูกสาวๆเหล่านี้สารภาพรักที่นี่ เขาก็รู้สึกผิดต่อฉินอีหลิน
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว…” คำพูดที่เฉียบขาดของลี่โม่อวี่ทำให้หญิงสาวตระหนกทำอะไรไม่ถูก เธอรีบตอบแล้วจากไป
แน่นอนว่าหญิงสาวคนอื่นๆย่อมเห็นสถานการณ์ก่อนหน้านี้ พวกเธอจึงต้องเก็บความคิดที่สวยงามก่อนหน้านี้ซ่อนกลับในใจ
ฉินอีหลิน…
ชื่อนี้กลายเป็นปมในใจของหญิงสาวชั้นสูงทันที ทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าผู้หญิงลึกลับคนนี้มีความสามารถอะไรที่จะทำให้ผู้ชายที่ดีพร้อมคนนี้หันมามองได้
ใครๆก็อยากรู้ว่าผู้หญิงที่สวยกว่าไป๋ฟู่เหม่ยหนึ่งหมื่นเท่านั้นหน้าตาเป็นเช่นไรกันแน่
สรุปแล้วหลังจากที่ลี่โม่อวี่พูดออกไปเช่นนั้น ฉินอีหลินที่นอนยังไม่ได้สติก็กลายเป็นตำนานของเมืองตี้ตูอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่พูดกันทีหลัง
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปแต่เจ้าของงานที่ควรจะปรากฏตัวในงานกลับหายตัวไป
ซือเซี่ยไม่ลืมคำกำชับของคุณปู่ จึงพาลี่โม่อวี่ที่ขอตัวออกจากห้องโถงไปที่ที่ดินด้านหลังของบ้านตระกูลซือ
ลี่โม่อวี่จัดเสื้อผ้า เตรียมพร้อมที่จะพบผู้อาวุโสของตระกูลซือ