บทที่ 516 ดาวอันเกรี้ยวกราด
ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่เห็นรูปเศษดาวนิวตรอนในจอ ในใจยิ่งรู้สึกอันตรายถึงที่สุด
แต่ก็อยากรู้อยู่ดี เขาเลยคิดจะเข้าไปดูใกล้อีกนิด
หลันหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และถาม “ฉีฉี พวกเราสามารถให้ยานสำรวจเข้าใกล้กว่านี้หน่อยไหม? อย่างเช่น ซักหนึ่งหมื่นกิโลเมตร ขอแค่ไม่เข้าใกล้ในระยะห้าพันกิโล น่าจะปลอดภัยใช่ไหม?”
“ใช่ ถ้ามันไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของอารยธรรมระดับสูงจริงๆ แต่เป็นดาวเคราะห์ประเภทเศษดาวนิวตรอน ขอแค่พวกเราไม่เข้าใกล้ในระยะห้าพันกิโลเมตร ถือว่าปลอดภัย
แน่นอน ถ้ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของต่างดาวจริง งั้นพวกเราอยากหนีก็หนีไม่รอดหรอก” ฉีฉีพยักหน้าบอก
“งั้นก็เข้าใกล้อีกหน่อยละกัน ฉันรู้ว่าสำหรับนักวิทยาศาสตร์อย่างพวกคุณ ต้องอยากเข้าใกล้มากที่สุดอยู่แล้ว ข้อมูลที่สำรวจมาได้จะได้มีความใกล้เคียงความจริงมากขึ้น” หลันหลิงพยักหน้า ก่อนจะสั่งการให้บังคับยานเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนมากขึ้น
เพราะมีการหักเหของแสงเป็นเป้าหมาย ดังนั้นคนบนยานเลยเห็นตำแหน่งของเศษดาวนิวตรอนได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็เข้าใกล้มันอย่างระมัดระวัง เอาให้แน่ใจว่าไม่เข้าไปในระยะเส้นตายห้าพันกิโลเมตรนั่น
และเมื่อยานสำรวจเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนในระยะหนึ่งหมื่นกิโลเมตร แว่นตาดำพิเศษที่ทุกคนใส่ก็จับพิกัดไปที่เศษดาวนิวตรอน
พวกเขาแน่ใจด้วยการมองด้วยตาแล้วว่า นั่นเป็นสสารทรงรีที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูง
ทั้งสองด้านของมันส่องแสงกระจ่าง มันเป็นแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แต่แสงไม่ได้จ้ามาก ดังนั้นไม่แปลกที่จะมองไม่เห็นมันจากที่ห่างไกล
แถมมันยังเล็กขนาดนี้ ครึ่งหนึ่งของทั้งเศษยังไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรเลย เล็กมากๆ แม้แต่ยานสำรวจยังใหญ่กว่ามันมาก
“นี่เป็นเศษดาวนิวตรอนจริงหรอ?” ซูจิงพูดอย่างตกใจระหว่างที่มอง
จากนั้นเขาสำรวจหน้าตาและรอบด้านเศษดาวนิวตรอนอย่างละเอียด ไม่เห็นอาวุธอะไรอื่น ทั่วทั้งพื้นที่ว่างเปล่ามีแต่เศษดาวนิวตรอนเท่านั้นที่ขยับไปข้างหน้า นอกจากนั้นไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย
หลังจากขับยานสำรวจไปหลายชม. จวบจนซูจิงรู้สึกเหนื่อยมาก ยานสำรวจยังคงหยุดอยู่ในตำแหน่งห่างจากเศษดาวนิวตรอนระยะหนึ่งหมื่นกิโลเมตร
นักวิทยาศาสตร์ทุกคนต่างกำลังเก็บข้อมูลและวิจัยอย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเขากำลังพยายามอธิบายทุกอย่างตรงหน้าด้วยความรู้ทุกอย่างของตัวเอง
เป็นอย่างนี้ติดกันห้าวัน จนหลังวันที่ห้า
เศษดาวนิวตรอนเข้าสู่ซากดาวตรงหน้า คาดว่าน่าจะมีดาวน้อยขนาดไม่ซ้ำกันกว่าพันดวงเข้าไปในเศษดาวนิวตรอน!
นี่เป็นแผนการเดินทางของเศษดาวนิวตรอนที่ยานสำรวจวิเคราะห์ออกมาได้
ในตอนที่ด้านหน้ามีซากดาวเล็กดาวน้อยอยู่มากมาย คาดว่าน่าจะเกิดการปะทะกันในอีกหลายชม.ต่อมา
ทุกคนกลั้นหายใจมอง เพราะการปะทะกันครั้งนี้อาจจะทำให้รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของเศษดาวนิวตรอน
จะจริงจะเท็จ ปะทะกันก็รู้ผลแล้ว
จากนั้น—
พอดาวน้อยขนาดกว่าหนึ่งร้อยเมตรดวงหนึ่งพุ่งเข้าในขอบเขตห้าพันกิโลเมตรของเศษดาวนิวตรอน วินาทีที่เข้าไป…
มันหายไปแล้ว!
ใช่ ดาวน้อยขนาดหนึ่งร้อยเมตรนั่นหายไป
อย่างนั้นด้วยแว่นขยายพิเศษที่ละเอียดมากยังไม่สามารถจับภาพได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ร้อนละลายไปเองหรอ?
หรือว่าวินาทีที่โดนแรงมหาศาลดูดจนหายเข้าในดาว และกลายเป็นสสารบางๆหรือไง?
หรือว่าอะไรอย่างอื่น?
มันหายไปดื้อๆเลย…
จากนั้นดาวน้อยใหญ่ที่มีขนาดไม่ซ้ำกันกว่าร้อยดวงก็หายเข้าไปขอบเขตห้าพันกิโลเมตรของดาวนิวตรอน
และหายวับไปในพริบตาเหมือนกัน ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้สักนิด หายไปดื้อๆ!
ภาพมันแปลกมาก!
“พวกเรากลับกันเถอะ กลับไปที่พร็อกซิมาคนครึ่งม้าb… เร่งเครื่องเต็มกำลังเข้าวาร์ปเลย!
พอเห็นขั้นตอนการปะทะทั้งหมด หลันหลิงออกคำสั่งแบบนี้กับทีมงานทันที
ทุกคนต่างเห็นได้ชัดถึงสีหน้าแข็งค้างของเธอ
สำหรับเรื่องนี้ ฉีฉีและนักวิทยาศาสตร์คนอื่นไม่ได้ขัดขวาง
โดยเฉพาะฉีฉี เธอจ้องเศษดาวนิวตรอนเขม็งพลางครุ่นคิด
พอยานสำรวจกลับไปที่พร็อกซิมาคนครึ่งม้าb เวลาเหลือจากการปะทะกับดาวนิวตรอนเหลือแค่ครึ่งปีแล้วล่ะ
ที่จริงแล้วลู่เฉินเตรียมการอพยพมนุษย์ไว้ตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้วแล้ว
พอลู่เฉินเห็นข้อมูลทั้งหมดที่ยานสำรวจส่งกลับมาเมื่อครึ่งปีก่อน จึงตัดสินอพยพออกจากพร็อกซิมาคนครึ่งม้าbอีกครั้ง ให้มนุษย์กลับไปสู่จักรวาลที่อันตรายและเต็มไปด้วยพิศวงมากมายอีกครั้ง
การตัดสินใจนี้ยากมากสำหรับลู่เฉิน
แต่เขาจำเป็นต้องทำ!
เพราะมันเป็นผลลัพธ์ที่ผ่านการวิเคราะห์เห็นตรงกันจากนักวิทยาศาสตร์มากมายออกมา
อย่างแรกก็เหมือนที่ทีมบนยานสำรวจเห็นนั่นแหละ
สสารดังกล่าวบ่งบอกคุณลักษณะที่ตรงกับดาวนิวตรอนทั้งหมด
และจากการมองเห็น วางแผนรวมทั้งวิเคราะห์ทั้งหมดต่างแสดงชัดแล้วว่า สสารดังกล่าวเป็นดาวนิวตรอน และมาถึงขั้นนี้แล้ว ลู่เฉินก็ไม่คิดอย่างอื่นอีกแล้ว
ในเมื่อเศษดาวนิวตรอนเป็นของปลอม ทั้งหมดนี่เป็นข่าวหลอก
รวมถึงคุณลักษณะสูงมากนั่น อุณหภูมิที่สูงมากนัก รวมทั้งหมดเป็นของปลอม
ที่จริงไม่มีอะไรจะมาพุ่งชนดวงดาว แล้วมันยังไงล่ะ?
อารยธรรมต่างดาวที่จะทำทั้งหมดนี่ได้ เทคโนโลยีของเศษดาวนิวตรอนนี่เรียกได้ว่าเป็นระดับสูงสุด เหมือนกับจรวดของศตวรรษที่21นั่นแหละ
ต้องใช้เทคโนโลยีของประเทศทั้งประเทศมาทำ ต่อให้เป็นอย่างนั้นแล้วยังไงล่ะ?
ขนาดมนุษย์หรือแม้แต่ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ชัดเลย และรู้สึกแค่ว่าทั้งหมดนี่มันผิดหลักความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมดไปเลย
ถ้าอารยธรรมต่างดาวนี่แค่ปล่อยข่าวลวงออกมา อยากหลอกให้มนุษย์อพยพไปจากดาวแม่ เพื่อสะดวกให้พวกเขาเข้ายึดครอง แล้วยังไงล่ะ?
จะทำลายแกน่ะ เกี่ยวกับแกตรงไหน?
สมองลู่เฉินผุดคำพูดนี้ขึ้นมา
ในนิยายไซไฟที่เขาเคยอ่านมาทั้งหมดตอนอยู่บนโลก ตอนที่มนุษย์เผชิญหน้าอารยธรรมที่มีเทคโนโลยีเหนือกว่ามารุกราน พูดไว้คำหนึ่งว่า
จะทำลายแก…
มันเกี่ยวกับแกตรงไหน?!
ต่อหน้าพวกเขา มนุษย์ก็เป็นไก่อ่อนดีๆนี่เอง
ไก่อ่อนยิ่งกว่าคนแคระที่อยู่ต่อหน้ามนุษย์ซะอีก
เจอกับผลแบบนี้ มนุษย์จะทำอะไรได้?
หนีตายสิ!
หนีตายไปในจักรวาลต่อ หาโลกใหม่!
พยายามพัฒนาตัวเองต่อไป
จากนั้นถึงจะมีโอกาสแก้แค้น!