บทที่ 483 ลาก่อน ระบบสุริยะ!
“ไม่ เป้าหมายของพวกเราคือพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb ข้อนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาก่อนเลย”
“จากการที่พวกเราได้สังเกตมาตลอด เป็นไปได้มากว่าดาวพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbจะเป็นดาวเคราะห์ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย ตอนนี้สิ่งที่พวกเรากังวลมีอยู่เพียงสิ่งเดียวก็คือ ด้านบนมีอารยธรรมอะไรอยู่หรือไม่ ถ้าหากมี อารยธรรมนี้คืออะไร เป็นอารยธรรมในแบบไหน”
“ในระบบสุริยจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น โลกยังก่อกำเนิดมวลมนุษยชาติออกมาได้ อย่างนั้นในระบบดาวฤกษ์อื่นๆ ทำไมจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ได้เล่า?”
ลู่เฉินส่ายหน้า ปฏิเสธข้อสงสัยของเฉินชูหรัน
จุดประสงค์ของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่อนาคตจะไม่อย่างไร พวกเขาเองก็ยังไม่รู้
“ถ้าอย่างนั้นหากมีอารยธรรมอื่นอยู่บนพร็อกซิมาคนครึ่งม้าล่ะ พวกคุณจะเลือกยังไง?” เฉินชูหรันเอ่ยถาม
คำถามนี้ ติงต้าเฉิงไม่ได้ตอบ ลู่เฉินเองก็ไม่ตอบเช่นกัน
เขาหยิบบุหรี่หนึ่งมวนออกมาจุด เวลานึกถึงคำถาม เขามักจะจุดบุหรี่ให้ตัวเองหนึ่งมวนด้วยความเคยชิน
แม้ว่าเขาจะรู้ว่านิโคตินเป็นอันตรายต่อร่างกายมากก็ตาม
แต่เขาก็ไม่คิดที่จะไปเปลี่ยนความเคยชินนี้
หรืออาจจะพูดได้ว่า เขาไม่คิดจะไปเลิกมัน
“คุณรู้จักทฤษฎีป่ามืดไหม?” หลังจากที่ลู่เฉินสูดบุหรี่เข้าปอดไปแล้ว พอตวัดนิ้วชี้ ก็ปรากฏหน้าจอโฮโลแกรม จากนั้นหน้าจอก็ปรากฏข้อความวรรคหนึ่งขึ้นมา
เฉินชูหรันอ่านออกมาด้วยความแปลกประหลาดใจ
“จักรวาลก็คือป่าที่มืดมิดผืนหนึ่ง ทุกอารยธรรมคือนักล่าที่พกปืน
เหมือนผีที่แอบเดินอยู่ในป่า ผลักกิ่งไม้ที่ขวางทางออกไปเบา ๆ พยายามรักษาฝีเท้าไม่ให้ส่งเสียง แม้แต่จะหายใจยังต้องคอยระแวดระวัง
เขาจำเป็นต้องระมัดระวัง เพราะในป่าต่างก็มีนักล่าที่หลบซ่อนอยู่เหมือนกับเขาทั่วทุกที่
หากเขาพบสิ่งมีชีวิตอื่นแล้ว สิ่งที่ทำได้มีเพียงเรื่องเดียวคือ ยิงทิ้งให้สิ้นซาก
ที่ในผืนป่าแห่งนี้ เขาก็คือนรก ก็คือภัยคุกคามชั่วนิรันดร
สิ่งมีชีวิตใดก็ตามที่เปิดเผยการมีดำรงอยู่ของตนเองจะต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็ว นี่ก็คือภาพอารยธรรมของจักรวาล
พอถูกค้นพบ ผู้ที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็มีเพียงฝ่ายเดียว
หรืออาจจะไม่สามารถอยู่ได้ทั้งหมด!”
หลังจากที่เฉินชูหรันอ่านจบ ก็มองไปทางลู่เฉินอย่างตกใจ “นี่ นี่ใครเป็นคนเขียน ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?”
ลู่เฉินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เอ่ยว่า“ไม่ใช่คำพูดเพ้อเจ้อทางวิทยาศาสตร์ ปกติน้อยคนมากที่จะรู้จักทฤษฎีป่ามืดเพราะว่า ทฤษฎีนี้ เป็นแค่ทฤษฎีจักรวาลที่นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์คนหนึ่งผสมเข้าไปในนิยายวิทยาศาสตร์ของเขา ไม่ได้รับการวิจัยแต่อย่างใด
เพราะมนุษย์อย่างพวกเรายังไม่เคยพบอารยธรรมต่างดาวอย่างแท้จริง”
“ฮะ!นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์คนไหน ฉันไม่ชอบอ่านนิยายวิทยาศาสตร์เลยจริงๆ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจ” เฉินชูหรันพูดพลางส่ายหน้า
แต่เธอต้องยอมรับว่า ทฤษฎีนี้ช่างมีเหตุผลจริงๆ เลย
แม้มนุษย์จะยังไม่เคยพบอารยธรรมนอกโลกที่แท้จริง
“ผู้อาวุโสหลิวฉือซิน เป็นนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหัวเซี่ยของพวกเรา” ลู่เฉินพูด
“ใช่ แม้มนุษย์อย่างพวกเราจะยังไม่เคยได้สัมผัสกับอารยธรรมนอกโลกที่แท้จริง แต่ผมก็เชื่อทฤษฎีนี้” ติงต้าเฉิงพูด
ลู่เฉินพยักหน้า พูดว่า “จักรวาลไม่เหมือนกับโลกแล้ว ผมก็รู้สึกว่า ทฤษฎีป่ามืดนี้ยิ่งมีเหตุผล สรุป ต่อไปพวกเราจะไม่ได้พบอารยะธรรมนอกโลกก็ช่าง หากได้พบ ก็ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง”
“อย่างนั้น ความหมายของพวกคุณก็คือ ถ้าพวกเราไปที่พร็อกซิมาคนครึ่งม้าb ถ้าหากที่นั่นมีอารยธรรมต่างดาวจริง ตามสถานการณ์พวกคุณก็จะเลือกว่าจะทำลายพวกเขา หรือว่าพัฒนาร่วมกับพวกเขาใช่หรือไม่?” เฉินชูหรันเอ่ยถาม
“ประมาณนั้นแหละมั้ง ถ้าหากมีวันนั้นจริง คงไม่อาจยอมให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เราต้องได้รับการคุกคามแน่” ลู่เฉินพยักหน้า ไม่อยากถกปัญหานี้กับเฉินชูหรันอีก
หลายเรื่องที่ยังไม่รู้ ตอนนี้เขาก็ยังพูดอะไรไม่ได้ชัดเจน
ไม่แน่ว่าหลังจากที่ไปถึงพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbแล้ว พบว่าอารยธรรมที่นั่นมั่นคงแข็งแกร่ง พวกเขาจะได้แต่หนีเอาชีวิตรอดอย่างสุดชีวิต
ถ้าหากพบว่าอารยธรรมที่นั่นเปราะบางอ่อนแอ พวกเขาอาจจะทำลายมันทิ้งไปเสียเลย
ข้อนี้แม้แต่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำแบบนี้หรือไม่
ยานอวกาศซี-หวั้งบินไปข้างหน้าต่อไป ข้างหน้าคงจะเป็นโลกซึ่งเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างดวงดาวที่ไม่มีสิ้นสุด
ดวงอาทิตย์ อาศัยพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของเธอ ใช้ลมสุริยะ เปิดโลกอีกใบที่เป็นของตัวเองในตัวกลางระหว่างดวงดาว
และสถานที่ที่ยานอวกาศซี-หวั้งอยู่ในตอนนี้ ก็คือพรมแดนของจักรวรรดิดวงอาทิตย์และตัวกลางของดาวฤกษ์
ที่นี่ คือฮีลีโอสเฟียร์ (heliosphere) เป็นระบบที่เหนือที่สุดของระบบสุริยะ
ที่นี่ ห่างจากดวงอาทิตย์ไกลถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นล้านกิโลเมตร!
ที่นี่ อยู่ภายใต้อิทธิพลของตัวกลางระหว่างดาวฤกษ์ ความเร็วของลมสุริยะ ในที่สุดก็ลดลงต่ำกว่าความเร็วเสียง
ลมสุริยะจะอยู่ที่นี่ เผชิญหน้ากับตัวกลางระหว่างดาวฤกษ์อย่างดุเดือด มีอนุภาคจำนวนนับไม่ถ้วนเปิดการปะทะกันอย่างรุนแรงในสถานที่ที่ลู่เฉินและนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
ตาบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างเชื่อว่า ที่นี่คือสมรภูมิสุดท้าย
ในการเผชิญหน้ากับตัวกลางระหว่างดาวฤกษ์ ลมสุริยะจะต้องแพ้ราบคาบอย่างแน่นอน
เพราะพวกเขารู้ดี หลังจากที่ผ่านตรงนี้ไปแล้ว นอกจากแรงดึงดูด ดวงอาทิตย์ก็ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะมีอิทธิพลเหนือที่นี่ได้
ยานอวกาศซี-หวั้งใช้เวลาสองวันจึงผ่านที่นี่ไปได้ ผ่านฮีลีโอสเฟียร์ไปแล้ว
ในขณะที่มองเครื่องสำรวจอยู่นั้น อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ลดลงอย่างช้าๆ จนหายไปในที่สุด
มองไปยังดวงที่อยู่ไกลๆ นั้นค่อยๆ มืดสลัวลงเล็กน้อย จุดกระจายแสงไม่แตกต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในจักรวาลมากนัก
ในใจของลู่เฉินและคนอื่นๆ มีความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะพูด
พวกเขา มนุษย์กลุ่มสุดท้าย
ในที่สุดก็กำลังจะจากระบบสุริยะ ระบบดาวเคราะห์ที่ก่อกำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว
พวกเขา นับจากนี้จะไม่ได้รับที่พักพิงจากระบบสุริยะอีกแล้ว!
“ลาก่อน ลาก่อน”
ลู่เฉินกับคนอื่นๆ พึมพำ เกิดความรู้สึกบางอย่างเหมือนอยากจะร้องไห้
ยานอวกาศซี-หวั้งทะยานไปข้างหน้าเรื่อยๆ ต่อมาเป็นตัวกลางระหว่างดาวฤกษ์ ก็คือโลกของไฮโดรเจนและฮีเลียมที่มาจากระบบทางช้างเผือก
สสารที่นี่เบาบางมากถึงขั้นที่ยากจะคาดคิดได้ กระทั่งที่ว่าไม่ถึงหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตรหนึ่งมวลอะตอมด้วยซ้ำ
ความหนาแน่นแบบนี้ เท่ากับว่าเอาน้ำหนึ่งหยด ไปกระจายความหนาแน่นของสสารอย่างทั่วถึงกันในพื้นที่ 5 ล้านลูกบาศก์กิโลเมตร
สิ่งที่รอต้อนรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ข้างหน้า ท่ามกลางความว่างเปล่าเช่นนี้ คือการเดินทางความเงียบเหงาอ้างว้างยาวนานประมาณ4ปีแสง
หลังจากที่จากผ่านฮีลีโอสเฟียร์ไปแล้ว ลู่เฉินก็นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นตลอดนานพอสมควร
ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนี้ เขาอยู่ในสภาพที่สับสนมึนงงบางอย่างมาตลอด ความเป็นไปในชีวิตประจำวันของทีมในยาน เขาแทบไม่ได้ไปสนใจเลย
ช่วงเวลาส่วนใหญ่ของลู่เฉิน ได้แต่มองผ่านกล้องโทรทรรศน์ มองไปทางดวงอาทิตย์อย่างโง่ๆ ทุกวัน จมดิ่งอยู่กับความทรงจำอย่างถอนตัวไม่ได้
ก็ยังดี ที่ช่วงเวลานี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ ไม่ได้เกิดเรื่องราวใหญ่โตอะไร
ที่นี่ มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์สามหมื่นห้าพันล้านกิโลเมตร
แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ส่งมาถึงที่นี่ จำต้องใช้เวลาสามสิบสองชั่วโมงเต็ม
แต่ที่นี่ สถานที่ห่างไกลมากขนาดนี้ ลู่เฉินกลับมีการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่
เขาค้นพบดาวดวงหนึ่งแล้ว!