ชั้นใต้ดิน
มีรูขนาดใหญ่ที่หน้าอกของเจ้าชายไร้กายร่างกายของเขาแทบจะแยกเป็นสองส่วน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ เขาก็ยังไม่ตายและยังคุมสติเอาไว้ได้อยู่
ซึ่งมันเป็นเพราะว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของเขาเขาแค่สิงร่างนี้อยู่ ตราบใดที่หัวของเขาไม่ได้ถูกโจมตี เขาก็ยังสามารถหนีได้
ไม่เหมือนกับไร้กายทั่วๆไปวิญญาณของเจ้าชายฮาโรมนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก ในตอนที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดวงตาของเขาจะเปล่งแสงสีเงินออกมา และเขาก็คำราม “ย้ากก!”
ชิ้ง!ด้วยเสียงดังแหลม กำไลของเขาก็แตกกระจายเป็นกลุ่มแสง แสงสีขาวได้ไหลเข้าไปที่ศรีษะของฮาโรม หลังจากนั้น อากาศรอบตัวเขาก็เบลอ ลำแสงได้เข้าไปในศรีษะของเขาและดวงตาของเขาก็มืดลง ร่างกายของเขาล้มลงกับพื้นด้วยเสียงดังตุบ มันสูญเสียกำลังทั้งหมดไปแล้ว
ในครั้งนี้ฮาโรมได้เสี่ยงเดิมพันทุกอย่างกับการหนี กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา ทั้งสี่คนตามไม่ทันเลยด้วยซ้ำ
ลิงค์อาจจะสามารถหยุดฮาโรมได้แต่ว่าเขาพึ่งออกมาจากสภาพสูงสุด จิตใจของเขายังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่และยังมีอาการมึนยู่เล็กน้อย ในตอนที่เขาฟื้นตัวกลับมาได้ ฮาโรมก็หายไปแล้ว
ลิงค์สะบัดเอาความเจ็บปวดออกไปและกระโดดเข้าไปในผนึกเวทมนตร์จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์ตรวจจับมิติ
แสงสีขาวปรากฏขึ้นและหมุนวนอยู่กลางอากาศหลังจากผ่านไปประมาณ 3 วินาที ก็เกิดระลอกคลื่นแสงขึ้นมา จากนั้นพวกมันก็กลายเป็นอุโมงค์ขนาดพอๆกับแขนที่พังกักขังมิติของเอวิเลน่าออกไปข้างนอก
อันที่จริงฮาโรมไม่ควรจะทะลุออกไปได้ยังไงก็ตาม เสียบโลกานั้นได้เปิดช่องว่างให้กับกักขังมิติ และฮาโรมก็ใช้มันในการหลบหนี
นอกจากอุโมงค์มิติแล้วลิงค์ยังได้กลิ่นออร่าอ่อนๆในอากาศด้วย มันเหมือนกับธูปจากโลก กลิ่นมันจางมาก แต่ในตอนที่ดมมันนั้นเขารู้สึกมึนเล็กน้อย และอารมณ์ของเขาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ลิงค์รู้จักกลิ่นนี้ดีมันจะเกิดขึ้นในตอนที่วิญญาณแตกสลาย หรือพูดอีกอย่างก็คือ มันคือ “เลือด” ของวิญญาณ
“ฮาโรมหลุดจากการจับกุมแล้วแต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บ” ลิงค์พูดออกมาในทันที “เขาไปได้ไม่ไกลหรอก รีบตามไปกันเถอะ”
ด้วยการตามร่องรอยที่ตรวจจับมิติชี้ให้เห็นลิงค์ก็รีบพุ่งออกไปที่ลานบ้าน อีกสามคนที่เหลือก็ออกมาจากที่ซ่อนตัวของพวกเขา และตามลิงค์ไปติดๆ
ลิงค์ยกมือขึ้นในตอนที่อยู่บนถนนแสงของเวทย์ตรวจจับได้มาพันกันรอบนิ้วของเขา เขากำลังตรวจหาคลื่นแปลกๆในบริเวณนี้และไล่ตามฮาโรมต่อไป
ไม่นานนักพวกเขาทั้งสี่คนก็ออกมาจากเกลนไฮส์และเข้าไปในป่าทึบทางฝั่งตะวันตก
ภายในป่ามีต้นไม้สูงอยู่เต็มไปหมดยอดสูงๆของมันได้ปิดบังแหล่งกำเนิดแสงทุกอย่าง แม้ว่ามันจะเป็นตอนเวลากลางวันอยู่ แต่ในป่าก็มืดครึ้ม ต้นไม้ที่ชอบร่มเงา อย่างเช่นพงหญ้าและเถาวัลย์ ได้เติบโตกินพื้นที่ใต้ต้นไม้ไปเกือบหมด
หลังจากเข้ามาที่นี่พวกเขาก็ลดความเร็วลงไปมาก โดยเฉพาะลิงค์ ร่างกายของเขาฟื้นตัวเกือบจะเต็มที่แล้ว ต้องขอบคุณพลังมังกร แต่ว่าเขาก็ยังระวังตัวมากอยู่ดี
“อยู่ใกล้ๆกันเอาไว้อย่าแยกกันนะ”เขากระซิบ “ฉันรู้สึกว่าแอเรียลน่าจะยังอยู่แถวนี้ เธอยังคอยมองหาโอกาสลอบโจมตีอยู่”
เขายังรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังมองเขาอยู่ ในฟิรุแมนมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสร้างความกดดันให้ลิงค์ได้ขนาดนี้ ซึ่งในตอนนี้ แอเรียลเป็นคนๆเดียวที่ทำแบบนั้นได้
เหมือนกับพวกเขาแอเรียลยังไม่ได้ยอมแพ้ เธอยังคงพยายามอยู่
อัจฉริยะไฮเอลฟ์คนนี้เป็นคนที่จัดการยากจริงๆ
เอวิเลน่ารู้สึกกังวลเล็กน้อย“ลิงค์ เจ้าต้องระวังตัวให้ดีนะ” เธอกระซิบเตือน “ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยล้มเหลวเลย แถมครั้งนี้เธอยังเอาเสียบโลกามาด้วย เธอน่ากลัวมากเลยหล่ะ”
เซลีนรู้สึกขัดใจกับเรื่องนี้เธอหันไปพูดกับเอวิเลน่า “ฉันว่าเธอก็แค่กลัวเท่านั้นแหล่ะ ก่อนหน้านี้ตอนสู้กับลิงค์ยัยนั่นก็ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรอ”
เอวิเลน่าส่ายหัว“อย่างมากมันก็แค่เสมอเท่านั้นแหละ ลิงค์เองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพดีเหมือนกันนี่”
เธอมองภาพได้ชัดเจนกว่าเซลีนและด้วยความที่ไม่ได้สนิทกับลิงค์มากเธอจึงไม่ได้มีเชื่อใจลิงค์อย่างเต็มที่เหมือนกับเซลีน
เอเลียร์ดเองก็กังวลเขาหันไปหาลิงค์และขมวดคิ้วพร้อมกับส่งสัญญาณมือ “นายมั่นใจแค่ไหน?”
ลิงค์ตอบกลับด้วยท่าทาง“อย่างมาก พวกเราก็จับตัวฮาโรมล้มเหลว”
สิ่งนี้ได้ปลอบใจเอเลียร์ดเขาถามพลางหัวเราะ “ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ถ้าเกิดว่าแอเรียลคนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ทำไมเธอถึงไม่ออกมาต่อสู้ตรงๆเลยหล่ะ? ฉันว่าเธอน่าจะกลัวพวกเรานะ 555”
ลิงค์คิดอยู่พักนึงและพูด“ไปกันเถอะ ในการต่อสู้ ผลจะถูกตัดสินในชั่วพริบตา หยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว”
จากนั้นทั้งกลุ่มก็เงียบลงและเดินตามลิงค์เข้าไปในป่าต่อพวกเขาเดินทางในสภาพนี้เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง พวกเขาเดินทางไปประมาณ 5 ไมล์และเข้ามาถึงส่วนลึกของป่า
พอมาถึงจุดนี้คิ้วของลิงค์ก็กระตุก “ร่องรอยมิติหายไปแล้ว”
หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดพื้นที่นี้ถูกปกคลุมด้วยกิ่งไม้เน่ากับใบไม้ และบางจุดก็มีแมลงคลานออกมาด้วย ทุกอย่างดูปกติดี
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีลิงค์ก็พบรอยกรงเล็บขนาดเท่ากำปั้นที่รากของต้นไม้ต้นหนึ่ง
เอวิเลน่าเดินมาดู“นั่นมันรอยกรงเล็บของพังพอนน้ำเงินนี่ แต่ว่ามันแปลกจัง พังพอนน้ำเงินเป็นสัตว์ที่ว่องไวมาก ดูจากรอยเท้าแล้ว มันน่าจะเป็นตัวที่โตเต็มวัยแล้วด้วย ทำไมมันถึงทิ้งรอยเท้าที่ดูไม่มั่นคงแบบนี้นะ?”
“บางทีอาจจะเป็นเพราะมันยังไม่ชินกับร่างกายของมัน”เอเลียร์ดพูด
ลิงค์พยักหน้าและพูดเสริม“เจ้าชายไร้กายต้องเข้าไปสิงพังพอนน้ำเงินแน่ๆ ถ้างั้นการตามหาก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วหล่ะ”
ที่ข้างๆเขา เอวิเลน่าร่ายเวทย์สะกดรอยสัตว์ป่า แสงสีแดงเขียวพุ่งออกมาจากคทาของเธอ มันวนอยู่รอบรอยกรงเล็บและจากนั้นมันก็ลอยออกไป แล้วทั้งกลุ่มก็ไล่ตามมันไป
หลังจากเดินไปได้หลายไมล์อยู่ๆลำแสงสะกดรอยก็หยุดลง มันวนอยู่รอบพื้นที่แห่งนึงและจากนั้นก็หายไป
เอวิเลน่าตกใจ“ออร่าของเขาหายไปหมดแล้ว” ไอลีนโนเวล
วิญญาณของเจ้าชายไร้กายที่ได้รับบาดเจ็บน่าจะใช้พลังของตัวเองในการเข้าสิงพังพอนที่อยู่ในป่าลึกทุกร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้เป็นตัวบ่งบอกถึงความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถควบคุมพังพอนได้อย่างสมบูรณ์ มันทิ้งร่องรอยให้ตามหาเอาไว้มากมาย แต่ตอนนี้ มันกลับหายไปอย่างไร้วี่แวว
มีคำตอบเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น
“มีคนที่แข็งแกร่งมากๆเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้”เอเลียร์ดพูด “หรือว่าจะเป็นแอเรียล?”
เซลีนเอาปืนมาถือรอไว้แล้ว“ยังไงไม่รู้สิแต่ฉันรู้สึกว่าถ้าเกิดเรายังไล่ตามอยู่แบบนี้มันจะยิ่งอันตรายมากขึ้น ลิงค์ พวกเราจะเอายังไงกันต่อดี?”
ลิงค์ไม่ได้ตอบเขาเดินวนรอบจุดที่พังพอนหายตัวไปและตรวจสอบพื้นที่นั้นอย่างละเอียดพร้อมกับร่ายเวทย์ตรวจจับไปด้วย จากนั้น 3 นาทีต่อมา เขาก็พบร่องรอยเล็กๆตรงเถาวัลย์ที่ยื่นออกมาจากต้นไม้
มีใครบางคนจับเถาวัลย์เอาไว้ด้วยมือเดียวดูจากขนาดแล้ว มันน่าจะเป็นมือของผู้หญิง ลิงค์มองไปที่เอวิเลน่า “ศิลปะการต่อสู้ของแอเรียลเป็นยังไงบ้าง?”
ภายในเกมแอเรียลไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ดังนั้นลิงค์จึงมองข้ามมันไป แต่หลังจากที่ได้ลองต่อสู้กับเธอเมื่อก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกว่าเธอไม่ธรรมดา
เอวิเลน่าส่ายหัว“ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อปีก่อน เธอได้ไปขอเรียนกับศาลเตี้ยพเนจรที่ถูกเรียกว่านักดาบใบไม้เขียว เขามีทักษะดาบที่สุดยอดมากเลยหล่ะแล้วหลังจากนั้น ฉันก็เห็นเธอฝึกอยู่บ้างเป็นบางครั้ง ฝีมือของเธอใช้ได้อยู่นะ”
เอเลียร์ดรู้สึกแปลกใจ“นักเวทย์ฝึกวิชาดาบเนี่ยนะ? แปลกชะมัด ฉันได้ยินมาว่าเวทย์ธรรมชาติของเอลฟ์ไม่เหมาะกับศิลปะการต่อสู้นี่หน่า”
พอมาถึงจุดนี้เอเลียร์ดก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ พลังแสงอรุณของเขาเข้ากับศิลปะการต่อสู้มากๆ ในการต่อสู้ มันมีบางครั้งที่ต้องใช้มากกว่าเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาเวลาไปเรียนวิชาดาบบ้างแล้วหล่ะ
เอวิเลน่าพยักหน้า“ใช่ ข้าเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมยัยนั่นถึงทำแบบนั้น แต่ว่านะ เวทย์ธรรมชาตินั้นมีประโยชน์ในการควบคุมพืช มันไม่ค่อยมีเบาะแสมากนัก แต่มันก็มีโอกาสสูงมากเลยที่จะเป็นฝีมือของแอเรียล”
ลิงค์ไม่ได้คิดอย่างนั้นถ้าเกิดว่านักเวทย์ต้องการจะเรียนศิลปะการต่อสู้จริงๆ มันก็จะมีกลยุทธ์มากมายที่พวกเขาสามารถใช้ได้สำหรับนักเวทย์, มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่พวกเขาไม่สามารถจินตนการได้, ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ตอนนี้เขามองว่าแอเรียลเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้คนนึงและก็จะปฏิบัติกับเธอตามนั้น
พอคิดได้แบบนี้เขาก็พูดขึ้นมา “ไปกันเถอะ เธอยังทิ้งร่องรอยเอาไว้อยู่เล็กน้อย เธอพึ่งใช้เถาวัลย์เหวี่ยงตัวออกไปและไปลงที่กิ่งไม้ที่ห่างออกไป 60 ฟุต ดูสิ นั่นรอยเท้าของเธอ จากนั้นเธอก็ใช้เถาวัลย์อีกเส้นออกไปจากที่นี่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอทิ้งไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ที่พื้นเลย สำหรับเรื่องพังพอน เธอน่าจะเป็นคนเอามันไปนะ”
ทั้งสี่คนนี้เป็นตัวแทนระดับสูงของเฟิร์ดมันคงจะน่าอายมากถ้าแผนของพวกเขาล้มเหลวเพราะคนๆเดียว แอเรียลเป็นคนที่ไม่รู้จักยอมแพ้เลย อย่างไรก็ตาม, ลิงค์เองก็เป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน
คนที่มีนิสัยแบบนี้มักจะเดินไปข้างหน้าด้วยเส้นทางที่ยากลำบากเสมอและจะสร้างความสำเร็จอันน่าตกใจออกมา
เซลีนกับเอเลียร์ดไม่มีอะไรจะคัดค้านเอวิเลน่าก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เธอไม่กล้าออกไปจากป่าคนเดียว ดังนั้นเธอจึงต้องตามน้ำไปด้วย
ทั้งสี่คนไล่ตามไปต่อหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หน้าผาสู่งกว่า 100 ฟุตก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา พร้อมกับกลุ่มหมอกสีขาวที่อยู่ด้านล่าง
มีไฮเอลฟ์หญิงหน้าตาธรรมดาคนนึงยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาอย่างเงียบๆรูปร่างของเธอไม่ได้โดดเด่น แต่ว่าออร่าของเธอนั้นไม่สามารถอธิบายได้ โดยเฉพาะดวงตาสีม่วงเข้มของเธอ ในตอนที่เธอมองมาที่พวกเขา ทุกคนรวมทั้งลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล
ตอนนี้เธอถือพังพอนสีน้ำเงินที่มีขนาดเท่ากับแมวเอาไว้ในมือ
เธอเห็นลิงค์ตั้งแต่ไกลและหันมาด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะต้องมา แมวตัวนี้ดีมากเลย แต่ว่าชีวิตของเขาอยู่ในมือของข้าแล้ว ข้าสามารถจัดการเขาตอนไหนก็ได้”
ลิงค์ยกมือขึ้นบอกให้กลุ่มของเขาหยุด เขาเองก็หยุดอยู่ห่างๆเหมือนกัน “เธอต้องการอะไร?”
“เจ้ากับข้ามาต่อสู้กันบนหน้าผานี้ตัวต่อตัวห้ามมีคนช่วย ผู้ชนะจะได้แมวตัวนี้ไป สำหรับผู้แพ้, จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับทักษะล้วนๆ คิดว่าไงหล่ะ?” คำพูดของแอเรียลน่าตกใจมาก
Advent of the Archmage – 547: สารท้ารบที่หน้าผา
547: สารท้ารบที่หน้าผา
Posted by ? Views, Released on สิงหาคม 25, 2022
, Advent of the Archmage
ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น
“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์
“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”
และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน