บทที่ 276 ตระกูลวังอาจมีส่วนร่วมด้วย
คุณชายใหญ่ของตระกูลจางถูกคนลักพาตัวในบริษัทของตระกูลตัวเอง ถ้าเรื่องนี้มันแพร่หลายออกไป ตระกูลจางต้องเสียหน้าแน่ๆ
สี่ตระกูลใหญ่เทียบได้ว่าเป็นตัวแทนของชนชั้นสูงในเมืองยวี่โจว แม้กระทั่งกลุ่มอำนาจใต้ดินก็ต้องไว้หน้าพวกเขาบ้าง
คนที่มาลักพาตัวคนในตระกูลจางถือได้ว่าเป็นการทำให้ตระกูลหน้าแตกต่อหน้าต่อตามวลชน
“ซ่งไห่ แกคิดจะแตกหักกันกับตระกูลจางของเราโดยสิ้นเชิงเหรอ?แกนึกว่าตระกูลจางของเราจะจัดการThree Heroes of the Water Margin พวกแกไม่ได้หรือ?”จางดาวเรนถูกบังคับลากออกไป จึงพูดด้วยความโกรธ
“ฉันนี่เป็นคนไม่มีครอบครัวและเงินทองใดๆ ไม่มีภาระหรอก จึงไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เอ๊ะ ถ้าแกไม่อยากต้องรับความทุกข์ทรมาน ก็ขึ้นรถเองเถอะ”ซ่งไห่พูดอย่างดูถูก
เขาเชื่อว่าอำนาจอย่างตระกูลจาง สามารถที่จะขุดรากถอนโคนพวกเขาThree Heroes of the Water Margin
แต่พอถึงเวลานั้นก็สามารถทำให้ตระกูลจางสูญเสียพลังเงินทองไปเยอะพอสมควร
แถมพวกเขาThree Heroes of the Water Marginยังเป็นคนของลู่เฉิน ตอนนี้ก็เกือบจะรวมตัวกับซากุระคลับอย่างสมบูรณ์แล้ว ความสามารถอย่างตระกูลจางจะสามารถฆ่าพวกเขาตายหรือเปล่านั้น มันยังไม่แน่เลย
จางดาวเรนโกรธขรึมมาก คาดไม่ถึงว่าตัวเองถูกซ่งไห่คุกคามกลับ
ในใจของเขาโมโหมาก และไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ก็ต้องทนไหวก่อน เพราะเขาเชื่อว่าถ้าเขาไม่ทำตาม คนพวกนี้จะต้องลงมือต่อยเขาแน่ๆ
ในขณะเดียวกัน หลินตงและชิจินสองคนก็นำหลิวซานซึ่งเป็นทายาทของตระกูลหลิวมาที่ซากุระคลับด้วย
เมื่อเทียบกับความโกรธขรึมของจางดาวเรน การแสดงออกของหลิวซานและจั่วชิงเฉิงเงียบกว่าเขาเยอะ
“ท่านทั้งสามครับ คืนนี้ต้องรบกวนพวกคุณพักอยู่ที่นี่คืนหนึ่งนะ”ตู้เฟยมองไปที่จั่วชิงเฉิง จางดาวเรนและหลิวซานสามคน จากนั้นก็ออกจากห้องใต้ดิน
“พี่จั่ว พี่หลิว ทำไมพวกคุณก็โดนจับเข้ามาด้วยล่ะ?ลู่เฉินเขาอยากตายหรือไง กล้าใช้อำนาจใต้ดิน เขาไม่กลัวเสี่ยวซัวจุนฉวยโอกาสนี้มาปราบซารุระคลับให้ราบคาบเหรอ?”จางดาวเรนพูดอย่างโมโห
จั่วชิงเฉิงไม่ได้พูดอะไร แต่ตาของหลิวซานเปล่งประกายออกมา มองไปที่จางดาวเรนและพูดว่า”พี่จางมีความคิดอะไร?”
จางดาวเรนพูดอย่างมั่นใจ”เห็นได้ชัดว่าเซ่ซูเจี๋ยจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนลู่เฉินแล้ว ขอให้ตระกูลเราสามตระกูลสร้างแรงกดดันให้เขาอีกหน่อย เขาก็อาจจะลงมือล้างซากุระคลับไปอย่างสิ้นเชิง”
จั่วชิงเฉิงได้ยินเช่นนี้ ก็เลิกคิ้วขึ้นมา หลิวซานกันไปทางจั่วชิงเฉิง แล้วถามว่า”
“พี่จั่ว คุณรู้สึกยังไง?”
จั่วชิงเฉิงเงียบขรึมไปสักครู่ และพยักหน้าพูดว่า”ฉันก็รู้สึกว่าพวกเราอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว เราควรโทรไปให้คุณพ่อของพวกเราบอกเรื่องนี้ให้แก่พวกเขาทราบ ต้องโน้มน้าวใจพวกเขาให้ไปสร้างความกดดันให้เซ่ซูเจี๋ย”
เขาก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่ง
สาเหตุที่ลู่เฉินหยิ่งมาตลอด ประกายหนึ่งคือมีเซ่ซูเจี๋ยสนับสนุนอยู่ ประกายที่สองคือเขามีความสัมพันธ์กับอำนาจใต้ดินซากุระคลับ ทุกครั้งเกือบจะเป็นซากุระคลับที่ทำงานให้เขาอยู่ตลอด
ถ้าครั้งนี้ซากุระคลับถูกปราบปราม ก็เท่ากับว่าเป็นการหักแขนซ้ายและแขนขวาของลู่เฉิน นั้นครั้งนี้โอกาสที่พวกเขาสามตระกูลจะเอาชนะลู่เฉินนั้นมีโอกาสสูงมากอยู่
“โอเค โทรไปเดี่ยวนี้เลย”หลิวซานพูด
แน่นอนตู้เฟยจะไม่รู้การสนทนาของจั่วชิงเฉิงสามคน แต่แม้ว่าเขารู้แล้วก็คงไม่ใส่ใจหรอก
ตระกูลใหญ่ทั้งสามตระกูลเซ่ซูเจี๋ยไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นแผนของลู่เฉิน
ครั้งนี้ ลู่เฉินไม่อยากให้เซ่ซูเจี๋ยปรากฏตัวมาช่วย เพราะอยากจะให้สามตระกูลใหญ่ก่อเรื่องให้มันรุนแรงขึ้น พอถึงเวลานั้นพวกเขาถึงจะยิ่งเจ็บขึ้น
หลังจากตู้เฟยออกมาจากห้องใต้ดินก็โทรไปให้ลู่เฉิน”เรียบร้อยแล้วครับ แต่ฉันได้ยินมาว่าตระกูลวังช่วงนี้เหมือนมีการเคลื่อนไหวอีกแล้ว”
ภายในวิลล่าทะเลสาบจิงหลง ลู่เฉินกำลังเล่นกับฉีฉีอยู่บนสนามฟุตบอล ฉีฉีกำลังวิ่งไล่ตาบอลที่กลิ้งออกไป ส่วนเขาได้หยุดลงมาเพื่อรับสายของตู้เฟย
เมื่อได้ยินตู้เฟยบอกว่าตระกูลวังมีการเคลื่อนไหวอีก สายตาของลู่เฉินปรากฏฆาตกรรมออกมา
เดิมทีเขาอยากจะเอาตระกูลวังเหลือไว้ให้อู๋เล่ย ให้เขาไปแก้แค้นเองทีหลัง ดังนั้นเลยไม่ได้ไปปราบปรามตระกูลวังโดยเฉพาะ
“พวกเขาก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้เหรอ?”ลู่เฉินถาม
“ฟังลูกน้องของฉันเล่าว่า เมื่อวานวังชิจูกับจางซิงฉวนไปกินข้าวด้วยกัน ผู้นำของสองตระกูลนี้กินข้าวด้วยกันก็มีความเป็นไปได้เพียงสองแบบ แบบแรกคือสองตระกูลนี้ได้ทำข้อตกลงกันสักอย่าง แบบที่สองคือพวกเขามีการร่วมมือกันในบางอย่าง แต่ฉันคาดว่าในช่วงเวลานี้ พวกเขาคงคิดจะร่วมมือกันต่อต้านคุณ”ตู้เลยพูด
“ต่อต้านฉัน?”
ลู่เฉินหัวเราะเยาะในใจ ดูเหมือนว่าคนที่อยากจะมาได้ผลประโยชน์จากเทคโนโลยีอี้ฉีของเขานี่ไม่น้อยทีเดียวเชียวนะ
แต่ว่าพวกคุณมีความสามารถนี้หรือเปล่าล่ะ
“ไปตรวจสอบก่อนละกัน ถ้าตระกูลวังมีส่วนร่วมเช้ามาด้วยก็จัดการตระกูลวังก่อนเถอะ”ลู่เฉินพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ถ้าหากตระกูลวังมีส่วนร่วมเข้ามาจริงๆ นั้นลู่เฉินก็จะไม่รอให้อู๋เล่ยไปแก้แค้นเองทีหลังแล้ว เขาจะทำให้ตระกูลวังล้มละลายก่อน
ถ้าพูดตามตรง ครั้งนี้แม้ว่าเขาอยากจะสั่นสอนให้พวกเขาจำไว้ขึ้นใจ แต่ตระกูลใหญ่ทั้งสามตระกูลไม่ว่าเป็นตระกูลไหน ล้วนไม่สามารถทำจนมันสูญเสียได้ในระยะสั้น
แต่ถ้าหากเป็นตระกูลวัง มันก็จะง่ายกว่าเยอะเลย
เสี่ยวเบชิงตายไปแล้ว ไม่มีใครสามารถมาคุกคามเขาได้แล้ว เขาก็ไม่อยากซ่อนตัวอยู่ลึกลับอีกต่อไป
พอดีฉวยโอกาสนี้ ประกาศให้คนในเมืองยวี่โจวทราบถึงเขาลู่เฉิน
เมื่อวางสายของตู้เฟยแล้ว เห็นว่าฉีฉีกำลังเล่นอยู่ฝั่งนู้นคนเดียวอย่างสนุก ลู่เฉินเลยโทรไปให้เสี่ยวซัวจุนอีก
“ผู้อำนวยการเสี่ยวครับ จั่วชิงเฉิง จางดาวเรนและหลินซานล้วนอยู่ในมือฉันครับ”ลู่เฉินพูด
“น้องลู่ คุณอย่าทำจนเกินไปนะ พวกเขาสามตระกูลล้วนได้แจ้งความแล้ว ฉันนี่อยากมากก็แค่สามารถถ่วงอีกสองวัน”เสี่ยวซัวจุนยิ้มอย่างขมขื่น เมื่อเวลาที่ทั้งสามตระกูลนี้แจ้งครับพร้อมกัน เขาก็เดาได้แล้วว่าคนต้องอยู่ในมือลู่เฉินแน่ๆ
“ถึงแค่เที่ยงพรุ่งนี้ก็พอ”ลู่เฉินพูด แน่นอนว่าเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าจั่วชิงเฉิงสามคนนี้ ถ้าหากเขาจะฆ่า แน่นอนจะไม่ให้คนของตู้เฟยทำหรอก เขาเชื่อว่าเสี่ยวซัวจุนต้องเข้าใจจุดประสงค์ของเขาด้วย
แน่นอนว่าเสี่ยวซัวจุนจะรู้จุดประสงค์ของลู่เฉินอยู่แล้ว เขาก็เชื่อว่าลู่เฉินไม่ใช่คนโง่ ถ้าจะฆ่าคน คงไม่มาลักพาตัวอย่างเปิดเผยแบบนี้หรอก
แต่การกระทำแบบนี้ของเขา สามารถทำให้สามตระกูลใหญ่หวาดกลัวได้นี่ก็เป็นเรื่องจริง
“เออ นั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว”เสี่ยวซัวจุนวางสายโทรศัพท์ จากนั้นเลขาของเขาก็เดินหน้าขึ้นมา
เสี่ยวซัวจุนหยิบบุหรี่มวลหนึ่งขึ้นมาสูบ พิงหลังเก้าอี้ แล้วจึงถามว่า”สามตระกูลใหญ่มากดดันอีกเหรอ?”
เลขาพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าที่เป็นธรรมชาติ”ผู้อำนวยการเสี่ยวครับ สามตระกูลใหญ่ล้วนแสดงหลักฐานที่ว่าซากุระคลับได้ลับพาตัวเครือญาติของพวกเขาไป และเรียกร้องให้เรากำจัดกองกำลังใต้ดินให้สิ้นซาก”
เสี่ยวซัวจุนสูบบุหรี่ลง และพูดอย่างราบเรียบ”ซากุระคลับในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ซากุระคลับในสิบปีก่อนแล้ว”
เลขามองไปที่เสี่ยวซัวจุนด้วยสีหน้าที่มึนงง
เสี่ยวซัวจุนยิ้มแล้วพูดว่า”ประกายที่หนึ่ง เนื่องจากเบื้องหลังของพวกเขาเป็นลู่เฉิน ประกายที่สองคือ ลู่เฉินได้ล้างฐานะในทางมืดของพวกเขาไปและสร้างอาชีพที่เป็นนักธุรกิจให้แก่พวกตู้เฟย ตามความเป็นจริงแล้วพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไปตามทิศทางนี้เช่นกัน อีกไม่นานคงไม่มีใครนึกว่าพวกเขาเป็นกองกำลังใต้ดินแล้ว”