บทที่ 349 พลิกผัน
ฮัวหลุนคิดไม่ตกจริงๆ แม้แต่เฉิงกวงหมิงเองก็รู้สึกสงสัย
พวกเขานับถือลู่เฉินเสียมากกว่า
สถานการณ์แบบนี้ลู่เฉินยังสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี นี่มันเป็นพวกอัจฉริยะชัดๆ!
แต่เฉิงกวงหมิงก็ตัดสินใจที่ให้บอดี้การ์ดทุกคนเข้ารุมทำร้ายลู่เฉินพร้อมกัน เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้โอกาสลู่เฉินแม้แต่นิดเดียว
เพราะเรื่องนี้ส่งผลกับธุรกิจของตระกูลเฉิงของเขา แน่นอนว่าเขาจะประมาทไม่ได้
ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของเฉิงเฉวียนก็ดังขึ้น หลังจากที่เขารับสายและฟังเสียงจากฝ่ายตรงข้ามพูดมาเพียงสองสามประโยคก็วางสายลง
เขาเดินมาด้านหน้าบอดี้การ์ดทั้งหลายและพูดกับลู่เฉินว่า “คิดไม่ถึงนะว่าแกมีแผนสูงขนาดนี้ ก่อนเดินทางมาที่ตระกูลเฉิง แกพาลูกเมียแกไปซ่อนไว้แล้วซินะ!”
บัดนี้ลู่เฉินในสายตาของเขาก็คล้ายกับคนที่ใกล้จะตาย ถึงแม้จะรู้ว่าลู่เฉินเป็นใครและมีอำนาจขนาดไหน อีกทั้งรู้ดีว่าตระกูลเฉิงของพวกเขาต่อกรด้วยไม่ได้
แต่จุดประสงค์ของพวกเขาในวันนี้ก็คือฆ่าลู่เฉินซะ!
ในเมื่อคุณปู่ของเขาได้ออกคำสั่งไปแล้วเขาก็ไม่เกรงกลัวลู่เฉินอีกต่อไป
แม้ว่าในวันนี้ลู่เฉินคงต้องตายในน้ำมือของพวกเขาแน่ๆ แต่เขาก็ยังไม่ถอดใจจากหลินอี้จุน
ผู้หญิงคนนั้นแม้จะแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้ว ก็ยังเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
“ลูกเมียผมกลับยวี่โจวไปแล้ว ตอนนี้น่าจะลงจากเครื่องแล้วล่ะ”ลู่เฉินตอบ
“หึๆ แกคิดว่าฉันเป็นเด็ก 3 ขวบหรือยังไง? ตอนกลางคืนแบบนี้มีไฟท์บินที่ไหนไปยวี่โจวเหรอ? อีกอย่างแกคิดว่าฉันจะไม่ส่งคนไปที่สนามบินหรือไง?ลูกเมียของแกจะไปส่งสนามบินหรือเปล่านะ” เฉิงเฉวียนหัวเราะ
ลู่เฉินมองดูเฉิงเฉวียนที่หัวเราะคล้ายกับคนบ้า ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยในตัวของลู่เฉินก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้น
ทุกคนตกตะลึงและมองขึ้นไปข้างบน ทำไมถึงมีเฮลิคอปเตอร์บินผ่านพวกเขากัน?
ไม่สิไม่ใช่แค่บินผ่าน ! เสียงนี้คล้ายกับกำลังหยุดที่เหลือบ้านตระกูลเฉิง
“แย่แล้วครับ แย่แล้ว!!!”
ในขณะนั้นเอง คนรับใช้ก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนก เขายังไม่ทันจะพูดจบก็เห็นว่ามีชายหนุ่มรูปร่างกำยำสวมชุดครบอาวุธเดินเข้ามา 4-5 คนจากนั้นยกปืนขึ้น
สมาชิกตระกูลเฉิงพากันตระหนกตกใจ บอดี้การ์ดยี่สิบกว่าคนที่ล้อมลู่เฉินไว้ก็พากันหนีด้วยความหวาดกลัว
ฮัวหลุนมองไปยังลู่เฉิน บัดนี้แววตาของลู่เฉินเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เขาสะดุ้งเล็กน้อย หรือกว่าคนพวกนี้ลู่เฉินเรียกมากัน?
ให้ตายสิ!ถ้าเป็นคนที่ลู่เฉินเรียกมาจริงๆนี่มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
เขาจำได้ดีว่าตอนที่ลู่เฉินมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเฉิงนี้ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย เช่นนั้นก็เป็นไปได้แค่อย่างเดียวนั่นคือลู่เฉินได้จัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยก่อนเดินทางมาที่นี่
หรือว่าก่อนลู่เฉินจะเดินทางมาที่นี่ ก็สงสัยในตัวเขาอย่างนั้นหรือ???
เจ้าหมอนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
หรือเขาจะรู้กันนะว่าฮัวหลุนกำลังจัดการเขาอยู่
ฮัวหลุนไม่อยากจะเชื่อในความคิดของตัวเองจริงๆ หัวใจของเขาตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
หากคนพวกนี้เป็นคนของลู่เฉินจริงๆ ในวันนี้คงรอดไปจากน้ำมือพวกเขาได้ยาก แล้วถ้าเป็นอย่างนี้เจาและตระกูลเฉิงก็คงจะจบสิ้นไปด้วยกัน
“คุณเป็นใครกัน?” เฉิงเฉวียนถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ตู้เฟยมองไปที่เขาแล้วยิ้มจากนั้นยกปืนขึ้น
ปัง! ปังๆๆๆ!!!
เสียงปืนดังติดๆกันหลายนัด บอดี้การ์ด 20 กว่าคนที่ล้อมลู่เฉินไว้ก็พากันล้มลงระเนระนาด
รวมทั้งเฉิงเฉวียนก็เช่นกัน
ณ วินาทีนั้นเอง ทุกคนที่อยู่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็พากันกรีดร้องเป็นเสียงกรีดร้องที่ตกใจจนพูดไม่ถูก
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? กล้าดียังไงมาข่มขู่ผู้บัญชาการของพวกเรา?”ตู้เฟยหัวเราะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ตอนนี้บอดี้การ์ดและเฉิงเฉวียนโดนยิงเข้าที่ต้นขาทำให้ไม่สามารถเดินได้
ผู้บัญชาการ?
เฉิงกวงหมิงและฮัวหลุนถอนหายใจออกมา เขาคิดว่าตัวเองฟังผิดไป
ในขณะนั้นเองลู่เฉินมองไปที่ทั้งสองคนแล้วตอบด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ว่า “อ้าวจริงด้วยสิ ผมลืมบอกคุณไปน่ะ ผมไม่ได้เป็นแค่เจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีอย่างเดียวนะแต่ผมยังเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มฆ่าวิหารแห่งโกกังด้วย”
ตาของเขามองไปยังเฉิงเฉวียนที่นอนอดโอยอยู่ที่พื้นแล้วพูดว่า “แกบอกว่าไม่เชื่อที่ลูกเมียของฉันออกจากเมืองนี้ไปแล้วใช่ไหม?ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันจะตอบคำถามให้แกฟังนะ เพราะว่าฉันใช้เครื่องบินรบส่วนตัวส่งพวกเขากลับไปแล้ว”
“อีกอย่างคนของฉันเพิ่งเดินทางมาจากโกกัง แกไม่คิดจะถามคำถามโง่ๆอย่างเช่น ทำไมเครื่องบินรบพร้อมอาวุธของฉันถึงสามารถเข้าสู่น่านฟ้านี้ได้เหรอ?”
ลู่เฉินมองไปยังเฉิงเฉวียนด้วยท่าทางเยาะเย้ย ท่าทางโอ้อวดของเฉิงเฉวียนเมื่อสักครู่ เขานึกทีไรก็ขำขึ้นมาทุกที
คำพูดของลู่เฉินนั้น ทำให้ฮัวหลุนและเฉิงกวงหมิงก็ขาอ่อนจนแทบยืนไม่ติด
ลู่เฉินไม่เคยบอกกับพวกเขาว่าเขามีความสัมพันธ์อย่างไรกับกองทหาร
พวกเขาทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ตอนนี้ลู่เฉินปิดบังข้อมูลได้ดีเหลือเกิน
ฮัวหลุนรู้สึกผิดหวังมากที่ได้ตัดสินใจเลือกทางนี้ ถ้าเขารู้แบบนี้เขาคงจะร่วมมือกับลู่เฉินไปแล้ว
ความแข็งแกร่งของลู่เฉินไกลเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้
แต่คนในเมืองหลวงที่ว่าจะทำให้บริษัทเขาล้มละลายนั้นเป็นจริงหรือไม่เขาก็ยังไม่แน่ใจ
แต่เขาเชื่อว่าในคืนนี้เขาอาจจะต้องสูญเสียชีวิตได้……
โกกัน……ที่แห่งนั้นเขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ ว่าเป็นที่ประเทศเมียนม่าได้ให้คนจีนเช่าซื้อไว้ ระยะเวลา 100 ปี
คนธรรมดาทั่วไปไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร
แต่พวกเขารู้ดีว่าเป็นเพราะกลุ่มวิหารฆ่า ชื่อเสียงของพวกเขาโด่งดังจนทำให้ชาวเมียนม่าหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะไม่ให้เขาเช่าที่แห่งนั้น
คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินก็คือผู้บังคับบัญชาของกลุ่มวิหารฆ่า!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฮัวหลุนเองก็สงสัยขึ้นมาว่า การที่คนเมืองหลวงคนนั้นให้เขาจัดการกับลู่เฉิน เนื่องจากอีกฝ่ายไม่มีความมั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับลู่เฉินสินะ?!
ตอนนี้เฉิงเฉวียนถูกลู่เฉินหัวเราะเยาะ แต่หัวใจเขากับหล่นลงไปที่ตาตุ่ม
ตระกูลเฉิงกำเมืองต้าหลี่ไว้ในมือก็จริง แต่ความสามารถของลู่เฉินนั้นเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการ สำหรับลู่เฉินนั้น ตระกูลเฉิงของพวกเขาไม่ได้มีความหมายแม้แต่นิดเดียว
เครื่องบินรบพร้อมอาวุธบินมาจากโกกันถึงที่นี่ ต่อให้พวกเขาทุกคนถูกฆ่าตาย ณ ที่นี้ก็ไม่มีใครกล้าไปฟ้องร้อง
“แม่งเอ้ย!ทำไมถึงไปหาเรื่องกับคนแบบนี้ได้วะ?”
ตอนนี้เฉิงเฉวียนรู้สึกเสียใจเป็นที่สุดและก็กลัวมากด้วย
เมื่อสักครู่ที่ถูกคนของตู้เฟยยิงจนบาดเจ็บที่ขา ไม่ดีอีกสักครู่อาจจะฆ่าพวกเขาทีเดียวเลยก็ได้
“แก!แกจะเอายังไง?” เฉิงกวงหมิงงถามเสียงสั่น
ลู่เฉินเงยหน้ามองเฉิงกวงหมิงแล้วหัวเราะเยาะว่า “ถามฉันว่าเอายังไงเหรอ?เมื่อกี้แกบอกว่าอยากจะฆ่าฉันไม่ใช่หรือไง?ฉันขอถามกลับสิว่าตอนนี้จะเอายังไง?”
เมื่อได้ยินคำตอบของลู่เฉิน เฉิงกวงหมิงก็ตัวสั่นสะท้านจนแทบเป็นลม
เมื่อสักครู่เขาพูดจริงๆว่าจะฆ่าลู่เฉิน ดูจากสถานการณ์แล้วในวันนี้ลู่เฉินคงไม่ปล่อยตระกูลเฉิงของเขาไปแน่ๆ
เมื่อนึกถึงตระกูลเฉิงที่ยิ่งใหญ่ กลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของเขา เขาก็ช้ำใจจนกระอักเลือด
แม้ว่าฮัวหลุนจะไม่ได้เป็นลมตามไปแต่เขาก็สิ้นหวังแล้วจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามรบนี้มีต้นเหตุมาจากเขา ต่อให้ลู่เฉินใจอ่อนปล่อยตระกูลเฉิงไปแต่ก็คงไม่ปล่อยตนเองไปแน่ๆ