พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ – ตอนที่ 513

ตอนที่ 513

บทที่ 513 การคาดเดาของลู่เฉินได้รับการพิสูจน์?

ปฏทินของมนุษย์ปีที่สิบสอง (นับศักราชปีแรกในปีที่มนุษย์ออกจากโลก)….

นับตั้งแต่มนุษย์จากโลกมาที่พร็อกซิมาคนครึ่งม้าb เวลาผ่านไปสามปีแล้ว และเป็นปีแรกหลังจากค้นพบดาวนิวตรอน

ในเวลาเดียวกันก็เป็นเวลาที่ยานรบสำรวจออกเดินทางไปหนึ่งปี

สิ่งที่ยานรบอวกาศตรวจสอบใช้เป็นยานรบป้องกันของยานอวกาศซี-หวั้งลำหนึ่ง

อย่างแรกเพิ่มความเร็วการโคจรรอบพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb จากนั้นก็ใช้แรงดึงดูดดาวฤกษ์มาพัฒนาเพิ่มความเร็วขึ้นอีก สุดท้ายใช้ความเร็วของยานเรือรบอวกาศสำรวจทำให้เร็วเป็นปีแสง จากนั้นก็เข้าสู่ช่องทางการวาร์ป

เพราะเศษดาวนิวตรอนไวมาก แทบจะเรียกได้ว่าเร็วปีแสง ดังนั้นการวาร์ปในหนึ่งปีนี้ ยานเรือรบตรวจสอบก็จะอยู่ห่างจากดาวนิวตรอนไปไม่ไกลมากแล้ว

ตอนนี้เพื่อให้สามารถเข้าใกล้สำรวจเศษดาวนิวตรอนดีขึ้นกว่านี้ ยานสำรวจจำต้องถอยออกมาจากช่องทางวาร์ป และลดความเร็วจนเหลือประมาณ0.8เท่าของความเร็วปีแสง

“เป็นไง? ฉีฉี? ยานสำรวจยังรับแรงดันของดาวนิวตรอนในตอนนี้ไหวไหม?” ซูจิงมองฉีฉีพาคณะนักวิทยาศาสตร์รวมทั้งทีมวิจัยรวมกันจัดตั้งอุปกรณ์อะไรตรงนั้น จนเขาทนไม่ไหวถามออกมา

เขาจดจำคำพูดของลู่เฉินตลอดเวลา ไม่ว่ายังไง จะให้อันตรายเกิดขึ้นไม่ได้

และยิ่งเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนเท่าไหร่ อันตรายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นเขาต้องมีสติและระแวดระวังตลอดเวลา

ในฐานะลูกสาวของลู่เฉิน แถมยังเป็นนักวิทยาศาสตร์มือเยี่ยม แทบจะเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์แห่งชาติไว้เลยด้วย อันที่จริงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการปฏิบัติการครั้งนี้เลย

แต่ทานทนความกระตือรือร้นของเธอที่มีต่อวิทยาศาสตร์ไม่ไหว ลู่เฉินเลยจำต้องให้เธอมา

แถมตอนนั้นลู่เฉินเองก็รู้ว่า สำหรับนักดาราศาสตร์แล้ว การได้เข้าสำรวจสสารดาวนิวตรอนในระยะมองเห็นด้วยตาเปล่า ความเย้ายวนนี้แทบไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนทานทนไหวหรอก

พูดตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นผู้นำมนุษย์ เขาเองก็ยังอยากมาเองเลย

ดังนั้นเขาเลยได้แต่ตอบรับคำขอร้องของฉีฉี

แน่นอนว่า มันทำให้คนมากมายยกนิ้วโป้งให้เธอเลยทีเดียว

ต่างสะท้านกับการกระทำของเธอ

ไม่ว่าจะเป็นพ่อเธอ หรือตัวเธอเอง ต่างไม่แคร์ที่จะเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่ออนาคตและการพัฒนาของมนุษย์

จิตวิญญาณนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์กำลังต้องการเลย

ฉีฉีในตอนนี้กำลังสงสัยสุดขีด หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขออกมาได้แล้ว เธอหันกลับไปพูดกับซูจิงว่า “อาซู ฉันว่ามันแปลก แปลกเอามากๆเลย”

“หา? ทำไมหรอ อันตรายเกินไปหรือเปล่า?” ซูจิงรีบถาม

หลันหลิงที่ยืนอีกด้านมองฉีฉีอย่างสงสัย ถ้ามีอันตรายอะไรขึ้นมาจริง เธอจะออกคำสั่งส่งแรงดันผลักพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbทันที

ยานรบในตอนนี้มีคนของเธอขับเคลื่อนอยู่ นี่เป็นเครื่องรับประกันได้ว่า พวกนักวิทยาศาสตร์อย่างเช่นฉีฉีจะไม่นอกลู่นอกทาง

“เปล่าๆ อาซูอย่าพึ่งร้อนใจไปสิ ฉันหมายถึงข้อมูลที่ได้มามันแปลก”

ฉีฉีเห็นซูจิงสีหน้าเคร่งเครียด ก็พูดกลั้วหัวเราะว่า “ตามหลักแล้ว มวลสสารของดาวนิวตรอนมีมากนัก น่าจะได้ประมาณหนึ่งในพันของดาวฤกษ์ ดูจากระยะห่างของเราในตอนนี้แล้ว ห่างกับมันแค่หนึ่งร้อยล้านกิโลเมตรเท่านั้นเอง ยานเรือรบสำรวจน่าจะถึงจุดที่ได้รับแรงดึงดูดของมันแล้ว แต่ทำไม…”

“ทำไมหรอ?” คราวนี้แม้แต่หลันหลิงและกลุ่มทหารพิเศษด้านหลังยังอดถามด้วยความร้อนใจไม่ได้

ฉีฉีส่ายหัวพูดอีก “ยานรบของเราไม่ได้รับผลกระทบจากแรงดึงดูดเลย พูดง่ายๆก็คือ พวกเราเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศเคว้งคว้าง ไม่ได้เข้าใกล้ดาวฤกษ์อะไรเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าสถิตหรือระบบตรวจสอบยิงไฟระยะไกล ต่างแสดงค่าการคงอยู่ของเศษดาวนิวตรอน มันแปลกมากจริงๆ…”

สีหน้าหลันหลิงแสดงความตื่นเต้นเล็กน้อย แต่สักพักก็กลับสู่ความนิ่งสงบเย็นชาเช่นเคย

เธอนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนถาม “ฉีฉี เธอว่ามันเป็นได้ไหมว่าเรื่องที่พ่อเธอพูดอาจจะเป็นเรื่องจริง?”

“น้าหลัน พ่อฉันเคยพูดอะไรไว้หรอ?” ฉีฉีถามหลันหลิงอย่างไม่เข้าใจ

“พ่อเธอเคยบอกว่า เขาสงสัยว่าเศษดาวนิวตรอนจะไม่มีอยู่จริง พวกเราแค่กำลังโดนข่าวของอารยธรรมขั้นสูงนอกโลกหลอกอยู่เท่านั้นเอง?”

ชะงักไปเล็กน้อย หลันหลิงอธิบายต่ออีก “เขายังบอกอีกว่า เขาสงสัยว่า อาจจะมีอารยธรรมต่างดาวอื่นที่กำลังลอบควบคุมหรือจับตาดูเราอยู่เงียบๆ ไม่ยอมให้พวกเราพัฒนาตัวเองอยู่บนดาวแม่

เพราะเขาบอกว่าการพัฒนาบนดาวแม่ อารยธรรมเทคโนโลยีจะพัฒนาไปได้ช้ามาก

และถ้าเอาแต่หนีตายในกาแล็คซี่ อันตรายร้อยแปดในกาแล็คซี่ก็จะคอยกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนอยู่ของมนุษย์ออกมาไม่หยุด ทำให้เทคโนโลยีของมนุษย์เรายิ่งแกร่งมากขึ้นเรื่อย อารยธรรมเทคโนโลยีก็จะยิ่งสูงขึ้น

แน่นอนล่ะว่า นี่เป็นแค่การคาดเดาของพ่อเธอ ครั้งนี้ที่เขาดื้อดึงจะทำแผนงานการสำรวจนี่ ก็เพื่อพิสูจน์ว่าความคิดเขามันจริงไหม”

พอได้ยินคำอธิบายของหลันหลิง พวกฉีฉีต่างตกอยู่ในภวังค์

ฝ่ายวิทยาศาสตร์ก็มีแค่ติงต้าเฉิงคนเดียวที่มีสิทธิ์เข้าที่ประชุม ดังนั้นคนอื่นอย่างฉีฉีเลยไม่รู้ข้อสรุปที่ลู่เฉินพูดในที่ประชุมเลย

“การคาดเดาของพ่อฉัน ฉันเคยได้ยินมาก่อน แต่ฉันคิดว่าเขาเพี้ยนไปมากกว่า

เรื่องวิทยาศาสตร์แท้ๆ โดนเขาพูดซะกลายเป็นจินตนาการไปเลย…”

ฉีฉีสะดุดกึก ก่อนหันไปถกเถียงกับนักวิทยาศาสตร์และทีมวิจัยรอบๆ

สำหรับความรู้เฉพาะทางที่พวกเขาถกเถียงกันอยู่ ซูจิงมองหน้าหลันหลิง ทั้งคู่ส่ายหน้าพร้อมกัน แสดงอาการว่าไม่เข้าใจ

ซึ่งมันก็ไม่แปลก พวกเขาคนหนึ่งเป็นทหาร อีกคนเป็นพ่อค้า สำหรับเรื่องตัวเลขข้อมูลอะไรแบบนี้ อย่าว่าแต่ฟังเลย เห็นยังไม่เข้าใจเลย

นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งพูดว่า “ก่อนนี้ผมก็ไม่คิดอะไรกับการคาดเดาแบบนี้ของประมุข แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้วมันเป็นไปได้มากเลยทีเดียว เพราะเรื่องแรงดึงดูดมันหลอกใครไม่ได้ ในเมื่อยานสำรวจไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยจากแรงดึงดูด ถ้างั้นที่นี่อาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้…”

ตอนนี้เรือรบอวกาศสำรวจอยู่ห่างจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbซึ่งเป็นโลกใหม่ไกลมาก

และก่อนหน้านั้นยานสำรวจก็บินผ่านดาวเคราะห์น้อยพื้นที่รกร้างไป นั่นคือออร์ตคลาวด์ที่เป็นระบบดาวฤกษ์กลุ่มดาวคนครึ่งม้า

บ่งบอกชัดว่าพวกเขาออกจากกลุ่มดาวฤกษ์กลุ่มดาวคนครึ่งม้ามาแล้ว และไม่ได้รับผลกระทบจากแรงดึงดูดของมันแล้ว

ในเวลาเดียวกัน เรือรบอวกาศสำรวจก็อยู่ห่างจากเศษดาวนิวตรอนแค่หนึ่งร้อยล้านกิโลเมตรเท่านั้นเอง ตามหลักแล้วน่าจะยังได้รับแรงดึงดูดถึงจะถูกสิ

แต่นี่ไม่มี

และด้วยระยะห่างนี้ไม่ใช่อะไรที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า บวกกับเศษดาวนิวตรอนไม่ส่องแสง และไม่มีแสงดาวฤกษ์ที่มากพอส่องประกายไปทางมันด้วย ดังนั้นการจะส่องเห็นมันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ยานสำรวจแทบจะมองไม่เห็นการคงอยู่ของเศษดาวนิวตรอนได้ด้วยตาเปล่าเลย

มันไม่ปกติเลยนะ

แทบจะเรียกได้ว่าแปลกด้วยซ้ำ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์คนนั้นถึงรู้สึกว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของลู่เฉินมันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้

ตอนนี้สายตาทุกคนพุ่งเป้าไปที่หลันหลิง

เธอเป็นหัวหน้าเรือรบอวกาศสำรวจลำนี้ที่แท้จริง และเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในภารกิจครั้งนี้ด้วย

ตอนนี้ถึงแม้จะแน่ใจได้โดยพื้นฐานแล้วว่าไม่มีแรงดึงดูดอยู่จริง มีแต่ข้อมูลที่แสดงออก ดังนั้นก็สามารถออกจากที่นี่กลับพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbได้แล้ว

แต่สรุปแล้ว ภารกิจครั้งนี้ไม่ถือว่าสมบูรณ์

ดังนั้นพวกเขาเลยจะดูว่าหลันหลิงจะว่ายังไง

จะเดินหน้าต่อไหม?

หรือจะกลับดาวเลย?

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

Status: Ongoing

บทนํา ประสบการณ์ชีวิตซุปเปอร์ริชรุ่นที่สองที่ไม่อยากกลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่อนิจจาภรรยาของเขาดันคิดว่าเขาไม่มีเงิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท