พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ – ตอนที่ 517

ตอนที่ 517

บทที่ 517 ยอมรับชนเผ่าแคระ

ใช่ ต่อให้รู้ว่ามนุษย์ต้องเผชิญหน้าศัตรูที่ร้ายกาจขนาดนี้ เป็นอะไรที่เครียดจัด

แต่มันแล้วยังไงล่ะ?

ต่อให้มีแค่ความหวังเดียว ลู่เฉินก็จะไม่ยอมปล่อยไป!

ข้อมูลทั้งหมดชัดแล้วว่า นั่นเป็นเศษดาวนิวตรอนจริงๆ

แต่ก็เป็นเศษดาวนิวตรอนที่โดนแรงภายนอกกระแทกมาแล้ว

อารยธรรมต่างดาวที่สามารถควบคุมดาวนิวตรอนได้…

ทุกคนรวมถึงลู่เฉินต่างรู้สึกไม่อยากเชื่อ

อารยธรรมต่างดาวที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังกับเทพแหน่ะ

พวกเขาทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เพื่อขับไล่มนุษย์ออกจากดาวแม่จริงหรือ?

มันทำให้ทั้งไม่เข้าใจและโกรธแค้น

ใช่ ไม่ว่าเศษดาวนิวตรอนจะเป็นเรื่องจริงหรือปลอม จะหลอกก็ช่าง จะทำลายดาวดวงนี้ก็ช่าง

ตอนยานสำรวจแน่ใจแล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง และในเวลาเดียวกันก็ไม่ใช่ข่าวโคมลอย

เป็นการแสดงแล้วว่ามนุษย์ต้องอพยพ

เนื่องจากระดับเทคโนโลยีที่มีต่างจากของอารยธรรมต่างดาวนี้มากเกินไป จนไม่มีช่องทางใดให้คิดหาทางประนีประนอมได้เลย

คุณเคยเห็นคนกับมดคุยกันหรือไง?

เหอะ บางทีคนปัญญาอ่อนอาจจะทำ…

งั้นคุณเคยเห็นคนๆหนึ่งคุยกับแบคทีเรียไหม?

หรือให้หนักขึ้นไปอีก…

คุณเคยเห็นคนๆหนึ่งคุยกับอะตอมบนตัวแบคทีเรียไหม?!

จากไปก็ดี กลับไปสู่จักรวาลอันตรายดำมืดไม่สิ้นสุดนั่นอีกครั้ง…

แต่อย่างน้อย

มนุษย์ยังมีอนาคต!

ยังมีความหวัง!

ลู่เฉินไม่เคยรู้สึกโกรธแบบไฟสุมทรวงเท่าวินาทีนี้มาก่อนเลย

ถ้าจะให้พูดว่าโกรธ เสียใจ ตื่นเต้น

หรือบ้าคลั่ง—-

สู้บอกว่ามันเป็นความอดกลั้นอย่างหนึ่งดีกว่า!

เขาจำต้องอดกลั้นเพื่ออนาคตของมนุษย์

อีกอย่าง เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่งแบบนี้ เขาทำได้แค่อดกลั้นจริงๆ

แต่เขาเชื่อนะ

อนาคต ไม่ว่าจะอีกพันปี

หมื่นปี

แสนปี

ขอแค่มนุษย์เรายังคงอยู่รอดในกาแล็คซี่

ขอแค่อารยธรรมมนุษย์เราได้สืบทอดต่อไป

ขอแค่พวกเรายังพัฒนาจนแข็งแกร่งมากขึ้น สักวันหนึ่ง…

สักวันหนึ่งพวกเราจะบดขยี้พวกแกเหมือนหนอนเน่าตัวหนึ่ง!

สีหน้าลู่เฉินบิดเบี้ยวเล็กน้อย สองมือกำแน่นจนได้ยินเสียงกร๊อบ!

“ผู้นำของอีกสี่ทวีปมาถึงแล้วค่ะ”

แต่ในตอนนี้เอง เสียงของเฉินจือหรานดังผ่านเครื่องเข้ามา

ลู่เฉินคลายหมัดที่กำออก และได้สติกลับมา

แต่สีหน้าเขายังตึงเครียด

เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก จากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงาน

ครึ่งปีก่อนพวกนักวิทยาศาสตร์แคระของอีกสี่ทวีปก็พบว่าเศษดาวนิวตรอนกำลังจะเข้าทำลายดาวเขาเหมือนกัน

หลังจากพวกเขาวิจัยแล้วไม่ได้ผลอะไร ก็จำต้องขอความช่วยเหลือจากมนุษย์

เพราะพวกเขาค้นพบเรื่องน่าเศร้าเรื่องหนึ่งขึ้น

นั่นก็คือ…

พวกเขาไม่มีทางสร้างยานอวกาศในเวลาอันสั้นได้

ต่อให้เป็นเทคโนโลยีแกนกลางที่ใช้สร้างยานอวกาศพวกเขายังไม่มีเลย

ระดับเทคโนโลยีของชนเผ่าแคระถึงจะเป็นระดับอุตสาหกรรมสามรุ่นของมนุษย์โลกยุคศตวรรษที่21

แต่ทิศทางการพัฒนากลับเบนเข็มออกไป

พวกเขาให้ความสำคัญกับด้านการทหาร และเทคโนโลยีออโต้ไร้คนขับ

เทคโนโลยีด้านดาราศาสตร์และอวกาศนี่ดูไม่ได้เลย

น่าจะพอๆกับมนุษย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

นี่ก็เป็นสาเหตุที่พวกเขาค้นพบเรื่องเศษดาวนิวตรอนช้าไปสองปี

สำหรับคำร้องขอความช่วยเหลือของพวกคนแคระ ตอนแรกลู่เฉินก็เหมือนผู้บริหารระดับสูงคนอื่น

ไม่ช่วย!

ช่วยไม่ได้ ถึงยานอวกาศซี-หวั้งจะสร้างได้ถึงแปดชั้น แต่ประชากรมนุษย์ก็มากขึ้นเรื่อยๆ หลายปีมานี้ปาเข้าไปสองล้านกว่าแล้ว

และยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไป

จะมีที่เหลือพอให้รับคนแคระขึ้นมาได้ยังไง?

แต่หลังจากวิเคราะห์ได้ว่าเศษดาวนิวตรอนนั่นเป็นฝีมืออารยธรรมต่างดาวจริง ลู่เฉินก็เปลี่ยนความคิด

การหนีตายกลับไปในอวกาศอีกครั้ง จำนวนประชากรมนุษย์ยังคงน้อยเกินไปอยู่ดี

นักวิทยาศาสตร์มนุษย์ก็มีน้อยเกินไป

ดังนั้นเขาวางแผนจะพาอัจฉริยะคนแคระหนึ่งล้านคนไปด้วย จำนวนหนึ่งล้านคนนี้จะอยู่แยกกันกับมนุษย์ ไม่แบ่งชนชั้นเป็นทาสหรือเจ้านาย แต่ระดับพวกเขาจะต่ำกว่ามนุษย์หนึ่งขั้น

ลู่เฉินช่วยให้พวกเขามีความหวังอยู่รอดต่อไป พวกเขาก็ต้องบริการมนุษย์หน่อย

ด้วยเหตุนี้ ลู่เฉินได้ช่วยสร้างยานอวกาศระดับหมู่บ้านสองลำให้พวกเขา

ซึ่งเป็นเลเวลก่อนหน้านั้นของยานอวกาศซี-หวั้ง

แน่นอนว่า ยานอวกาศซี-หวั้งในตอนนี้ได้อัพเกรดเป็นระดับเขตแล้ว

ไม่เพียงเพิ่มขึ้นอีกสี่ชั้น ยังขยายความกว้างออกไปสองเท่า

ผ่านมติที่ประชุมแล้ว เลยจัดระดับไว้เป็นระดับเมือง

ต่อไปยังมีระดับต่างๆอาทิเช่น อำเภอ ตำบล เมือง มณฑล ประเทศรวมถึงระดับทวีปด้วย

เหมือนยานรบอวกาศของชนเผ่าหลันนั่น เรียกได้ว่าเป็นระดับโลกเลยทีเดียว นั่นสิถึงน่ากลัวจริง

แน่นอนว่า เรืออวกาศที่ลู่เฉินให้พวกเขา วัสดุของสองลำนี้มาจากฝั่งคนแคระทั้งหมด

แถม เรือบินอวกาศสองลำนี้ยังต้องรับการควบคุมจากยานอวกาศซี-หวั้ง ทำได้แค่ขับเคลื่อนตามยานอวกาศซี-หวั้งในอวกาศเท่านั้น

พูดถึงยานอวกาศซี-หวั้ง

หลังจากผ่านการปรับปรุงสามครั้ง เพิ่มระดับล่างอีกสองชั้น เป็นชั้นใต้ดินลงไป

และเพิ่มอีกสองขั้นขึ้นไปจากชั้นเจ็ด เป็นชั้นแปดชั้นเก้า

ชั้นใต้ดินยังเป็นชั้นที่ประชาชนอยู่ ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร พื้นที่การใช้ชีวิตที่ต้องการก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ชั้นใต้ดินได้นำมาใช้เป็นพื้นที่สำหรับประชากรที่เพิ่มขึ้นมาพอดี

ชั้นแปดเป็นชั้นเพาะปลุกของพืชผลจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbจำนวนมาก

พืชผลที่อุดมไปด้วยสารอาหารอยู่ในนั้น

อย่างเช่นผลแดงม่วงกับผลไม้นม และในขณะเดียวกันก็ได้เลี้ยงสิ่งมีชีวิตประเภทกิ้งก่ากินพืชสองชนิดที่เจอจากโลกใหม่ มันเป็นเนื้อสัตว์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

ส่วนชั้นเก้าเป็นมหาสมุทรจำลอง

ความสูงของชั้นเก้านี้ยังมากกว่าสองเท่าของชั้นอื่นในยานอวกาศซี-หวั้ง ความยาวกว่าหมื่นเมตรเพียงพอจะสร้างมหาสมุทรจำลองแบบง่ายที่สุดได้

และในนั้น สัตว์ทะเล หอย รวมถึงสัตว์จำพวกปูเป็นจำนวนมากที่รวบรวมมาจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าb

ยังมีการเพาะปลูกสาหร่ายกินได้บางชนิดในนั้น นี่เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหญ่ที่สุดที่จะเอาไปด้วยแล้ว ซึ่งทั้งหมดมีมากกว่าเก้าสิบชนิด

นอกจากจะสามารถเป็นอาหารให้มนุษย์แล้ว ยังสามารถใช้ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ด้วย

นอกจากการก่อสร้างและเปลี่ยนแปลงพวกนี้แล้ว ในช่วงครึ่งปีมานี้ก่อนที่ยานสำรวจจะกลับมา ยังมีการรวบรวมแร่ธาตุจำนวนมากด้วย

ทั้งหมดนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นวัสดุจริงเก็บไว้ในบ้าน

ในเวลาเดียวกันก็เพิ่มการเพาะปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ตอนนี้ไม่ต้องสนใจเรื่องการปกป้องระบบนิเวศอะไรแล้ว

และได้ใช้วิธีเพาะปลูกดั้งเดิม พอเผาไป พื้นที่ว่างก็จะเพิ่มขึ้น สิ่งมากมายอาทิเช่น ใบชา กาแฟ โกโก้หรือใบหญ้า ฝ้าย ได้ถูกนำมาใช้เถ้าพืชรวมถึงปุ๋ยต่างๆ ซึ่งได้ทำการปลูกเป็นจำนวนมาก

ส่วนในสังคม แม้ว่ารัฐบาลจะยังปกปิดเรื่องข่าวการมาของเศษดาวนิวตรอน

แต่ประชาชนที่เซนซิทีฟเหมือนรับรู้อะไรขึ้นมาได้ ซึ่งการเผชิญกับการทำลายสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่นี้

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเก็บและปลูกอย่างบ้าคลั่ง นอกจากการประท้วงในตอนแรกแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั่วทั้งสังคมเหมือนเกาะติดกระแสนี้ ทุกคนทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าจะด้านการก่อสร้างก็ดี การเพาะปลูกก็ดี การขุดเจาะถ่านหินก็ดี ทุกคนต่างใช้แรงให้มากที่สุดเก็บทุกสิ่ง

และตอนนี้ลู่เฉินก็กำลังไปพบพวกผู้นำเผ่าแคระ

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์

Status: Ongoing

บทนํา ประสบการณ์ชีวิตซุปเปอร์ริชรุ่นที่สองที่ไม่อยากกลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่อนิจจาภรรยาของเขาดันคิดว่าเขาไม่มีเงิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท