บทที่ 293 ไปประเทศเมียนม่าร์
หนังสือการวางแผนของเสี่ยวจี้ค่อนข้างจะไม่ได้เรื่อง ถ้าพูดยังไงดีล่ะ ลู่เฉินไม่ได้เห็นถึงความทะเยอทะยานของเสี่ยวจี้จากหนังสือการวางแผนเล่มนี้
แต่เขาก็เข้าใจความในใจของเสี่ยวจี้ ตอนที่เขาเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเขาก็ขี้ขลาดตาขาวแบบนี้แหละ
“หนังสือการวางแผนเล่มนี้ของคุณ คุณแค่คิดจะให้ฉันลงทุนสิบล้านใช่ไหม คุณกลับไปก่อน ฉันจะให้เหนียวด้าซานโอนให้คุณทันที”เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเสี่ยวจี้ทั้งสามคนเต็มไปด้วยความผิดหวัง ลู่เฉินเลยพูดขึ้นมาโดยตรง
การลงทุนแค่สิบล้าน เขาไม่มีความสนใจด้วยซ้ำ พอดีว่าเหนียวด้าซานอยู่ในเมืองฉีเจียง ก็ให้เหนียวด้าซานดูแลพวกเขาสักหน่อยก็ได้
“จริงหรือคะ ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณพี่เขยเป็นอย่างยิ่งนะคะ”หวังว่านพูดอย่างตื่นเต้น
“ขอบคุณพี่เขยเป็นอย่างยิ่งครับ”เสี่ยวจี้ก็กล่าวคำขอบคุณกับลู่เฉินอย่างเคารพ
ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร แต่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปให้เหนียวด้าซานโดยตรง
“คุณชายใหญ่ครับ”หลังจากรับสายแล้ว เสียงที่เคารพของเหนียวด้าซานก็ส่งมาจากโทรศัพท์
โทรศัพท์ของลู่เฉินยังไม่ได้เปลี่ยน อาจจะเป็นเพราะว่าเวลาการใช้งานนานเกินไป แม้ว่าไม่ได้เปิดแฮนด์ฟรี แต่เสียงก็ค่อนข้างจะดัง เสี่ยวจี้ทั้งสามคนเลยได้ยินคำพูดของเหนียวด้าซาน
คุณชายใหญ่!
เหนียวด้าซานเป็นตั้งผู้ร่ำรวยที่สุดในเมืองฉีเจียงนะ แต่เขาได้เรียกพี่เขยว่าคุณชายใหญ่?
ตกลงพวกเขาเป็นอะไรกัน?หรือว่าพี่เขยเป็นคุณชายในตระกูลใหญ่จริงหรือ?
น่าจะใช่แล้ว ไม่นั้นเขาจะมีเงินมากขนาดนั้นมาสร้างเทคโนโลยีอี้ฉีขึ้นมาได้ยังไงล่ะ
นับบัดนี้สายตาที่หวังว่านแบะเสี่ยวจี้มองไปทางลู่เฉินก็ไดเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย
“ด้าซาน น้องสาวฝั่งภรรยาของฉันจะเปิดบริษัท ขาดเงินทุนหน่อยนึง คุณช่วยดูและวกเขาหน่อย ฉันให้พวกเขาเองหนังสือการวางแผนไปหาคุณ”ลู่เฉินพูด
“โอเค ฉันจะไม่ทำให้คุณชายใหญ่ผิดหวังแน่นอนครับ”เหนียวด้าซานพูดอย่างแน่วแน่
“โอเค นั้นก็เพียงเท่านี้ก่อนละกัน พอถึงเวลาพวกเขาจะโทรหาคุณเอง”ลู่เฉินพูดเสร็จก็วางสายโทรศัพท์ จากนั้นเอาเบอร์ของเหนียวด้าซานให้เสี่ยวจี้
“ขอบคุณพี่เขยอย่างยิ่งครับ”หลังจากเสี่ยวจี้จำเบอร์เสร็จ ก็กล่าวคำขอบคุณอย่างเคารพอีกครั้ง
“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ พวกคุณนั่งก่อนเถอะ ฉันมีธุระต้องออกไปจัดการก่อน”ลู่เฉินพูดเสร็จก็เดินออกไปข้างนอก เขาได้นัดกับตู้เฟย เดี๋ยวยังต้องเจอกันอีก
ยังไงวังเสวี่ยก็อยู่บ้านด้วย ตามจริงเขารู้สึกว่าเขาอยู่บ้าน วังไกสามคนยังค่อนข้างจะไม่สบายใจมากกว่า
ลู่เฉินไปหาตู้เฟย แน่นอนคือไปปรึกษาเรื่องการนำเข้าหินหยาบจากประเทศเมียนม่าร์
“ผลการตรวจสอบเป็นยังไง?”ลู่เฉินถามตู้เฟย เขาให้ตู้เฟยไปค้นหาบริษัทช่องทางหินหยาบของฝั่งเมียนม่าร์
“ในพื้นที่ปกครองตนเองโกก้างของรัฐฉาน มีกองทัพโจรในท้องถิ่นกองทัพหนึ่ง ฉันสงสัยว่าพวกเขาได้กลายตัวมาจากผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำของอดีต”ตู้เฟยพูด
“คุณได้ติดต่อกับพวกเขาหรือยัง?”ลู่เฉินถาม เขาจำได้ว่าในหนังสือสัญญามีเบอร์ติดต่ออยู่
“ยัง ฉันพูดภาษาเมียนมาร์ไม่เป็น”ตู้เฟยส่ายหัวพูด
“ไม่ต้อง ฉันจำได้ว่าพื้นที่ตรงโกก้าง ส่วนใหญ่จะพูดภาษาจีน เงินที่ใช้ก็เป็นเงินจีนด้วย ใช้ตามประวัติศาสตร์ของเรา นามสกุลที่มากที่สุดคือหลิว คุณลองโทรไปดูสิ”ลู่เฉินดูด
“แม่ง ฉันยังไม่รู้เลย โอเค ฉันจะโทรไปเดี่ยวนี้เลย”ตู้เฟยรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย หันไปหยิบหนังสือสัญญาออกมา
เขาโทรไปตามเบอร์ที่อยู่ในหนังสือสัญญา ฝั่งนู้นพูดภาษาจีนจริงด้วย จากนั้นเขาต้องระบุความต้องการของเขา ไม่นานก็ทำการตอกลงกันได้อย่างรวดเร็ว
“ให้พวกเราไปพรุ่งนี้ จะคุยกันต่อหน้า”หลังจากวางสายเสร็จ ตู้เฟยก็พูดขึ้นมา
“เออ นั้นพรุ่งนี้เราไปกัน”ลู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำวีซ่าให้เขา ประมาณสองชั่วโมง วีซ่าก็ทำเสร็จ
เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว ลู่เฉินก็จองตั๋วเครื่องบิน
ไม่มีเครื่องบินที่บินตรงไปถึงโกก้าง มีแต่ต้องบินไปที่เนปิดอว์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเมียนมาร์ จากนั้นค่อยนั่งรถไปโกก้าง
บ่ายสองโมงของวันที่สอง ลู่เฉินและตู้เฟยสองคนก็มาถึงเนปิดอว์ จากนั้นเมารถคันหนึ่ง ไปที่โกก้างโดยตรง
จากเนปิดอว์ไปที่โกก้างต้องใช้เวลาสองชั่วโมงกว่า จนกว่าบ่ายสี่โมงจึงจะถึงโกก้าง
โกก้างเป็นเมืองปกครองพิเศษของรัฐฉาน เศรษฐกิจถือว่าค่อนข้างจะเจริญรุ่งเรืองในประเทศเมียนมาร์
ตอนเช้ามองดูแล้วโกก้างปลอดภัยมาก แต่พอถึงเวลากลางคืน มันได้รับฉายานามว่าเมืองแห่งความตาย
เพราะอำนาจใต้ดินที่นี่หยิ่งกำเริบมาก บ้างยังได้เจริญเติบโตขึ้นมาเป็นกองทัพโจร บางครั้งยังกล้าที่จะต่อต้านกับรัฐบาล
“หาโรงแรมพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยไป”พอถึงโกก้าง ลู่เฉินได้พูดกับตู้เฟย
ตู้เฟยพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปโรงแรมแห่งหนึ่งพร้อมกับลู่เฉิน
ที่นี่เหมือนที่ลู่เฉินบอกมา คนที่นี่ล้วนพูดภาษาจีน แถมสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมไปถึงพบโฆษณา ล้วนเป็นภาษาจีน
นี่ทำให้ทั้งสองคนสะดวกมากขึ้น
ทั้งสองคนเข้าพักโรงแรมเสร็จ ก็ออกมากินข้าว
ร้านอาหารที่นี่ล้วนเป็นแบบตะวันออก ทั้งสองคนไม่มีความรู้สึกที่ออกจากประเทศ ยังเหมือนกับอยู่ในประเทศ
“คุณผู้ชายทั้งสองคะ เดี๋ยวการแข่งขันชกมวยใต้ดินก็จะเริ่มแล้ว สนใจไปรับชมไหมคะ?”
ขณะที่ทั้งสองคนสั่งอาหารอยู่ บริกรสาวสวยคนหนึ่งหยิบกระดาษโฆษณาชวนเชื่อชุดหนึ่งมาเพื่อเสนอให้กับลู่เฉินทั้งสองคน
โปสเตอร์นักมวยสองคนอยู่บนกระดาษ ดูแล้วมีฆาตกรรมมาก
“การแข่งขันชกมวยใต้ดิน?”ตู้เฟยเลิกคิ้ว เมืองยวี่โจวก็มีการแข่งขันชกมวยใต้ดิน แต่ล้วนแข็งแบบเล่นๆ เป็นวิธีการหารายได้ของอำนาจใต้ดินอีกกลุ่มหนึ่ง และก็เป็นสถานที่เดิมพันของคนใหญ่คนโตด้วย เขาเคยไปเล่นหลายครั้ง ไม่ค่อยสนุก เลยไม่ได้ไปอีกเลย
“ใช่ไง คืนนี้รอบที่สนุกที่สุดคือวังเซียวจ้างที่มาจากประเทศจีนแข่งกับวังเข่าซึ่งเป็นราชามวยไทย ก่อนที่วังเซียวจ้างกับวังเข่าเผชิญหน้ากันในวันนี้ พวกเขายังไม่เคยแพ้มาก่อน บัตรเข้าชมถูกมาก หนึ่งพันหยวนก็สามารถนั่งในห้องวีไอพี”สาวสวยมอวไปดูลู่เฉินทั้งสองคนด้วยความคาดหวัง เห็นได้ชัดว่างานการเสนอสินค้าของเธอนี้ก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ
“เออ จองห้องวีไอพีให้พวกเราเลยละกัน”ลู่เฉินพยักหน้า ยังไงตอนกลางคืนกลับไปก็เหงาอยู่ พอดีได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ลู่เฉินพูดเสร็จก็หยิบหนึ่งพันหยวนออกมาให้บริกร
“ขอบพระคุณคุณผู้ชายทั้งสองค่ะ ฉันจะไปจองให้พวกคุณเดี่ยวนี้ค่ะ”บริกรสาวสวยเปล่งประกายออกมา หยิบเงินมาแล้วก็เดินออกไป
“ไอ้เซียวจ้างคนนั้นฉันเคยพบอยู่ เป็นราชาแห่งการชกมวยใต้ดินของเมืองยวี่โจว คาดไม่ถึงว่าได้มาพัฒนาที่เมียนมาร์”ตู้เซฟพูด
“ความสามารถเป็นยังไง?”ลู่เฉินพยักหน้า ถามพล่ามปาก แม้ว่าเขาไปเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ไม่อยากดูการแข่งขันที่น่าเบื่อ
“พอใช้ได้ ถ้าหากหลายปีนี้เขาไม่ได้มีการก้าวหน้าใดๆ เขาก็ชนะฉันไม่ได้”ตู้เผยพูด
“นั้นก็เก่งมากแล้ว”ลู่เฉินพยักหน้า เดิมความสามารถของตู้เฟยก็แข็งแกร่งมาก ตามความหมายของตู้เฟย สิบปีก่อนเซียวจ้างคนนี้น่าจะมีความสามารถพอๆกับเขานะ
“คุณผู้ชายคะ บัตรการเข้าชมของพวกคุณค่ะ ถือบัตรใบนี้ หลังจากเข้าไปแล้วก็มีคนนำพวกคุณพาที่ห้องวีไอพีที่กำหนดค่ะ”
ไม่นาน บริกรสาวสวยคนนั้นก็เอาบัตรเข้สชมมาให้ลู่เฉินทั้งสองคน
“เออ”ลู่เฉินเอาบัตรมาดูตาเดียว จากนั้นก็วางอยู่บนโต๊ะ
ไม่นาน กับข้าวที่สั่งก็ได้ส่งมาแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ สองคนมองไปดูเวลา การแข่งขันชกมวยใกล้จะเริ่มแล้ว เลยเรียกแท็กซี่ไปที่ยิมมวยใต้ดิน