ลิงค์แตะซองจดหมายที่รับมาจากกิลเดิร์นเบาๆ กระแสพลังมังกรอ่อนๆแผ่ออกมาจากมือของเขา, และผนึกจดหมายก็เปิดออก จากนั้นเขาก็เอาจดหมายที่อยู่ข้างในออกมา
เขาจำรายมือของคาร์โนสที่เขียนในจดหมายได้มันมีทั้งหมดสามหน้า, โดยอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป้อมโอริด้าตั้งแต่ตอนที่ลิงค์กลับ นอกจากนี้คาร์โนสยังใช้หมึกสีแดงเน้นทุกสิ่งที่เขาคิดว่าลิงค์ควรจะรู้เอาไว้ด้วย
มีสองเรื่องสำคัญที่คาร์โนสเน้นด้วยหมึกสีแดง
เรื่องสำคัญเรื่องแรกคืออุปกรณ์ที่หน่วยสอดแนมของศัตรูในป่าทมิฬใช้อยู่นั้นมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทหารระดับต่ำยังใช้อาวุธมาตรฐานที่ตีขึ้นโดยดาร์คเอลฟ์อยู่, แต่พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีพลังต่อสู้สูงกว่าเริ่มเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ของคนแคระ แล้วก็มีพวกเขาบางคนใช้อาวุธเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นโดยชาวยับบ้าด้วย, ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลเวทมนตร์ความแม่นยำสูง ด้วยการที่พวกเขาครอบครองอาวุธระดับนี้อยู่ในมือ, พวกเขาสามารถฆ่านายพลเลเวล 7 ได้ด้วยซ้ำ
คาร์โนสคิดว่าคนแคระจากเทือกเขาเฮงดวงเป็นเสบียงอาวุธให้กับกองทัพของเทพแห่งการทำลายคาร์โนสเขียนค่อนข้างจะตรงไปตรงมาในหัวข้ออุปกรณ์เวทมนตร์นี้ และเขายังหวังด้วยว่าลิงค์จะทำการสืบสวนพวกยับบ้าที่พำนักอยู่ในเฟิร์ดเพื่อทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ร่วมมือกับศัตรูของเฟิร์ด
ลิงค์ขมวดคิ้วในตอนที่อ่านหัวข้อนี้ความจริงที่ว่าศัตรูใช้อาวุธของยับบ้านั้นทำให้เขาลำบากใจจริงๆ
มันเป็นเรื่องที่รู้กันโดยทั่วไปว่าตอนนี้ชาวยับบ้านั้นอาศัยอยู่ในเฟิร์ดทั้งทวีปรู้เรื่องนี้ แล้วสิ่งที่รู้กันโดยทั่วไปอีกเรื่องนึงก็คือความจริงที่ว่าเฟิร์ดเชี่ยวชาญด้านการค้าและการพาณิชย์ ดินแดนนี้มีการเจรจาซื้อขายดินต้านทานเวทมนตร์กับแร่แม่เหล็ก และเมื่อไม่นานมานี้ก็เริ่มตีตลาดอุปกรณ์เวทมนตร์ด้วย สินค้าของเฟิร์ดนั้นสามารถพบเห็นได้ทุกที่
ไม่ว่าใครก็คงจะสามารถเอาสองเรื่องนี้มาประติดประต่อกันและสรุปได้อย่างง่ายดายว่าเฟิร์ดอาจจะสนับสนุนชาวยับบ้าให้ขายอุปกรณ์เวทมนตร์ของพวกเขากับกองทัพของเทพแห่งการทำลายเพียงเพื่อสร้างผลกำไร
แม้ว่าจะเป็นแค่ข้อความที่เขียนเอาไว้,แต่ลิงค์ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความไม่เชื่อใจของคาร์โนสที่มีต่อยับบ้า ซึ่งนี่เองก็ทำให้ลิงค์รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย
บางทีนี่อาจจะเป็นแผนของอกาธาร์นากาในการสร้างความบาดหมางในหมู่พวกเราก็ได้นะ, ลิงค์คิด
เรื่องที่สองก็สำคัญไม่แพ้กันเผ่ามนุษย์สัตว์ได้ออกจากทุ่งหญ้าสีทอง, เดินทางผ่านเทือกเขาเฮงดวนและสุดท้ายก็เข้าไปในป่าทมิฬ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกองทัพของเทพแห่งการทำลายแล้ว
ตามข้อมูลที่ได้รับมาจากคาร์โนส,มีสงครามกลางเมืองที่โหดร้ายเกิดขึ้นในทุ่งหญ้าสีทอง ขุนศึกอวตาร์สามารถหลอมรวมทุกเผ่าเป็นปึกแผ่นได้ในที่สุดและสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นราชามนุษย์สัตว์ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม, ไม่ใช่ทุกคนที่ยอมรับกฏของเขา
ขุนศึกวายุพาร์เมสได้พาเผ่าของเขาอพยพขึ้นเหนือเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพของเทพแห่งการทำลายมีประชากรในเผ่าของเขาอย่างน้อย 500,000 คน, ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสอบของประชากรมนุษย์สัตว์ทั้งหมด นอกจากนี้ในเผ่าของพาร์มีสยังมีนักรบร่างกายกำยำกว่า 50,000 คนด้วย
มนุษย์สัตว์ขึ้นชื่อในเรื่องของพละกำลังและความไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดด้วยอุปกรณ์มาตรฐานกองทัพและรูปแบบองค์กรนั้น, พวกเขาก็จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหารในสนามรบดีๆนี่เอง ความจริงที่ว่ามีขุนศึกมนุษย์สัตว์หนึ่งคนเข้าร่วมกับกองทัพของเทพแห่งการทำลายนั้นเป็นข่าวที่น่ากลัวที่สุด
หลังจากอ่านจดหมายจบ,ลิงค์ก็คิดหนัก ไม่กี่นาทีต่อมา, มานาก็แผ่ออกมาจากมือของเขาและฉีกจดหมายเป็นชิ้นๆ จากนั้นเขาก็หันไปหากิลเดิร์น, ที่ยืนรออยู่ตรงมุมห้องมาโดยตลอดแล้วถาม “นายคิดยังไงกับชาวยับบ้า?”
กิลเดิร์นคิดอยู่พักนึงแล้วพูดออกมา“ก็ไม่ใช่พวกที่นิสัยแย่นะครับ พวกนั้นทุ่มเททำงานหนักเพื่อสร้างบ้านของตัวเองที่เกาะบลูสโตน แล้วพวกเขาก็เป็นมิตรมากเลยด้วย เราไม่เคยจำเป็นต้องกลัวโดนโกงเลยในตอนที่ทำธุรกิจกับพวกเขา พวกเขามักจะอธิบายรายละเอียดของธุรกิจทั้งหมดรวมทั้งข้อดีและข้อเสีย, บอกพวกเราว่าพวกเขาอยากได้อะไรจากงาน, โดยส่วนแบ่งที่พวกเขาเรียกมักจะอยู่ในช่วง 5 เปอร์เซนต์ถึง 20 เปอร์เซนต์ ซึ่งมันก็ค่อนข้างมีเหตุผล ในความคิดของข้า, พวกเขาถือเป็นประชากรตัวอย่างของเฟิร์ดเลยหล่ะ นอกจากนี้พวกเขาไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเฟิร์ดเลยด้วย ดังนั้นสรุปเลยก็คือ, พวกเขาไม่ใช่พวกชอบสร้างปัญหาครับ”
เห็นได้ชัดว่าชาวยับบ้านั้นยึดถือการดำเนินชีวิตตามกฏของเฟิร์ดจริงๆแล้วนี่ก็หมายความว่าพวกเขาพยายามระวังไม่ทำตัวให้มนุษย์มองไม่ดี
ชาวยับบ้าจะขายอาวุธให้กับกองทัพของเทพแห่งการทำลายในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ด้วยแนวความคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน?และมันก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่าตอนนี้ชาวยับบ้ามีเหลืออยู่แค่หนึ่งหมื่นกว่าคนเท่านั้น การก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวก็หมายถึงจุดจบของทั้งเผ่าพันธุ์แล้ว
พอได้ฟังแบบนี้,ลิงค์ก็พยักหน้า “เข้าใจหล่ะ เอาเถอะ, ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้ว ตอนนี้นายไปได้”
“ขอบคุณครับ”กิลเดิร์นรีบออกจากหอคอยเวทมนตร์ในทันที
ลิงค์เอานิ้วลูบหน้าผากในขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงรายงานในจดหมายทันใดนั้นเอง, เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็ใช้เวทย์สื่อสารแล้วเรียกเอลินที่กำลังว่างอยู่ในหอคอยเวทมนตร์มา
สิบนาทีต่อมา,เอลินก็เดินเข้ามาในห้องของเขา “ลอร์ด, มีเรื่องอะไรหรอคะ?”
“เชิญนั่งก่อนเถอะ”ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม ไอลีนโนเวล
เอลินรู้สึกกังวลเล็กน้อยตอนนี้, ลิงค์เป็นลอร์ดเฟิร์ดและผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งทวีป ทุกคำพูดและการกระทำของเขาสามารถชี้ชะตาของทั้งเผ่าพันธุ์เธอได้ แม้ว่าลิงค์จะพูดกับเธออย่างสบายๆ, แต่เอลินก็นั่งตัวตรงบนเก้าอี้ที่มุมห้อง, ไม่กล้าที่จะทำตัวสบายๆเหมือนเมื่อก่อน
ลิงค์เล่าเนื้อหาทั้งหมดในจดหมายของคาร์โนสให้เอลินฟังจากนั้นเขาก็พูด “เอลิน, เอาข่าวนี้ไปบอกนายกของเธอด้วย บอกเขาว่าอย่าลดการป้องกันลงและควบคุมชาวยับบ้าให้เข้มงวดขึ้นหน่อย
เอลินตกตะลึงดวงตาที่เหมือนกับอัญมณีของเธอเบิกกว้าง จากนั้นเธอก็ถามลิงค์อย่างกังวล “ลอร์ดคะ, ท่านสงสัยว่าเกาะบูลสโตนกำลังทำการส่งออกอาวุธเวทมนตร์อย่างผิดกฏหมายหรอ?”
เอลินมั่นใจว่าเกาะบูลสโตนไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น,แต่ไม่ว่าเธอจะคิดยังไง ลิงค์ก็ไม่เชื่อใจชาวยับบ้า นี่เป็นความจริงอันน่าเศร้าของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายใต้หลังคาบ้านของคนอื่น ไม่ว่าเจ้านายของพวกเขาจะดูเป็นคนใจดีแค่ไหน, แต่พวกเขาก็ยังไม่ต่างอะไรจากแขกในอาณาเขตของเขา
พอเห็นรอยยิ้มอันขมขื่นบนหน้าของเธอและมือที่กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง,ลิงค์ก็ถอนหายใจออกมา แล้วเขาก็พูดอย่างอ่อนโยน “ฉันเชื่อใจเธอนะ, แต่หัวใจของสามัญชนนั้นไขว้เขวได้ง่าย หนึ่งพันไมล์จากที่นี่, นักรบของป้อมโอริด้ากำลังเฝ้าดูเหล่ามิตรสหายถูกสังหารด้วยอาวุธเวทมนตร์แบบเดียวกับที่ขายจากเกาะบูลสโตนอยู่ ตอนนี้ที่นั่นมีความตึงเครียดสูงมาก ฉันแค่ไม่อยากให้พวกทหารที่นั่นมีเหตุผลมากพอที่จะย้ายความไม่พอใจของพวกเขามาลงที่เกาะบูลสโตน เธอเข้าใจฉันใช่ไหม?”
เอลินเข้าใจสิ่งที่ลิงค์พูดเธอถอนหายใจแล้วพยักหน้า “ข้าจะนำข้อความของท่านไปบอกกิลด์ช่างฝีมือ”
“โอเคตอนนี้เธอไปได้แล้ว ฝากบอกท่านนายกแทนฉันด้วยนะว่าพวกเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่!”
“เข้าใจแล้วค่ะ”เอลินโค้งคำนับลิงค์ จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไป
หลังจากที่ห้องเงียบมาได้สักพัก,ลิงค์ก็ตัดสินใจว่าเขาจะไปเยี่ยมทุ่งหญ้าสีทองในอนาคตอันใกล้นี้
ลิงค์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์อวตาร์และขุนศึกฟ้าแยกโฮลุนในเมื่อขุนศึกวายุได้เข้าร่วมกับกองทัพของเทพแห่งการทำลายไปแล้ว, ลิงค์ก็คิดว่าเขาน่าจะช่วยให้ป้อมโอริด้าได้รับความช่วยเหลือจากอวตาร์ได้ ลิงค์ตัดสินใจว่าจะออกเดินทางไปที่ทุ่งหญ้าสีทองด้วยตัวเอง
ซึ่งเหตุผลก็ง่ายมาก;สถานการณ์ระหว่างเขากับไฮเอลฟ์ค่อนข้างตึงเครียด ด้วยเวทย์มิติทั้งหมดที่เขามี, ลิงค์จะสามารถจัดการงานได้โดยไม่สร้างความวุ่นวายมากนักถ้าเขาลุยเดี่ยวโดยไม่เสี่ยงพาใครติดสอยห้อยตามไปด้วย
แต่ว่า,นี่ก็ยังเป็นงานที่เสี่ยงอยู่ดี เพราะพละกำลังของเขายังฟื้นฟูกลับมาได้ไม่เต็มที่
ฉันใช้พลังไปจนหมดในตอนที่สู้กับเสียบโลกาฉันคงไม่รอดแน่ถ้าเจอกับแอเรียลอีก, โดยเฉพาะถ้าเธอพาเพื่อนมาด้วยในครั้งหน้า ฉันจำเป็นต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ เขาคิด
พอคิดได้,เขาก็เอาหินดวงจันทร์ออกมาอีกครั้ง
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกับระดับพลังของคนๆนึงซึ่งกรณีของแต่ละคนนั้นจะต่างกันไป, แต่ว่าปัจจัยหลักๆเลยก็คือความบริสุทธิ์ของพลัง แม้ว่าพลังของลิงค์จะถูกบอกว่าเป็นพลังมังกรที่ไร้ตำหนิ, แต่ช่วงนี้เขาก็เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากความไม่บริสุทธิ์ของพลัง
มีอยู่สองผลกระทบหลักๆที่ลิงค์รู้สึกได้ผลกระทบแรกก็คือ, พลังมังกรของเขาไม่สามารถทนรับความตึงเครียดจากงานวิจัยของเขาเกี่ยวกับเวทย์ระดับตำนานขั้นสูงได้ และผลกระทบที่สองก็คือ, ตอนนี้พลังมังกรของเขากำลังเพิ่มขึ้นด้วยอัตราที่ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นกำลังพัดไปทั่วทั้งฟิรุแมนมีผู้เชี่ยวชาญเกิดขึ้นทุกที่, แต่ลิงค์ก็ยังรู้สึกว่าพลังของเขาใกล้จะถึงจุดสูงสุดแล้ว
สำหรับตอนนี้,เขามีพลังมังกรสูงสุดอยู่ที่ 17,300 แต้มและค่าโอมนิอีก 500 แต้ม โดยรวมแล้วก็คือ 17,800 แต้ม ซึ่งในการจะไปถึงเลเวล 12 นั้น, เขาจำเป็นต้องใช้พลังมังกรอย่างน้อย 25,000 แต้ม แต่ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของพลังในตอนนี้, ลิงค์ประเมินแล้วว่าเขาคงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองปีในการไปถึงเลเวล 12
เขาไม่สามารถรอนานขนาดนั้นได้
ตอนอยู่ในเกมส์,อัจฉริยะอย่างเอเลียร์ด, แอเรียล, แอนนี่, คาร์โนสแล้วก็คนอื่นๆน่าจะได้รับพรของภพหลังจากเข้าสู่ระดับตำนาน ความเร็วในการเพิ่มพลังของพวกเขาไม่ได้ช้าลงเลยซักนิด ยกตัวอย่างเช่นเอเลียร์ด, หลังจากที่เข้าสู่ระดับตำนาน, เขาก็สามารถไปถึงเลเวล 19 ได้ภายในหกปี
ลิงค์ตัวสั่นพอคิดว่าเอเลียร์ดสามารเพิ่มเลเวลได้เร็วขนาดไหน
อย่างไรก็ตามนี่คือสถานการณ์ที่หินดวงจันทร์ชิ้นนี้จะทำประโยชน์ได้
Advent of the Archmage – 550: หินดวงจันทร์และแก่นภพ (1)
550: หินดวงจันทร์และแก่นภพ (1)
Posted by ? Views, Released on สิงหาคม 28, 2022
, Advent of the Archmage
ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น
“ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?”
ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์
“จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี”
และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน