Advent of the Archmage – 465: รับหนึ่งเหรียญทองเป็นค่าชดเชย

465: รับหนึ่งเหรียญทองเป็นค่าชดเชย

Chapter
หอคอยเวทมนตร์
การมาของไบรอันท์นั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงแต่มันก็มีเหตุผลมันคงจะแปลกมากถ้าไฮเอลฟ์ไม่ตอบสนองอะไรเลยหลังจากที่ลิงค์ขโมยเกาะแห่งนั้นไป
หลังจากหยุดนิ่งไปสักพัก,ลิงค์ก็ยิ้มออกมา “วันนี้อากาศดีนะ, สายลมยามค่ำคืนได้พัดพากลิ่นดอกไม้มาด้วย พวกเราไปเดินเล่นกันหน่อยดีไหม?”
ไบรอันท์ส่ายหัว“มนุษย์บนถนนเดินยั้วเยี้ยอย่างกับมด มันน่าเบื่อจะตาย พวกเราไปที่ดาดฟ้าหอคอยเวทมนตร์ของเจ้าดีกว่าไหม? แค่พวกเราสองคนนะ”
“ได้สิ”ลิงค์พยักหน้าแล้วส่งสัญญาณด้วยสายตาให้ทุกคนหยุดเป็นห่วง จากนั้นเขาก็ผายมือออกเป็นการเชื้อเชิญ “เชิญครับ”
ไบรอันท์ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นบันไดวนรอบกำแพงหอคอยเวทมนตร์ลิงค์เดินตามหลังเขา เขาดูไม่ระวังตัวเลย; ดูเหมือนว่าเขาจะเตรียมตัวเอาไว้แล้ว
ในตอนที่ขึ้นไปถึงชั้นแรก,ไบรอันท์ก็เห็นเอเลียร์ดยืนอยู่ตรงมุมบันได เขาชำเลืองมองเอเลียร์ดเพื่อดูให้แน่ใจว่าใช่จริงๆ, ดวงตาของเขาเปล่งแสง เขาส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา “มีพรสวรรค์จริงๆ แต่น่าเสียดายที่มาขลุกอยู่กับพวกมนุษย์”
พอพูดจบ,เขาก็เดินขึ้นไปต่อ
หลังจากขึ้นไปได้ไม่กี่ขั้น,เอเลียร์ดก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ไบรอันท์, ลิงค์ได้เล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังแล้ว, เพราะฉะนั้นฉันรู้จักนาย ฉันรู้นิสัยคนอย่างนายดี และมันทำให้ฉันดูถูกนายขึ้นไปอีก, ไอ้คนทรยศ!”
ไบรอันท์หยุด,พลังของเขาแผ่ออกมา ลิงค์ก้าวมาข้างหน้าแล้วเอามือวางบนไหล่ของเขา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “กับคนที่อ่อนแอกว่านายก็ยังหัวร้อนง่ายๆแบบนี้หรอ?”
“ฮึ!”ไบรอันท์คลายพลังของเขาแล้วเดินไปที่ชั้นบนสุดของหอคอยเวทมนตร์ต่อ
แล้วไม่นานนักทั้งสองก็ไปถึงชั้นบนสุด
พวกเขาอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ300 ฟุต, และรอบๆก็เป็นพื้นที่เรียบทั้งหมด จากชั้นบนสุด, พวกเขามองเห็นแสงไฟสลัวๆจากบ้านเรือนหลายพันหลังในเมืองมอดไหม้ พวกมันดูเหมือนกับทะเลแห่งดวงดาว จากจุดที่พวกเขามองลงไปนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนกับพระเจ้าที่กำลังเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตทั้งหลายอยู่
“เจ้าเก่งนะที่สร้างเมืองแบบนี้ได้ในเวลาแค่สองปี”ไบรอันท์พยักหน้าด้วยความพอใจ
ลิงค์ส่ายหัว“นายไม่มีสิทธิ์มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของฉัน ฉันจะทำเป็นว่าไม่ได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ก็แล้วกัน, แต่ฉันจะไม่อนุญาติให้มีอีกแล้วนะ”
“นี่เจ้า….เอาเถอะ,แต่การรับฟังความคิดเห็นมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนหนุ่มนะ” ไบรอันท์ชำเลืองมองลิงค์แล้วยิ้มให้ “ข้านึกว่าเจ้าจะตายในหมู่บ้านมังกรซะแล้ว, ข้าคิดไม่ถึงเลยนะว่าเจ้าจะโชคดีขนาดนี้ เจ้าไม่เพียงแค่รอดมาได้เท่านั้น, แต่เจ้ายังเริ่มขโมยสิ่งนั้นในทะเลด้วย”
ลิงค์ขยับมือเล็กน้อยมีแสงสว่างขึ้นแล้วเก้าอี้ก็ลอยขึ้นมา เขาเอาเก้ามานั่งในขณะที่พูด “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร เอาจริงๆ, ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคุณมาที่นี่ทำไม พวกเราไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนี่, ถูกไหม?”
ไบรนอันท์อยากจะเรียกเก้าออกมานั่งเหมือนกับลิงค์,เขาพยามเอาออกมาแต่ก็ล้มเหลว เขารู้ว่าลิงค์แกล้งขัดขวางเขา, ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยืน
เขาหันไปมองทะเลอันมืดมิดที่อยู่ไกลออกไปแล้วพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “เมืองมอดไหม้เป็นสถานที่ที่ดีนะ มันติดทะเลและเป็นท่าเรือน้ำลึก เรื่องเลวร้ายสำหรับคนที่ใช้ชีวิตติดทะเลก็คือการที่ต้องเผชิญหน้ากับพายุหรือเฮอริเคน, แต่ที่นี่ไม่มีเลย”
คำพูดนี้แฝงไปด้วยการคุกคาม
ลิงค์เอนตัวพิงเก้าอี้แล้วเอามือเท้าคางพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ก็เหมือนกับเกาะรุ่งอรุณนั่นแหล่ะ, พวกเราต่างก็ฝากชีวิตเอาไว้กับทะเล”
ดินแดนของพวกเขาทั้งคู่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายกันไม่มีประเด็นอะไรที่จะมาคุกคามกันเองเลย
ไบรอันท์หัวเราะเบาๆแล้วมองลิงค์ด้วยความดูถูก“เผ่าของเราได้ปกครองเกาะรุ่งอรุณมาหลายพันปีแล้ว พวกเราเคยเจอพายุมานับไม่ถ้วน พวกเราไม่กังวลหรอก”
ไฮเอลฟ์ภูมิใจกับความสันโดษพวกเขาเสริมสร้างเกาะรุ่งอรุณมายาวนานจนมันแข็งเหมือนกับเหล็กกล้า คำขู่ของลิงค์ไม่ได้ใกล้ความเป็นจริงเลย
นั่นคือความจริง,และลิงค์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตาม, เขาเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วยิ้มให้ “เกาะรุ่งอรุณยอดเยี่ยมทุกอย่าง, เว้นเสียแต่เรื่องที่มันโดดเดี่ยวเกินไปหน่อย มันถูกล้อมรอบด้วยน้ำไม่ค่อยมีเหมืองเท่าไหร่ พวกนายไม่มีอะไรเลยและจำเป็นต้องจัดหาวัตถุดิบจากแผ่นดินใหญ่ ถ้าถูกพายุโจมตีแล้วเรือค้าขายทุกลำถูกพัดออกไป, จะเป็นยังไงกันนะ?”
เขาไม่สามารถจัดการเกาะรุ่งอรุณได้,แต่เขาก็สามารถหยุดเรือได้ นั่นคือข้อเสียเปรียบของการขนส่งทางทะเล ตกเป็นเป้าได้ง่าย, และไม่มีที่ให้หลบซ่อน ตราบใดที่ลิงค์ทุ่มความพยายามทั้งหมดลงไปในการต่อสู้กับไฮเอลฟ์, เขาก็สามารถทำลายทั้งระบบการค้าขายด้วยตัวเองได้!”
ไบรอันท์กลืนคำพูดกลับไปเพราะเรื่องนี้เขาจ้องลิงค์อยู่พักใหญ่ๆก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้ามันตัวคนเดียว แต่พวกเรามีกองทัพนักเวทย์ไฮเอลฟ์ระดับสูงเป็นพันคน”
ในเมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้แล้ว,เขาจึงไม่ใช้คำพูดที่สวยหรูอีกแล้วพูดออกมาตรงๆ ลิงค์ไม่สะทกสะท้าน เขารู้สถานการณ์ของไฮเอลฟ์ดี
ภายในเกมส์,เขาเคยไปที่เกาะรุ่งอรุณและคุ้นเคยกับสภาพทางภูมิศาสตร์โดยทั่วไปของที่นั่น, ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการสร้างวัง, นักเวทย์ที่โดดเด่น, และอื่นๆ
ตอนนี้,ไบรอันท์มั่นใจแล้วว่าลิงค์เป็นคนขโมยเกาะแม่เหล็ก, แต่ลิงค์คงจะไม่มีทางยอมรับแน่ๆ และที่สำคัญกว่านั้น, ในเมื่อไบรอันท์มาหาลิงค์ด้วยตัวเอง, มันก็หมายความว่าตอนนี้ไฮเอลฟ์ไม่อยากจะสู้กับเขา บางทีพวกเขาอาจจะกลัวหรือแค่ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้
ซึ่งนี่ทำให้ลิงค์เห็นช่องโหว่ว
“ไบรอันท์”เขาพูด “นายคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อเถียงกับฉันเฉยๆใช่ไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น, มันคงจะเปลืองเวลาฉันมาก”
ในที่สุดไบรอันท์ก็ตรงเข้าประเด็นเขาชี้ไปยังจุดที่ลิงค์ซ่อนแร่แม่เหล็กแล้วพูด “เผ่าของข้าอยากได้เจ้าสิ่งนั้นครึ่งนึง!”
“แล้วถ้าฉันไม่ให้หล่ะ?”ลิงค์ถามกลับ.ไอลีนโนเวล.
ไบรอันท์ไม่ได้ประหลาดใจกับเรื่องนี้,แต่เขามั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวลิงค์ได้, เพราะเขามีไพ่ตายซ่อนอยู่!
“ถ้างั้นก็จะไม่มีใครได้มันไปเรือรบของข้าเล็งไปที่มันแล้ว ถ้าเจ้าไม่ตกลง, พวกเราจะยิงลำแสงทะลวงเลเวล 10 แล้วแร่แม่เหล็กทั้งหมดก็จะหายไป”
ลิงค์คิดอยู่พักนึงแต่ก็ยังส่ายหัวอยู่“ถ้าทำอย่างนั้น, พวกนายจะตายเอานะ ฉันจะทำลายนกกระจอกวายุเงิน และนับจากวันนี้เป็นต้นไป, นักรบมังกรของฉันและตัวฉันเองจะขัดขวางการค้าทั้งหมดจากเกาะรุ่งอรุณไปฟิรุแมน จะไม่มีเรือลำไหนผ่านไปได้ทั้งนั้น!”
เขาพูดเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งราวกับว่าเขาแค่กำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ตราประทับสีดำก็ปรากฎขึ้นในมือของเขา
ในตอนที่ไบรอันท์เห็นมัน,เขาก็สะดุ้ง, แล้วสูญเสียความเยือกเย็นไปในที่สุด “ตราประทับดยุคมังกร, แถมเป็นสีดำด้วย, กับราชินีมังกรแดงหรอ, นะนี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน!? ยัยแก่นั่น…เจ้าเพิ่งจะอายุแค่ยี่สิบเอ็ดเองนะ!”
ตราประทับดยุคมังกรสีดำนั้นถือเป็นของพิเศษไบรอันท์เป็นคนฉลาดและอ่านหนังสือมาหลายเล่ม ดังนั้นเขาจึงรู้ความลับพวกนี้ดี
ก่อนที่จะเห็นตราประทับนี้,ไบรอันท์มีความมั่นใจในการเจรจาของเขา แต่ตอนนี้, มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยว่าลิงค์ได้รับการสนับสนุนจากมังกร…ไฮเอลฟ์ไม่กลัวเผ่ามังกรหรือเฟิร์ด, แต่ถ้าทั้งคู่ผนึกกำลังกัน, พวกเขาก็เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเกาะรุ่งอรุณ
ลิงค์ไม่ได้พูดอะไรเขายังคงเงียบอยู่, และรอให้ไบรอันท์คัดกรองความคิดของเขา
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ,ไบรอันท์ก็เรียกสติกลับมาได้ในที่สุด เขายังไม่ยอมแพ้ ด้วยการจ้องลิงค์ตาไม่กระพริบ, เขาก็พูดออกมา “นี่เจ้าตั้งใจจะเป็นศัตรูกับเผ่าของข้าจริงๆหรอ? คิดดีๆนะ นี่จะต้องเป็นเส้นทางที่ยากลำบากแน่ สามร้อยปีก่อน, ข้าเองก็เคยพยายามมาแล้ว, แต่ความเป็นจริงได้บอกข้าว่ามันเป็นไปไม่ได้”
ลิงค์ไม่ได้ตอบเขาลุกขึ้นแล้วเดินถอยไป, พร้อมทั้งเอาดาบราชามังกรพิโรธออกมา เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรเลยแต่แกล้งทำเป็นแทงไบรอันท์สามครั้ง
มันเป็นเรื่องที่แปลกมากดาบของลิงค์ไม่มีพลัง, และการเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าจนน่าหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขากำลังแทงส่วนที่ไม่สำคัญตามแขนขาของไบรอันท์แทนที่จะเป็นอวัยวะภายใน แต่ถึงกระนั้น, ร่างกายของไบรอันท์กลับสั่นอย่างรุนแรงในทุกๆการแทง
หลังจากแทงครั้งที่สาม,หน้าผากของไบรอันท์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเขาขาวซีดเหมือนกระดาษ
เกร๊งลิงค์เก็บดาบของเขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ “ฉันเก่งเรื่องการหาจุดอ่อนของคนอื่นและนั่นก็เป็นความจริงสำหรับทั้งผู้คนและเผ่าพันธุ์ ถ้านายไม่เชื่อฉัน, พวกเรามาลองดูกันซักตั้งก็ได้นะ”
ไบรอันท์ทำได้แค่ลุกขึ้น“สามสิบเปอร์เซนต์!” เขากัดฟัน
ลิงค์ส่ายหัว
“สิบเปอร์เซนต์ขาดตัว!”
ลิงค์ยังส่ายหัวอยู่แล้วเขาก็โยนเหรียญทองให้ไบรอันท์หนึ่งเหรียญ “ถ้านายอยากได้ส่วนแบ่งขนาดนั้น, นายเอาเหรียญทองนี้ไปได้เลย ไม่ให้ไปมากกว่านี้แล้ว”
ไบรอันท์ไม่อยากรับมันเขาไม่ได้ยื่นมือออกมาด้วยซ้ำ, แต่ด้วยเหตุผลบางประการ, เขารู้สึกว่ามีบางอย่างเย็นๆอยู่ในมือของเขา มันคือเหรียญทอง ลิงค์ใช้เวทย์มิติย้ายเหรียญเข้ามาอยู่ในมือของเขา
ความเย็นได้กระตุ้นฝ่ามือของไบรอันท์,ทำให้แก้มของเขาร้อนฉ่า ความอัปยศสุดพรรณากำลังลุกพล่านในใจเขา เขาเอาคทาออกมา, และมานาก็แผ่ออกมาโดยอัตโนมัติ
ลิงค์หัวเราะเขาแค่มองไบรอันท์, และรอให้เขาทำอะไรซักอย่าง
คลื่นมานาในตัวไบรอันท์สงบลงอย่างช้าๆเขาจ้องลิงค์, และทำตัวเหมือนผู้มีอายุ “เจ้าหนุ่ม, เจ้าจะต้องชดใช้ให้กับการกระทำที่อวดดีของตัวเอง!”
พอพูดจบ,เขาก็หันหลังกลับ ตอนนี้เงาของเขาดูห่อเหี่ยว, และออร่าอันแข็งแกร่งก็หายไปด้วย ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็คือความรู้สึกอันหนาแน่นของอายุและความเซื่องซึม
พอเห็นแผ่นหลังของเขา,ลิงค์ก็รู้ว่าการสนทนาจบลงแล้ว เขาจะได้พบกับการโจมตีของไฮเอลฟ์ในอีกไม่นานนี้
“ฉันเคยได้ยินมาว่าไฮเอลฟ์มีกองกำลังลับที่เรียกว่าหนามทมิฬนักฆ่าพวกนั้นมีทักษะสูงมาก ในหมู่พวกเขา, จะมีคู่หูสองคนที่ชื่อว่าเงาคู่ พวกเขาแต่ละคนมีมีดระดับตำนานอยู่และมีอุปกรณ์เวทมนตร์เพิ่มความเร็วด้วย พวกเขาไม่เคยทำภารกิจล้มเหลว ถ้ากลับไปก็ฝากบอกราชินีด้วยนะว่าฉันอยากเจอพวกเขา”
ไบรอันท์สะดุ้งเขาตกใจมาก ทั้งหนามทมิฬและเงาคู่นั้นเป็นความลับสุดยอดของเกาะรุ่งอรุณ ถ้าลิงค์รู้, มันก็หมายความว่าเขาเตรียมตัวมาดีแล้ว
เขาไม่รู้ว่าลิงค์ได้รับข้อมูลพวกนี้มาจากในเกมส์
“ความปราถนาของเจ้าได้กลายเป็นจริงแน่”ไบรอันท์เร่งความเร็วขึ้น
เขาออกไปจากหอคอยเวทมนตร์โดยไม่หยุดพักพอออกมาข้างนอก, เขาก็แปลงเป็นเมฆแสงและลอยไปทางทะเล หลังจากผ่านไปสักพัก, เขาก็มาอยู่เหนือแร่แม่เหล็ก เขาเห็นแสงสว่างในเหมืองนั้น มีคนขุดเหมืองมากมายกำลังขุดอยู่ตรงนั้นด้วยเสียงก้องแก้งอย่างต่อเนื่อง
เขาอยากจะโยนแสงกัดกร่อนลงไปตรงนั้นและเปลี่ยนไอ้พวกคนขุดเหมืองให้กลายเป็นโคลนจริงๆ,แต่เขาก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้
พอบินผ่านมันไปแล้ว,เขาก็เข้ามาในทะเลได้หนึ่งพันฟุต มีลูกบอลหมอกอยู่ตรงนั้น ในตอนที่ผ่านมันเข้าไป, เขาก็เห็นนกกระจอกวายุสามลำจอดรออยู่ แล้วไบรอันท์ก็ลงไปที่ดาดฟ้าของเรือรบ
นักเวทย์คนนึงรีบเดินเข้ามาเขาคือนักเวทย์เลเวล 9 วอนเฮลอน “ท่านนักทำนาย, เป็นยังไงบ้างครับ?” เขาถาม
“มันจบแล้วหล่ะ”สีหน้าของไบรอันท์หม่นหมอง
“ถ้างั้น…พวกเราจะ…?”วอนเฮลอนชี้ไปทางเหมืองที่อยู่ไกลๆ
“ไม่,กลับกันเถอะ สถานการณ์มันเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ พอพวกเรากลับไปถึงแล้ว, ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้ให้องค์ราชินีทราบด้วยตัวเอง” พอพูดจบ, ไบรอันท์ก็ตรงเข้าไปในห้องพัก, และทิ้งความสับสนกับความหงุดหงิดเอาไว้ให้วอนเฮลอน
หลังจากผ่านไปพักนึง,กองเรือไฮเอลฟ์ก็เริ่มถอยกลับ ซู่ว, ซู่ว เสียงคลื่นกระทบกัน แล้วเรือรบทั้งสามลำก็ออกจากน่านน้ำของเฟิร์ดไปเงียบๆ
ที่ริมฝั่งทะเล,ลิงค์มองนกกระจอกวายุเงินแล่นออกไป เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้สึกกังวลจริงๆว่าไบรอันท์อาจจะขาดสติและทำอะไรผลีผลามได้ หากเป็นเช่นนั้นมันจะกลายเป็นปัญหาหลายๆอย่าง, นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงตามมาเฝ้าดู
ตอนนี้พอพวกเขาจากไปแล้ว,สถานการณ์ก็ดีขึ้นมาก
พอเห็นว่านกกระจอกวายุเงินหายไป,ลิงค์ก็กลับไปที่หอคอยเวทมนตร์, แต่หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว, เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาและมองไปทางใต้ของทะเล เขารู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ตรงนั้น มันคือสิ่งแปลกๆที่ดูเหมือนว่าจะตามนกกระจอกวายุเงินอยู่
แทบจะในเวลาเดียวกัน,ข้อความก็ผุดขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา
เปิดภารกิจ:ไล่ตาม
รายละเอียด:แอบตามนกกระจอกวายุเงินของไฮเอลฟ์อย่างลับๆ
รางวัลภารกิจ10 โจกุ
ลิงค์สงสัยขึ้นมาแล้วเขาร่ายเวทย์ลอยในทันทีและใช้สนามพลังบิดเบือนมิติผลักตัวเองออกไป เขาร่ายเวทย์หายตัวแล้วเริ่มไล่ตามนกกระจอกวายุเงินจากระยะห่างออกไปหนึ่งพันฟุต

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG

มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น

“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”

ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์

“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ

“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”

และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท