บทที่ 320 สั่นสะเทือนทั้งเมียนมาร์
“ ผู้บัญชาการอู๋ ความเสียหายจากสงครามมาแล้วครับ เสียทหารไป 673 นาย และได้รับบาดเจ็บ821 นาย ยุ้งฉาง คลังแสงและโกดังเก็บอาวุธถูกระเบิดทั้งหมด อาวุธและอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลาย และค่ายทหารหลายแห่งก็ถูกระเบิด สถานที่สำคัญหลายแห่งก็โดนระเบิดเละเช่นกัน เบื้องต้นคาดการความเสียหายมากกว่า 50 ล้าน ”
หนึ่งชั่วโมงต่อมารองผู้อำนวยการมารายงานความเสียหายให้กับอู๋เหว่ย
แม้ว่าอู๋เหว่ยและคนอื่น ๆ จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อพวกเขาได้ยินความเสียหายนั้นรุนแรงมากก็ใจสั่นตุ้มๆต่อมๆ
นี่คือพลังของอาวุธขั้นสูง
ภายใต้การปราบปรามโดยรอบของเครื่องยิงจรวดของฆ่าวิหาร ขนาดเฮลิคอปเตอร์ลำเดียวพวกเขาก็ยิงไม่ได้ และทหารหลายนายถูกสังหารโดยปืนใหญ่บนเฮลิคอปเตอร์นั้น
การปราบปรามเครื่องยิงจรวด พวกเขายังสามารถตอบโต้ได้ อย่างน้อยก็ยิงเฮลิคอปเตอร์ได้สองสามลำ
แต่ความจริงก็คือฝ่ายตรงข้ามมีความสูญเสียในการรบเป็นศูนย์ แต่พวกเขาได้รับความสูญเสียอย่างหนัก
“ ผู้บัญชาการอู๋ อาวุธของฆ่าวิหารนั้นล้ำหน้าขนาดนี้เราจะสู้พวกมันได้อย่างไรกันครับ ถ้าผมเดาไม่ผิด จรวดเหล่านั้นล้วนถูกปล่อยโดยเครื่องบินรบ มีเพียงเครื่องบินขับไล่เท่านั้นที่สามารถปราบปรามเราด้วยเครื่องยิงจรวดได้ตามอำเภอใจเช่นนี้
“จรวดเหล่านั้นต้องถูกปล่อยโดยเครื่องบินขับไล่แน่นอน เราอยู่ไม่ไกลจาก โกกังมากนัก พวกเขาไม่สามารถยิงขีปนาวุธได้หรอก นอกจากนี้ขีปนาวุธยังแพงมากๆด้วย ฆ่าวิหารน่าจะครอบครองได้” ผู้หมวดอีกคนกล่าว
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฆ่าวิหารมีอาวุธขั้นสูงเช่นนี้ได้อย่างไร พวกเขาซื้อมาจากไหนกัน” ผู้หมวดอีกคนถามด้วยความสับสน
ขุนศึกหลักผู้ร่ำรวยทั้งเจ็ดคนของเมียนมาร์ก็ไม่สามารถซื้อเครื่องบินขับไล่ได้ แม้แต่เนปิดอว์ก็มีเครื่องบินรบสมัยเก่าที่ร่วมมือกับปากีสถานซื้อสิบกว่าลำเท่านั้น และในความเป็นจริงขุนศึกหลักทั้งหกก็มีเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธเพียงไม่กี่ลำเช่นกัน
และแม้ว่าพวกเขาจะมีเงินมากมาย แต่ก็แทบจะไม่สามารถที่จะซื้ออาวุธขั้นสูงพวกนี้ได้
เนื่องจากประชาคมระหว่างประเทศยอมรับเฉพาะกรุงเนปิดอว์ และจะขายอาวุธให้พวกเขาเท่านั้น แต่กรุงเนปิดอว์นั้นยากจนเกินไปที่จะซื้อได้
“ประเทศจีน” อู๋เหว่ยพูดเบา ๆ
“ประเทศจีนสนับสนุนเฉพาะเนปิดอว์ไม่ใช่หรือ?แล้วพวกเขาจะไปสนับสนุนฆ่าวิหารได้ยังไงกัน?”
อู๋เหว่ยส่ายหัวและพูดขึ้นว่า“ คุณไม่สามารถมองเพียงผิวเผินได้ ประเทศเมียนมาร์ของเราตกเป็นเมืองขึ้นของจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ และพฤติกรรมต่างๆของเนปิดอในสองปีที่ผ่านมา ต่างก็บอกว่าเอนเอียงไปทางจักรวรรดิ Mสิ่งนี้ทำให้ประเทศจีนโกรธมาก และโกรธมานานแล้วไม่ว่าฆ่าวิหารจะเป็นฝ่ายที่จีนส่งมาหรือไม่ แต่การที่ฆ่าวิหารสามารถทำสิ่งต่างๆในเมียนมาร์ได้แบบนี้ จะต้องเป็นประเทศจีนที่สนับสนุนพวกเขาอย่างลับๆอย่างแน่นอน
“ นี่ … ” ผู้หมวดคนหนึ่งตกใจจนไม่รู้จะพูดอะไร
ผู้หมวดคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าหลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของอู๋เหว่ย และในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมฆ่าวิหารถึงมีอาวุธขั้นสูงเช่นนี้
“ผู้บัญชาการอู๋ พรุ่งนี้ยังจะสู้ศึกนี้ไหมครับ ถ้าไม่สู้ ผมเกรงว่าทหารบางคนจะตำหนิเอาได้” ผู้หมวดคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างกะทันหัน
“สู้เหรอ? ” อู๋เหว่ยยิ้มเยาะและมองไปที่ผู้หมวดคนนั้น “พวกนั้นมีเครื่องบินรบนะ คุณคิดว่าอุปกรณ์ภาคพื้นดินจะสู้ได้ไหม? และถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ กองกำลังทางบกของพวกเขา ล้วนติดตั้งรถถังและรถหุ้มเกราะที่ทันสมัยที่สุดแน่นอน แล้วพวกเรามีเพียวรถถังรถหุ้มเกาะเก่าๆยี่สิบกว่าคัน จะสามารถสู้กับพวกฆ่าวิหารได้เหรอ?”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คาดว่ากองกำลังส่วนใหญ่ของเราจะพุ่งตรงไปที่โกก้าง และอาจจะถูกทะล่มตายตั้งแต่กลางทางโดยเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธของอีกฝ่าย” ผู้หมวดอีกคนพูดเสริม
“ถ้าอย่างนั้น จะเอาตามนี้เหรอ” ผู้หมวดถามด้วยความสับสน
“ ถ้าทำแบบนั้นได้ ก็จะดี” อู๋เว่ยถอนหายใจเมื่อรู้ว่าฆ่าสังหารนั้นบิดเบือนการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับฆ่าสังหารได้
“ยอมจำนน ประกาศยอมแพ้ แล้วติดต่อพวกฆ่าวิหารให้ฉัน ฉันจะไปพบพวกเขาตัวตัวเองเพื่อพูดคุยโดยสันติภาพ”อู๋เหว่ยพูดขึ้น
ผู้หมวดพยักหน้า เพราะตอนนี้ทำได้แค่นี้จริงๆ นี่เป็นวิธีเดียวแล้ว ไม่งั้นพวกฆ่าสังหารต้องระเบิดอีกรอบแน่ๆ คาดว่าพวกเขาจะต้องทำให้ทุกอย่างกลายเป็นฝุ่นในพริบตา
……
เมื่อรัฐฉานถูกทิ้งระเบิดลงในพื้นราบ ก็มีประกาศยอมแพ้เผยแพร่กระจายไปทั่วเมียนมาร์ในชั่วพริบตา
เมื่อเห็นข่าวนี้จากรัฐฉาน ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างและแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย
ยอดขุนศึกในรัฐฉานซึ่งพัวพันกับเนปิดอว์มานานหลายทศวรรษโดยปราศจากชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ พอต้องเผชิญหน้ากับฆ่าวิหารกลับอ่อนแอลงในทันที
แล้วอย่างงี้ในเมียนมาร์ทั้งประเทศจะมีใครปราบปรามและจัดการกับฆ่าวิหารได้เล่า?
ใครกันที่จะจัดการฆ่าวิหารได้?
“ด้วยข้อมูลที่สแกนโดยเรดาร์ของรัฐฉานคราวนี้พวกฆ่าวิหารได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธขั้นสูงไปทั้งหมดสี่สิบลำและรุ่นดังกล่าวนำสมัยกว่าเราอย่างน้อย 2 ชั่วอายุคน
ตอนนี้ในทำเนียบประธานาธิบดีเนปิดอ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองกำลังรายงานข้อมูลล่าสุดที่พวกเขารวบรวมมา รายงานไปยังประธานาธิบดีและคนอื่น ๆ
การรับฟังรายงานของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีหรือรัฐมนตรีคนอื่น ๆ การแสดงออกของแต่ละคนนั้นดูจะไม่ค่อยดีนัก
“ ตามข่าวจากรัฐฉานที่พวกเขาเลิกต่อต้านแล้วเพราะพวกเขาสูญเสียมากเกินไปในการสู้รบครั้งนี้และกำลังเตรียมที่จะเจรจาสันติภาพกับฆ่าวิหาร
ไม่รู้ว่าที่พวกฆ่าวิหารทำพวกเขาหมายความอะไรกัน จนถึงขณะนี้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขายังไม่ประกาศข่าวใด ๆ และพวกเขาก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆต่อการทิ้งระเบิดครั้งนี้ด้วยซ้ำ ”
“ เบื้องหลังของฆ่าวิหารต้องเป็นขฝ่ายทหารจีนแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย” หลังจากนั้นไม่นานประธานาธิบดีก็ถอนหายใจ
เขาไม่ได้สนับสนุนการล้มจักรวรรดิMตั้งแต่แรก แต่นั่นเป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดีคนก่อน หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง ทุกคนก็ล้วนจะล้มจักรวรรดิเอ็มและเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ได้
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรู้จุดประสงค์ของพวกฆ่าวิหารว่าพวกเขาพยายามทำอะไร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกล่าว
เขาเป็นคนที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีในการล้มจักรวรรดิM ในตอนนี้อดีตประธานาธิบดีได้ก้าวลงจากตำแหน่งแล้วสุดท้ายมันก็เป็นความรับผิดชอบของเขา
แต่ในฐานะนักการเมืองเขาจะยอมรับได้อย่างไรว่าการตัดสินใจครั้งแรกของเขามันผิด
รัฐมนตรีคนอื่น ๆ ต่างก็เลือกที่จะเงียบ
แน่นอนว่าพวกเขาเห็นได้ว่าหากฆ่าวิหารมีอาวุธและอุปกรณ์ที่ทรงพลังเช่นนี้แล้ว นั้นการแปลว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากจีนอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าทีมของพวกเขาทำให้จีนโกรธ
“ไม่อย่างนั้น เราขอให้จักรวรรดิM ช่วยสนับสนุนพวกเราดีไหม?” รัฐมนตรีคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
“คุณไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ ในสายตาของจักรวรรดิM เราไม่นับเป็นมดด้วยซ้ำและนอกจากอัญมณีหินหยาบแล้วเราจะทำอะไรได้อีก? ยิ่งไปกว่านั้น อัญมณีหินหยาบไม่ใช่วัสดุทรัพยากร อย่าพูดถึงจักรวรรดิMเลย แม้แต่ประเทศจีนก็ยังไม่สนใจเลย” อังลี่หมินกล่าวอย่างเย็นชา
“ งั้นพวกเราจะทำยังไงดี? จะปล่อยให้ฆ่าวิหารสร้างความเดือดร้อนในประเทศของเราต่อไปอย่างนั้นหรือ?” รัฐมนตรีถามกลับ
“เจรจากับทางจีนก่อนแล้วค่อยเจรจากับฆ่าวิหาร”
ประธานมองไปที่ฝูงชนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเดินออกจากห้องประชุมไป