บทที่ 489 เข้าสู่เรือรบต่างดาว
“ใช่ มนุษย์เรานี่โชคดีจริงๆ”
ลู่เฉินพยักหน้าพลางว่า: “ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้ อาเฟยมาเป็นหลักนะ ผมพาทีมขึ้นไปสำรวจเรือรบชนเผ่าหลันเอง”
“ทำไมฉันอีกแล้วล่ะ? ไม่ได้ ครั้งนี้ฉันจะนำทีมเอง” ตู้เฟยพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ ท่าทีหนักแน่น
เห็นตู้เฟยเป็นแบบนี้ ลู่เฉินยิ้มพลางยกมือยอมแพ้: “ก็ได้ แต่ถ้านายนำทีม ต้องพานักวิทยาศาสตร์ไปด้วยซักหลายคนนะ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกนายต้องดูแลความปลอดภัยของชีวิตนักวิทยาศาสตร์ด้วย”
เดิมทีเขาอยากนำทีมไปเอง ก็ไม่ต้องพานักวิทยาศาสตร์ไปแล้ว
จากพื้นฐานวิทยาศาสตร์ของเขา นักวิทยาศาสตร์กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ยังไม่แน่ว่าจะเก่งเท่าเขา
แต่ในเมื่อแน่ใจแล้วว่าบนเรือรบไม่มีชนเผ่าหลันแล้ว เขาเองก็สบายใจขึ้น
“วางใจเถอะ ตู้เฟยทั้งคน ไม่ยอมให้นักวิทยาศาสตร์ได้รับอันตรายถึงชีวิตแน่” ตู้เฟยตบอกผ่างเป็นเชิงรับประกัน
ลู่เฉินพยักหน้ากำชับว่า: “ถึงจะแน่ใจได้ว่าบนเรือรบต่างดาวไม่มีชนเผ่าหลันอยู่แล้ว แต่ในเรือรบของพวกเขาต้องมีกับดักและอันตรายอยู่นับไม่ถ้วนแน่ ดังนั้นพวกนายต้องระวังแล้วระวังอีกนะ”
“อืม”
ตู้เฟยพยักหน้า จากนั้นหันไปพูดกับอวู๋กวางเจิ้งว่า: “กวางเจิ้ง งั้นนายอยู่เป็นหลักที่นี่ละกัน”
“ได้” ถึงอวู๋กวางเจิ้งจะเป็นรองผู้บัญชาการ แต่ฝีมือเขาไม่ดี ดังนั้นเขาเลยยอมอยู่เบื้องหลังปรับเปลี่ยนการบัญชาการ
แน่นอนล่ะว่า เขาเคยเป็นผู้บัญชาการทหารของเขตทหารยวี่โจว ได้เปรียบเรื่องการจัดการ
“ผมให้พ่อผมส่งทหารพิเศษห้าร้อยนายไปกับพวกคุณละกัน” จู่ๆลู่เฉินก็พูดขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจลูกน้องตู้เฟย
แต่ลูกน้องของตู้เฟิยเป็นแค่ทหารธรรมดา ฝีมือพวกเขาจำกัด ต่อให้ลูกน้องตู้เฟยส่วนมากเคยกินยาวิวัฒนาการยีนแล้ว แต่ฝีมือก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับทหารพิเศษกว่าสองพันนายที่ผ่านการฝึกฝนกับลู่เทียนสิงมาได้เลย
ทหารพิเศษกว่าสองพันนายนั่น เดิมทีก็เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อยู่แล้ว ประกอบกับกินยาวิวัฒนาการยีนเข้าไปอีก อย่างน้อยมีคนกว่าครึ่งมีฝีมือไม่ด้อยไปกว่าสามพี่น้องของหลินตงเลย
“ได้ ได้” ตู้เฟยสายตาเป็นประกาย พยักหน้าหงึกหงึกรับคำ
พูดตามตรงแล้ว เขาอยากได้ทหารพิเศษสองพันนายของเฉินเทียนสิงมานานแล้ว ได้พวกเขามาช่วยปฏิบัติภารกิจ งั้นเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะทำสำเร็จจะมีมากขึ้น
พอเลยห้าโมงเย็น พวกตู้เฟย สื่อจิ้น เซียวจ้าน หลิวจื่อซิว ซือถูเจี้ยนพาทหารห้าพันคน ทหารพิเศษห้าร้อยคน ขึ้นกระสวยอวกาศเตรียมตัวขึ้นสำรวจเรือรบต่างดาว
เรือรบต่างดาวอยู่ห่างจากยานอวกาศซี-หวั้งด้วยระยะทางแค่หนึ่งวัน แต่หลังจากที่พวกตู้เฟยออกจากยานอวกาศซี-หวั้ง ลู่เฉินยังคงตัดสินใจให้ยานอวกาศซี-หวั้งไปอยู่ตรงรอบนอกเรือรบต่างดาว
จะได้รอรับพวกตู้เฟยด้วย
ครั้งนี้ฝ่ายทหารส่งออกไปคือทหารห้าพันนาย แน่นอนว่าจะเกิดอะไรขึ้นไม่ได้ ไม่งั้นสูญเสียหนักละงานนี้
พอทหารส่วนใหญ่ไปถึงรอบนอกเรือรบหลัก พวกเขาให้กระสวยอวกาศหยุดลงบนเศษซากเรือรบ
ตรงนี้มองไปทางไหนก็เป็นเศษซากเรือรบ มีหลายชิ้นที่ใหญ่กว่ายานอวกาศซี-หวั้งซะอีก เลยพอดีเป็นที่จอดกระสวยอวกาศให้กับพวกตู้เฟย
พอลงจากกระสวยอวกาศ ตู้เฟยหยิบปืน Gauss ที่ใช้ในกาแล็คซี่ออกมาเดินนำทีมแถวหน้าสุด ไปทางช่องทางที่กำหนดไว้แล้ว
ทั่วทั้งทีม ตำแหน่งเขาสูงที่สุด แต่ฝีมือเขาก็แกร่งที่สุดเหมือนกัน
ดังนั้นเขาเลยปฏิเสธข้อเสนอที่กองทัพจักรวรรดิจะเปิดทางให้เขา และเดินขึ้นหน้าเอง
หลังจากช่องทางเปิดออก เต็มไปด้วยความมืดไม่มีแสงแม้แต่นิด
เหมือนกับปากกว้างสีดำสนิทของสัตว์ประหลาด ส่วนตู้เฟยพูดแค่คำเดียวว่า: “เพื่อมนุษยชาติ!”
พอพูดจบ เขาก้าวเท้านำเข้าช่องทางนั้นก่อนเลย
สื่อจิ้น เซียวจ้าน ซือถูเจี้ยน หลิวจื่อซิวและทหารทั้งหมดตามติด พวกเขาตะโกนเสียงดังตามว่า: “เพื่อมนุษยชาติ!”
จากนั้นตามเข้าไปทีละคน
ทหารนับพันด้านหลังพร้อมใจกันตะโกน: “สู้ตายไม่เสียดาย!”
จากนั้นก็ตามเข้าไปทีละคน
ตอนนี้ด้านในทางเข้า พวกตู้เฟยไม่ได้จุดไฟแช็ค แต่ยืนนิ่งรอคนอื่นเข้ามาพร้อมกัน
จากนั้นทุกคนต่างพากันหยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมพร้อมภายใต้การส่งซิกของตู้เฟย และยอมให้ตู้เฟยจุดไฟแช็คขึ้นมา
พอทุกคนเข้ามา ซากเละตุ้มเป๊ะไปหมด ทุกที่เต็มไปด้วยซากระเบิดและแตกหัก เศษโลหะจำนวนมาก เศษซากประดิษฐ์มากมาย
ยังมีประเภทแผ่นโลหะขนาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่งวางอยู่เต็มพื้นที่ด้านในเรือรบ แต่เพราะขนาดที่ใหญ่ของห้องด้านในนี้ ทุกคนสามารถมองออกได้ว่ารูปร่างเดิมเป็นยังไง
พูดตามจริง ในใจทุกคนยังอดเสียดายไม่ได้ เพราะภาพแรกที่ได้เห็นนี่ไม่ได้เป็นภาพเทคโนโลยีระดับสูงในอนาคตอย่างที่คาดคิดไว้
การจัดวางภายในใจคล้ายคลึงกับยานอวกาศซี-หวั้ง ข้อแตกต่างเพียงข้อเดียวคือ ชั้นโลหะภายในเรือรบนี้ดูจะบางกว่าหน่อย
ดังนั้นมองดูแล้วโครงสร้างภายในดูจะกว้างขวางขึ้น ขนาดทางเดินยังกว้างกว่ายานอวกาศซี-หวั้งครึ่งก้าวได้
ในเมื่อทางเข้านี้ไม่มีอันตรายอะไร ทุกคนก็ไม่รอช้า รีบเริ่มต้นสำรวจทันที
แน่นอนล่ะว่านี่อยู่ในกาแล็คซี่ ไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ทุกครั้งที่ขยับเข้าไปต้องอาศัยกำแพงเป็นหลักยึดค่อยๆเขยิบ
ดังนั้นความเร็วในการเข้าไปของทุกคนไม่ได้เร็วนัก โดยเฉพาะต้องคอยสำรวจว่าซากสิ่งประดิษฐ์ต่างๆด้านล่างด้วย ทำให้ยิ่งช้ามากขึ้น
เพราะอย่างนั้น ทุกคนค่อยๆเขยิบเข้าสำรวจด้านในมากขึ้น ประมาณสิบนาทีได้ ทันใดนั้นทุกคนเห็นทางด้านหน้ามีแสงส่องประกาย นั่นแสดงว่าทางด้านหน้าไม่ได้สูญเสียพลังงาน!
“สามพันกว่าปีแล้ว พลังงานกลับยังไม่ตัด ทุกคนระวังหน่อย อาจจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล!” ตู้เฟยคิดถึงคำกำชับของลู่เฉินที่ให้ระวังตัว ดังนั้นเขาเองก็ไม่กล้าเผอเรอ
เป้าหมายของพวกเขาคือเข้าไปยึดครองเรือรบต่างดาวทั้งหมด และหลังจากที่ควบคุมไว้ได้หมดแล้ว ค่อยให้นักวิทยาศาสตร์เข้ามาเก็บเทคโนโลยีชนเผ่าหลัน
ทุกคนต่างพากันคืบคลานไปที่แสงสว่างนั่นอย่างระมัดระวัง
เมื่อยิ่งเข้าใกล้แสงสว่างนั่น ทุกคนก็ยิ่งระวังมากขึ้น และแบบเห็นได้ชัดด้วย
ยิ่งเข้าใกล้แสงสว่างนั่น โครงสร้างทางเดินก็ยิ่งสมบูรณ์ขึ้น ในนั้นน่าจะเป็นจุดที่เก็บรักษาสภาพได้ดีที่สุดแล้ว
ถ้าจะมีการค้นพบอะไรที่ยิ่งใหญ่แล้ว คงต้องเป็นที่นั่นแน่
แต่ในตอนนี้เอง พอทุกคนผ่านจุดสุดท้ายของทางเดิน รอบด้านกลับพลันส่องประกายสีแดงวาบขึ้นมา
ที่แท้ที่นี่ยังมีพลังงานเหลืออยู่ ในเวลาเดียวกัน พวกตู้เฟยเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดีนัก
“ถอยเร็ว! รีบถอยออกปจากแหล่งพลังงานนี่!” จู่ๆตู้เฟยตะโกนเสียงดังขึ้น