บทที่ 529 ช่วงชิงโชคชะตา
ในข้อความพวกนี้มีข้อมูลที่มีคุณค่าไว้มากมายเหลือเกิน
เท่าที่รู้ตอนนี้ ในสหพันธ์ผู้พิทักษ์ อารยธรรมระดับสามที่ชื่อลู๋ข่า (อย่างน้อยน่าจะถึงช่วงกลางของระดับสาม) ได้ใช้เครื่องสอดแนมรูปหยดน้ำนี้เข้ามาสำรวจโดเมนที่สาม และค้นพบมนุษย์เข้า
เพียงแต่ว่าถ้าเป็นอารยธรรมระดับสาม ต่อให้เป็นช่วงสูงของระดับสาม มนุษย์ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางรอด
อารยธรรมกาแล็คซี่ในตอนนี้ของมนุษย์ถึงพึ่งจะบรรลุอารยธรรมกาแล็คซี่ระดับสามได้ไม่นาน
แต่ตั้งแต่จากโลกมา เป้าหมายที่มนุษย์พุ่งไปก็คือ พัฒนาอาวุธอวกาศ กับความเร็วในการขับเคลื่อนยานอวกาศสองทิศทางนี้
เป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีหลายปีมานี้มีแค่สองทิศทางนี้ เพื่อรับมือกับอารยธรรมต่างดาวที่อาจจะเจอตอนเร่ร่อนอยู่ในอวกาศ
การพัฒนาอาวุธ ประเด็นหลักเพื่อใช้โจมตีในการรบ
การพัฒนาความเร็วในการขับเคลื่อนยาน หนึ่งเพื่อให้ความเร็วพัฒนาจนถึงระดับดาวเคราะห์
สอง ก็เพื่อเวลาเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง จะได้มีโอกาสหนีรอดได้มากขึ้น
อย่าเห็นว่าอารยธรรมต่างดาวของมนุษย์พึ่งจะบรรลุระดับสาม
หลายปีมานี้อาวุธระดับสูงมากมายหลายชนิดถูกพัฒนาและคิดค้นออกมาไม่หยุด ลู่เฉินมั่นใจมากว่าจะมีโอกาสชนะในการรบกับศัตรูที่เป็นอารยธรรมช่วงกลางระดับสามได้แน่
ยังไงซะด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้ ขอเพียงไม่เจออารยธรรมต่างดาวระดับสี่ มนุษย์ยังมีสิทธิ์สู้และถอย
ถ้าอีกฝ่ายเป็นช่วงปลายระดับสาม ถอยก็ได้แล้ว ยังไงซะอารยธรรมอวกาศช่วงปลายระดับสาม การขับเคลื่อนยานยังไม่แน่ว่าจะเร็วเท่าของมนุษย์
ถ้าเป็นระดับน้อยกว่าช่วงปลายระดับสาม สู้ได้เลยไม่ต้องกลัว
ส่วนเรื่องหยดน้ำแปลกประหลาดหยดนี้ น่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ของอารยธรรมอย่างน้อยระดับห้า
สหพันธ์ผู้พิทักษ์นี่ไม่มีทางเป็นอารยธรรมที่ต่ำกว่าระดับห้า
ดังนั้นหลังจากอ่านบันทึกพวกนี้เสร็จ ลู่เฉินถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
พวกติงต้าเฉิงได้สติกลับมา ความกังวลก่อนหน้านี้ค่อยมลายลงไป
“เท่าที่รู้ตอนนี้ หยดน้ำขับเคลื่อนด้วยความเร็วปีแสง และอารยธรรมลู๋ข่านี่ก็ได้รับสิทธิ์ในการวาร์ประบุพิกัดฟรีหนึ่งครั้ง
นี่มันแสดงชัดแล้วไหมว่า อารยธรรมลู๋ข่าไม่ได้มีเทคโนโลยีการวาร์ปน่ะ? ส่วนสหพันธ์ผู้พิทักษ์เอาสิ่งนี้มาเป็นรางวัล เท่ากับว่า เป็นรางวัลใหญ่มากจริงไหม?”
จู่ๆนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งก็พูดขึ้น
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”
ติงต้าเฉิงส่ายหน้าว่า “พวกเราคิดค้นการวาร์ปได้ตั้งแต่อยู่ช่วงปลายของอารยธรรมระดับสอง แถมความเร็วในการขับยานตอนนี้ก็ถึงระดับสองเท่าของปีแสง อารยธรรมลู๋ข่าเป็นช่วงกลางถึงปลายของระดับสาม ต่อให้พวกเขาไม่ถึงสองเท่าของปีแสง อย่างน้อยก็ต้องมีการขับเคลื่อนเหนือปีแสงแล้ว”
“ใช่ การส่งระบุพิกัดของสหพันธ์ผู้พิทักษ์นี่ ต้องเป็นประเภทเทคโนโลยีขั้นสูงประเภทส่งระหว่างดาว ทฤษฎีรูหนอนรวมถึงส่งข้ามดวงดาว นั่นน่ะไม่ใช่ระดับที่สามารถคำนวณด้วยปีแสงแล้ว” ลู่ฉีฉีพูด
“แบบนี้เท่ากับว่า พวกเขารู้ถึงพิกัดของเราแล้ว และจะสามารถส่งมาถึงเอปไซลอนเอริดานีในเวลาอันสั้นได้น่ะสิ?” ลู่เฉินมองไปทางฉีฉี
“ใช่”
ฉีฉีพยักหน้าพลางว่า “แถมภายในหนึ่งอาทิตย์ ต้องส่งมาถึงพวกเราที่นี่แน่”
ลู่เฉินพยักหน้า เวลาหนึ่งอาทิตย์ สามถึงห้าวันใช้ในการรวบรวมคนมารบน่ะพอแล้ว
ถ้าพวกเขาเป็นการส่งระบุพิกัดแบบข้ามดวงดาวจริงๆ งั้นสองวันก็พอให้มาถึงเอปไซลอนเอริดานีแล้ว
“พวกเรามาลองวิเคราะห์กันดูดีกว่าถึงวิธีรับมืออารยธรรมลู๋ข่าน่ะ
ผลสรุป จากปฏิทินหยวนปีที่ 37,000 ถึงปฏิทินหยวนปีที่37,020 ที่หยดน้ำถูกทำลาย เวลายี่สิบปีนี้อารยธรรมลู๋ข่าอาศัยหยดน้ำเป็นเครื่องมือในการสำรวจโดเมนที่สาม ได้ค่าธรรมเนียมสหพันธ์ไป…เก้าร้อยแต้ม
ซึ่งหมายความว่า พวกเขาจะได้รับค่าธรรมเนียมของสหพันธ์ผู้พิทักษ์ประมาณปีละสี่สิบห้าแต้ม
เหมือนกับว่า ค่าธรรมเนียมสหพันธ์นี่คุ้มอยู่นะ”
ลู่เฉินวิเคราะห์ว่า “การทำลายล้างหรือจับกุมพวกเรามนุษย์ พวกเขาสามารถได้รับค่าเธรรมเนียมสหพันธ์ถึงสองพันห้าร้อยแต้มเลยทีเดียว…
แสดงว่าในสายตาสหพันธ์ผู้พิทักษ์แล้ว พวกเรามนุษย์มีราคามากกว่าหยดน้ำนั่น
งั้นแน่ใจได้อยู่อย่างว่า อารยธรรมลู๋ข่าไม่มีทางยอมเปิดเผยข้อมูลของเรา และเลือกที่จะมุ่งหน้ามาจับกุมพวกเรามากกว่า…”
“ใช่ แต่ระดับอารยธรรมพวกเขาน่าจะเป็นช่วงปลายระดับสาม ไม่งั้นเอาแค่ที่พวกเราทำลายอาวุธขั้นเยี่ยมของพวกเขา พวกเขาก็ไม่กล้ามาหาเรื่องพวกเราอีก” ติงต้าเฉิงพยักหน้าพลางว่า
“ถ้าพวกเขาไม่กล้ามาหาเรื่องพวกเรา งั้นพวกเขาต้องเปิดเผยพิกัดพวกเราแน่ หรือไม่ก็ขายข่าวให้สหพันธ์ผู้พิทักษ์ เพื่อแลกเปลี่ยนค่าธรรมเนียมหรือไม่ก็ของอย่างอื่น” ฉีฉีพูด
“อืม งั้นพวกเราทำตามแผนเดิมดีกว่า ลองล่อศัตรูมาติดกับดัก จากนั้นโจมตีพวกเขาให้หนักในทีเดียว แล้วค่อยดูว่าพวกเขาเป็นอารยธรรมลู๋ข่า หรืออารยธรรมอื่น” ลู่เฉินสรุปออกมาอีกครั้ง
ทุกอย่างยังคงดำเนินการตามแผนเดิม สามวันให้หลัง ยานอวกาศซี-หวั้งยังออกเดินทางจากเอปไซลอนเอริดานีอยู่ดี
แต่ไม่ได้จากไปอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้น
ลู่เฉินต้องการดูให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นอารยธรรมอะไร ระดับไหน
ถ้าสามารถสู้ได้ ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี จัดการฮุบทรัพยากรยานบินอะไรของอีกฝ่ายมาให้หมด นี่เป็นวิธีง่ายที่สุดที่จะพัฒนาอัพเกรดระดับตัวเอง
วิธีแบบนี้ประหนึ่งช่วงชิงโชคชะตาและทรัพยากรของอารยธรรมอื่นมาพัฒนาเทคโนโลยีและโชคชะตาของตัวเอง
จนถึงตอนนี้ มนุษย์ทั้งหมดต่างเชื่อมั่นในความจริงเรื่องหนึ่ง
นั่นก็คือทฤษฎีป่ามืด
ในอวกาศ ถ้าคุณไม่แข็งแกร่งมากพอ สิ่งที่จะรอคอยคุณอยู่คือความตาย
หรือไม่ก็โดนจับเป็นทาสซึ่งไม่มีอิสระซะยิ่งกว่าความตาย
เมื่อก่อนทุกคนเชื่อมั่นแต่วิทยาศาสตร์ ไม่เชื่อโชคชะตา
แต่หลายปีมานี้มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยที่พิสูจน์แล้วว่ามีโชคชะตาอยู่จริงๆ
แถมยังพูดอย่างโศกเศร้าด้วยว่า ในอวกาศมีอารยธรรมที่อาศัยช่วงชิงโชคชะตาของผู้อื่นมาพัฒนาโชคชะตาของเผ่าพันธุ์ตัวเองให้แกร่งขึ้น
ดังนั้น ถ้ามีโอกาสทำลายหรือยึดครองโชคชะตาและทรัพยากรของอีกฝ่ายได้ ลู่เฉินไม่มีทางยอมพลาดแน่