บทที่ 264 กลอุบายของเสี่ยวจื่อหยวน
ลู่เฉินมองกลับไปที่เสี่ยวจื่อหยวนและเห็นเสี่ยวจื่อหยวนมองเขาอย่างมีเล่ห์นัย ในใจของเขารู้สึกตกใจเล็กน้อยและมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
คำแนะนำของเสี่ยวจื่อหยวนที่ให้เขารับโทรศัพท์นั้นไม่ได้ไร้จุดหมายอย่างแน่นอน มันต้องมีอะไรสักอย่าง
นี่คุณกำลังเล่นเกมส์อะไรกับผมอยู่รึเปล่า?
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมขอรับสายสักครู่” ลู่เฉินวางอัญมณีลง เขาหันไปบอกผู้ชมและหยิบโทรศัพท์ออกมา
สายเรียกเขาเป็นของหลินอี้จุน เขาจึงเดินไปที่มุมอับเพื่อรับสายเธอ
หลินอี้จุนโทรหาเขาตอนนี้ น่าจะโทรมาเพื่อรายงานว่าพบฉีฉีแล้ว
แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ เขาถึงมีความรู้สึกกังวลในใจค่อยๆดังขึ้นอย่างช้าๆ
“อี้จุน” ลู่เฉินรับสายและพูดอย่างเบาๆ
“เด็กน้อย ถ้าอยากได้ชีวิตของเมียแก อีกสองเกมที่เหลือจะต้องแพ้อาจารย์เสี่ยวซ่ะ ในสายเป็นเสียงกลางๆของผู้ชายคนหนึ่ง ที่โทรมาด้วยโทรศัพท์ของหลินอี้จุน
“แกเป็นใคร?” ลู่เฉินหายใจเข้าลึกๆและถามไปด้วยน้ำเสียงสุขุม
“แกไม่ต้องสนใจว่าฉันเป็นใคร ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ยอมแพ้อาจารย์เสี่ยวซ่ะ แล้วฉันจะปล่อยเมียแกไป”
“ฉันจะเชื่อแกได้ยังไง?.ลู่เฉินถาม
“แกไม่มีทางเลือก ฉันสามารถบอกได้แค่ว่าลูกพี่คนนี้เป็นคนที่น่าเชื่อถือ” อีกฝ่ายหัวเราะเยาะและพูดออกมา
ลู่เฉินเงียบไปสองสามนาที และพูดขึ้นว่า “แกต้องให้ฉันฟังเสียงเมียฉันก่อน”
ไม่กี่นาที ลู่เฉินก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหลินอี้จุนดังขึ้น “ลู่เฉิน คุณไม่ต้องห่วงฉัน วันนี้คุณต้องชนะให้ได้ ขอเพียงแค่คุณได้รับรางวัลนี้คนพวกนั้นก็จะยอมปล่อยตัวฉีฉี……..”
“ไอ่เด็กน้อย แกได้ยินแล้วใช่ไหม ทำตามที่ฉันบอกซ่ะ มิฉะนั้นแกจะไดเก็บศพเมียแกทันทีที่แกกลับมา
ลู่เฉินถอนหาใจยาว สีหน้าของเขาค่อนข้างที่จะไม่ค่อยสู้ดีนัก
เขาเงียบไปเกือบนาทีก่อนจะกลับขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ ผมขอเบรคในรอบนี้สิบนาทีครับ” ลู่เฉินพูดโดยไม่คำนึงว่าผู้จัดงานจะเห็นด้วยหรือไม่
เมื่อมองด้านหลังของลู่เฉิน นัยน์ตาของเสี่ยวจือแสดงให้เห็นถึงความโหดร้าย
เมื่อทุกคนในกลุ่มผู้ชมเห็นว่าลู่เฉินรับโทรศัพท์แล้วจู่ๆก็สีหน้าของพวกเขาก็น่าดูไม่ค่อยสู้ดีและหยุดเกมโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลายคนยังสงสัยว่าเพื่อไม่ให้ลู่เฉินได้แชมป์ ทางผู้จัดงานได้คิดกลอุบายที่สร้างความวุ่นวายอะไรเพื่อจัดการกับลู่เฉินหรือไม่
ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไรแต่นัยน์ตาของเขากระพริบด้วยความไม่เต็มใจและความโกรธแค้น
นอกจากนี้ยังมีการฆาตกรรมที่คนอื่นมองไม่เห็นอีกด้วย
“เธอมากับฉันหน่อย”
เมื่อเขามาถึงโต๊ะลู่เฉินก็ตบไหล่หลานหลิงแล้วเดินเขาไปทางห้องน้ำ
ทุกคนต่างก็งงงวย เมื่อหลานหลิงได้ฟังที่ลู่เฉินพูด ก็ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจมันสั่นและนัยตาของเธอถึงลุกเป็นไฟวูบวาบ
แต่เธอก็ยังลุกขึ้นและทำตามที่เขาขอ
เมื่อเขามาถึงห้องน้ำก็ไม่มีใครอยู่ในบริเวณโดยรอบเลย ลู่เฉินมองไปที่หลานหลิงที่เดินตามเขามา เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด หายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามว่า “คุณรู้ไหมว่าฉันเรียกเธอมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร?”
หลานหลิงส่ายหัวและบนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย
“ หลานหลิง เธอจะแสดงไปถึงเมื่อไหร่?” ลู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มพร้อมกับในตาที่เป็นประกายของเขา
“ปรมาจารย์ลู่ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ฉันไปทำอะไรงั้นเหรอ” หลานหลิงตื่นตระหนกและถามกลับ
ลู่เฉินพ่นก้นบุหรี่ออกมา แล้วบีบคอของหลันหลิงและผลักเธอติดกำแพงพร้อมกับประชดประชันด้วยสีหน้าบึ้งตึง“ หลานหลิงเธอคิดว่าเธอแสดงได้ดีงั้นเหรอ ฝีมือการแสดงดียิ่งกว่าราชาหนังงั้นเหรอ?
“ ปรมาจารย์ลู่ นี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่?” ถึงแม้จะถูกลู่เฉินบีบคอ แต่หลานหลิงก็ไม่ได้ลนลาน เธอยังสามารถสงบสติอารมณ์ได้
“ หลานหลิงฉันให้โอกาสเธอแล้วนะ แต่ในเมื่อเธอไม่ต้องการมัน ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน”
ลู่เฉินถอนหายใจอย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง และมือของเขาก็เพิ่มแรงหนักขึ้น
ตอนนี้สีหน้าของหลานหลิงก็เปลี่ยนไป
การที่ถูกลู่เฉินบีบคอ ทำให้เธอหายใจลำบากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นเจตนาฆ่าอย่างไม่สะทกสะท้านในดวงตาของลู่เฉินเธอก็รู้สึกกลัว
“คุณปล่อยฉันไป ฉันจะให้พวกเขาปล่อยฉีฉีไป” หลานลิงพูดอย่างขึ้น
“ โทรตอนนี้ ภายในสิบนาทีนี้ให้พวกเขาเอาเขาไปส่งที่สำนักงานตำรวจ ส่งลูกสาวของฉันให้ เสี่ยวซัวจุนด้วยตัวเอง ฉันเตือนเธอไว้ก่อน ถ้าลูกฉันเป็นอะไรแค่นิดเดียว ฉันจะไม่ใช่แค่ฆ่าเธอด้วยมือของฉัน แต่ฉันจะทำให้ตระกูลหลานของเธอลงนรกให้หมด” มือของลู่เฉินคลายออกเล็กน้อย แต่เจตนาฆ่าในดวงตาของเขารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ที่หลานหลิงมากับพวกเขา เขาแค่สงสัยเล็กน้อย
แต่จนกระทั้งคืนก่อน หลังจากหลานหลิงฆ่า ตี๋จวินและ เซี่ยยี่ ที่ทำให้เธอไม่พอใจบนเครื่องบิน เขาจึงแน่ใจว่าฉีฉีต้องอยู่ในมือของหลานหลิงแน่นอน
หากตระกูลหลานต้องการเปิดร้านขายเครื่องประดับในยวี่โจว อาศัยแค่การสนับสนุนสมาคมอัญมณีเพียงอย่างเดียวคงไม่พอแน่ๆ
แต่ถ้าในการแข่งขันการพนันหินครั้งนี้สมาคมอัญมณียวี่โจวได้ชื่อเสียงที่ดี ผลลัพธ์จะแตกต่างออกไปทันที และแน่นอนว่าจะดีกว่าการเชิญดารามาโฆษณาให้
หากลู่เฉินชนะการแข่งขันชิงแชมป์นี้ ร้านขายเครื่องประดับตระกูลหลานก็จะเหนือกว่า บริษัทเครื่องประดับหยุนเฟยกรุ๊ปของตระกูลจั่ว และกลายเป็นผู้ค้าอัญมณีรายใหญ่ที่สุดในยวี่โจว
แต่ยวี่โจวมีปรมาจารย์เก่าแก่สามคน และถึงแม้ว่าหวงเหยาจุนจะเป็นเพียงคนเดียวที่เชี่ยวชาญในการพนันหิน แต่เขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก เขายังไม่สามารถที่จะเข้าสู่ 100 อันดับแรกของประเทศได้เลย
หลานหลิงรู้ว่าลู่เฉินเคยเอาชนะเจิ้งซีเหอในการเดิมพันครั้งหนึ่ง เจิ้งซีเหอสามารถเป็นสามอันดับแรกของประเทศ หากลู่เฉินสามารถเป็นตัวแทนของสมาคมอัญมณียวี่โจวในการแข่งขันนี้ไม่ต้องพูดถึงแชมป์หรอก อย่างน้อยสี่อันดับแรกก็ไม่มีปัญหา
นั่นเป็นเหตุผลที่หลานหลิงวางแผนที่จะลักพาตัวฉีฉี เพื่อเอาไว้ต่อรองกับลู่เฉิน
ตอนนี้หลานหลิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมาและโทรออก หลังจากที่อีกฝ่ายเชื่อมต่อแล้วเธอก็พูดว่า: “ส่งฉีฉีไปที่สถานีตำรวจภายในสิบนาทีนี้ แล้วส่งให้ ถึงมือ เสี่ยวซัวจุน”
เธอวางสายโทรศัพท์และกล่าวขอโทษ: “ปรมาจารย์ลู่ ฉันขอโทษจริงๆ เรื่องนี้เป็นความผิดของฉัน แต่คุณมั่นใจได้เลย ฉีฉีสบายดีอย่างแน่นอน เพื่อทำให้เธอมีความสุข ทุกวันนี้คนของฉันดูและเธอเหมือนกับเจ้าหญิงเลยล่ะ”
ลู่เฉินตะคอกใส่และค่อยๆคลายมือออกจากคอของหลานหลิง แต่เขาก็ได้ยกมือขึ้นและตบหน้าหลานหลิง
สิ่งที่ลู่เฉินเกลียดที่สุดคือคนที่มายุ่งกับคนในครอบครัวของเขา
ถ้าต้องการให้เขาช่วยเรื่องการแข่งขัน หลานหลิงสามารถใช้วิธีอื่นได้
ขอเพียงเขารู้เรื่องนี้ เขาก็จะเข้าร่วมด้วยตัวเอง
เพราะเขาต้องการใช้โอกาสนี้ในการผลักดันสมาคมอัญมณียวี่โจวไปสู่จุดสูงสุด เมื่อตลาดเครื่องประดับยวี่โจวขยายตัวกลุ่ม บริษัทอัญมณีของเขาจะได้รับความนิยมมากขึ้นและได้รับผลกำไรที่สูงขึ้น
แต่หลานหลิงดันใช้วิธีนี้ในการหาผลกำไร
พูดตามตรงถ้าไม่ใช่เพราะหลานหลิงบอกว่าพวกเขาดูแลฉีฉีอย่างดี ดังเจ้าหญิงละก็ เขาก็จะยกเลิกความร่วมมือกับหลานหลิง
และถ้าฉีฉีเป็นอะไรไปจริงๆ ขาจะฆ่าหลานหลิงตัวตัวเขาเองแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้ลู่เฉินสบายใจก็คือสิบนาทีต่อมาในที่สุดเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก เสี่ยวซัวจุน
เสี่ยวซัวจุนโทรศัพท์มาบอกเขาว่าฉีฉีมาถึงสำนักงานแล้ว และเธอปลอดภัยดีไม่มีอะไรผิดปกติ
“ส่งเธอไปที่บ้านยายของเธอให้ฉันด้วยนะ อ๋อ จริงด้วย ตอนนี้ภรรยาของฉันถูกคนลักพาตัวไป
นายช่วยค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ของเธอให้ที แต่อย่าเพิ่งทำอะไรผลีผลามนะ ตอนบ่ายนี้ฉันจะกลับไปจัดการมันด้วยตัวเอง”
ลู่เฉินพูดกับเสี่ยวซัวจุน