บทที่ 107 หลินอี้จุนโกรธ
“ พี่ลู่ ผมอยากจะขอบคุณนายในครั้งนี้จริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนายที่สู้กับฮันเทียนชนะ จือหรานบ้านฉันก็ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับบ้านจาง” หลังจากจางเซิ่งเฉียวและคนอื่น ๆ จากไป เฉินหยางก็มาหาลู่เฉิน , ขอบคุณเขาด้วยความจริงใจ.
เฉินจือหรานไม่กล้าเผชิญหน้ากับลู่เฉิน แต่มองไปที่ใบหน้าของลู่เฉินจากมุมหางตา
ทำให้ใจเต็นเร็ว
“ ไอ่เฉินเกรงใจมากเลยนะ นี่เป็นเพียงเรื่องง่ายๆ จะว่าไปแล้ว ฉันยังมีเกาะเขียวเอาไว้ให้เป็นค่าตอบแทนนิ” ลู่เฉินยิ้มจาง ๆ
“ฉันคิดว่าจางเซิงเฉียวจะผิดสัญญาแน่ ๆ ที่ดินของคุณอาจจะไร้ผล แต่คุณชนะจางเซิงเฉียวให้พ่อของฉัน และคุณก็ช่วยไม่ให้ลูกสาวของฉันแต่งงานกับบ้านจาง ฉันจะตอบแทนคืนนายนะ”เฉินกวงซิงพูด
“ เขาผิดสัญญาเหรอ?” ลู่เฉินยิ้มและพูด “ ไม่ต้องห่วงเขาต้องให้สิ่งที่คุณเสียไปกับฉันคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับบ้านเฉิน ฉันมีวิธีของตัวเองที่จะให้บ้านจางคืนที่ดินผืนนั้นมา เพียงแค่เวลานั้นฉันจะให้ที่ดินผืนนั้นกับพวกคุณช่วยฉันสร้างก่อน ”
ลู่เฉินไม่ต้องการให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยกับพ่อค้ายวี่โจวก่อนเวลา เขาเลยต้องเลือกทางนี้
ทั้งเฉินหยางและเฉินกวงซิงพยักหน้า คำพูดของลู้เฉินเข้าไปอยู๋ในหูของคนในจั่วชิงเฉิง และพวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าลู่เฉินเป็นคนอวดดีและไม่สนใจใคร แถมเขากล้าที่จะขอที่ดินจากบ้านจางอีก หมดคำพูดจริงๆ
แต่ว่าสองคนนี้ดูๆแล้ว ไม่มีอะไรที่ปกติอีกแล้ว และพวกเขาก็เชื่อว่าลู่เฉินสมารถทวงที่ดินจากบ้านจางได้แน่นอน
ต่อไปเป็นเวลาเปิดงาน แขกทุกคนแสดงความยินดีให้กับคุณนายเฉิน วันนี้คุณนาายเฉินรู้สึกมีความสุขมาก และยังชนแก้วเหล้ากับทุกคนในงาน
คนแก่และเด็กของบ้านเฉิน รีบเข้าแถวกันเพื่อแสดงความยินดีให้ลู่เฉิน วันนี้ลู่เฉินไม่เพียงแต่เป็นแขกในงานเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่ช่วยเหลือบ้านเฉินด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองพี่น้องเฉินจือหรานและเฉินเสี่ยวปิง ได้นั่งร่วมโต๊ะกับลู่เฉิน เฉินจือหรานก็ดี แต่รู้สึกเขิลนิดหน่อย ทั้งเยียนฉีชนแก้วกับลู่เฉินสามครั้ง ก็ไม่ได้พูดอะไร เฉินเสี่ยวปิงก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จากที่เย็นชา ไม่แสดงความยินดีกับลู่เฉิน แล้วอยู่ดีๆก็ได้ขอวิธีการติดต่อกับลู่เฉิน แล้วแน่นอนลู่เฉินได้ปฏิเสธ
ลู่เฉินไม่ให้เกียรเลย เฉินเสี่ยวปิงก็ยังตื้อ ทำให้บ้านเฉินรู้สึกสงสัย
หลังอาหารเสร็จ ลู่เฉินก็ดื่มจนเมา สุดท้ายเฉินจือหรานก็ต้องขับรถของเขาเพื่อพาลู่เฉินกลับบ้าน พอถึงบ้านลู่เฉิน ลู่เฉินกำลังจะบอกขอบคุณ แต่เฉินจือหรานก็แย่งโทรศัพท์ลู่เฉินไป เฉินจือหรานกดเบอร์ไปด้วยใบหน้าก็แดงไปด้วย จากนั้นก็กดโทร ลู่เฉินรู้สึกตลก แต่ก็ไม่แย่งโทรศัพท์กลับ
หลังจากที่เฉินจือหรานโทรเสร็จ ก็เอาโทรศัพท์คืนลู่เฉิน แล้วพูดด้วยใบหน้าที่แดง “วันนี้ขอบคุณนะ”
หลังจากที่เธอพูดจบก็ไม่รอลู่เฉินตอบกลับ เธอก็รีบเปิดประตูรถและวิ่งหนีไป
ลู่เฉินส่ายหัว กลับมานั่งในรถอีกครั้งเพื่อจอดรถให้เรียบร้อย แล้วจากนั้นก็ขึ้นไปนอน
บ่ายสี่โมง เขาตื่นตรงเวลาเพื่อไปรับกีกี้
หลังจากได้รับกีกี้แล้ว เขาก็ไปซื้อกับข้าว เมื่อกลับถึงบ้าน ก็พบว่าหลินอี้จุนกลับมาแล้วเหมือนกัน
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของหลินอี้จุนดูไม่ดีมาก เขาก็ตกใจ รู้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้น
ต้องเป็นหลินอี้เจียหรือวังเสวี่ยที่โทรหาเธอแน่ บอกว่าเขาแพ้เสียเงินไปเยอะ รู้เลยว่าหลินอี้จุนจะโกรธขนาดไหน
แปบเดียวเสียไป 90 จะมีใครรับได้ล่ะ
เห็นหลินอี้จุนทำหน้าโกรธและไม่พูดอะไร ลู่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน ได้แต่ตรงไปห้องครัวเพื่อไปทำอาหาร
เขากำลังคิด ว่าควรบอกความจริงกับหลินอี้จุนดีไหม เขากังวลเล็กน้อย ถ้าเกิดบอกความจริงกับหลินอี้จุนไป แล้วหลินอี้จุนไม่สามรถเก็บเป็นความลับได้ แล้วไปบอกวังเสวี่ย วังเสวี่ยต้องมาขอเงินคืนแน่นอน
ทำอาหารเสร็จ เห็นหลินอี้จุนเข้าห้องไปนอนแล้ว ลู่เฉินรู้สึกไม่แน่ใจ ยังไงก็ต้องเตรียมบอกความจริงเธอแหละ
“เกิดไรขึ้น ใครทำไรเธอ โกรธอะไรขนาดนั้น” ลู่เฉินเดินไปที่เตียงพร้อมยิ้ม
“อย่ามาพูดกับฉัน! “ หลินอี้จุนตะคอกใส่ พร้อมดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งตัว
เธอคิดมาทั้งวัน จะไม่สนใจลู่เฉินแน่นอน
ถ้าเกิดลู่เฉินทำธุรกิจแล้วล้มเหลว ในใจเธอก็ยังรับได้
แต่ลู่เฉินกลับเอา 90 ล้านไปเสียทิ้ง นี้เป็นสิ่งที่อภัยไม่ได้
ลู่เฉินยิ้มแล้วยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดไร กลับเอาโทรศัพท์ออกมาโอนให้หลินอี้จุน 90 ล้าน
จากนั้นก็เดินออกไป
กลับมาที่ห้องนั่งเล่น ลู่เฉินก็เรียกฉีฉีมากินข้าว
“พ่อจ้า แม่ล่ะ ทำไมไม่มากินข้าว”ฉีฉีถามด้วยเสียงน่ารัก
อย่าไปสนใจ เดียวหิวแล้วก็ออกมากินเอง ลู่เฉินครีบผักให้ฉีฉีไปด้วยพูดไปด้วย
เขาเชื่อว่าอีกเดียวได้รับข้อความ เดียวก็ออกมา
“อือ”ฉีฉีตอบกลับ แล้วนั่งกินข้าวแบบเงียบๆ
“วันนี้คุณครูสอนอะไรบ้าง?” ลู่เฉินกินข้าวไปด้วยชวนฉีฉีคุยไปด้วย
“สอนคณิต แล้วก็สอนร้องเพลงให้ด้วย”ฉีฉีตอบกลับ
“ออ แล้วหนูทำได้ไหม?” ลู่เฉินถาม
“เป็นหมดเลย เดียวหนูทำให้ดูเลย” ฉีฉีพูด
“ดี” ลู่เฉินพยักหน้า ในเวลานี้ ก็เห็นหลินอี้จุนเดินออกมากับสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ
“นาย ไม่ได้เสียเงินไปหรอ” หลินอี้จุนมองไปที่ลู่เฉินด้วยความที่ไม่เชื่อ ก่อนหน้าที่หลินอี้เจียโทรหา เธอก็ได้ยินเสียงของคุณพ่อ ดังนั้นเธอเลยไม่สงสัยเลยว่าทำไมลู่เฉินถึงเสียเงิน
“คุณก็ไม่ดูนะว่าสามีคุณเป็นคนยังไง จะแพ้ได้ไง?” ลู่เฉินยิ้ม
“ อย่ามากลับคำ บอกความจริงมา ว่าวันนี้เกิดไรขึ้น” หลินอี้จุนมานั่งข้างๆลู่เฉินและจ้องที่เขา
“ก่อนหน้านี้คุณเอาเงิน 40 ล้านให้พ่อไม่ใช่หรอ วันนี้พวกเขาไปงานเลี้ยงวันเกิดของคุณเฉิน และแม่ของคุณกลับเสีย 40 ล้าน จริงๆผมคิดว่าเธอจะชนะกลับมา แต่ก็ไม่เลย ยังคิดว่าเธอจะให้เงินแม่ เพื่อให้เธอพนันต่อ ฉันก็เลยแพ้ไป 90 ล้าน เพื่อตัดความตัดใจของเธอที่คิดจะชนะอีก”ลู่เฉินพูด
“อ่า แม่ของฉัน เธอกล้าที่จะพนันเยอะขนาดนี้เลยหรอ” หลินอี้จุนตกใจและไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่ของเธอจะพนันเยอะขนาดนี้
“ ตอนนั้นฉันก็ประหลาดใจเหมือนกัน แต่พอไปที่โต๊ะเกมแล้ว มีคนไม่กี่คนกลับสงบสติอารมณ์” ลู่เฉินพูด
“ แล้วคุณเสีย 90 ล้านในเวลาแค่แปบเดียว ไม่กลัวหรอว่าจะไม่ชนะกลับมาได้?” หลินอี้จุนมองไปที่ลู่เฉินอย่างสงสัยและเธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลู่เฉินจะได้ 90 ล้านคืนมา
“โอเคได้ ฉันจะบอกความจริงกับเธอ ฉันไปได้ยินเรื่องกฎของการทอยลูกเต๋าเข้า เลยทำให้ฉันรู้ว่ามันคือเลขเท่าไหร ความลับนี้ห้ามบอกพวกเขานะ แล้วก็ไม่ต้องพูดด้วยว่าผมมีเงินเท่าไหร ไม่เช่นนั้นฉันแน่ใจ แม่ของคุณจะมาหาคุณและขอเงิน 10 ล้าน เพราะเธอจะไม่ยอมแน่นอน” ลู่เฉินพูด
“ คุณมีความสามารถนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณบอกฉันตรงๆ ว่าคุณไม่ได้ยืมค่ารักษาพยาบาลที่กีกี้เข้าโรงพยาบาล แต่คุณกลับเล่นการพนันได้มันมา?” หลินอี้จุนจ้องไปที่ลู่เฉินตาไม่กระพริบ