บทที่ 514 ความจริงมันคืออะไรกันแน่?
เมื่อเผชิญหน้าคำถามนี้ หลันหลิงก็อดลังเลไม่ได้เหมือนกัน
ด้านหนึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ลู่เฉินอยากได้
อีกด้านก็ต้องคุ้มครองความปลอดภัยของทุกคน โดยเฉพาะลู่ฉีฉี เธอจะไม่ยอมให้ฉีฉีได้รับอันตรายใดๆแน่
“แปลกมากใช่ไหม ฉันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย”
ในตอนที่หลันหลิงกำลังลังเล ลู่ฉีฉีก็พูดขึ้น
ทุกคนหันไปมองเธออย่างแปลกใจ
เพราะลู่ฉีฉีเป็นนักดาราศาสตร์มือเยี่ยม สำหรับสถานการณ์อย่างนี้ คำพูดของเธอมีน้ำหนักมากพอจะหยิบมาวิเคราะห์เลยทีเดียว
ลู่ฉีฉีคิดๆก่อนพูด “ฉันรู้สึกกลายๆว่า พวกเราอยู่บนเรือรบอวกาศสำรวจตอนนี้มันปลอดภัยมาก แทบจะไม่มีอันตรายอะไรเลย แต่ทางนั้น…”
เธอชี้ไปทางตำแหน่งเศษดาวนิวตรอน ก่อนพูดต่อว่า “ทางนั้นกลับรู้สึกได้ถึงอันตราย มันบอกไม่ถูก เหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมระเบิดทุกเมื่อ สรุปคืออันตรายจนสามารถระเบิดพวกเราได้ทุกเวลา”
ทุกคนพากันเงียบงัน พวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันคืออะไรกันแน่ อันดับแรกหลังจากเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนกลับไม่มีแรงดูดใดๆเลย สองคือฉีฉีรู้สึกถึงอันตราย หรือจะเป็นแบบข่าวที่ว่ามีอารยธรรมต่างดาวอื่นควบคุมอยู่?
พวกหลันหลิงเองก็มองไปทางเศษดาวนิวตรอนเหมือนกัน มันเป็นกลางคืนที่ดำมืด
แต่ไม่นานสีหน้าหลันหลิงก็เปลี่ยนไป
“ฉันก็รู้สึกกลายๆได้เหมือนกัน หรือว่า ที่นั่นมีเศษดาวนิวตรอนชิ้นหนึ่งกำลังพุ่งมาทางเรา?” หลันหลิงไม่ได้พูดอะไร ซูจิงกลับพูดขึ้นมาดื้อๆ
จากนั้นหลันหลิงมองหน้าซูจิง ทั้งสองคนเห็นแววตาตกใจในดวงตาอีกฝ่าย
ที่จริงนักวิทยาศาสตร์หลายคนก็พยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน
“แน่ใจอยู่อย่างได้ว่า ไม่ว่าด้านหน้าจะเป็นเศษดาวนิวตรอนหรือไม่ มีอันตรายแน่นอน”
นักวิทยาศาสตร์หลายคนพูดขึ้น
ฉีฉีครุ่นคิดอีกครั้ง เธอหันมองหลันหลิงพลางว่า “น้าหลัน เราให้ยานสำรวจแอบเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนดูไหม ถ้าพบว่ามีแรงอะไรอยู่ ก็รีบหยุดหรอืไม่ก็ถอยออกมา พวกเราจะลดความเร็วลง จากนั้นก็เปิดแรงสะท้อนทั้งหมด ถึงเวลาสำคัญก็ใช้การวาร์ปเลย”
“จะอันตรายแค่ไหนเนี่ย?” หลันหลิงมองไปทางฉีฉี
“สถานการณ์ปกติ ขอแค่พวกเราเข้าสู่การวาร์ปได้ทันเวลา โอกาสที่จะโดนแรงดูดของดาวนิวตรอนมีไม่มาก แต่สำหรับดาวนิวตรอนพวกเรารู้จักมันน้อยเกินไป มันจะยอมให้เราวาร์ปทันไหม? ไม่มีใครรู้เลย” ฉีฉีพูดตามจริง
“แต่เพื่อให้เทคโนโลยีของมนุษย์พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว บางทีอาจจะเป็นการพิสูจน์การคาดเดาของพ่อฉันก็ได้ ฉันรู้สึกว่าพวกเราต้องลองเสี่ยงดู บางทีมันอาจจะอันตราย แต่ก็เป็นโอกาสของมนุษย์เรา” ฉีฉีพูดอีก
คำพูดของเธอมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย
มีโอกาสแบบนี้ ต่อให้รู้ว่าจะเจออันตราย พวกเขาก็อยากลองเสี่ยงดูสักครั้ง
พวกเขาเป็นคนบ้าแบบนี้แหละ
ต่อให้รู้ว่าด้านหน้าเป็นภูเขาไฟกระทะน้ำมัน แต่ถ้ามันจะมีความจริง พวกเขาก็จะไปอยู่ดี
ถึงซูจิงกับหลันหลิงจะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ แต่ก็รู้ถึงจิตวิญญาณแบบนี้ของพวกเขาเหมือนกัน
แต่ไม่รู้ทำไม เวลานี้พวกเขาควรที่จะปฏิเสธข้อเสนอของฉีฉีถึงจะถูกสิ
แต่พวกเขากลับมองกันไปมา และเห็นแววลังเลในสายตาทั้งคู่
พวกเขารู้ดีแก่ใจถึงคำกำชับของลู่เฉิน แต่กลับคล้อยตามคำพูดฉีฉีซะงั้น
หลังจากได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเทคโนโลยีชนเผ่าหลัน พวกเขารู้ดีว่าเทคโนโลยีของมนุษย์ยังเล็กน้อยเกินไปในกาแล็คซี่
แถมตอนนี้พวกเขายังไม่แน่ใจว่าด้านหน้าจะมีดาวนิวตรอนจริงไหม กลับไปแบบนี้เท่ากับไม่ได้ทำภารกิจสำเร็จ
ถ้างั้นมนุษย์ยังต้องหนีจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbไปเร่ร่อนต่อหรือไง?
หรือว่าจะไม่สนใจ แล้วกลับไปพัฒนาพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbต่องั้นหรอ?
“ไปข้างหน้าต่อเถอะ อย่างน้อยพวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าด้านหน้ามีเศษดาวนิวตรอนจริงไหมแล้วค่อยกลับ!”
หลังจากเงียบไปสักพัก หลันหลิงกำหมัดแน่นพลางว่า
ในเมื่อเธอออกคำสั่งแล้ว คนอื่นก็ได้แต่รับคำสั่ง
อีกอย่างใครไม่แปลกใจบ้างล่ะ ที่อยู่ตรงหน้านี่เป็นความลับที่สุดเลยนะ
ตกลงจะมีเศษดาวนิวตรอนจริงไหม?
ตกลงมันใช้วิธีอะไรอยู่ได้กันแน่นะ?
ทำไมตอนอยู่ใกล้ขนาดนี้กลับไม่มีแรงดูดอะไรเลย? หรือว่าเป็นการเล่นละครของอารยธรรมต่างดาวอื่นจริงหรอ?
สรุปแล้วคือ ยานสำรวจเรีมเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอน เพราะต้องระมัดระวัง ความเร็วของเรือรบอวกาศสำรวจเลยลดลงถึงระดับห้าสิบกิโลเมตรต่อวินาที
ทุกชม.ก็จะเข้าใกล้ไปแค่หนึ่งแสนแปดหมื่นกิโลเมตรเท่านั้นเอง สำหรับระยะห่างราวหนึ่งร้อยล้านกิโลเมตรแล้ว ความเร็วระดับนี้ไม่เร็วเลย
ดังนั้นหลันหลิงออกคำสั่งให้เปิดแรงดันทั้งหมด ทุกคนจะจับตาดูตลอดยี่สิบสี่ชม.
ระยะห่างเก้าสิบล้านกิโลเมตร ระยะห่างแปดสิบล้านกิโลเมตร ระยะห่างเจ็ดสิบล้านกิโลเมตร…
นับวันแล้ว ยานสำรวจอยู่ห่างจากเศษดาวนิวตรอนแค่หกล้านกิโลเมตรเท่านั้นเอง ขยับเข้าใกล้กว่าตอนแรกมาเกือบครึ่งแล้ว
แต่สิ่งที่แสดงจากจอสังเกตการณ์ของยานสำรวจ เรือรบยังไม่ได้รับผลกระทบแรงดูดอะไรเลย เหมือนตรงหน้านั่นไม่มีอะไรอยู่
ทุกคนตื่นเต้นกันมาก พวกนักวิทยาศาสตร์พากันคาดหวังให้มีเศษดาวนิวตรอนอยู่จริง แต่ก็หวังให้ไม่มี
ถ้าเป็นแค่ข่าวหลอกยังดี ส่วนฝ่ายทหารอื่นๆ แน่นอนว่าไม่อยากให้มีเศษดาวนิวตรอนอยู่จริงอยู่แล้ว
ในสภาพจิตใจแบบนี้ ทุกคนอดทนกันอยู่หลายวัน
จนตอนนี้ที่หลันหลิงออกคำสั่งให้หยุด
ยานสำรวจหยุดลงที่จุดห่างจากเศษดาวนิวตรอนแค่หกล้านกิโลเมตรเท่านั้นเอง
ทุกคนเริ่มไปนอนหลับพักผ่อน เหลือแต่คนบังคับ และยังขัดทหารยามผลัดเวรกันดูและพักผ่อน
ตามวิธีพูดของหลันหลิง ทุกคนไปพักผ่อนเพื่อให้ได้ร่างกายที่ดีที่สุด ในวันพรุ่งนี้จะไปดูตรงจุดที่เป็นเศษดาวนิวตรอนจริงๆ ทีนี้จะได้รู้กันว่ามีเศษดาวนิวตรอนอยู่จริงไหม
คำสั่งนี้ไม่มีใครมีข้อโต้แย้ง
ขนาดฉีฉีที่ในใจร้อนรนมากยังฟังหลินหลังและขอตัวไปนอนก่อน
หลังจากอดหลับอดนอนตื่นเต้นอยู่หลายวัน ทุกคนก็เริ่มทนไม่ไหวกันแล้ว
ภายใต้คำสั่งของหลันหลิง ทุกคนเริ่มพักผ่อนและหลับนอน จนเช้าวันที่สอง นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ทีมวิจัยรวมถึงทหารส่วนใหญ่ต่างกระปรี้กระเปร่าเพิ่มพลังมาเต็มที่
หลันหลิงสั่งให้เพิ่มความเร็วเล็กน้อย เริ่มเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอน
วินาทีนี้ทุกคนจิตใจเต็มไปด้วยการอคอย
ความจริงจะเป็นยังไงนะ?