บทที่ 353 เข้าซื้อกิจการของหลี่ชิงเฉิง
ถ้าถังดาลองไปที่ต้าหลี่จริงๆ เรื่องนี้ก็จะได้จบลงแบบนี้
แน่นอน แต่ก่อนที่เขาจะไปต้าหลี่ เขาต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เรียบร้อยเสียก่อน
เรื่องนี้ลู่เฉินมอบให้วังเหว่ย และในที่สุดวังเหว่ยก็เสนอให้รองผู้จัดการแผนกบุคคลมาแทนถังดาลอง และยังได้เตรียมจัดหารองผู้จัดการคนใหม่อีกด้วย
หลังจากเริ่มงานลู่เฉินได้ติดต่อหลี่ชิงเฉิงไป
หลายปีก่อนพวกเขาวางแผนที่จะซื้อกิจการ บริษัท เครื่องยนต์เพื่อประกอบเครื่องยนต์อวกาศ YQ-01 หลังจากปล่อยข่าวออกมา ลู่เฉินได้โทรศัพท์ไปหาหลี่ชิงเฉิงบอกว่าเขาจะไปเยี่ยมโรงงานเครื่องยนต์ของเธอได้ในปีหน้า
ในวันแรกที่เริ่มทำงาน เขาก็คิดที่จะติดต่อหลี่ชิงเฉิงแล้ว
แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าหากวันนี้เขาไม่ติดต่อหลี่ชิงเฉิงไป หลี่ชิงเฉิงก็จะต้องติดต่อเขามาในอีกไม่กี่วันนี้อย่างแน่นอน
แต่มีหลายอย่างมากที่เขาต้องทำต่อ เพราะฉะนั้นเขาจะเสียเวลาไปโดยไม่จำเป็นได้อย่างไร
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากลู่เฉิน ใบหน้าอันงดงมของหลี่ชิงเฉิงก็เผยให้เห็นแสงสว่าง
เธอไม่รอให้โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เธอเห็นว่าเป็นสายจากลู่เฉิน เธอก็รีบรับสายทันทีเลย
“ประธานลู่ ช่วงวันหยุดที่ผ่นมาคุณคุณคงมีความสุขน่ะ” หลี่ชิงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลู่เฉินมองไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอตอนนี้ก็ตาม มันอาจเป็นโรคที่จากการทำงานและหลี่ชิงเฉิงก็ยังคงยิ้มอยู่เช่นนั้น
“ ก็ดีครับ อ่อใช่แล้ว ผมขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะ เมื่อปีก่อนคุณเคยบอกว่าจะพาเราไปดูบริษัท เครื่องยนต์ของคุณ ไม่ทราบว่าคุณสะดวกเมื่อไหร่เหรอครับ?” ลู่เฉินถามอย่างตรงไปตรงมา
“วันนี้ฉันก็มีเวลานะ อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีเครื่องบินพิเศษ ไปเฉียนหยางคงจะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเอง” หลี่ชิงเฉิงพูดขึ้น
ถึงแม้ว่าวันนี้เธอจะมีงานอื่น ๆ ที่ต้องจัดการ แต่เธอไม่คิดอะไรเลยและผลักงานพวกนี้ออกไปหมด
เห็นได้ชัดว่าในความคิดของเธอนั้น การได้มีความร่วมมือกับเทคโนโลยีอี้ฉี นั้นมีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
“ ตกลง งั้นคุณก็มาหาผมที่อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แล้วเดี๋ยวเราจะไปเฉียนหยางด้วยกัน” ลู่เฉินพูดและวางสายโทรศัพท์ไป
หลังจากวางสายโทรศัพท์ไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ชิงเฉิงก็ยังคงอยู่เป็นเวลาสองนาทีเต็มก่อนที่จะค่อยๆหายไป
หลังจากที่เธอสงบจิตสงบใจลงเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเรียกให้เลขาเข้ามา
“ค่ะ ประธานหลี่” ในไม่ช้าเลขาก็มาที่ห้องทำงานของหลี่ชิงเฉิง
“โทรหาทีมทนาย แล้วพวกเราจะไปที่เทคโนโลยีอี้ฉีกัน” หลี่ชิงบอกกับเลขาของเธอ
“ห่ะ หรือว่าเทคโนโลยีอี้ฉี ตกลงที่จะร่วมมือกับเราแล้วค่ะ?” เลขามองไปที่หลี่ชิงเฉิงด้วยความประหลาดใจ
เธอรู้เกี่ยวกับเรื่องที่หลี่ชิงเฉิงเรียกร้องความร่วมมือเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ก็กำลังจะไปที่เทคโนโลยีอี้ฉีอีก นั่นหมายความว่าความร่วมมือจะต้องมีความพัฒนาขึ้นมแล้ว
“ใช่ วันนี้เราจะพาพวกเขาไปที่เฉียนหยางเพื่อดูโรงงานของเรา” หลี่ชิงเฉิงพยักหน้าและบอกเลขาของเธอ
“ถ้าคุณแค่ไปดูโรงงานคุณก็ไม่จำเป็นต้องนำทีมทนายความไปด้วยนี้ค่ะ อีกไม่กี่วันหลังจากนั้นถึงจะมีข้อสรุปออกมา” จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเลขานุการรู้สึกว่าแม้ว่าเทคโนโลยีอี้ฉีจะเต็มใจที่จะร่วมมือกับ บริษัท ของพวกเขาจริงๆ แต่เธอก็มั่นใจว่าวันนี้น่าจะยังไม่สามารถเซ็นสัญญากับ บริษัทของพวกเธอแน่นอน
“เรียกพวกเขามาเถอะ ” หลี่ชิงเฉิงกล่าวโดยไม่มีคำถามใดใด
แน่นอนว่าเธอรู้ดีว่าแม้ว่าลู่เฉินตั้งใจจะร่วมมือกับเธอตั้งแต่แรกก็ตาม แต่โอกาสที่จะเซ็นสัญญากับเธอในวันนี้นั้นมีน้อยมาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะเจรจากันได้เลยในวันนี้
แต่เธอก็มีความสุขที่ได้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ
จะเป็นอย่างไรถ้าหากว่าลู่เฉินรีบ และถ้าวันนี้เขาอยากจะเจรจากับพวกเขาขึ้นมาล่ะ ?พวกเขาต้องโทรหาทนายให้ตามไปที่นั่นอีกครั้ง นั้นจะไม่ทำให้เวลาของลู่เฉินเสียเวลาหรือ?
เป้าหมายของเธอคือเธอค่อนข้างจะใช้เวลารอลูกค้า มากกว่าปล่อยให้พวกเขารอเธอ
“โอเคค่ะ” เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงเฉิงยืนกรานแบบนั้นเลขาก็พยักหน้าและออกไปจัดการให้เธอ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดหลี่ชิงเฉิงก็พาทีมของเธอไปที่อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หลังจากพบกับลู่เฉินเมื่อเห็นว่าลู่เฉินไปเฉียนหยางพร้อมกับทีมทนายความของเขาหลี่ชิงเฉิงก็ยิ้มอย่างรู้ทัน
แต่เลขาของเธอต้องถอนหายใจ เพระนี่คือช่องว่างระหว่างเธอกับหลี่ชิงเฉิง
เห็นได้ชัดว่าลู่เฉินคิดว่าถ้าเขาเห็นโรงงานของหลี่ชิงเฉิงแล้ว เขาจะทำการเจรจาทันทีในวันนี้ไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่ไปที่เฉียนหยางพร้อมกับทีมทนายความแบบนี้แน่นอน
โรงงานผลิตเครื่องยนต์ของหลี่ชิงเฉิงอยู่ในเขตพื้นที่จินหยางใหม่ เพิ่งได้รับการพัฒนา รัฐบาลได้ให้นโยบายพิเศษมากมายและดึงดูดนักธุรกิจจำนวนมากให้พัฒนาที่นั้น
หลี่ชิงเฉิงเข้ามาสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามโรงงานผลิตเครื่องยนต์ของเธอผลิตเครื่องยนต์รถยนต์และธุรกิจของเธอก็ไปได้ดีไม่ขาดทุน
เหตุผลที่เธอเต็มใจที่จะขายหุ้นให้กับเทคโนโลยีอี้ฉี ก็เพราะนี่คือการเปิดประตูสู่ความร่วมมือกับเทคโนโลยีอี้ฉี
เธอยังเห็นศักยภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุดของ เทคโนโลยีอี้ฉี ในอนาคตอีกด้วย
บริษัท ของเธอถึงจุดที่รอการขยายตัวออกแล้ว และจะเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนาในระยะสั้นโดยไม่ทำการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
อุดมคติของเธอคือการทำธุรกิจของครอบครัวให้เหนือกว่าสี่ตระกูลใหญ่หมาอำนาจในช่วงชีวิตของเธออย่างน้อยก็ต้องไปถึงระดับที่ทัดเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่นั้นได้
และความร่วมมือกับเทคโนโลยีอี้ฉีจะทำให้เธอบรรลุเป้าหมายนี้ได้ในเวลาอันสั้น
โรงงานของเธอมีชื่อว่าบริษัทเครื่องยนต์สู้นเจี๋ยกรุ๊ปและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ของโรงงานก็ใหญ่มากเช่นกัน ซึ่งสามารถเพิ่มสายการผลิตการบินได้อีกหลายสายเลยที่เดียว
โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์การบินและอวกาศจะไม่ใช้สายการผลิตเพียงไม่กี่บรรทัด โดยส่วนใหญ่มีไว้เพื่อขายและประกอบเครื่องบินรุ่นที่หกของ MIE-100 ดังนั้นลู่เฉินจึงวางแผนที่จะรวบรวมสายการผลิตอีกห้าสายเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
และถ้าหากต้องการขายให้กับโลกภายนอกจริงๆในอนาคต ก็สามารถที่จะขยายได้อีก
และสู้นเจี๋ยกรุ๊ปยังมีสายการผลิตเครื่องยนต์รถยนต์อีก 5 สาย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ลู่เฉินกำลังจะเตรียมเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เขายังต้องขยายอีกหลายสายเลย
อย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตเห็นโครงร่างและที่ตั้งของโรงงานทั้งหมดและเห็นแล้วว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายตัว
ระหว่างทางที่หลี่ชิงเฉิงอยู่กับลู่เฉิน เธอก็อธิบายสถานการณ์และรายละเอียดต่างๆให้เขาฟัง
สิ่งที่เธอไม่เข้าใจ ก็ได้รับการอธิบายโดยผู้จัดการโรงงานแล้วเช่นกัน
พวกเขาทุกคนหวังว่าลู่เฉินจะได้เห็นโรงงานของพวกเขา
“ประธานลู่ค่ะ คุณคิดว่าเป็นยังไงบ้างค่ะ? ที่นี่ไม่ไกลจากบริษัทสายการบินของคุณและเพียงพอที่จะขยายสายการผลิตหลายสาย และทางเรายังมีคนงานที่มีทักษะเยอะพออีดกด้วย” ในที่สุดหลังจากเยี่ยมชมโรงงานทั้งหมดหลี่ชิงเฉิงจึงเอ่ยถาม
นั้นก็เป็นเพราะตลอดทางที่เยี่ยมชมนั้น ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไรเลย และเธอไม่สามารถบอกได้ว่าลู่เฉินจะชอบโรงงานของเธอหรือไม่ ทันใดนั้นเธอจึงรู้สักกระวนกระวายใจเล็กน้อย
“ คุณจะขายทั้งหมดหรือขายแค่บางส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้นครับ?” ลู่เฉินถาม
แน่นอนว่าเขาต้องการซื้อกิจการทั้งหมด โดยการครอบครองโรงงานทั้งหมดนี้ในคราวเดียว
“ขายส่วนของผู้ถือหุ้นค่ะ” หลี่ชิงเชิงตอบ เพราะถ้าหากลู่เฉินเป็นเจ้าของทั้งหมดเธอจะได้รับความร่วมมือกับเทคโนโลยีอี้ฉี ได้อย่างไรกันเล่า?
แน่นอนว่าเธอขายหุ้นได้เพียงบางส่วนเท่านั้น
“ถ้าคุณจะขายส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่ง ผมคิดว่าผมจะพัฒนาเทคโนโลยีและถือหุ้นของคุณ 70% และแน่นอนว่าผลกำไรของเครื่องยนต์จะถูกแจกจ่ายให้กับคุณในอนาคต ยังไงคุณลองพิจารณาดูก่อนนะครับ”
ลู่เฉินหันกลับมาและเดินไปที่สำนักงานโรงงาน