บทที่ 487 ถอดรหัสการสร้างดาวอื่น
“ขอเพียงแน่ใจว่าซากเรือรบต่างดาวนี่ไม่มีมนุษย์ต่างดาวอยู่ คือไม่มีอันตราย งั้นเทคโนโลยีที่มีบนเรือรบต่างดาวลำนี้…พวกเราต้องได้มันมา!”
ลู่เฉินกำหมัดแน่น เขากำแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ เลือดไหลซิบๆออกมา
แต่เขากลับไม่ได้สนใจมันเลย จิตใจทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับภาพที่ตาเห็นเบื้องหน้านี้แล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า แต่ลู่เฉินยังไม่ได้นอน เขาเหมือนนักวิจัยคนอื่น กำลังพยายามวิเคราะห์ คำนวณหรือไม่ก็สำรวจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ที่จริงแล้วไม่เพียงแค่ลู่เฉินเท่านั้นที่รู้ถึงความหมายที่ซากเรือรบต่างดาวลำนี้นำมาให้
อย่างน้อยเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของนักวิจัยคนอื่นในที่นั่นก็เข้าใจความหมายนี้ดี
ดังนั้นทุกคนต่างตื่นเต้นจนตาแดงก่ำ เรียกได้ตื่นเต้นยิ่งกว่าไก่ตีปีก
สภาพแบบนี้ไม่อาจจะเรียกได้ว่าไก่ตีปกแล้ว นี่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังฉีดสารอดีนาลีนเข้าไป
“นักวิจัยทั้งหมดที่กำลังทำการวิจัยเรือรบต่างดาวหยุดงานในมือให้หมด ไปทานข้าวเช้าก่อน รอถึงเวลาข้าวเที่ยง หากยังไม่ค้นพบอะไร ก็กลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ
นี่เป็นคำสั่ง ผมขอย้ำอีกครั้ง ทุกคนต้องหยุดงานในมือและไปทานข้าว!”
เวลาแปดโมงเช้ากว่าๆ อาหารเข้าได้ส่งไปถึงมือพนักงานทุกคนแล้ว แต่ลู่เฉินรู้ดีว่าน่าจะมีไม่กี่คนที่ยอมไปกินข้าวแน่
ดังนั้นเขาเลยต้องเรียกให้พวกเขาหยุดการวิจัย
อย่างที่เขาว่ากันว่า คนไม่ใช่เหล็ก เราต้องกินข้าวให้อิ่ม ถึงจะมีแรงไปวิจัยต่อ
…
วันนั้น ภายใต้การวิเคราะห์ของนักวิจัยทั้งหมด ได้แน่ใจในเบื้องต้นแล้วว่า เรือรบต่างดาวนี้น่าจะไม่มีมนุษย์ต่างดาวอยู่
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ลู่เฉินก็ยังไม่คิดจะขึ้นไปดูในเรือรบต่างดาวเลย เกิดบนนั้นมีซ่อนมนุษย์ต่างดาวที่พวกเขายังหาไม่เจอ คนที่ขึ้นไปอาจไม่มีโอกาสกลับมาด้วยซ้ำ
ดังนั้นเขาเลยคิดเตรียมส่งกระสวยอวกาศลำหนึ่งไปที่รอบนอกเรือรบต่างดาวเพื่อจับซากเรือรบกลับมาวิเคราะห์ซักหน่อย
ผ่านการจัดการของตู้เฟย คนที่จะไปปฎิบัติหน้าที่ครั้งนี้ยังคงเป็นสื่อจิ้น
แต่เพื่อความปลอดภัย ลู่เฉินยังคงให้หลินตงกับซุ่จิงไปกับเขาด้วย
โดยเฉพาะซู่จิง ฝีมือการสู้รบแกร่งกว่าหลินตงและสื่อจิ้น เกิดมีอะไรผิดพลาด ก็จะได้เพิ่มโอกาสรอดกลับมาได้
เขาเองยังเหลือความหวาดกลัวในใจตอนที่โดนดาวอังคารโจมตีอยู่เลย
ดังนั้นในสถานการณ์ที่เราเดาอะไรไม่ได้แบบนี้ ลู่เฉินเลยต้องระวังไว้ก่อน
สิ่งที่ทำให้พวกลู่เฉินสบายใจคือ
การเอาซากเรือรบต่างดาวเป็นไปได้ด้วยดีอย่างราบรื่น และไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไร
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ซากเรือรบต่างดาวที่เอากลับมายังคงต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
พวกซู่จิงใช้แขนกลแยกระยะห่างจากนอกกระสวยอวกาศก่อน เศษโลหะธรรมดายังไม่ได้เอาเข้าไปด้วย แต่พวกเขาห่อวัสดุสะท้อนแสงในนั้นออกมาอย่างระมัดระวัง
ขั้นแรกคือใช้พลาสติกห่อไว้หนึ่งชั้นเพื่อกันทำปฏิกิริยากับอากาศ รวมถึงพิษ จุลินทรีย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กของดาวนั้นที่อาจจะมีอยู่ด้วย
จากนั้นก็วางอย่างระมัดระวังในกล่องกระจกขนาดเล็กที่ปิดแน่น จนถึงตอนนี้ค่อยเอามันใส่ลงในกระสวยอวกาศ และวางในช่องเก็บอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันมันโดนกระแทกแตก
“แขนกลภายนอกจะหยิบชิ้นส่วนโลหะนั้นขึ้นมา จากนั้นพวกเราก็กลับมายังที่ยานอวกาศซี-หวั้ง” สื่อจิ้นพูดเสียงต่ำ
ที่จริงแล้ว ถึงตอนนี้เขาจะตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่ยังคงระมัดระวังอยู่
เพราะพวกเขาเองยังไม่รู้เลยว่า บนเรือรบต่างดาวนั้นยังมีมนุษย์ต่างดาวอยู่ไหม
จากวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันของพวกเขา ต่อให้สามารถผลิตดาวเทียนประดิษฐ์ออกไปวนรอบสำรวจดู แต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลแน่ชัด
หลินตงพยักหน้า และสั่งให้กระสวยอวกาศบินกลับไปที่ยานอวกาศซี-หวั้ง
การปฏิบัติการครั้งนี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ภายใต้ความหวาดหวั่นของคนสามคนบนกระสวยอวกาศและผู้คนนับพันบนยานอวกาศซี-หวั้ง กระสวยอวกาศกลับมาที่ยานอวกาศซี-หวั้งอย่างปลอดภัย
ตอนกระสวยอวกาศกลับเข้าทางเดินบนยานอวกาศ ขนาดประตูยังไม่ทันปิดสนิท คนจำนวนหนึ่งได้ใส่ชุดอวกาศมายังด้านนอกกระสวยอวกาศเพื่อรอต้อนรับการกลับมาของพวกซู่จิงสามคน
“ลำบากกันแล้วนะ สำเร็จภารกิจได้อย่างเยี่ยมมาก!”
ลู่เฉินเดินมาสวมกอดทั้งสามคนเอง
ต้องรู้นะ ถ้าพวกเขาเจออันตรายที่นั่น ลู่เฉินจะปล่อยทิ้งพวกเขาทั้งสามคนไว้ที่นั่น
เพราะเขาไม่สามารถยอมให้ผู้คนทั้งหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคนเข้าสู่อันตรายเพื่อพวกเขาทั้งสามคนแน่
ต่อให้เขาเห็นพวกเขาเป็นเสมือนพี่น้อง แต่เขาเป็นผู้นำของผู้คนทั้งหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคน เขาต้องให้ความสำคัญกับส่วนรวม
พวกซู่จิงสามคนอดตื่นเต้นไม่ได้ ก่อนพวกเขาออกปฏิบัติการ ลู่เฉินบอกพวกเขาแล้วว่า ถ้าเกิดอันตรายขึ้น พวกเขาทั้งสามคนอาจจะโดนลอยแพ
แต่พวกเขายังคงปฏิบัติภารกิจอย่างสำเร็จลุล่วง ในใจยังตื่นเต้นอยู่เลย
“กลับไปพักผ่อนเถอะ และเตรียมตัวให้พร้อม พวกเราอาจจะได้ขึ้นไปสำรวจเรือรบต่างดาวลำนั้นเร็วๆนี้แล้ว ถึงเวลานั้นมันอาจจะเป็นสงครามที่หนักหน่วงพอดู” ลู่เฉินพูดพลางตบบ่าคนทั้งสาม
“ครับ” ทั้งสามคนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนเดินเข้าไปในห้องโดยสาร
ส่วนพวกติงต้าเฉิงเริ่มห่อหุ้มชิ้นโลหะนั่น และหยิบกล่องกระจกอย่างระมัดระวังเดินเข้ามา
เหมือนกับข้างในไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ต่างดาว แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางจนแทบจะตายได้ด้วยการสัมผัสแผ่วเบา
“รีบวิเคราะห์ออกมาให้เร็วที่สุด เอาเร็วที่สุดนะ” ลู่เฉินพูดกับติงต้าเฉิง
“ครับ” ติงต้าเฉิงพยักหน้า เตรียมจะถอดรหัสสิ่งประดิษฐ์ต่างดาวนี่ด้วยตัวเอง
สิ่งประดิษฐ์ต่างดาวนี่มีการสะท้อนสัญญาณอย่างเห็นได้ชัด ไม่แน่ว่าในนี้อาจจะมีภาษาอะไรของเผ่าพันธุ์นี้ก็ได้
หลังจากลู่เฉินกลับไป ก็ไปนอนพักผ่อนซะหน่อย ช่วยไม่ได้ เขาเองเหนื่อยมากเต็มที นอนดึกมาเป็นระยะเวลานาน เขาเองก็เริ่มรับไม่ไหวแล้ว
ส่วนติงต้าเฉิงก็เข้าไปควบคุมนักวิจัยถอดรหัสสิ่งประดิษฐ์ต่างดาวนี่ด้วยตัวเอง
นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ
มีกลุ่มฟิสิกส์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มเครื่องจักรและกลุ่มเทคโนโลยีวัสดุเป็นต้น พวกเขากำลังรอการตรวจสอบวัสดุต่างดาวชิ้นนี้เสร็จลง
“เพื่อนๆทั้งหลาย เร่งมือเข้าหน่อย พวกเราต้องสู้ไหว จะต้องถอดรหัสของต่างดาวชิ้นนี้ออกมาให้เร็วที่สุด!”
ถึงแม้ว่าติงต้าเฉิงเองก็ง่วงมากแล้ว แต่เขายังคอยเตือนนักวิจัยคนอื่นไม่หยุด
หลังจากความพยายามไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในตอนที่ทุกคนคิดจะไปพักผ่อนซักสองสามชั่วโมง
ทันใดนั้นก็เกิดทำนองเสียงที่นุ่มนวลไพเราะออกมาจากแท่นวิจัย
พวกนักวิจัยที่เตรียมตัวกลับไปพักผ่อนหัวใจกระตุก หันควับไปดูทันที
จากนั้นสายตาของทุกคนพุ่งตรงไปที่ลูกบอลโลหะสะท้อนแสงลูกนั้น
อันที่จริงดูๆไปก็ใหญ่ราวกำปั้นเด็กน้อย เปลือกนอกของมันเปิดออกแล้ว และเสียงดนตรีนั่นก็เล็ดลอดออกมาจากในเปลือกนี่แหละ
เสียงเบา นุ่มนวลประหนึ่งเสียงเด็กดังขึ้นในห้องทดลอง..