บทที่ 531 หลอกล่อศัตรูได้สำเร็จ
เลเซอร์มาเต็ม!
การโจมตีของอารยธรรมลู๋ข่าคือระเบิดเลเซอร์
พริบตาเดียว พายุแสงเลเซอร์พลังงานสูงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกมาจากยานบินอารยธรรมลู๋ข่า พุ่งมายังเครื่องบินรบอวกาศที่ไร้คนบังคับที่มนุษย์จัดวางไว้
ปกติแล้ว เราหลบอาวุธเลเซอร์ไม่ได้หรอก
เพราะเลเซอร์เร็วเท่าความเร็วแสง วินาทีที่เห็นเลเซอร์ เลเซอร์ก็มาถึงตัวแล้ว
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ หลังจากเทคนิคเครื่องส่งสัญญาณระยะไกลคิดค้นออกมาได้ก็ได้รับการปรับปรุง
ในวินาทีที่เลเซอร์พลังงานสูงถูกยิงออกมา ดาวเทียมที่โดนจับไปวางไว้ตรงนั้นก่อนแล้วจะส่งข้อมูลอาทิ ระดับเลเซอร์ และตำแหน่ง วิเคราะห์ออกมาด้วยวิธีส่งสัญญาณระยะไกล ทำให้เครื่องบินรบไร้คนขับทำการหลบเลี่ยงได้
ถึงแม้ระยะทางยิ่งใกล้ความเป็นไปได้ที่จะหลบทันก็ยิ่งต่ำ แต่อย่างน้อยยังมีเครื่องบินรบไร้คนขับจำนวนหนึ่งสามารถหลบการโจมตีของอารยธรรมลู๋ข่าไปได้
แต่ว่าเครื่องบินรบที่หลบได้ก็ได้รับความเสียหายไปในระดับที่แตกต่างกัน ส่วนมากสูญเสียความสามารถในการรบไปแล้ว
อีกฝ่ายเหมือนจะเดาได้ว่าเครื่องบินรบไร้คนขับพวกนี้จะหลบหลีก
ดังนั้นพายุเลเซอร์พวกนี้ยิงไปทุกทิศทางเลย!
เลเซอร์พวกนี้ใช้เวลาแค่ยี่สิบวินาทีไปถึงตัวเครื่องบินรบไร้คนขับ และภายในเวลายี่สิบวินาทีนี้ ด้วยความเร็วของเครื่องบินรบไร้คนขับ ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็ยิงโดน
แน่นอนว่า พายุเลเซอร์พวกนี้ไม่สามารถทำได้ถึงระดับยิงถูกหมด
แต่ระยะห่างระหว่างพวกมันก็เหมือนผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว ทุกสองลำแสงเลเซอร์จะห่างกันห้าร้อยเมตรหรือไม่ก็หนึ่งพันเมตร แสงเลเซอร์จำนวนนับไม่ถ้วนถักทอเป็นตาข่ายใหญ่กลางอากาศ
อาวุธทุกชนิดบนวงแหวนรอบเอปไซลอนเอริดานี บีก็กลายเป็นเป้าหมายต่อไปที่อารยธรรมลู๋ข่าจะโจมตี
“สั่งการลงไปให้ยานรบป้องกันที่อยู่บนเอปไซลอนเอริดานี แอเริ่มการโจมตีเลเซอร์รอบทิศทางซะ” พอเห็นแบบนี้ ลู่เฉินพูดขึ้นอีก
“จะเร็วไปไหม พวกมันยังอยู่รอบนอกวงแหวนเอปไซลอนเอริดานี บีอยู่เลย ตอนนี้เริ่มโจมตีแล้ว พวกมันต้องมีเวลามากพอในการหลบหลีกแน่ จะทำอะไรพวกมันได้หรือเปล่า?” ตู้เฟยถามอย่างสงสัย
“ยิงเลเซอร์รอบนี้แค่หลอกล่อศัตรูเท่านั้นเอง”
สายตาลู่เฉินเปล่งประกายเจ้าเล่ห์พลางว่า “พวกเราต้องให้อารยธรรมลู๋ข่าคิดว่าพวกเรารู้สึกตึงเครียดกับสงคราม จำต้องโจมตีพวกมันเต็มพิกัดแล้ว ขอเพียงพวกมันชะล่าใจ ก็จะพุ่งเข้ามาหาเอปไซลอนเอริดานี แอ ขอเพียงยานรบพวกมันเข้ามาในวงแหวนของเอปไซลอนเอริดานี แอ พวกเราก็จะระเบิดเอปไซลอนเอริดานี แอซะ”
“อืม ก็จริงนะ เมื่อกี้ผมใจร้อนเกินไป คิดไม่ถึงจุดนี้จริงๆ” ตู้เฟยพยักหน้าเห็นด้วย
จากนั้นสั่งการให้ยิงเลเซอร์ทันที
การโจมตีเลเซอร์เป็นวิธีการสมัยใหม่ แถมพลังทำลายล้างสูงมาก เป็นอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับใช้ในการทำลายล้างศัตรูแบบระบุพิกัดอาทิเช่น สายฟ้า ดาวเทียม ระบบป้องกันเป็นต้นของการรบในพื้นที่ใหญ่ของอวกาศแล้วล่ะ
จนถึงตอนนี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์ทำข้อสรุปเกี่ยวกับอาวุธที่จะเอามาต่อกรการยิงเลเซอร์แบบนี้
นั่นก็คือ สนามพลังบิดเบือนแรงโน้มถ่วง
ทฤษฎีนี้ตอนนี้ลู่ฉีฉีเป็นคนเสนอออกมา แต่ยังไม่ได้ทดลองหรือพิสูจน์ให้เห็นจริง
แต่ลู่เฉินเชื่อว่า อีกไม่นาน ลู่ฉีฉีรวมถึงทีมวิจัยของเธอจะสามารถคิดค้นสนามบิดเบือนแรงโน้มถ่วงออกมาได้จริงๆ
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น มนุษย์คงต้องพัฒนาเทคโนโลยีให้ถึงช่วงปลายระดับสามหรืออย่างน้อยก็ขีดสุดระดับสามซะก่อนล่ะ
เพราะตามการวิเคราะห์แล้ว สนามพลังบิดเบือนแรงโน้มถ่วงเป็นสิ่งประดิษฐ์ของอารยธรรมอวกาศระดับสี่แล้ว
เหมือนกับตาข่ายเลเซอร์นั่นเลย!
แถมยังเป็นตาข่ายเลเซอร์ที่สูงกว่าของอีกฝ่ายด้วย!
ในอวกาศ เริ่มปรากฏแสงไฟขึ้นทีละดอกอย่างสวยงาม
ทุกๆแสงไฟเป็นสัญลักษณ์ถึงการพลีชีพของยานบิน แต่ที่พลีชีพล้วนแต่เป็นยานบินขนาดเล็ก
ยานหลักอารยธรรมลู๋ข่ารวมถึงยานบินขนาดอื่นไม่โดนทำลายเลยสักนิด อย่างมากก็เป็นรูเล็กๆหลายรู พวกรูเล็กๆนี่ทะลุไปทั่วยานบิน
มียานบินอย่างน้อยยี่สิบลำที่สูญเสียการควบคุมยานไปตั้งแต่การปะทะครั้งแรก
แต่เพราะอยู่ห่างไกลมาก และยานบินอีกฝ่ายก็ค่อนข้างกระจายกำลังไป
ระเบิดเลเซอร์จำนวนสองหมื่นกว่าลูก แต่กลับทำลายได้แค่ยานบินสิบลำกับเครื่องบินรบห้าสิบกว่าลำของอารยธรรมลู๋ข่า
เห็นได้ถึงเทคโนโลยีลำหน้าของอารยธรรมลู๋ข่า ได้ก้าวหน้าเหนือมนุษย์ไปไกลแล้ว
“อารยธรรมลู๋ข่าเป็นปลายสุดของระดับสามแล้ว โชคดีที่พวกเราออกมาจากเอปไซลอนเอริดานี แอแล้ว ไม่งั้นทำศึกครั้งนี้ คาดเดาผลได้ยากจริง” ลู่เฉินถอนหายใจ
ถึงอาวุธของมนุษย์ในตอนนี้จะแกร่งมากแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้าอารยธรรมขั้นสุดของระดับสาม ก็ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอยู่ดี ต่อให้เอาชนะได้ คงสูญเสียไม่น้อยแน่
พอโดนโจมตีกลับ อารยธรรมลู๋ข่าดูจะโกรธจัดแล้ว
เห็นยานบินหลักพวกมันไม่ได้ขยับ แต่ยานป้องกันอื่นทั้งหมดเพิ่มความเร็วพุ่งไปที่เอปไซลอนเอริดานี แอ
พอเห็นฉากนี้ พวกลู่เฉินถอนหายใจโล่งอกพร้อมกัน
เห็นพวกมันพุ่งไปที่เอปไซลอนเอริดานี แอ แสดงว่าแผนการก่อนหน้านี้สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
แต่พอเห็นยานหลักไม่ได้ไปที่เอปไซลอนเอริดานี แอ ไม่เข้าใกล้แม้แต่วงแหวนรอบนอกของเอปไซลอนเอริดานี บีเลยด้วยซ้ำ
พวกลู่เฉินแอบเสียดายนิดหน่อย
เห็นได้เลยว่าอารยธรรมลู๋ข่าเป็นอารยธรรมที่ค่อนข้างระมัดระวังอย่างมาก
แต่ต่อให้ยานหลักพวกมันไม่ได้รับผลเสียหายอะไร ขอเพียงทำลายยานรบพวกมันไปได้ ยานอวกาศซี-หวั้งก็สามารถทำให้มันโดนกลบฝังที่เอปไซลอนเอริดานีนี่แหละ
“มาแล้ว ก็อย่าจากไปอีกเลยละกัน!”
แววตาลู่เฉินส่องประกายร้ายขึ้นมาวูบหนึ่ง
“คำนวณหน่อย ดูว่าพวกมันอีกนานแค่ไหนถึงจะไปถึงเอปไซลอนเอริดานี แอ?” ลู่เฉินหันไปถามติงต้าเฉิงที่อยู่ข้างๆ
ครึ่งนาทีผ่านไป ติงต้าเฉิงได้ผลสรุปออกมาว่า “อีกหนึ่งนาทียี่สิบแปดวินาทีจะถึงวงแหวนของเอปไซลอนเอริดานี แอ”
“สั่งการลงไป อีกหนึ่งนาทียี่สิบแปดวินาทีโจมตีเต็มกำลัง ต้องเอาพวกมันเข้าไปในชั้นบรรยากาศให้ได้!” ลู่เฉินสั่งการ
ตู้เฟยรับคำ สั่งการลงไปตามคำสั่งของลู่เฉิน
หนึ่งนาทีกว่าผ่านไป กลุ่มยานรบของอารยธรรมลู๋ข่าไปถึงวงแหวนของเอปไซลอนเอริดานี แอ
แต่พวกมันระมัดระวังตัวมาก ไม่ได้เข้าชั้นบรรยากาศในทันที
พวกมันคิดจะจัดส่งยานบินสักลำสองลำเข้าไปสำรวจในชั้นบรรยากาศก่อน
แต่ตอนนี้เอง ยานรบที่พึ่งเข้าไปในชั้นบรรยากาศนั่นโดนอาวุธพลังงานทำลายลงในทันที
อารยธรรมลู๋ข่าได้ส่งยานบินไปอีกสิบลำเข้าโจมตีชั้นบรรยากาศ
แต่สิ่งที่รอรับยานบินพวกนี้กลับเป็นการโจมตีกลับที่ดุเดือดบ้าคลั่งยิ่งกว่า พวกมันพึ่งเข้าชั้นบรรยากาศไปได้นิดเดียว ยังไม่ทันได้สำรวจเอปไซลอนเอริดานี แอ ก็โดนทำลายซะก่อน
คราวนี้ดูเหมือนอารยธรรมลู๋ข่าจะตบะแตก ยานบินนับพันลำพุ่งเข้าชั้นบรรยากาศทันที
ถึงจะได้รับการโจมตีเหมือนกัน แต่กลับมียานบินมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซนต์สามารถรอดพ้นแนวป้องกันของเครื่องบินรบมนุษย์ไปได้ แถมยังมียานบินป้องกันจำนวนไม่น้อยของมนุษย์โดนทำลายอย่างง่ายดายด้วย
แต่ในตอนนี้เอง พวกลู๋ข่ากลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
เพราะพวกมันพบว่า ทั่วทั้งเอปไซลอนเอริดานี แอ ไม่ว่าจะยานรบหรืออาวุธใดๆล้วนไร้คนบังคับทั้งนั้น
“พวกเราหลงกลแล้ว!”
ในตอนนี้เอง พวกลู๋ข่าเห็นภาพเอปไซลอนเอริดานี แอระเบิดบรึ้ม ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แรงระเบิดมหาศาลก็เขมือบยานบินทั้งหมดหายไปในพริบตา